คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : #เทียนเดียร์ :: CHAPTER 5 [100%]
-LITIAN TALK –
‘หัวเราะอะไรคะ’
‘หัวเราะคนน่ารัก’
รอยยิ้มของผมผุดขึ้นมาก่อนจะนึกไปถึงเรื่องที่ได้กระทำลงไป
หลังจากนี้สองเดือนผมต้องทำให้เดียร์ตกหลุมรักผมให้ได้และใช่...
เธอไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
เธอเล่นด้วยยากและใจแข็งดั่งหิน
เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้แคร์ผู้ชาย
เผลอๆ เกลียดผู้ชายด้วยซ้ำ
แต่มัน...เพราะอะไรกันล่ะ?
เหตุผลอะไรถึงทำให้เธอรังเกียจผู้ชายมากขนาดนั้น
“คิดอะไรอยู่เหรอคะ”
หันไปมองคนข้างกายที่เอ่ยถามด้วยสีหน้าเหนื่อยหลังจากที่มีเซ็กซ์กับผมไปสองรอบ
ผมส่ายหน้าไปมาก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นจุดสูบ “ลี้เทียนคะ”
“อะไร?”
“คือปิ่นอยากได้กระเป๋าหลุยส์ใบใหม่
ลี้เทียนซื้อให้ปิ่นได้ไหม?”
เธอขึ้นมาคร่อมร่างผมก่อนจะออดอ้อนให้ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้ “นะคะๆ”
“ไม่มีเงิน”
“ได้ไงคะ
ลี้เทียนเป็นถึงลูกชายคนเล็กของห้างทองชื่อดังจะไม่มีเงินได้ยังไง”
“ไม่มีคือไม่มี
ถ้าจะมาขอนู้นขอนี้ก็ไปดิ” ไล่หล่อนทันทีซึ่งก็ไม่เป็นผลหรอกนะ
ต่อให้ผมมีเงินหรือไม่มีผู้หญิงที่นอนด้วยก็จะยังอยากนอนกับผมอยู่ดี
“ลี้เทียนอ่า
อย่าไล่กันแบบนี้สิคะมาต่อกันดีกว่า”
“ไม่
ถุงยางหมด” ผลักร่างของเธอออกจากตัวพลางหยิบบุหรี่ขึ้นสูบ
Rrr
สมาร์ทโฟนสั่นบนโต๊ะหัวเตียงในห้องของหล่อน
ปลายสายทำให้ผมมึนงงไม่น้อยที่จู่ๆ มันก็โทรมาหาแบบนี้ “ว่า”
(“มึงอยู่ไหน
มาผับเฮียแซคดิ”)
“ไม่อยู่กับน้องพะแพงหรือไง?”
สูบเอานิโคตินเข้าปอดพลางฟังเสียงจากปลายสาย
(“เออ
มึงออกมาเถอะน่า เร็วๆ กูรออยู่”)
“เออสิบนาที”
“จะไปแล้วเหรอคะ?”
พยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำและแต่งตัวไปหาไอ้ไฟ
“แล้วจะมาหาปิ่นอีกเมื่อไหร่?”
“มาตอนไหนก็ตอนนั้น”
บอกแค่นั้นผมก็ขับรถตรงไปยังผับเฮียแซคและที่ประจำของเราตอนนี้มีไอ้ไฟนั่งดื่มอยู่คนเดียว
ผมจึงทิ้งตัวลงนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามไอ้ไฟก็พยักหน้าให้กับผม “ช่วงนี้มึงหายไปเลยนะ”
“หายตรงไหน?”
“ปกติมึงจะโทรตามกูไอ้รามมาแดกเหล้า”
“พวกมึงติดเมียจะให้กูโทรได้ไง”
ตอบมันผมก็เทเหล้าเตกีล่าลงแก้วก่อนจะยกขึ้นดื่ม
“แล้วไปไหน”
“มึงเป็นเมียกูหรือไงถึงได้ถามซอกแซกแบบนี้อะ”
ไม่รู้ว่าตัวเองเผลออารมณ์เสียใส่ไอ้ไฟ มันถึงได้มองหน้าผมอย่างนิ่งๆ
โดยไม่พูดอะไรออกมา “กูอยู่สนามแข่ง พอใจมึงยัง”
“กูไปมา
พี่กี้บอกว่ามึงไม่ได้มาเลยตั้งแต่ออกไปกับไอ้เคน”
“...”
“ปกติมึงอยู่สนามแข่งยิ่งกว่าห้องเพราะว่ามึงต้องหาเงิน
แต่ทำไม...”
“ถ้ามึงจะเรียกกูมาเพื่อถามเรื่องนี้
กูกลับก่อนแล้วกัน” ลุกขึ้นยืนเตรียมจะกลับห้องแต่เสียงของไอ้ไฟก็รั้งผมไว้อีกครั้ง
“กูก็แค่เป็นห่วง
ไอ้เคนมันไม่น่าไว้ใจ”
ได้ยินแค่นั้นผมก็เดินออกจากผับและกลับคอนโดทันทีโดยที่อารมณ์หงุดหงิดจากไอ้ไฟยังไม่หาย
พอได้เห็นเจ้าตัวน้อยที่เดินออกมาจากบ้านแมวผมก็ย่อตัวลงอุ้มลี้จิงเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา
“เมี๊ยว~”
สิ่งที่ผมคิดตอนนี้คือแค่ไอ้เคนยื่นมือมาช่วยผมมันก็เท่านั้น
ส่วนที่ทั้งไอ้ไฟและไอ้รามพูดถึงมันในทางที่ไม่ดีผมก็ไม่คิดจะเชื่อหรอกนะ
มันไม่เคยแสดงออกว่ามันคิดไม่ดีกับผมสักนิด
ช่างเรื่องนี้เถอะ
หลังจากนี้ต่างหากผมควรทำยังไงให้เดียร์ใจอ่อน เธอใจแข็งและเข้าถึงยากมากจริงๆ
อย่างที่ไอ้เคนบอกนั่นแหละ เวลาแค่สองเดือนที่จะทำให้เธอตกหลุมรักมันยากมากๆ
ผมไม่เคยเจอผู้หญิงที่ไหนใจเด็ดแบบเดียร์มาก่อนเลย
แต่...
ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก ผมต้องทำให้สำเร็จ
คนอย่างลี้เทียนที่เซียนเรื่องผู้หญิงแค่นี้ต้องทำให้ได้ดิวะ
“เดี๋ยวพ่อมานะลี้จิง”
แม้ว่าผมจะเลี้ยงลี้จิงมาได้สักพักแต่ผมก็ไม่เคยได้อยู่กับลี้จิงสักเท่าไหร่
ด้วยเหตุผลหลายๆ
อย่างแต่ผมก็เอาใจใส่ลี้จิงดีกว่าใครฉะนั้นอย่าว่าผมว่าไม่รักแมวแล้วจะเอามาเลี้ยงทำไม
ผมเทอาหารใส่ถ้วยให้ลี้จิงพร้อมกับน้ำก่อนจะหยิบลูกบอลของเล่นให้เจ้าตัวเล็กเล่นไปมา
จากนั้นประตูห้องก็ปิดลง
ลี้จิงเป็นแมวที่ดีมากๆ เลยนะไม่เคยทำห้องผมรกหรือค้นข้าวของมีแต่มาถึงคือนอนหลับรู้ว่าผมมาก็ออกจากบ้านแมวมาต้อนรับ
จะไม่ให้รักได้ยังไงล่ะ!
เพราะวันนี้เป็นหยุดดังนั้นผมจึงเริ่มแผนการจีบเดียร์ต่อ
เมื่อวานผมยืนมองเหตุการณ์ที่ทำให้เดียร์ต้องเจ็บตัว
ผมไม่รู้เลยว่าเธอจะโดนกลั่นแกล้งได้ขนาดนั้น ใครจะไปคิดว่าเธอจะโดนถีบตกบันได...
เดียร์เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างไม่ค่อยสุงสิงกับใคร
แล้วทำไมผู้หญิงพวกนั้นถึงได้พากันแกล้งเธอล่ะ
“เอาอะไรดีพ่อหนุ่ม”
“เออ...”
วันนั้นที่มากินข้าวร้านนี้ที่หน้าปากซอยบ้านเดียร์
โคตรโชคดีเลยที่ได้เจอเธอและจำได้ดีว่าเดียร์ชอบกินอะไรผมจึงสั่งอาหารที่ว่าพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ
ควักเงินที่มีอยู่จ่ายไปเพื่อตรงไปบ้านของเดียร์
เอาจริงนะ
ผมค่อนข้างเป็นห่วงเธอนิดหน่อยเพราะเหตุการณ์เมื่อวานนั่นแหละ
ไม่รู้ว่าตอนไปมหาลัยเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้างที่สำคัญแม่ของเธอคงไม่รู้
เดียร์ไม่อยากบอกแม่ตัวเองให้ไม่สบายใจผมจึงต้องช่วย
คิดว่าเดียร์จะใจอ่อนที่ผมรับผิดแทนให้แต่เปล่าเลย...
ต่อว่าผมไปอีกน่ะสิ
ระหว่างขับรถเข้าไปหาเดียร์ที่บ้านผมก็สูบบุหรี่พลางเปิดหน้าต่างรถไปด้วย
ยื่นแขนขวาที่คีบบุหรี่ไว้ด้านนอก
เมี๊ยว~~
เสียงของแมวที่ร้องดังก้องถนนลูกรังทำให้ผมจอดรถทันทีทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นพลางขมวดคิ้วมองหาเสียงแมวที่ร้องขอความช่วยเหลือ
ทำไมผมถึงรู้ก็เลี้ยงลี้จิงมาทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าแมวร้องเสียงแบบไหนเป็นแบบไหน
“เมี๊ยวๆ
แกอยู่ไหนแมวน้อย” ผมร้องเรียกเจ้าแมวก่อนจะสาวเท้าเข้าไปในป่าข้างทางที่มีหญ้ารถทึบพร้อมต้นไม้ใหญ่ที่ยืนเด่นสง่าตรงริมทาง
ผมกวาดสายตาลงพื้นไม่เจอดังนั้นเหลือสิ่งสุดท้ายก็คือบนต้นไม้
สายตาของผมมองสบเข้ากับแววตากลมโตที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ
ทำได้แต่ยืนเท้าเอวมองแมวน้อยตัวสีขาวกำลังเกาะอยู่ด้านบนกิ่งไม้ที่สูงพอควร
“ชีวิตกู”
บ่นพึมพำพลางพับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวจนถึงข้อศอกเผยให้เห็นรอยสักลวดลายมากมายโดยปกติผมไม่ค่อยโชว์รอยสักของตัวเองสักเท่าไหร่
เพราะว่าป๊าไงทำให้ผมต้องปกปิดรอยสักตัวเองจนเคยชิน
สองมือจับไปที่ตัวต้นไม้จากนั้นก็มองหากิ่งก้านที่พอจะทำให้ผมไปถึงตัวเจ้าแมวน้อยและก็ได้ผล
ผมไปถึงตัวเจ้าแมวก่อนจะอุ้มเข้าเอวค่อยๆ
พาตัวเองลงมาแต่ผมดันโดนมดส้มที่กัดหนึบไม่ปล่อยตรงแขนหลายตัว
“กัดเจ็บฉิบหาย!”
เจ้าแมวน้อยก็ยังคงร้องครวญครางอยู่แบบนั้นผมจึงวางมันลง
มันก็คลอเคลียผมราวกับต้องการจะขอบคุณ ได้แต่ยิ้มออกมาลูบศีรษะมันเบาๆ
“อย่าซนจนได้เรื่องอีกล่ะ
ไม่มีใครช่วยอดกินข้าวแน่”
ฟังผมบ่นเสร็จก็วิ่งหนีไปทันทีโดยมีสายตาของผมมองตามก็ต้องพบว่ามีร่างบอบบางที่สวมชุดวอร์มสีดำกำลังมองผมอยู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“เดียร์”
“คุณทำอะไรคะ?”
“พี่กำลังไปหาเดียร์พอดีเลย
จิ๊” มองใบหน้าสวยหวานที่รอฟังคำตอบของผม
ทว่าสองมือกำลังกวาดไปตามท่อนแขนที่รู้สึกเจ็บแสบนิดๆ เพราะมดกัดและไปๆ มาๆ
ผมดันคันไปทั้งตัวจนต้องสะบัดตัวเพราะไม่รู้ว่ามีมดอยู่ในเสื้อผ้าหรือเปล่า
“แขนแดงหมดเลย”
เดียร์ก้มหน้าลงมองท่อนแขนของผมที่เป็นรอยแดงเพราะเกา
รอยยิ้มของผมผุดขึ้นยามที่เธอเงยหน้าสบตากับผม “โดนรังมดหรือเปล่าคะ?”
“พี่ไม่รู้ครับ
แล้วเท้าหายดีแล้วเหรอ”
“ก็พอเดินได้ค่ะ”
เธอตอบผมที่เริ่มทนไม่ไหวแล้ว “โอเคหรือเปล่าคะ”
“ไม่เลยครับ”
มาเสียหล่อต่อหน้าเดียร์เพราะมดกัดเนี่ยนะลี้เทียน... ไม่เกินไปหน่อยเหรอ
“พี่ซื้อกับข้าวกะจะเอาไปให้เดียร์”
“...”
“ไม่ไหวแล้วอะ”
มองเดียร์ด้วยสีหน้าทรมานไม่ช้าผมก็ถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจนเดียร์ตกใจ
หันหลังหนีทันที “เดียร์ดูมดให้พี่หน่อยสิครับ ตรงหลัง”
เธอกล้าๆ กลัวๆ
แต่ก็ยอมที่จะขยับเข้ามาดูที่แผ่นหลังของผมแต่เสียงถอนหายใจนี่สิทำให้ผมหันไปมองสบตากับเธอ
“อะไรเหรอครับ?”
“จะรู้ได้ไงล่ะคะว่ามดกัดตรงไหน
ก็เล่นสักเต็มไปหมดแบบนี้” นิ้วชี้จิ้มลงบนแผ่นหลังของผม
เดียร์ก็ทำหน้าหงุดหงิดทันที
“หงุดหงิดอะไรพี่?”
“เปล่าค่ะ
แค่จะบอกไปบ้านฉันก่อน ไปอาบน้ำเผื่อว่าจะหายคัน”
“จริงเหรอครับ!” ผมตะโกนแหกปากลั่นเลย... ใจอ่อนแล้วใช่ไหมเนี่ย
“จะไม่ไปก็ได้นะคะ”
หมับ
“ไปสิครับ”
เพราะเธอจะเดินหนีผมถึงคว้าข้อมือเดียร์ไว้ ทว่าสายตาที่แข็งกระด้างทำให้ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างหวั่นๆ
ใจ นี่ลี้เทียนกลัวผู้หญิงได้ไงครับเนี่ย!
และเดียร์เป็นคนแรกด้วยนะที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้
“ปล่อยค่ะ”
สายตาของเดียร์ทำให้ผมคลายมือออกทันทีพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นข้างใบหน้าราวกับยอมแพ้
ซึ่งแพ้จริงๆ นั่นแหละ “แล้วก็อย่าได้คิดเยอะนะคะ ที่ฉันช่วยเพราะตอบแทนที่คุณเคยช่วยฉันไว้”
“คร้าบ”
ถึงยังไงก็ดักความคิดผมไว้ซะหมดเลยสินะ! ไอ้เคนนะไอ้เคน เอาของยากมาให้กูเล่นจนได้
ความจริงก็ไม่ได้อยากให้น้องหลงคารมอีพี่มากนัก
เพราะกลัวว่าสุดท้ายน้องจะเสียใจที่สุด และลี้เทียนเองก็เช่นกัน
เรื่องราวที่เกิดขึ้นมีเหตุผลของมัน ทุกอย่างมีความแปร
และตัวกำหนดให้อยู่แล้วเหลือที่ว่าลี้เทียนจะทำยังไงต่อไป?
มารอติดตามกันเยอะๆ นะคะ
*เรื่องราวจะเข้มข้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นปมของน้องเดียร์
หรือจะเป็นของเรื่องระหว่างลี้เทียนกับเคน
มารอติดตามกันเยอะๆ นะคะ คอมเมนต์รอให้กำลังไรต์ด้วยนาะ
กด FAV ติดตามด้วยอย่าลืมเด้อจ้าาา*
ความคิดเห็น