ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CHEAT ON ME หลอกรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : #เทียนเดียร์ :: INTRO [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 64




    INTRO

     

    ‘หลอก’ เป็นคำหนึ่งที่ใช้สำหรับทำลายทุกอย่างแม้แต่ความรู้สึก

    ‘รัก’ เป็นคำหนึ่งที่ใช้สำหรับมอบทุกอย่างให้แม้แต่หัวใจ

     

    ลี้เทียน”

    ผมหยุดชะงักเท้าตัวเองที่กำลังจะก้าวพ้นออกจากประตูบ้านบานใหญ่ที่ประดับด้วยลวดลายมังกรและรูปหงส์กางปีกสวยงาม ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายหันไปมองต้นเสียงที่เรียกชื่อผม ใบหน้าที่เหี่ยวย่นตามอายุ แต่งตัวภูมิฐานดีเดินมาหยุดตรงหน้าผมพลางมองต่ำไปยังมือซ้ายที่หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าราคาแพงอยู่ในมือ

    ลื้อจะไปไหน?”

    ผมบอกป๊าแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมจะไม่อยู่ที่บ้านหลังนี้แล้ว”

    แต่ลื้อควรฟัง ป๊าสั่งให้ลื้อดูแลกิจการร้านทอง ลื้อต้องทำ!” ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะกลอกตาไปมาอย่างหงุดหงิด นี่ถ้าไม่ติดว่าเสื้อผ้าที่คอนโดมันมีน้อยนิดเพราะว่าผมขนมาไม่หมดก็ไม่ต้องย่างกายเข้ามาเหยียบที่บ้านหลังนี้ให้ป๊าด่าแบบนี้หรอก

    “ฟังอะไร ไม่ฟังทั้งนั้นอะ”

    “ไอ้เทียน!

    ขึ้นเสียงจนผมเอานิ้วชี้อุดหูตัวเอง ไม่สนใจคำด่าทอจากปากของป๊าที่ยืนชี้นิ้วด่าผม “ลื้อมันทำไมผ่าเหล่าเผากอแบบนี้ ดูอาลี้เซียนพี่ชายลื้อเป็นตัวอย่างสิ ป๊าบอกให้อีเรียนบริหารอีก็เรียน ป๊าให้อีเป็นผู้บริหารร้านทองอีก็ทำ... แล้วทำไมลื้อถึงได้ดื้อด้านแบบนี้อาลี้เทียน”

    “พูดช้าๆ เดี๋ยวก็หายใจไม่ทันอะป๊า”

    “ลี้เทียน”

    “เลิกเอาผมไปเปรียบเทียบกับเฮียเซียนสักที เพราะผมไม่ได้อยากจะเรียนบริหาร ผมไม่อยากเป็นเจ้าของร้านทองที่ป๊ามอบหมายให้เฮียเซียน ผมชอบแข่งรถผมชอบเรียกนิเทศฯ ชัดเจนพอไหมป๊า?”

    “อะ ไอ้ลี้เทียน”

    “คุณคะ ใจเย็นๆ ค่ะค่อยๆ พูดกับลูกนะคะ” ม้าที่เพิ่งเดินลงมาจากบันไดบ้านก็มาหยุดข้างป๊าที่หอบหายใจหนักจากการด่าผมอย่างหนักหน่วง “ลี้เทียน ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นอยู่ที่บ้านหลังนี้”

    “ม้านี่ก็อีกคน เลิกยุ่งกับชีวิตผมสักที!” ไม่รู้หรอกว่าตัวเองเผลอตะคอกป๊าและม้าเสียงดังแค่ไหน แต่มันคงจะดังพอที่จะทำให้พวกท่านนิ่งเงียบไปทันที รู้... ว่าสิ่งที่ทำมันผิดแต่ถ้าป๊าและม้ายังบังคับผมให้เป็นเหมือนเฮียเซียน ผมขอไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า

    แต่ไหนแต่ไรทั้งป๊าและม้าก็เอาแต่ชื่นชมเฮียเซียนทั้งเรียนเก่ง ขยันและเชื่อฟังป๊าทุกอย่าง ราวกับขีดเส้นทางให้เฮียเซียนได้เป็นอย่างที่ตัวเองต้องการ พอมาเป็นผมที่ขัดแม่งทุกอย่างก็เอาแต่ด่า ด่าและก็ด่าทุกวันจนผมทนไม่ไหวถึงได้หนีออกจากบ้านหลังนี้

    บ้านที่ไม่เป็นบ้านให้ผมได้สบายใจ

    “แต่สิ่งที่ป๊าเลือกให้ลื้อ มันคือกิจการที่ป๊าสร้างมากับมือนะลี้เทียน”

    “ครับผมทราบ แต่ผมไม่ได้ต้องการไง”

    “ลี้เทียน!”

    “ผมแค่กลับมาเอาเสื้อผ้าและของใช้ ป๊าไม่ต้องห่วงนะ ผมจะไม่ใช้เงินที่บ้านสักบาท ป๊าสบายใจได้” ผมตอบแบบนั้นก่อนจะยักไหล่ไหวพร้อมกับป๊าที่ดูเหมือนจะโกรธเต็มที่แล้วถึงได้ชี้นิ้วออกไปทางประตูบ้าน

    “ได้ งั้นลื้อก็ไสหัวไป แล้วอย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก!

    “...”

    “ป๊าตายก็ไม่ต้องมางานศพ”

    “คุณคะ” พูดแค่นั้นก็เดินหนีไปยังห้องทำงานโดยที่สายตาของม้าและผมมองตามอย่างเจ็บนิดๆ ที่หัวใจยังไงบอกไม่ถูก ป๊าไล่ผมออกจากบ้านมันไม่ได้เท่าไหร่แต่คำสุดท้าย... ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องพูดก็ได้ปะวะ “ลี้เทียน”

    “ถ้าม้าจะบ่นผม หยุดแค่นั้น”

    “ทำไมไม่ฟังป๊าเขาบ้าง เอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ”

    ถอนหายใจก่อนจะมองแผ่นหลังบอบบางที่เดินตรงตามป๊าไป เอาจริงนะทั้งป๊าและม้าอยากให้ผมเป็นนั่นเป็นนี้โดยไม่สนใจความรู้สึกของผมสักนิด คิดว่าทำให้เฮียเซียนทำตามที่ตัวเองต้องการทุกอย่างก็ใช่ว่าผมจะต้องทำตาม

    สองเท้าของผมเดินออกจากประตูบ้านเดินไปยังรถปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า รุ่นพิเศษสีดำสนิท ผมเปิดประตูรถและโยนกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปปิดประตูเพื่อไปจากที่นี่แต่สายตากลับเห็นรถจากัวร์ F-Type Minorchange สีขาวขับมาจอดต่อท้าย ประตูด้านคนขับเปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่สูงกว่าผมนิดหน่อย ผมสูง 187 เขาก็สูง 188

    ใบหน้าหล่อมีสีหน้าเรียบนิ่ง ชุดสูทสีดำที่เหมาะกับเขาในฐานะผู้บริหารร้านทองวิวัฒน์ธนะกิจ เหมาะกับตำแหน่งนี้จริงๆ นั่นแหละอายุก็ห่างกว่าผมหลายปีเฮียเซียนก็อายุสามสิบแล้วซึ่งพูดง่ายๆ ผมเหมือนลูกหลงมาอะ

    สายคมตวัดมองผมด้วยสีหน้าตั้งคำถาม “มึงโผล่หัวมาได้แล้วเหรอ?”

    “โผล่มาเอาเสื้อผ้า”

    ร่างสูงที่แต่งตัวดีทั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เป็นที่จับตามองในฐานะนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงแต่ก็ไม่คิดจะควงผู้หญิงที่ไหนจริงจัง นิสัยของเขาและผมเหมือนกันตรงนี้ล่ะ วันไนท์ฯ ก็จบแยกย้ายแม้ว่าจะมีลูกสาวผู้ดีหลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นเมียเขาแต่เฮียเซียนก็ไม่ได้คิดจะจับใครทำเมียจริงจังเช่นเดียวกับผม

    พี่ชายของผมหล่อดูดี สุขุม ผู้ดีตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

    ส่วนผมหล่อ เลว แถมยังมีรอยสักที่ตัวโดยที่ป๊าไม่ชอบ แต่คนอย่างผมมีเหรอจะสนใจ... ไปสักเพิ่มมาเยอะกว่าเดิมซะอีก เห็นไหมล่ะ? ผมกับพี่ชายต่างกันลิบลับ

    “อย่างมึงจะมีปัญญาเหรอ?”

    “อะไร” เท้าเอวมองคนตัวสูงที่ยกยิ้มที่มุมปาก

    “ทำปากดีไม่เอาเงินจากป๊าใช้”

    “...”

    “ปัญญาหาเงินเอง คงไม่มี” สายตาของเฮียเซียนทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด

    “มีดิ ถ้าไม่มีจะออกจากบ้านทำไมอะ” เบ้ปากใส่เฮียเซียนที่มองผมอยู่อย่างไม่ชอบใจ ผมกับเขาเป็นพี่น้องกันที่... ไม่เหมือนพี่น้องไง “ผมอาจจะไม่ได้หาเงินเก่งแบบเฮีย ที่ต้องคอยทำตามใจป๊าจนหลงลืมความเป็นตัวเอง”

    “...”

    “แต่ผมก็ยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้” ตบมือไปที่หน้าขาตัวเองจนเฮียเซียนหัวเราะออกมาก่อนจะเดินมาหยุดข้างผม วางมือลงบนบ่าบีบอย่างแรงจนผมรู้สึกได้

    “กูจะคอยดู” รอยยิ้มของเขาทำให้ผมอารมณ์ขึ้นเหมือนกันนะ “อย่าคลานเป็นหมาเข้ามาขอเศษกระดูกที่บ้านก็แล้วกัน”

    “เฮียเซียน!

    “ตายอย่างหมาข้างถนนดีกว่า ถ้ากลับมามึงหมาเลยนะลี้เทียน”

    “...”

    “อย่าเก่งแต่ปากนะ เอาตัวให้รอดล่ะ”

    ตบบ่าผมแล้วก็เดินเข้าบ้านไปทิ้งผมไว้กับความรู้สึกคับแค้นใจอย่างมาก ผมเหมือนลูกที่ไม่ได้รับความรัก ป๊าและม้ารักเฮียเซียนมากกว่าผม พวกท่านเหมือนไม่เห็นหัวผมตั้งแต่เด็กจนโต ดีแต่บังคับให้ทำอย่างที่ตัวเองต้องการซึ่งเฮียเซียนไม่ต้องบังคับเขาก็ทำตามจนเป็นที่รัก

    ส่วนผมน่ะเหรอ... ก็แค่หมาหัวเน่าตัวหนึ่งที่ไม่ว่าจะนอนตายอย่างหมาข้างถนนป๊าม้าก็ไม่มีทางสนใจหรอก

    คอนโดหรูใจกลางเมืองคือที่ซุกหัวนอนของผมนับตั้งแต่เรียนมหาลัยจนถึงตอนนี้ คอนโดนี้ผมเช่าไว้ด้วยน้ำพักน้ำแรงที่มาจากการแข่งรถซึ่งคือสิ่งที่ผมชอบ แต่ป๊าไม่ชอบ

    เพราะด่าผมทุกครั้งที่ไปแข่งรถ โดยให้เหตุผลว่ากลัวผมจะตายก่อนวัยอันควร

    แต่ผมสนเหรอ? นี่คือสิ่งที่ผมรักและผมก็ชื่นชอบมันมากๆ ด้วยซ้ำไป

    สองเท้าก้าวเข้ามาในห้องที่ใหญ่กว้างและหรูหรา สะดวกสบายหากแต่ค่าเช่านั่นแพงหูฉีก แต่ถ้าได้รับความสบายแบบนี้ผมก็ยอมที่จะเสียเงินค่าเช่าทุกเดือนล่ะนะ โยนกระเป๋าเสื้อผ้าลงกับโซฟาและทิ้งตัวนั่งพลางหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบไล่ความคิดและเรื่องที่ป๊ากับเฮียเซียนด่าเมื่อกี้

    เมี๊ยว~”

    เสียงเรียกของสัตว์ชนิดหนึ่งที่ผมก็ชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจเหมือนกับการแข่งรถ คือ ‘แมว’ ใช่ แมวน้อยพันธุ์รัสเซียนบลูหรือแมวรัสเซียสีฟ้าเพศผู้ เดินมาคลอเคลียผมอย่างอ้อนๆ จนผมทิ้งบุหรี่ในมือและอุ้มมานอนซบบนตัก รอยยิ้มกระตุกยามมองสบตากับเจ้าตัวน้อย

    แปลกปะ... ผู้ชายอย่างผมกลายเป็นทาสแมวไปแล้ว

    ไงลี้จิง หิวหรือเปล่า?” ถึงจะตอบผมด้วยคำพูดไม่ได้ แต่ก็ขานรับด้วยน้ำเสียงน่ารัก น่ากอดจนผมก้มลงไปจูบศีรษะ ซึ่งลี้จิงเป็นชื่อที่ผมตั้งขึ้น เมื่อรับรู้จึงลุกขึ้นไปยังมุมส่วนตัวของลี้จิงและจัดการเทอาหารให้เจ้าตัวน้อยที่หิวจนไม่ได้สนใจผมเลย

    ออด~

    เสียงกริ่งหน้าห้องทำให้ผมผละสายตาจากลี้จิงไปมองหน้าประตูก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อมองพนักงานสาวสวยที่ตกใจ หน้าแดงก้มหน้าไม่ยอมสบตากับผม จำต้องก้มมองตัวเองก็พอจะรู้ว่าเป็นเหตุทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ เพราะดันถอดเสื้อโชว์ร่างกายแข็งแกร่งของตัวเองนี่

    มีอะไร?”

    คะ คือว่า... นี่ใบแจ้งหนี้ของคุณลี้เทียนค่ะ”

    ใบแจ้งหนี้?” ผมขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมยามรับเอกสารที่ขึ้นคำว่า ‘ชำระหนี้’ โอ้โห... คนอย่างลี้เทียนเนี่ยนะ จะมีหนี้มาตามยันห้อง แต่ใช่ไงมันคือเรื่องจริง ผมอ่านเอกสารในมือก็ทำได้เพียงถอนหายใจ

    เดี๋ยวฉันคุยกับผู้จัดการคอนโดเอง”

    ค่ะ” หล่อนยังคงไม่เงยหน้าสบตากับผม รอยยิ้มกระตุกขึ้นเมื่อเชยปลายคางเธอด้วยนิ้วชี้จนเธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

    มองหน้าฉัน ไม่ได้ให้มองอย่างอื่น”

    อะ เออ...”

    เดี๋ยวจะโดนไอ้ที่มองทิ่มเอา” เธอกระพริบตาถี่รัวถอยหลังหนีผมไปทันที แอบเห็นนะว่าหล่อนเดินเซเพราะคำพูดเลวๆ ของผม ประตูห้องถูกปิดลงอย่างดังจนลี้จิงตกใจวิ่งเข้าไปในโซนที่นอนของตัวเอง

    เหี้ย! นี่กูติดหนี้ค่าห้องเกือบสามเดือนเลยเหรอวะ”

    ผมยกมือเสยผมตัวเองขึ้นไปก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนั่งที่โซฟาตามเดิม เอาจริงผมเองก็เกรงใจเพื่อนอย่างไอ้รามแล้วก็ไอ้ไฟที่ให้ผมยืมเงินตลอด พวกมันเข้าใจดีว่าทำไมผมถึงต้องยืมเงินมันมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พวกมันเข้าใจดีที่ผมหนีออกจากบ้านเพราะว่าเหตุการณ์มากมายทำให้ผมต้องทำแบบนั้น ยืมพวกมันมาก็ไม่ได้คืนสักบาทเดียว

    ถึงจะเป็นเพื่อนกัน ถึงผมจะหน้าด้านยืมเงินพวกมันบ่อยครั้ง... แต่ผมก็หน้าด้านเป็นนะ

    อย่างที่เฮียเซียนบอก ต่อให้ผมตายผมก็จะไม่ยอมเป็นหมาคลานกลับบ้านแน่นอน

    มองเอกสารในมือ ผมไม่คิดเลยว่าตัวเองจะเป็นหนี้! ใช่ ผมเป็นหนี้เรียบร้อยแล้วไงหนี้ที่อ่านในเอกสารก็มีค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟฯ หยิบมือถือสุดหรูของตัวเองออกมากดเข้าแอพฯ ธนาคาร

    ยอดเงินคงเหลือ 10,390.59 บาท

    “เหลือแค่นี้เองเหรอวะ? มันจะไปพอส้นตีนอะไรเล่า” ค่าห้องเดือนละ 25,000 ไหนจะค่าอื่นๆ อีก ค้างมาสามเดือนก็เป็นเงิน 75,000 บาท ยังไม่รวมค่าอื่นๆ อีกนะ

    “แม่งเอ่ย!

    ลมหายใจของผมพ่นออกมาไม่หยุด ก่อนจะหยิบเสื้อเชิ้ตสีดำมาสวมแบบลวกๆ ติดกระดุมแค่ไม่กี่เม็ดก่อนจะออกจากห้องไปยังชั้นล่างที่เป็นห้องทำงานของผู้จัดการคอนโด ผมเปิดประตูเข้าไปก็เห็นร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงโซฟา พอเขาเห็นผมก็ยกยิ้มที่มุมปากวางเอกสารลงเมื่อผมทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามเขา

    “ผมไม่ได้จ่ายค่าคอนโดแล้วก็อื่นๆ สามเดือนเลยเหรอครับ?”

    “ใช่ครับ สามเดือนแล้วที่คุณลี้เทียนละเลยการจ่ายค่าห้อง ค่าน้ำและค่าไฟ” ขมวดคิ้วอย่างมึนงงทันที ผมยืมเงินไอ้รามกับไอ้ไฟมาผมก็เอามาให้นะหรือว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมเอาเงินตรงนั้นไปซื้อของให้ผู้หญิงที่นอนด้วย

    “ผมว่าผมจ่าย...”

    “ทางคอนโดให้เวลาคุณมาชำระ แต่คุณก็เฉยเมย ผมไม่ตัดน้ำตัดไฟคุณก็ดีเท่าไหร่แล้วครับ” รอยยิ้มที่เปรียบเสมือนอาบยาพิษถูกส่งมาให้ ผมก็ได้แต่นั่งยิ้มอยู่แบบนั้นไม่ได้คิดจะต่อปากต่อคำเลยสักนิดเพราะว่ากลัวเขาจะไล่ออกก็เล่นค้างชำระสามเดือนขนาดนี้ เป็นที่อื่นเขาไล่ผมออกแล้ว

    “ผมขอเวลาได้ไหมครับ ช่วงนี้ผมลำบากมากเลย สนามที่ไปแข่งรถก็ถูกพิษเศรษฐกิจเล่นงานไหนจะเปิดเทอมที่มหาลัยแล้วผมก็ต้องซื้อหนังสืออ่าน ใกล้เรียนจบแล้วด้วย” ตอแหลเข้าไว้ลี้เทียน!

    “นานแค่ไหนล่ะครับ?”

    “ไม่รู้สิครับ แต่ผมจะรีบหาเงินมาจ่ายสักครึ่งหนึ่งก่อน” ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปหยุดตรงหน้าผู้จัดการคอนโด โน้มตัวเท้ามือกับโซฟาที่เจ้าของคอนโดนั่งอยู่ เขามองสบตากับผมที่ทำหน้าเศร้าๆ

    “นะครับ”

    “อะ เออ... กะ ก็ได้ครับ ผมจะให้เวลาคุณก็ได้” ผู้จัดการคอนโดถึงกับไปไม่เป็น ผลักอกผมให้ออกห่างจนผมยิ้มหัวเราะในใจ ทำไมผมทำแบบนี้? ทุกคนคงสงสัย

    ไม่ต้องสงสัยนานเพราะเจ้าของคนโดน่ะเขาชอบผู้ชายไง แล้วเขาก็สนใจผมมาสักพักแล้ว

    ผมรู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไง

    “ขอบคุณนะครับ ผมจะรีบหาเงินมาจ่ายนะครับ”

    “แต่ถ้าคุณไม่มี... ผมมีขอเสนอนะ” สองเท้าหยุดอยู่ตรงประตูหน้าห้อง ร่างสูงที่เตี้ยกว่าผมนิดหน่อยก็เดินมาหยุดตรงหน้าพลางใช้นิ้วชี้กรีดมาตามรอยแยกของเสื้อผม “นอนกับผมหนึ่งคืน”

    !

    “หนี้คุณจะหมดในทันที” กลืนน้ำลายลงคอก่อนจะยกยิ้มมุมปากยันไหล่ทั้งสองข้างของผู้จัดการคอนโดไปติดกับแผ่นกระจกทึบอีกฝั่ง ใบหน้าของเราใกล้กันชนิดที่ว่าได้กลิ่นลมหายใจของเราสองคนผสานกันไปมา “รุนแรงจังครับ”

    “...”

    “ตอนนี้ก็ได้ ห้องผมเก็บเสียง”

    “ไม่เป็นไรครับ เก็บขอเสนอของคุณไว้ใช้กับเด็กคุณเถอะ อีกสองวันผมจะนำเงินมาจ่ายให้ครบสามเดือน โอเคนะครับ” ว่าเสร็จก็ทิ้งรอยยิ้มที่ใครต่อใครก็บอกว่ามันคือรอยยิ้มที่ฆ่าคนได้

    ใช่ผมรู้เลยว่ารอยยิ้มของผม มันฆ่าทุกคนได้จริงๆ เพราะตอนนี้เจ้าของคอนโดถึงกับเบือนหน้าหนีผมไปเลย

    และให้เดา... เขาคงช่วยตัวเองแน่ๆ หลังจากผมเดินออกจากห้องมา

     

    Rrr

    “ฮัลโหล”

    (“ไอ้เทียน มาที่สนามหรือเปล่า? กูรออยู่”)

    “ไอ้เคนเหรอ”

    (“กูเอง มึงนอนอยู่ใช่ไหมเนี่ย”)

    “อือ สิบนาทีกูถึง”

    ผมวางสายจากไอ้เคนเพื่อนที่เจอกันที่สนามแข่งรถ ผมก็ลุกขึ้นจากเตียงนอนตรงไปอาบน้ำหลังจากกลับจากห้องผู้จัดการคอนโดผมก็รู้สึกแย่มาก... ไม่มีเงินถึงขนาดที่เขายื่นข้อเสนอให้ผมไปมีอะไรกับเขา

    เฮ้อ ชีวิตของผมน่ะอนาถมากแค่ไหน ทุกคนคิดเอาเองก็แล้วกัน

    “ลี้จิง เดี๋ยวพ่อมานะลูก” ลูบศีรษะของลี้จิงก่อนจะเทอาหารให้ไว้สำหรับเวลาลี้จิงหิว ผมจะได้ไม่ต้องห่วงมากเวลากลับมาที่ห้องช้า

    รถของผมเข้ามาจอดที่ด้านในสนามเพราะต้องหาเงินไปใช้หนี้ ไม่อย่างนั้นผมอาจจะโดนไล่ออกหรือไม่ก็ต้องไปนอนให้ผู้จัดการเสพสุข

    “มึงเป็นไรวะ หน้าเครียดฉิบหาย” ผมหันไปมองไอ้เคนที่กำลังยืนรอแข่งรถอยู่ เนื่องจากในสนามตอนนี้มีรถกำลังแข่งอยู่

    “มีเรื่องนิดหน่อยว่ะ”

    “แข่งรถเดี๋ยวก็หาย วันนี้แข่งเดี่ยวนะ”

    “อือ”

    “เอาน่า แข่งเสร็จกูพาไปเลี้ยงเหล้า พาไปเจอสาวด้วยมึงจะได้ไม่เครียด” ไอ้เคนตบบ่าผมก่อนจะทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้นเมื่อถึงคิวของตัวเอง ผมก็เอนสะโพกกับกระโปรงรถของตัวเองก่อนจะไล่สายตามองเบอร์ของไอ้รามและไอ้ไฟสลับกันไปมา ลังเลที่จะโทรไปยืมเงินพวกมันแต่ผมก็เลือกที่จะเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงและหยิบบุหรี่จุดสูบอีกครั้งซึ่งเวลาเครียดผมสูบหมดซองแล้วก็จริงอย่างที่ว่า

    “ลี้เทียน คิวนายแล้ว” พี่กี้กวักมือเรียกผมขณะที่มองรถของไอ้เคนจอดลงซึ่งมันก็ได้ที่หนึ่งตามเคย

    “มึงโอเคปะวะ เลิกเครียดแล้วก็จดจ่ออยู่กับการแข่ง โอเค๊”

    “อือ”

    “รถคว่ำไม่เอานะ กูไม่อยากเห็นมึงตายเพราะแข่งรถ” ส่ายหน้าไปมาก่อนจะขึ้นรถไปประจำที่ที่ตอนนี้มีรถอยู่สามคัน ผมต้องชนะให้ได้เพราะถ้าได้ที่หนึ่งจะได้เงิน 20,000 บาท ที่สองได้ 10,000 และที่สามได้ 5,000

    ถ้าแข่งสองวันก็ยังไม่พอที่นัดกับผู้จัดการคอนโดเลย จะขอยืมไอ้เคนผมก็ไม่ได้สนิทถึงขนาดนั้นเพราะว่ามันเป็นเพื่อนที่สนามแข่งและไปกินเหล้า กินตับหญิงด้วยกันที่สนิทจริงๆ ก็คือไอ้รามกับไอ้ไฟที่เจอกันตั้งแต่มัธยมจนถึงตอนนี้

    ผมจดจ่อกับการแข่งขันที่ตอนนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว ผมเหยียบคันเร่งอย่างรวดเร็วจนออกตัวนำอีกสองคันที่เหลือทว่ารอบสุดท้ายกลับกลายเป็นรถสปอร์ตสีแดงขับนำผมและเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนผมก็เข้าตามมาติดๆ เสียงประกาศสิ้นสุดลงผมก็ลงจากรถก่อนจะมองรถคันหน้าที่ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินกับกางเกงขาเดฟสีดำ ผมสีดำขลับสีชมพูปนขาวราวกับทำไฮไลต์ พอมันหันมามองผมพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากราวกับต้องการเยาะเย้ยก็ทำให้อารมณ์ของผมขึ้นอีกครั้ง

    “มองกูแล้วยิ้ม มองหาพ่อมึงเหรอวะไอ้ไกด์!” เดินไปผลักไหล่มันจนเซไปนิดหน่อย ไอ้ไกด์คือคนที่มาแข่งที่สนามแต่เวลาผมได้เจอกับมันทีไรผมจะแพ้มันตลอดและมันก็ชอบกวนตีนผมเพราะว่าผม... โมโหได้ง่าย

    “แพ้แล้วพาลเหรอลี้เทียน?”

    “ไอ้สัด”

    “ไอ้เทียนใจเย็นดิมึง” เป็นไอ้เคนที่เดินมาคว้าตัวผมไว้ซะก่อนโดยมีสายตาของคนอื่นที่มองผมอย่างไม่ชอบใจ คงเป็นเพราะผมหาเรื่องไอ้ไกด์ที่เป็นขวัญใจของคนในสนาม ผมเดินมาพิงที่ขอบอัฒจันทร์พลางหยิบบุหรี่เหลืออยู่หนึ่งมวนออกมาจุดสูบมองไอ้เคนที่ทิ้งตัวลงนั่งตรงม้านั่งข้างกัน “ช่างแม่งมัน กูก็ไม่รู้ว่ามันจะแข่งเปลี่ยนรถไม่ซ้ำเลยไอ้ห่า”

    “อือ”

    “ตกลงที่มึงเครียดนี้เรื่องอะไรวะ? ปกติมึงแพ้ไอ้ไกด์มึงไม่เคยไปหาเรื่องมันนะ”

    “มันยิ้มให้กูแบบกวนตีนมาก”

    “เหตุผลมันน้อยไปปะ ปกติมันก็ยิ้มกวนตีนให้กูให้มึงตลอด” ไอ้เคนพ่นควันบุหรี่เหนือหัว ผมที่ได้ฟังคำถามจากมันก็ถอนหายใจออกมา

    “กูต้องการใช้เงินด่วน”

    “เดือดร้อนอะไรวะ?” สบตากับไอ้เคนที่ขมวดคิ้วอย่างมึนงง แต่พอนึกขึ้นได้ก็ทำหน้าเข้าใจ “ลืมไป มึงหนีออกจากบ้าน”

    “อือ กูค้างค่าคอนโดสามเดือนเจ็ดหมื่นไม่รวมค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าเหี้ยอะไรอีกนะ”

    “แข่งรถได้แค่สองหมื่น เขากำหนดวันให้มึงวันไหน?”

    “อีกสองวัน” พยักหน้าให้กับไอ้เคนที่ตาโตทันที

    “จะไปทันเหี้ยไรวะ”

    “...”

    “ยืมกูก่อนไหมล่ะ” แม้ว่าไอ้เคนจะยื่นข้อเสนอให้ มันเป็นลูกชายนักธุรกิจส่งออกอาหารทะเลมีเงินและรวยมาก แต่ผมกับมันเพิ่งรู้จักแค่ไม่กี่เดือนเองนะ เงินตั้งเยอะไม่กล้ายืมมันหรอก

    “กูยืมไอ้รามกับไอ้ไฟ มันยังไม่ได้คืนแล้วมึงคิดว่ามึงให้กูยืม มึงจะได้คืนไหม?” สาธยายยาวเหยียดไอ้เคนก็ทำหน้าหงุดหงิดทันทีเพราะมันคงอยากให้ผมยืมจริงๆ นั่นแหละ แต่ผมก็ไม่กล้าพอไง

    “งั้นกูมีข้อเสนอ”

    “เหี้ยไร ไม่ใช่ให้กูไปส่งยา ทำอะไรผิดกฎหมายนะ”

    “ฟังกูก่อนสิวะ! กูไม่ให้มึงไปทำเหี้ยไรแบบนั้นหรอก” ไอ้เคนลุกขึ้นยืนก่อนจะมองหน้าผมด้วยความขำขัน เพราะว่าไอ้รามกับไอ้ไฟเคยเตือนผมเรื่องอยู่กับไอ้เคน แม้ว่ามันจะไม่เคยให้ผมไปทำอะไรแบบนั้นแต่มาตอนนี้ผมเริ่มคิดแล้วนะ

    “แล้วข้อเสนอของมึงคืออะไร”

    “ไม่มีอะไรมาก ที่มหาลัยกูอะมีน้องปีหนึ่งอยู่คนหนึ่ง น้องคนนี้นะสวยน่ารักและดูเย็นชาไม่สุงสิงกับใคร”

    “ทำไม เกี่ยวอะไรกับกูอะ” บุหรี่ถูกสูบไปจนหมดผมก็ทิ้งลงพลางเอารองเท้าผ้าใบสีดำหุ้มข้อคู่โปรดขยี้จนแหลก ที่ไอ้เคนว่ามันกับผมไม่ได้เรียนที่มหาลัยเดียวกัน แต่รู้จักกันได้เพราะมาแข่งรถที่สนามเคยบอกไปแล้วไง

    “มึงฟังกูนะ” ไอ้เคนลุกขึ้นก่อนจะกอดคอผมพลางชี้นิ้วไปทางเข้าสนาม จึงได้เห็นมีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังยืนคุยกันอยู่และมีหนึ่งในนั้นที่กำลังร้องไห้อยู่ “ไอ้นุ มันเป็นรุ่นน้องที่มหาลัยกูมันก็มาแข่งรถที่นี่ด้วยแต่มึงคงไม่รู้จัก”

    “อือ บอกกูเผื่อ”

    “ไอ้เทียน มึงนี่นะ” ผมโดนไอ้เคนตบหัวหนึ่งทีก่อนจะมองไอ้คนที่ชื่อนุกำลังร้องไห้อยู่ “ไอ้นุมันโดนน้องเดียร์หักอก”

    “...” เดียร์เหรอ? ใครวะ

    “มันตามจีบน้องเดียร์ แต่น้องเดียร์ไม่เล่นด้วยแล้วก็ไล่มัน มันก็เลยเสียใจร้องไห้”

    “อ่า”

    “ข้อเสนอของกูคือ... มึงไปจีบน้องเดียร์”

    “ห๊ะ! กูเนี่ยนะ” ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองก่อนจะมองไอ้เคนที่ยกยิ้มมุมปากพลางยักคิ้วให้

    “ใช่ มึงเซียนเรื่องหญิงนี่”

    “ก็ใช่”

    “พนันกันว่ามึงจะจีบน้องเดียร์เป็นแฟนได้หรือเปล่า” กลืนน้ำลายลงคอเมื่อได้เห็นแววตาที่เจ้าเล่ห์ของไอ้เคน “เงินหนึ่งแสนจะโอนให้มึงทันทีที่มึงตกลง”

    “เหมือนมึงว่างมากนะ เอาเดียร์อะไรนั่นมาเดิมพันกับกู”

    “ก็ให้ยืมมึงไม่เอา ก็ตามนี้” มันก็ถูกของไอ้เคนนะที่ว่าให้ผมยืมฟรีๆ ผมก็ไม่เอาหรอก แต่พอมีข้อเสนอมาแบบนี้ก็ทำให้ผมลังเลเหลือเกิน “มึงคิดดูดีๆ นะไอ้เทียน เงินหนึ่งแสนมึงเอาไปจ่ายค่าคอนโดได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้เขาไล่ออก”

    หรือโดนผู้จัดการคอนโดเล่นงาน!

    “ตกลง”

    “...”

    “กูตกลงพนันกับมึง” ตกลงทันทีโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง รอยยิ้มของผมกับไอ้เคนก็ส่งให้กันมันก็พยักหน้ารับ

    “มึงจีบเดียร์ให้ติด กูให้เวลามึงสองเดือน ถ้าเดียร์ยังไม่คบกับมึง... มึงเอาเงินแสนมาคืนกู”

    “มึงนี่แม่ง... ร้ายฉิบหาย”

    แม้จะด่าไอ้เคนมันร้าย แต่เอาเข้าจริงผมก็ต้องการเงินมากกว่าอะไรทั้งหมด ส่วนจะจีบผู้หญิงที่ชื่อเดียร์ติดหรือเปล่า? มันก็อีกเรื่องนะ

    “มึงแน่ใจเหรอ ถ้ากูทำไม่สำเร็จกูไม่คืนเงินมึง”

    “กูก็ไปบ้านมึงไง” คำขู่ของไอ้เคนได้ผลสิ่งเดียวที่ผมไม่อยากให้พวกเขารู้ความเป็นไปของผม บอกแล้วไงว่าจะไม่ยื่นมือไปขอเงินป๊าฉะนั้นผมจะต้องพยายามทำให้ผู้หญิงที่ชื่อเดียร์คบกับผมให้ได้ภายในสองเดือน

    “กูตกลง”

    “...”

    “มึงโอนเงินมาเลย พรุ่งนี้กูเริ่มงาน” ไอ้เคนยกยิ้มมุมปากก่อนจะเปิดรูปผู้หญิงที่ชื่อเดียร์ให้ผมดู

    “คนนี้ เข้าถึงยากมาก”

    ผู้หญิงคนนี้มีใบหน้าหวานน่ารัก ผมสีดำยาว ดวงตากลมโต ริมฝีปากเล็กบาง ผิวขาว แถมยังตัวเล็ก... แต่ภายใต้ใบหน้าหวานๆ กลับไม่มีรอยยิ้มเลยสักนิดเดียว จนผมพอจะเข้าใจกับคำพูดก่อนหน้านี้ของไอ้เคนแล้วที่ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เข้าถึงยากมากและมันก็จริงเพียงแค่มองรูปก็รับรู้ได้ทันทีว่า ‘เล่นด้วยยากแน่ๆ ลี้เทียน’

    “ชื่อ ‘เดียร์’ อายุสิบเก้า ปีหนึ่งคณะอักษรฯ”

    “ห่างกับกูสี่ปีเลยเหรอ? แล้วไอ้นุก็จีบ”

    “อือ ผู้หญิงเข้าถึงยากแบบนี้เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้ชายหลายคน”

    “มึงด้วยปะ?”

    “กูไม่เกี่ยว กูมีแฟนแล้วปะวะ”

    “เออกูลืม” ไอ้เคนมีแฟนแล้วและแฟนของมันก็โคตรจะเซ็กซี่หุ่นอึ๋มมาก แบบว่า... ผมยังอยากจะฟัดเมียมันเลย

    “ที่กูทำแบบนี้เพราะเห็นแกมึงหรอกนะ”

    “จริงอะ”

    “เออ... เพื่อนกูก็เคยเข้าหาเดียร์แต่ก็นะ อกหักตามกันมา”

    เข้าถึงยากขนาดนั้นเลยเหรอวะ?!

    “เดี๋ยวเจอลี้เทียนก็รู้”

    สบตากับไอ้เคนที่ยกยิ้มมุมปากก่อนจะบอกว่าจะส่งรายละเอียดอื่นๆ มาให้ในไลน์เพราะต้องไปตามถามเพื่อนตัวเองก่อน ผมก็ยังคงสงสัยในสิ่งที่มันทำนะ จะว่าทำเพื่อผมก็ไม่ใช่ปะ? มันคงจะว่างมากจริงๆ นั่นแหละถึงได้เอาเดียร์มาพนันกับผมแบบนี้และผมก็ตอบตกลงไง

    เงินตั้งหนึ่งแสน ใครบ้างจะไม่อยากได้และยิ่งเป็นผมด้วยนะ ให้ทำอะไรก็มาเถอะ! ยกเว้นเรื่องผิดกฎหมายนะ


    INTRO แรกมาแล้วค่าาาา ไรต์ลงเต็มตอนเลยนะคะ 

    หลังจากลงต่อไปก็จะลงแบ่งครึ่งค่ะ

    มารอติดตากันเยอะๆ นะคะ กด FAV ติดตามไว้เนาะ

    ปล. ขอคอมเมนต์รอหน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×