ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ต่าง.....รัก

    ลำดับตอนที่ #10 : เรียกว่าอะไร

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 57


    ตอนที่ 10 เรียกว่าอะไร


     “สวัสดีครับแม่”

    “เป็นไงบ้างลูก เรื่องธุรกิจโรงพยาบาลที่ลูกสนใจ แม่เป็นห่วงเลยโทรมาหา”

    “ผมกำลังดูข้อมูลอยู่นะครับแม่ ก็น่าสนใจมากครับ ทางนู้นเค้าก็อยากให้เราไปร่วมลงทุนครับ”

    “เสียงลูกดูเหนื่อยๆมีอะไรหรือเปล่า”

    คุณศศิประภาถามบุตรชายคนเดียวด้วยความเป็นห่วง

    “ผมสบายดีครับแม่”

     

    รัชชานนท์คุยกับมารดาสักพักก็วางสายไป ชายหนุ่มปรึกษากับมารดาเรื่องการทำธุรกิจโรงพยาบาลซึ่งท่านได้ถามข้อมูลหลายอย่าง จากการคิดวิเคราะห์หลายด้านมารดาเค้าก็ได้ลงความเห็นว่าเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนเลยทีเดียว เนื่องจากว่าธุรกิจทางการแพทย์ในไทยกำลังเติบโต ประเทศเพื่อนบ้านก็นิยมมาใช้บริการเนื่องทางไทยมีการแพทย์ที่เจริญก้าวหน้า การให้บริการดี และอัตราค่าบริการไม่สูงเกินไป

    รัชชานนท์นึกถึงโรงพยาบาลที่กำลังจะเป็นหุ้นส่วนใหญ่ แล้วเธอหละเค้าจะได้พอเธอบ่อยขึ้นหรือไม่ รัชชานนท์ไม่ได้พบหน้าหรือติดต่อชนิตาเลยตั้งแต่หญิงสาวไปทานข้าวที่บ้านเค้า นี่ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว ปกติหญิงสาวต้องโทรหาเค้ามาบ้างแต่นี่ไม่มีเลย มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ รัชชานนท์เองไม่สามารถปฏิเสธได้เลยที่ตัวเองตัดสินใจเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลแห่งนั้นนอกจากเห็นโอกาสทางธุรกิจแล้วเหตุผลอีกอย่างคือ การได้พบคนหน้าหวานที่หัวใจเรียกร้องได้บ่อยขึ้นโดยไม่ต้องหาสารพัดเหตุผลมาอ้างอย่างที่เคยทำ นี่เราต้องทำขนาดนี้เลยหรือนี่ รัชชานนท์ได้แต่ถามตัวเองในใจ

                   

    “ตาอยากทานอะไรสั่งได้เลยนะ”

    “งั้นตาไม่เกรงใจพี่แซมนะคะ”

    ชนิตานั่งอยู่ในร้านอาหารใกล้โรงพยาบาล ช่วงเวลาพักเที่ยงของเธอได้นัดพบกับพี่รหัสที่เป็นผู้แทนยา

    “พี่แซมสั่งอะไรบ้างซิค่ะ”

    ชนิตาเอื้อนเอ่ยเนื่องจากเธอสั่งอาหารไปหลายเมนู แต่คนตรงหน้ายังไม่สั่งอะไรเลย

    “เราสั่งเลยพี่กินได้หมดแหละ สั่งมาเถอะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”

    “มันแน่อยู่แล้ว ก็พี่แซมเงินเดือนเยอะกว่าตาตั้งเยอะ”

    “พี่ชวนมาทำด้วยกันก็ไม่ยอม”

    “ก็ตาไม่ชอบนี่คะ ทำงานโรงพยาบาลแบบนี้แหละ เหมาะกับตาแล้ว”

    ชนิตาใช้เวลาในร้านอาหารกับพี่รหัสอย่างมีความสุข อย่างน้อยการได้เจอคนสนิทที่ไม่ได้เจอมานานก็ทำให้หัวใจที่แห้งแล้งของเธอสดชื่นขึ้นมาบ้าง ใบหน้าหวานจึงปรากฏรอยยิ้มสดใสอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวได้บ้างหลังจากหายไปร่วมเดือน

    ชนิตาไม่อาจรู้ได้เลยว่าภาพความสนิทสนมระหว่างเธอกับพี่รหัสอยู่ในสายตาของใครคนหนึ่งตลอดเวลา จวบจนใกล้หมดเวลาพักของเธอ พี่แซมจึงได้ขับรถมาส่งที่โรงพยาบาล

    “พี่แซมขับขึ้นที่ลานจอดรถชั้นสองเลยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวตาลงแล้วพี่แซมก็ขับวนลงได้เลยค่ะ”

    ชนิตาอธิบายการเดินทางให้พี่รหัสฟังเพื่อให้เกิดความสะดวกมากที่สุด

    “ขอบคุณนะคะพี่แซม แล้วพาตาไปเลี้ยงข้าวอีกนะคะ”

    ชนิตากล่าวลาพี่รหัสแล้วก็รีบเดินผ่านลานจอดรถเพื่อจะได้รีบกลับเข้าไปทำงานซึ่งเกือบจะหมดเวลาพักแล้ว

    “อุ้ย!

    ชนิตาอุทานตกใจเมื่อมีมือมากระชากตัวเธอให้เข้าไปในมุมตึกซึ่งเป็นที่ลับตาคน ซ้ำยังใช้ลำแขนแกร่งกอดรอบเอวกิ่วเธอไว้

    “คุณนนท์ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”

    ชนิตายังคงมีน้ำเสียงตกใจ แม้รู้แล้วว่าคนที่กระชากเธอมาเป็นคนที่รู้จักดี

    “ผมก็ขับรถมา”

    “ตาหมายถึงคุณนนท์มาที่นี่ทำไมคะ”

    ชนิตาไม่พูดเปล่า ร่างบางพยายามแกะมือหนาของคนตัวโตออกจากเอวเธอ ซึ่งดูเหมือนว่ายิ่งแกะมันจะยิ่งเหนียวขึ้น

    “ทำไม ผมกอดคุณแค่นี้ไม่ได้เหรอ กลัวให้หมอนั่นมาเห็นหรือไง”

    “คุณนนท์พูดถึงใครนะคะ”

         ชนิตาเริ่มใช้น้ำเสียงไม่พอใจบ้าง ก็เธออยู่ของเธอดีๆ เค้ามาจากไหนก็ไม่รู้อยู่ๆก็ดึงเธอมากอดตามซอกตึก ทำหน้าดุดัน น้ำเสียงเย็นชาและยังจะสัมผัสรุนแรงนี่อีก

    “ก็คนที่คุณไปกินข้าวกับมันไง คุณอย่าคิดนะว่าผมไม่เห็น ดีที่ผมมาประชุมขับรถผ่านร้านอาหารที่คุณนั่งอยู่ ก็เลยเห็นทุกอย่าง”

    “เห็นแล้วจะทำไมคะ”

    ชนิตาเชิดหน้าถามชายหนุ่มอย่างท้าทาย ก็เค้าไม่ได้รัก ไม่ได้ห่วงอะไรเธอเลย เธอร้องไห้ออกจากบ้านเค้ามาเป็นเดือนเค้าก็ไม่เคยโทรมาถามไถ่ แล้วจะมาโกรธมาโมโหอะไรกับการที่เธอไปกินข้าวกับผู้ชายคนอื่น

    “นี่คุณอย่าท้าผมนะ”

    ไม่ใช่แค่น้ำเสียงดุดันที่เค้าใช้กับชนิตาเท่านั้น ลำแขนแข็งแรงก็กอดรัดเธอจนอกอวบหยุ่นชิดอกแกร่ง

    “คุณนนท์ปล่อยตานะคะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น”

    ชนิตาใช้น้ำเสียงอ่อนลง เมื่อเห็นรัชชานนท์มีอารมณ์โกรธในระดับที่รุนแรงมาก เธอไม่เคยเห็นเค้าเป็นแบบนี้มาก่อนเลย

    “มีคนมาเห็นแล้วจะทำไม”

    คำพูดรวนๆยังออกมาจากคนที่มีโทสะ

    “มันไม่เหมาะสม คุณนนท์อยู่ในระดับผู้บริหารของที่นี่นะคะ ส่วนตาเป็นเพียงพนักงานธรรมดาแล้วถ้ามีคนมาเห็น คุณนนท์นั่นแหละที่จะลำบาก”

    ชนิตาพยายามหาเหตุผลที่จะทำให้ชายหนุ่มเย็นลงได้บ้าง

    “ผมไม่กลัวหรอก”

    ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าเค้ายังพิสูจน์ให้เธอเห็นด้วยว่าเค้าสนใจใครทั้งนั้น ลำแขนแกร่งกอดรัดให้ร่างบางมาแนบชิดใบหน้าคมก้มลงมาลิ้มรสความหวานจะริมฝีปากอิ่มที่บังอาจมาต่อปากต่อคำกับเค้า สัมผัสของชายหนุ่มช่างรุนแรงไม่ได้ทะนุถนอมหญิงสาวอย่างที่เคยทำเลย ซ้ำยังจูบเอาจูบเอาไม่ให้เธอได้หายใจเลย เมื่อรัชชานนท์ลงโทษคนร่างบางตรงหน้าจนพอใจจึงปล่อยเธอให้เป็นอิสระ

    ชนิตายังคงยืนนิ่ง หญิงสาวสับสนเหลือเกินว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต เธอปล่อยให้เค้าจูบได้อย่างไรนี่มันลานจอดรถของโรงพยาบาล แล้วถ้ามีคนมาเห็นจะเป็นอย่างไร รัชชานนท์เองก็น่าจะคิดบ้าง ทำไมทำอะไรที่ไม่ให้เกียรติเธอเลย หรือเธอไม่มีค่าอะไรในสายตาเค้าเลยสักนิด คิดมาถึงตรงนี้แล้วน้ำตาเป็นสายไหลก็ออกมาจากดวงตาคู่สวยหลังจากที่มันพึ่งหมดไปได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น

    “ผม....”

    คนที่ลงมือทำโทษอย่างไร้สติเริ่มรู้สึกตัวว่าเค้าทำเกินไป อยากจะอธิบายถึงสาเหตุที่ทำลงไปว่าเพราะอะไรแต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ ชายหนุ่มรู้เพียงแต่ว่าเค้าโกรธ โกรธมากที่เห็นเธอไปกับผู้ชายคนอื่น โกรธมากที่เห็นเธอยิ้ม หัวเราะ ให้คนอื่น แล้วยิ่งที่เธอไม่โทรหาเค้าเลยเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นใช่หรือไม่

    “ตาต้องไปทำงานแล้วค่ะ”

    ชนิตาพูดด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น

    “คุณนนท์ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ตารู้แล้วว่าคุณนนท์ไม่ได้รู้สึกอะไรกับตา แต่ตาขอร้องได้มั้ยคุณนนท์อย่าทำแบบนี้อีก ถึงตาจะไม่มีค่าสำหรับคุณ แต่ตาก็ขอให้ตามีค่าสำหรับตัวเองบ้าง”

                    “ผมไม่เคยคิดว่าคุณไม่มีค่าเลยนะ”

                    รัชชานนท์พยายามอธิบายให้หญิงสาวตรงหน้าเข้าใจ เธอไม่เคยไม่มีค่าสำหรับเค้ามันตรงข้ามกันด้วยซ้ำ เธอมีค่ามากจนทำให้เค้าขาดสติ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ทำให้เค้ามีอารมณ์ได้หลากหลายอย่างนี้

                    “เราอย่าเจอกันอีกเลยนะคะ ตาขอร้อง”

                    ไม่เพียงคำพูดเธอเท่านั้นที่ขอร้อง ดวงตาโตที่เงยหน้าสบตาเค้า แม้จะมีน้ำตาไหลออกมาไม่ขายสาย แต่มันก็บอกได้ว่าเค้าทำให้เธอเจ็บปวดเพียงใด

                    “ผมขอโทษ”

                    เสียงเบาหวิวแทบเป็นเสียงกระซิบที่ผ่านออกมาจากริมฝีปากชายหนุ่ม เค้าไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าชนิตาจะได้ยินหรือเปล่า ร่างบางได้เดินจากเค้าไปแล้ว

                   

     

                    “เราอย่าเจอกันอีกเลยนะคะ ตาขอร้อง” คำพูดของชนิตายังคงวนเวียนในสมองของรัชชานนท์จนเค้าไม่มีสมาธิในการประชุมเอาเสียเลย กว่าจะทนให้การประชุมในโรงพยาบาลผ่านไปได้ชายหนุ่มแทบบ้า

                    คุณทำให้ผมเป็นได้ขนาดนี้เลยเหรอชนิตา รัชชานนท์ถามตัวเองอยู่คนเดียวเมื่อกลับมาถึงบ้าน  คนที่เคยมั่นใจในตัวเองมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต พึ่งมีความไม่แน่ใจในตัวเองก็วันนี้ นี่เค้าถูกผู้หญิงบอกเลิกหรือนี่ แล้วเธอจะบอกเลิกเค้าได้อย่างไรในเมื่อเธอกับเค้าไม่ได้คบหากันเลย แล้วไอ้ความรู้สึกไม่มีสมาธิ ไม่มีจิตใจที่จะทำงาน ความรู้สึกน้อยใจในตัวชนิตาที่ไม่สนใจเค้า ความรู้สึกโหวงเหวงในหัวใจ ภาพความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเค้าที่ผุดขึ้นเป็นฉากๆ มันคืออะไร นี่เค้าอกหักหรือนี่ ผู้ชายอย่างรัชชานนท์อกหักหรือนี่

     

     ////////////@@@@@@@@@////////////


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×