ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CHEAT ON ME หลอกรัก

    ลำดับตอนที่ #8 : #เทียนเดียร์ :: CHAPTER 6 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 8 ต.ค. 64




    = EP6 =
    :: ความหวั่นไหวของลี้เทียน ::

    รถของผมมาจอดที่หน้าบ้านของเดียร์ในเวลาต่อมา สายตาของผมมองไปที่ข้อเท้าของเธอซึ่งตอนนี้เปลี่ยนจากที่พันของผมเมื่อคืนเป็นแบบสวม

    “พี่ยังไม่ได้กินข้าว เลยมาขอกินด้วยนะครับ” วางถุงกับข้าวลงบนโต๊ะในครัว เดียร์ก็พยักหน้ารับพลางชี้นิ้วไปที่ห้องน้ำถัดจากห้องของเธอไป “ขอบคุณนะ”

    ผมพาดเสื้อเชิ้ตไว้ตรงเก้าอี้ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปซึ่งห้องน้ำสะอาดและหอมมากๆ ผมมองตัวเองในกระจกก็พบว่าทั้งแขนและหลังแดงนิดหน่อย

    “มดเหี้ย”

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    สะดุ้งตกใจทันทีที่กำลังถอดกางเกงออก ผมจึงเปิดประตูไปก็พบว่าเป็นเดียร์ที่มองลงมาด้านล่างแต่เธอก็เบือนหน้าหนีและยื่นผ้าขนหนูส่งมาให้

    “ปิดประตูสิคะ จะโชว์ให้ใครดู”

    “ใครมองอยู่ก็ให้คนนั้นดูครับ” ลมหายใจของคนตรงหน้าถูกพ่นออกมาผมก็จับท่อนแขนของเดียร์ไว้ “พี่ขอโทษ”

    ไม่ต้องรอให้ผมปิด ประตูห้องน้ำก็ถูกปิดใส่หน้าผมอย่างแรงจนได้รับลมกระแทกหน้าเต็มๆ พอได้อาบน้ำไอ้อาการที่คันตามเนื้อตามตัวก็หายไปเลยนะ ผมเดินออกจากห้องน้ำโดยนุ่งเพียงกางเกงยีนขาเดฟตัวเดียวมาหยุดที่ทางเข้าครัว สายตาของผมทอดมองร่างบางที่กำลังจัดโต๊ะอาหาร แม้ใบหน้าจะไร้รอยยิ้มทว่ากลับทำให้ผมยิ้มเองซะมากกว่า

    ทำไม... น่ารักแบบนี้นะ

    “อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอคะ”

    “อะ เออครับ” น้ำเสียงเล็กเรียกสติของผมให้หลุดจากภวังค์จากนั้นผมก็เดินไปนั่งเก้าอี้ตรงที่เสื้อตัวเองพาดไว้ เดียร์นั่งลงตรงข้ามกับผมซึ่งเธอก็ไม่แม้แต่จะเอ่ยปากพูดอะไรออกมาเลยสักนิด “เดียร์”

    “คะ?”

    “จะเอายังไงเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นทำร้ายเดียร์” ผมพูดเรื่องนี้ขึ้นมาคนตัวเล็กก็ชะงักมือที่กำลังจะเอาข้าวเข้าปาก หยิบน้ำขึ้นดื่มเอาจริงนะผมเดาความรู้สึกของเดียร์ไม่ออกจริงๆ ว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกอะไรหรือคิดอะไรอยู่

    “ช่างมันเถอะค่ะ”

    “...”

    “ฉันโดนแบบนี้ประจำจนชินแล้วค่ะ”

    โดนประจำ? หมายความว่ายังไง คิ้วของผมขมวดเข้าหากันทันทีที่ได้ฟังเรื่องพวกนี้จากปากเธอ

    “ทำไมเดียร์ไม่บอกแม่”

    “แม่ทำงานหนัก ฉันไม่อยากให้แม่ต้องมาคิดมากกับเรื่องพวกนี้”

    “มันไม่ใช่เรื่องพวกนี้” ผมขึ้นเสียงจนเดียร์ตกใจมองผมตาปริบๆ “เดียร์ พวกหล่อนทำร้ายร่างกายเดียร์นะแล้วอะไรที่ว่าโดนจนชินนี่มัน...”

    “ก็ชินไงคะ”

    กูอยากจะบ้าตาย! แล้วทำไมกูจะต้องอารมณ์ขึ้นเพียงเพราะเธอโดนทำร้ายด้วยวะ

    “เดียร์ มันคือการทำร้ายร่างกายในมหาลัยนะเดียร์ควรบอกใครเพื่อให้ยุติเรื่องนี้”

    “ไม่ค่ะ”

    “...”

    “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อีกอย่างฉันไม่ได้ทำอะไรให้พวกเขา”

    “ถ้าไม่ได้ทำ ทำไมพวกหล่อนถึงทำแบบนั้น” สงบสติอารมณ์เขาไว้ลี้เทียน “เดียร์ฟังพี่นะ เราต้องสู้สิ”

    “ฉันตัวคนเดียวนี่คะ” อาหารบนโต๊ะกลายเป็นว่าไม่มีใครกระเดือกลงเลย ผมไม่ควรเอาเรื่องนี้มาพูดใช่ไหม?

    “ไม่ได้ตัวคนเดียว” เดียร์ที่ก้มหน้ามองมือตัวเองอยู่เงยหน้าสบตากับผม “เดียร์ยังมีพี่”

    “คุณ...”

    “อืม มีอะไรให้บอกพี่” ก็ไม่รู้นะว่าตรงนี้จะเป็นแผนให้เดียร์เชื่อใจผมและเปิดใจให้ได้หรือยัง ถ้าหากการนำเรื่องนี้เป็นประเด็นมันก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้วฟังเธอไล่ตลอดแบบนี้น่ะเหรอ “พี่จะช่วยเดียร์เอง”

    “ช่วยทำไมคะ? เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”

    “เดียร์”

    “ขอบคุณความหวังดีนะคะ แต่ไม่จำเป็น”

    “ใจร้ายกับพี่ตลอดเลยนะ” ไม่ว่าเปล่าผมก็ถอนหายใจและก้มหน้าลงมองจานข้าว แล้วทำไมกูจะต้องน้อยใจด้วยวะ! มันเป็นแผนแน่ๆ อย่างน้อยทำหน้าสงสารเดียร์คงจะมีความเห็นใจกับผมบ้างล่ะนะ

    ซ่า

    “หือ” เดียร์เลิกคิ้วขึ้นพลางลุกขึ้นไปดูที่หน้าต่างตรงครัวก็พบว่าท้องฟ้ามืดครึ้มและมีฝนตกลงมาอย่างหนักจนเสียงดังเข้ามาในบ้าน “ฝนตก”

    “ไม่ใช่หน้าฝน ตกได้ไง?” ผมลุกขึ้นไปยืนข้างเดียร์ที่ยังคงมองเม็ดฝนที่เทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย

    “น่าจะโดนพายุค่ะ เมื่อเช้าฉันอ่านข่าวเจอ” ใบหน้าสวยหวานหันมามองผมก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวตามเดิม

    “แบบนี้พี่คงกลับไม่ได้”

    “ได้สิคะ”

    “ฝนตกนะครับ จะไล่พี่เหรอ?” ทำหน้าบูดใส่คนตรงหน้าที่ยักไหล่ไหว

    “รถคุณลี้เทียนมีหลังคา”

    “...”

    “ขับไปได้ค่ะ”

    เดียร์ก้มหน้ากินข้าวต่อโดยไม่สนใจผมที่นั่งอยู่ด้วย กระทั่งเธอเก็บจานไปล้างก็เดินไปทิ้งตัวนั่งที่โซฟเปิดหนังดูท่ามกลางบรรยากาศฝนตก

    “พี่นั่งด้วย” เดินไปทิ้งตัวนั่งข้างกัน แต่เดียร์ก็ขยับออกห่างพลางเอาหมอนพิงกั้นกลางระหว่างเรา

    “จะกลับตอนไหนคะ?”

    “อืม รอฝนหยุดก่อน” เดียร์ทำหน้าหงุดหงิด

    “รถก็ไปได้ ทำไมไม่ไปคะ”

    “ก็พี่อยากอยู่กับเดียร์”

    “...” เธอไม่ได้สนใจคำพูดของผมสักนิดเอาแต่จับจ้องมองหนังไซไฟอยู่แบบนั้น ตาแวววับเลยล่ะ

    “เดียร์คิดถึงพี่หรือเปล่า?”

    “ทำไมฉันต้องคิดถึงคุณ”

    “เพราะว่าพี่คิดถึงเดียร์”

    แล้วทำไมกูพูดคำนี้กูถึงได้ใจเต้นวะ! บ้าบอที่สุด

    “ถ้ายังไม่กลับก็ขอความกรุณาเงียบๆ ฉันจะดูหนังค่ะ”

    “ดุพี่ตลอด”

    เบ้ปากก่อนจะจับจ้องมองทีวีที่มีหนังไซไฟแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมจดจ่อกับมันนะ เพราะว่าผมกำลังแชทคุยกับสาวที่จะไปนอนด้วยแต่พอเดียร์เงียบไปผมจำต้องหันไปมอง

    ใบหน้าสวยด้านข้าง ผมสีดำยาวมีหน้าม้าซีทรูแววตาที่ส่องประกายยามได้ทอดสายตาดูหนังที่ตัวเองชอบ ผมเอาแต่จ้องหน้าของเธออยู่แบบนั้น ราวกับตกอยู่ในห้วงแห่งความน่ารักไร้เดียงสาของเธอ

    เธอแตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปที่ผมรู้จัก แตกต่างและคอยผลักไสผมอยู่ตลอดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที

    “มองอะไรคะ?” เป็นอีกครั้งที่ผมสะดุ้งกับคำถามของเดียร์ที่ขมวดคิ้วมองผม

    “เปล่าครับ”

    “จะกลับหรือยังคะ ฝนเริ่มซาแล้ว” เอ่ยปากไล่ผมอีกครั้ง แน่นอนว่าเดียร์เป็นผู้หญิงที่เข้าถึงยากต่อให้ผมตื้อเธอหนักแค่ไหนเธอจะมีวันใจอ่อนหรือเปล่า?

    แต่... มันต้องเร็วกว่านี้ไง สองเดือนที่ไอ้เคนให้โอกาส ผมต้องทำให้สำเร็จกับเงินพนันที่ได้มา

    “เดียร์เรียกพี่เทียนได้ไหมอ่า”

    “ไม่เรียกค่ะ” เธอลุกขึ้นไปเปิดประตูก่อนจะผายมือให้ผมเดินออกจากบ้านของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าผมทำตามอย่างว่าง่ายเมื่อฝนซาเดียร์ก็เปิดประตูรั้วให้ผมที่ขับรถออกไปแต่ก็ไม่วายที่จะจอดและลงจากรถ

    “พรุ่งนี้ไปเรียน พี่ไปหานะ”

    “ไม่ต้อง”

    “พี่จะไป แบร่!” แลบลิ้นให้เดียร์พร้อมกับหัวเราะออกมาแต่เธอก็นิ่ง จนผมสลดกับสิ่งที่ตัวเองทำ

    ถอนหายใจขณะขับรถตรงไปที่สนามแข่ง ครุ่นคิดเรื่องที่ตัวเองทำอยู่ตอนนี้... มันบ้ามากเอาจริงนะ ผมไม่คิดว่าเดียร์จะเป็นผู้หญิงที่เล่นด้วยยากมาก เธอไม่แม้แต่จะหวั่นไหวกับผมด้วยซ้ำ คนอย่างลี้เทียนผู้หญิงที่ไหนเจอมักจะอ่อนระทวยและหวั่นไหวแต่กับเดียร์ผมกลับเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่เดียร์ผลักไสมาตลอด

    ผมเดินตรงเข้ามาในสนามแข่งแต่ไม่ได้คิดจะแข่งนะ กลับเดินขึ้นไปนั่งตรงอัฒจันทร์หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบพร้อมเบียร์ที่ถูกกระดกเข้าปากหลายอึก

    “มึง” หันไปมองคนที่เดินมานั่งข้างกันเป็นไอ้เคนที่ตวัดขาไขว่ห้างมองการแข่งขันที่กำลังสู้กันอย่างดุเดือด “เป็นไงบ้าง เดียร์ตกหลุมรักมึงยัง”

    “ตกหลุมรักห่าไร” พูดแล้วก็ขึ้นมาจนไอ้เคนเลิกคิ้ว “ยากมาก”

    “หึ ไม่ง่ายใช่ไหม?”

    “อือ ปฏิเสธผลักไสกูตลอด ตื้อยังไงก็...”

    “ไม่ใช่ว่าตื้อไปตื้อมา ตกหลุมรักเขาเองล่ะ”

    “ไม่มีทาง”

    “ให้มันจริง เธอเป็นของพนันนะมึงอย่าลืม”

    “เออ กูรู้น่า” ตอบกลับไอ้เคนผมจึงหันไปมองหน้ามันที่มองอยู่ก่อนแล้ว “กูถามมึงจริงๆ นะ”

    “ว่า”

    “ทำไมมึงถึงอยากให้กูจีบเดียร์ ที่ว่าเพื่อนมึงจีบเดียร์แล้วโดนหักอก มันไม่ใช่เหตุผลเลย” ไอ้เคนหยิบเหล้าที่ถือติดมือมายกขึ้นดื่มสายตาก็ทอดมองไปยังสนามที่การแข่งขันจบลงแล้ว “จะว่ามึงว่างมากก็ไม่ใช่”

    “ไว้กูจะบอก”

    “มึงมีอะไรปิดบังกูใช่ไหมไอ้เคน” มันลุกขึ้นยืนก่อนจะหันมามองผมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเรียบนิ่ง

    “สิ่งเดียวที่มึงควรจะทำคือจีบเดียร์ให้ติด ไม่ใช่มาสงสัยกู”

    “...”

    “กูช่วยมึงนะไอ้เทียน มึงอย่าลืม”

    บอกแค่นั้นก็เดินจากไปเพื่อแข่งรถ ยิ่งไอ้เคนทำแบบนี้ผมก็ยิ่งสงสัยขึ้นไปอีกนะว่าทำไม... เพราะอะไรมันถึงจงใจให้เดียร์มาเป็นตัวเลือกในเกมพนันระหว่างเรา

    ช่างแม่ง! ไม่สนอะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ควรทำคือทำให้เดียร์ตกหลุมรักภายในสองเดือน

    ผมไม่อยากให้ไอ้เคนไปบ้านผมเพื่อไปบอกป๊าเรื่องเงินที่มันให้มา

    บอกแล้วไงผมไม่แบมือหรือคลานเป็นหมากลับไปแน่นอน

    -LITIAN TALK END–


    ลี้เทียนอ่อยเก่งแบบนี้น้องจะใจอ่อนเข้าสักวันไหมนะ?

    ปมของเคนที่ให้ลี้เทียนทำให้เดียร์ตกหลุมรักก็ยังไม่เปิด

    มารอติดตามกันเยอะๆ นะคะ เข้มขึ้นเรื่อยๆ

    ใครอยากรู้ปมที่มาของลี้เทียนและทั้งเดียร์ ห้ามพลาดเลยเด้อ!


    ฝากคอมเมนต์ให้กำลังใจไรต์ด้วยนะคะ 

    กด FAV ติดตามไว้จะได้ไม่พลาดความสนุกค่ะ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×