ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CHEAT ON ME หลอกรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : #เทียนเดียร์ :: CHAPTER 3 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 64




    = EP3 =

    :: เจอกันอีกแล้ว ::

    ฉันมาถึงคณะเวลาเช้าเพราะมีเรียนถึงบ่ายสาม อันที่จริงฉันแทบจะไม่มีเพื่อนเลยด้วยซ้ำเป็นเพราะว่าฉันเข้าถึงได้ยากและส่วนใหญ่พวกเพื่อนรุ่นเดียวกันก็จะ...

    อีเดียร์ อีแรด

    ทำหยิ่งจองหอง ก็อยู่คนเดียวไปเถอะ อย่าไปคบกับมันเลยอีนี่มันอ่อยผู้ชายเก่ง

    ทำมาเป็นไร้เดียงสา ชิ โดนผู้ชายที่เข้าหาจนพรุนแล้วมั้ง

    แล้วก็ตามด้วยเสียงหัวเราะที่นินทาฉันอย่างไม่เกรงใจกันสักนิด เพราะแบบนี้ฉันถึงได้ไม่มีเพื่อนไงล่ะ แต่ก็นะถ้ามีเพื่อนที่จ้องจะนินทาและอิจฉากันล่ะก็ฉันขออยู่คนเดียวดีกว่า

    “เดียร์ ฉันขอดูชีทงานเธอหน่อยได้ไหม?” เงยหน้าสบตากับเสาเพื่อนรุ่นเดียวกันแต่เป็นเดือนคณะกำลังฉีกยิ้มกว้างให้กับฉันก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกัน ฉันไม่พูดอะไรก็ค่อยๆ เลื่อนชีทงานไปให้เขาที่ก้มหน้าอ่านอย่างตั้งใจ

    เสาเป็นผู้ชายที่หล่อ รวยและสเปกใครหลายคนแต่เขาก็ไม่ได้คบหรือควงใครนะที่เห็นอยู่ เพราะฉันไม่ค่อยยุ่งเรื่องชาวบ้านเขาไง

    “โห ชีทงานของเดียร์เรียบร้อยมาก ฉันขอยืมหน่อยได้ไหม ฉันเข้าเรียนไม่ได้ทัน”

    “อือ ได้สิ” พยักหน้ารับเสาก็ฉีกยิ้มอย่างดีใจส่วนฉันก็ก้มหน้าทำรายงานตามเดิม

    “เดียร์ เลิกเรียนไปกินข้าวด้วยกันนะ” เงยหน้าสบตากับเสาพลางเบนสายตามองเพื่อนในคณะก็เอาแต่มองฉันกับเสาและซุบซิบกันไปมาจำต้องส่ายหน้า

    “ไม่ดีกว่า ขอบใจนายที่ชวน”

    “ทำไมล่ะ? เธอรังเกียจฉันเหรอ” พอเขาพูดแบบนี้ฉันก็รีบยกมือโบกมาไป “แล้วเพราะอะไร”

    “ก็...” จะให้บอกเหรอว่าฉันไม่ชอบที่จะสุงสิงกับผู้ชายและยิ่งเป็นเขาด้วยฉันไม่กลัวคำนินทาหรอกนะ แต่ออกจะรำคาญซะมากกว่า

    “เธอไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนอื่นได้”

    “นายคิดว่าฉันอยากจะไปหรือไง?”

    “ถ้างั้นตกลงไปกินข้าวด้วยกันนะ” ยังคงตื้อให้ฉันไปกับเขาจนฉันทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “คิดซะว่าเราเป็นเพื่อนกัน”

    “...”

    “เพื่อนกันทำไมจะไปกินข้าวด้วยกันไม่ได้ล่ะ อีกอย่างฉันอยากตอบแทนที่เดียร์ให้ชีทงานฉันมาดูด้วย”

    “โอเค ก็ได้” ตอบกลับไปเสาก็ฉีกยิ้มกว้างพลางก้มหน้าอ่านชีทตามเดิม แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาจะได้ยินเสียงนินทาที่ดังกระซิบหรือเปล่า?

    อ่อยเสาไปอีกคน อีเดียร์มันร้ายจริงๆ

    นั่นสิเสาของฉัน ฉันชอบของฉันมานาน โดนอีเดียร์คาบไปแดกละ

    ถอนหายใจออกมาและตั้งใจเรียนจนกระทั่งเลิกเรียนฉันก็โทรไปบอกแม่ว่าอาจจะกลับค่ำหน่อย เสาก็พาฉันไปกินข้าวที่ร้านอาหารไทยชื่อดัง ภายในร้านจัดตกแต่งสไตล์ไทยทำให้ฉันที่นั่งมองไปรอบๆ จึงสบตากับเสาที่มองอยู่ก่อนแล้ว

    “สั่งเต็มที่เลยนะ ฉันเลี้ยงเอง”

    “ขอบคุณนะ” ก้มหน้ามองเมนูอาหารก็สั่งเพียงแค่สองอย่างเท่านั้น จากนั้นเสาก็สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะทำให้ฉันงุนงงนิดหน่อย “สั่งมาเยอะเลย เดี๋ยวกินไม่หมดนะ”

    “ไม่เป็นไร ห่อกลับได้” รอยยิ้มของเสาส่งมาให้ฉันก่อนจะก้มหน้ากินอาหารตรงหน้าโดยที่คุยกับฉันไปด้วย “ฉันเห็นพี่นุตามจีบเดียร์ ทำไมเดียร์ถึงไม่ตกลงคบกับพี่เขาเหรอ?”

    “คือ...” ชะงักมือที่กำลังจะตักอาหารฉันก็เงียบไปอีกครั้งจนเสารีบโบกมือไปมาตรงหน้าฉัน

    “ไม่ต้องตอบก็ได้ ขอโทษที่ถามอะไรแบบนั้น”

    “ไม่เป็นไร ฉันแค่ไม่อยากคบกับใครน่ะ”

    “มีเหตุผลไหม?” เสายังคงถามซอกแซกจนฉันไม่อยากจะตอบก็ต้องตอบ

    “ผู้ชายเหมือนกันหมดทุกคน” ตอบได้แค่นั้นเสาก็นิ่งไปทันที “ฉันเกลียดผู้ชายเจ้าชู้”

    “แต่ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นนะ”

    “ขอโทษนะ แต่ฉันมองผู้ชายทุกคนแบบนั้น” เราสองคนสบตากันอย่างเงียบๆ โดยไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยกระทั่งเสาเอ่ยคำถามขึ้นอีกครั้ง

    “เดียร์เคยเจอผู้ชายแบบนั้นใช่ไหม?”

    “...”

    “ฉันจะบอกให้นะ ผู้ชายทุกคนไม่ได้เหมือนกับที่เดียร์คิด” ฉันกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะมองมือของเสาที่ทาบทับมือของฉันที่วางไว้บนโต๊ะ “เชื่อใจฉันนะ”

    “อะไร?” ขมวดคิ้วอย่างมึนงงเสาก็อมยิ้มและหลุบสายตาลง

    “ฉันชอบเธอ”

    !

    “ชอบมาสักพักแล้ว แต่รู้ว่าเธอไม่ค่อยสุงสิงกับผู้ชายก็เลย... ขอโอกาส” ไม่รู้หรอกนะว่าควรทำยังไงต่อจากนี้ดี ฉันเจอเหตุการณ์แบบนี้มาเยอะมากและผู้ชายพวกนั้นหวังอย่างเดียวในตัวของฉันคือ มีเซ็กซ์ มีคนเคยปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับฉันที่มหาลัยว่า อีเดียร์เด็ดมาก เอามันสุดจากนั้นผู้ชายทุกคนก็คิดว่าฉันเป็นแบบนั้นทั้งที่ไม่ใช่เลยสักนิด คนเกลียดฉันเยอะก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้กับพวกเขา ฉะนั้นอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเสาเองก็เซียนผู้หญิงมากๆ คิดว่าฉันโง่ไร้เดียงสามากขนาดนั้นเลยเหรอ หรือต่อให้เขาไม่คิดจะชอบฉันเข้าหาเพราะอะไรก็ตามแต่

    ฉันก็ไม่มีวันยอมให้ผู้ชายคนไหนเข้ามาในหัวใจได้แน่นอน

    “ขอโทษนะเสา”

    “ทำไมอะเดียร์”

    “ขอบคุณนะที่พามาเลี้ยงข้าว ฉันกลับก่อน”

    ฉันลุกจากเก้าอี้พลางเดินออกจากร้านทันทีมุ่งหน้ากลับบ้าน ดีหน่อยที่ร้านอาหารอยู่ไม่ไกลจากบ้านเดินเท้าไปก็ถึง

    ปรี้นๆ

    เสียงแตรรถดังจากด้านหลังทำให้ฉันหันกลับไปมองก็พบว่ามีรถสปอร์ตหรูสีดำคันหนึ่งจอดและคนที่โผล่ออกมาจากรถก็ทำให้ฉันรีบสาวเท้าไปทันทีโดยไม่รีรอเขา

    “เดี๋ยวสิครับน้องเดียร์” ทำไมนะ ทำไมเขาต้องมายุ่งวุ่นวายกับฉันด้วย

    หมับ

    ฝ่ามือหนาคว้าต้นแขนฉันไว้เพื่อให้หยุดเดิน จัวหวะนี้ฉันทำได้เพียงยกหนังสือที่ถืออยู่ขึ้นเหนือหัวเตรียมฟาดเขาที่ไร้มารยาทชอบแตะเนื้อต้องตัวฉัน

    “จะตีพี่ให้ตายเลยเหรอครับ?”

    “ปล่อย” บอกแค่นั้นลี้เทียนก็ค่อยๆ คลายมือออกฉันก็กระเถิบถอยห่างเขาที่มองฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

    “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”

    ฉันแสดงสีหน้าตัวเองออกไปขนาดไหนนะ พอลี้เทียนพูดแบบนี้ฉันก็ยกมือลูบไล้ใบหน้าตัวเองไปมา

            “ทำไมเรายังต้องเจอกันอีกคะ” 

    ถามเขาที่ยืนอยู่ตรงนี้แถมยังชอบยกยิ้มมุมปาก คนตรงหน้าฉันเพิ่งจะสังเกตเขาเป็นคนที่มีรอยสักที่ท่อนแขนเยอะพอควรแต่ก็ปกปิดมันไว้ด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวที่พับถึงแค่ข้อศอก สวมชุดนักศึกษาแบบนี้คงเพิ่งเลิกเรียนสินะ

    “ต้องเจอสิครับ” พูดพลางล้วงมือลงที่กระเป๋ากางเกงยีนทรงกระบอกหยิบของอะไรบางอย่างยื่นมาตรงหน้าของฉันเป็นผ้าเช็ดหน้าที่ฉันเคยให้เขาไว้ตอนที่ช่วยเหลือฉันเมื่อหลายวันก่อน

    “ไม่เห็นต้องเอามาให้เลยนี่คะ ฉันมีอีกหลายผืน” แม้ปากจะพูดแบบนั้นแต่ก็รับผ้าเช็ดจากมือของลี้เทียนที่ยืนยิ้มให้อยู่ รอยยิ้มของเขามันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ กับตัวเองจะบอกว่าเขาเป็นคนที่ยิ้มแล้วโลกสดใสก็เถอะ แต่จำเป็นต้องรู้สึกอะไรด้วยเหรอเดียร์!

    “พี่บอกว่าจะเอามาคืนให้ก็คือเอามาคืนให้ครับ”

    “ขอบคุณค่ะ” เอาผ้าเช็ดหน้าใส่ลงกระเป๋าก่อนจะสบตากับเขาอีกครั้ง “งั้นฉันกลับก่อนนะคะ”

    “เดี๋ยวสิเดียร์” ร่างสูงวิ่งอ้อมมาหยุดตรงหน้าเพื่อไม่ให้ฉันเดินไปต่อ “ทำไมต้องหลบหน้าพี่ด้วย”

    “ไม่นี่คะ ฉันแค่จะกลับบ้านมันหลบหน้าตรงไหนกัน?” เริ่มจะหงุดหงิดแล้วนะ ทำไมจะต้องมาตามกันด้วยแล้วยังจะมาบอกว่าฉันหลบหน้า ฉันจะหลบหน้าเขาทำไมก็แค่รำคาญก็เท่านั้น

    “ไปกินเค้กเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ”

    “ไม่ค่ะ ฉันมีการบ้านต้องทำ” พูดแค่นั้นฉันก็เดินหนีเขาไปอีกทาง แต่ลี้เทียนก็ไม่ยอมแพ้เขาก็เดินมาหยุดตรงหน้าฉันอีกครั้ง “คุณลี้เทียน คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย”

    “ทำไมชอบห่างเหินกับพี่”

    “เราไม่ได้เป็นอะไรกันนะคะ จะเรียกว่าห่างเหินได้ยังไง?” ตอบแค่นั้นฉันก็เดินสวนเขาไปอีกแต่รอบนี้ลี้เทียนไม่ได้ตามมาทำให้ฉันหันกลับไปมองก็พบว่ารถของเขาได้ขับออกไปแล้ว

    แต่ทว่าที่ขับออกไปแล้วคือเขาขับมาขวางฉันตรงซอยจะเข้าบ้าน

    “คุณต้องการอะไรกันแน่คะ คุณลี้เทียน” เริ่มจะเหนื่อยแล้วนะ! ทำไมต้องตามตื้อกันขนาดนี้ด้วยเนี่ย

    “บอกไปเมื่อวานแล้วไม่ใช่เหรอครับ พี่แค่อยากทำความรู้จักกับเดียร์”

    “อย่ามาทำความรู้จักกับฉันเลยค่ะ ฉันไม่ได้เหมือนผู้หญิงทั่วไป” เป็นอีกครั้งที่ฉันเดินอ้อมรถเขาเพื่อตรงกลับบ้าน ทำไมการกลับบ้านของฉันถึงได้เหนื่อยขนาดนี้นะ

    “ทำไม? ไม่เหมือนตรงไหนเดียร์ก็มีแขน มีขา มีตา มีทุกอย่างครบสามสิบสอง หรือไง... เดียร์มีนมสามเต้าเหรอ ถึงได้ปฏิเสธพี่ตลอดแบบนี้เพราะกลัวพี่จะรู้”

    “นะ นี่คุณจะบ้าหรือไง ฉันไม่ได้มีนมสามเต้านะ!”

    “ถ้าไม่ได้เป็นอย่างที่พี่พูด ทำไมต้องปฏิเสธพี่ด้วย”

    สีหน้าของเขาเรียบนิ่งแต่ทว่าเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เสียใจกับการปฏิเสธของฉัน ลี้เทียนก้มหน้าลงก่อนจะเงยหน้ามองฉันอีกครั้ง

    “พี่แค่อยากรู้จักกับเดียร์ มันไม่ได้เหรอครับ”

    “...”

    ฉันถอนหายใจออกมาได้แต่คิดและฉันรู้ตัวเองดี ว่าต่อให้คนตรงหน้าจะดีแสนดีแค่ไหน แต่คนเรามันเปลี่ยนกันได้เสมอล่ะ ฉันไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นโดยเฉพาะกับผู้ชายฉะนั้นอย่าหวังอะไรกับฉันเลยถ้าหากฉันจะปฏิเสธที่เขาจะหาฉัน

    “ขอโทษนะคะ แต่ฉันไม่ได้อยากรู้จักกับคุณ”

    จบแค่นั้นฉันก็มุ่งตรงกลับบ้านทันที พร้อมกับมองรถเก๋งสีขาวคันหนึ่งที่จอดไว้ตรงหน้าบ้านที่กว้างนิดหน่อย บ้านฉันเป็นบ้านเดี่ยวเนื้อที่กว้างมากๆ แม่ผ่อนบ้านหลังนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรง

    “กลับมาแล้วเหรอลูก” แม่ที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวถามไถ่ขึ้นมา พอเห็นฉันเงียบและเดินไปเปิดตู้เย็นกินน้ำทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ก็ผละใบหน้าจากกระทะที่กำลังผัดอะไรสักอย่างอยู่ “เป็นอะไรเดียร์ ทำไมทำหน้าบูดแบบนั้นล่ะ”

    “เจอโรคจิตค่ะ”

    “ห๊า! เป็นอะไรหรือเปล่าลูก”

    “ไม่ใช่โรคจิตแบบนั้นค่ะ” แม่ทำหน้าโล่งอกทันที ฉันจึงสาธยายเรื่องวันนี้ที่เจอให้แม่ฟัง “ลี้เทียนน่ะค่ะ ยุ่งวุ่นวายกับเดียร์มาก บอกอยากทำความรู้จักด้วยใครเขาอยากจะรู้จักกับตัวเองล่ะ”

    “แล้วทำไมเดียร์ไม่ลองเปิดใจให้ลี้เทียนเขาล่ะ”

    “แม่”

    “ชักอยากจะเห็นหน้าผู้ชายที่ชื่อลี้เทียนซะแล้วสิ” ได้แต่นั่งมองอาหารตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด สบตากับแม่ที่มองฉันด้วยสายตาห่วงใย “อย่าคิดว่าผู้ชายทุกคนจะเหมือน...”

    “เดียร์ไม่สนหรอกค่ะ ผู้ชายที่เข้าหาเดียร์ก็แค่...”

    ทั้งฉันและแม่ต่างพากันเงียบอีกครั้ง อันที่จริงเรื่องที่ฉันเจอที่มหาลัยแม่ไม่รู้ว่าฉันเจอกับอะไรบ้าง แค่แม่ทำงานก็เหนื่อยพออยู่แล้ว แม่ทำงานเป็นพนักงานที่บริษัทแห่งหนึ่งเราสองคนแม่ลูกอยู่อย่างพอกินพอใช้

    “ลี้เทียนอากจจะแตกต่างก็ได้ เพราะเขาเพิ่งจะเจอเดียร์”

    “แล้วยังไงคะ?”

    “อาจจะตกหลุมรักลูกสาวแม่ก็ได้ไง”

    ทำหน้าบูดใส่แม่ที่ลุกขึ้นเก็บจานไปล้าง ส่วนฉันก็เข้าห้องและทำรายงานแต่ในห้วงความคิดก็ดันไปนึกถึงเรื่องวันนี้กับลี้เทียน สีหน้าของเขาตอนที่ฉันปฏิเสธจะรู้จักดูผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด วางปากกาลงบนโต๊ะทำงานก่อนจะยกมือทั้งสองกุมศีรษะตัวเอง

    “โดนปฏิเสธไปแบบนั้น ทำไมยังต้องตามอยู่อีก”

    มีเหตุผลอะไรถึงได้ทำแบบนั้น... แต่ก็คงไม่พ้นคงอยากได้ตัวฉันนั่นแหละ

     

    คลาสเรียนวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันตั้งใจเรียนอย่างมีความสุขไม่สนใจคำนินทาที่อยู่ด้านหลังเลยสักนิด เอาแต่จับจ้องมองอาจารย์ที่กำลังสอนอย่างเต็มที่เพราะนี้เป็นวิชาเรียนสุดท้ายในเวลาเย็น

    “รายงานมาส่งได้ที่โต๊ะผม เลิกคลาสได้ครับ” สิ้นเสียงของอาจารย์ฉันก็เก็บหนังสือลงกระเป๋าผ้า อีกสองเล่มก็ถือไว้ในอกเดินเอารายงานไปส่ง “ดลรดา ส่งก่อนคนแรกทุกครั้งเลยนะครับ”

    “หนูไม่อยากมีงานค้างค่ะ” รอยยิ้มของฉันส่งให้อาจารย์ก่อนจะยกมือไหว้ท่านและเดินออกจากคลาสไปเพื่อตรงกลับบ้านเพราะนี้ก็เย็นมากแล้วด้วย แม่คงเป็นห่วงแย่เพราะว่ามือถือของฉันแบตหมด

    พลั่ก

    “อ๊ะ!

    ตุ้บ

    ร่างของฉันตกลงจากบันไดหน้าคณะสองขั้นก่อนที่ร่างจะไถลลงบนพื้นทำให้ของที่ถืออยู่กระจายแต็มพื้น ข้อเท้าเจ็บหนึบบวกกับข้อศอกขวาที่ถลอกจนเลือดไหล

    ฉันไม่ได้ซุ่มซ่ามถึงขนาดทำให้ตัวเองตกบันไดได้หรอกนะ!


    ใครทำน้อง! น้องจะเป็นอะไรมากไหมเนี่ย 

    ส่วนอีพี่ก็ตามติดหนึบเลย น้องเป็นแบบนี้จะมาตามจนเห็นไหมนะ

    มารอติดตามกันเยอะๆ เนาะ รับประกันความสนุก!


    *ฝากคอมเมนต์มารอกัน ให้กำลังใจไรต์หน่อยน้าาา

    คอมเมนต์ไม่มีไรต์ท้อมากเลยค่ะ สักเมนต์ก็ยังดีนะคะ TT*

    กด FAV ติดตามกันไว้นะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×