ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เนตรสิเน่หา

    ลำดับตอนที่ #5 : พึงใจ

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 67


    รุ่งเช้าวันถัดมาบนเรือนออกญาแพทยาพงษาวิสุทธิ์ ยามเช้าหน้าหนาวเช่นนี้บรรยากาศบนเรือนยังคงสดชื่นแจ่มใส

    ขุนเทพโอสถตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ชายหนุ่มลงไปเรือนอาบน้ำเพื่อชำระร่างกายให้เรียบร้อย จากนั้นจึงมานั่งรับลมเงียบๆที่ชานเรือนก่อนไปทำงานที่กรมโรงพระโอสถตามปกติ แต่วันนี้เขาดูอารมณ์ดีว่าที่เคยนัก

    สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะดวงหน้างามของแม่หญิงที่ได้พบเมื่อคืนยังติดอยู่ในหัว...

    แม่หญิงมณีจันทร์... แม้จักชื่อมณีจันทร์แต่ความงามนั้นไกลกว่าจันทร์บนฟ้าไปมากโข หญิงสาวร่างบางกิริยาอ่อนช้อย ดวงหน้านวลผ่อง แววตาสดใส ไม่ว่าจักอากัปกิริยาใดก็งามน่ามองถูกใจเขาไปเสียทุกอย่าง

    เหตุใดหนอแม่หญิงผู้นี้จึงมีผลต่อหัวใจของเขานัก... หรือเพราะใกล้ถึงเวลาที่เขาจักต้องออกเรือนเสียแล้ว

    “พ่อโมกข์ มากินข้าวกินปลาเสียก่อนเถิด”

    คุณหญิงพลับพลึงเอ่ยเรียกลูกชายเมื่อนางบ่าวจัดสำรับเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มจึงกลับมานั่งลงชานเรือนพร้อมหน้า วันนี้มีแกงเหงาหงอดปลาเนื้ออ่อน ล่าเตียงสูตรชาววังของคุณหญิง น้ำพริกผักต้ม ส่วนของหวานล้างปากเป็นผลไม้สุกตามฤดูกาล

    ขุนเทพโอสถรับเอาถ้วยใส่น้ำชุบมือจากนางบ่าวและผ้าเช็ดมืออีกหนึ่ง ก่อนจะหันมองข้าวปลาอาหารตรงหน้า สีหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของขุนเทพโอสถนั้นดูแปลกไปจากทุกวันนัก คุณหญิงพลับพลึงและออกญาแพยาพงษาวิสุทธิ์เห็นลูกชายเป็นเช่นนั้นจึงหันมองหน้ากันด้วยความสงสัย “พ่อโมกข์... วันนี้เจ้าเป็นกระไรไป? ”

    “มิมีกระไรดอกขอรับ”

    “แล้วเหตุใดจึงนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่เช่นนี้เล่า” ออกญาแพทยาพงษวิสุทธิ์เอ่ยถามลูกชายตนด้วยความงุนงง “หรือธาตุในตัวลูกจักไม่สมดุลไปเสียแล้ว”

    “โธ่คุณพ่อขอรับ... ลูกมิได้ป่วยไข้อันใดดอก”

    “แล้วเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้เล่า”

    ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจักเอ่ยตอบบิดาด้วยคำใด นายเจิมผู้เป็นบ่าวชายคนสนิทก็เอ่ยตอบแทนเสียก่อน “ข้าเห็นท่านขุนเป็นเช่นนี้ตั้งแต่กลับจากเรือนเจ้ากรมท่าบูรพาแล้วขอรับ... หรือจักหลงเสน่ห์แม่หญิงเข้าเสียแล้ว”

    “ไอ้เจิม!” ชายหนุ่มหันไปเอ็ดบ่าวท่าทีไม่จริงจังนัก

    แต่เมื่อคุณหญิงและออกญาท่านได้ยินดังนั้นก็ตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น “จริงหรือไอ้เจิม! แล้วแม่หญิงผู้นั้นเป็นใคร งามมากหรือไม่”

    “งามขอรับ” นายเจิมตอบผู้เป็นนายพลางส่งยิ้มกว้าง “แต่แม่หญิงที่เห็นเมื่อคืนมีสองคนหนาขอรับ ข้าก็ไม่แน่ใจว่าท่านขุนพึงใจแม่หญิงใดกันแน่...”

    ขุนเทพโอสถได้ยินดังนั้นใบหน้าคมก็พลันแดงระเรื่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อเห็นบิดามารดานั่งจ้องหน้าคาดคั้นเอาคำตอบ ชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องก้มหน้าตอบโดยดี

    “แม่หญิงคนหนึ่งชื่อแม่ไข่มุก เป็นสาวจากเวียงเชียงผา ดูท่าแล้วจักมีลับลมคมในกับพ่อภาสอยู่ขอรับ... แต่แม่หญิงที่งามต้องใจลูกนั้นนางชื่อแม่มณีจันทร์... เป็นลูกพี่ลูกน้องของพ่อภาส บิดาของนางคือพระพิชัยชาญฤทธิ์ แม่มณีจันทร์นั้นเดิมทีถูกถวายตัวเป็นนางข้าหลวงในวัง อยู่ในตำหนักเสด็จพระองค์หญิงฯ แต่ช่วงเดือนนี้ได้รับอนุญาตให้กลับเรือนมาเยี่ยมญาติ เมื่อคืนลูกไปร่ำสุราชมจันทร์กับพ่อภาสแลพ่อเมือง จึงได้พบนางขอรับ...”

    “หลังจากได้พบนางแล้วก็กลับมายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทั้งคืนวันเช่นนี้น่ะรึ” คุณหญิงพลับพลึงอดหยอกล้อลูกชายตนเองมิได้ ก่อนจะหันไปกระซิบกับสามีเบาๆ “เร็วๆนี้บ้านเราคงได้แห่ขันหมากแล้วกระมังเจ้าคะ”

    “โธ่คุณแม่ขอรับ... ลูกเพิ่งได้พบนางครั้งเดียวเท่านั้น”

    “ครั้งเดียวแล้วอย่างไรเล่า แม่ไม่เคยเห็นเจ้าพึงใจแม่หญิงใดเช่นนี้เลยสักนิด แม่กับพ่ออยากอุ้มหลานเต็มทน ขอเพียงเจ้าบอกว่าอยากได้นางมาเป็นแม่เรือน แม่กับพ่อจักไปสู่ขอให้ประเดี๋ยวนี้เลย”

     

    -----------------

     

    คุณหญิงพลับพลึงไม่ว่าเปล่า เมื่อขุนเทพโอสถนั่งเรือออกไปคลังเก็บสมุนไพรดังเช่นทุกวันแล้ว คุณหญิงจึงให้นางบ่าวไปสืบเรื่องแม่หญิงมณีจันทร์มาให้รู้แจ้ง บ่ายนี้คุณหญิงจึงลงมานั่งรับลมที่สวนผลไม้หลังเรือนโดยมีนางบ่าวนั่งเล่าเรื่องราวอยู่ใกล้ๆ

    “บ่าวไปสืบมาแล้วเจ้าค่ะ แม่หญิงมณีจันทร์เป็นบุตรีพระพิชัยชาญฤทธิ์กับแม่หญิงแขไข แม่หญิงแขไขนั้นให้แม่มณีจันทร์ถวายตัวเป็นนางข้าหลวงรับใช้ที่ตำหนักแสด็จพระองค์หญิงวิมลตั้งแต่ยังเล็ก คนทั่วไปจึงไม่ค่อยได้พบหน้า... แต่ได้ข่าวว่าแม่หญิงมณีจันทร์นี้ทำเครื่องคาวหวานรสมือดีเสียจนหาใครเทียบมิได้เจ้าค่ะ”

    “แล้วนางงามมากจริงหรือไม่”

    “งามจริงเจ้าค่ะ!” นางบ่าวรีบตอบทันที เมื่อนึกเห็นหญิงสาวที่ตนไปแอบมองดูแววตาก็เป็นประกายขึ้นมา “มองไกลๆก็งามเจ้าค่ะ ยิ่งมองใกล้ๆก็ยิ่งงามนัก บ่าวไม่แปลกใจเลยหากท่านขุนจักหลงใหลเสียจนเก็บมาเฝ้าฝันหาเช่นนี้ได้”

    “น้อยๆหน่อยเถิดเอ็ง” คุณหญิงเอ่ยปรามเบาๆก่อนจะยกยิ้มมุมปากท่าทางพึงใจนัก

    “เมื่อครั้งยังเด็กข้าเคยพบปะแม่แขไขอยู่บ่อยครั้ง ไปวิ่งเล่นด้วยกันที่เรือนเจ้าจอมเพ็ญก่อนเกิดเรื่องก็บ่อย... วันนี้จึงอยากรื้อฟื้นความหลัง"

    เอ่ยเพียงเท่านั้นคุณหญิงก็ใช้พัดในมือสะกิดนางบ่าวอีกครั้ง "เอ็งไปเตรียมเรือเร็ว! ข้าจักไปเยี่ยมเรือนพระพิชัยชาญฤทธิ์”

    นางบ่าวได้ยินดังนั้นก็พลันยิ้มกว้างก่อนจะหัวเราะเสียงใส ดูท่าทางแล้วนายหญิงของเรือนจักรีบร้อนอยากพบหน้าว่าที่สะใภ้เสียแล้ว คุณหญิงเห็นสายตานางบ่าวก็พลันมองค้อนไปทีหนึ่ง

    “พวกเอ็งมิต้องมานึกขันข้าเลยหนา... อยู่ๆพ่อโมกข์ก็นึกอยากมีเมีย ข้าก็ต้องรีบไปดูตัวเสียก่อนว่านางงามพร้อมสมกับที่พ่อโมกข์หลงใหลหรือไม่ หากงามพร้อมทั้งกิริยาความสามารถและชาติตระกูลแล้ว ข้าจักได้รีบไปสู่ขอให้สิ้นเรื่อง พ่อโมกข์แก่จนสามสิบกว่าแล้ว ข้าอยากอุ้มหลาน... เอ็งเข้าใจข้าหรือไม่”

    “เข้าใจเจ้าค่ะ” นางบ่าวเอ่ยยิ้มๆ “ประเดี๋ยวบ่าวจักเตรียมเรือให้โดยเร็วเลยเจ้าค่ะ”

     

    ----------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×