ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Inazuma eleven {Goenji Shuya X Endou Mamoru} YAOI

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 : บุก 100%

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 57


     

    ฟุตบอลนะสนุกใช่ไหมโกเอนจิ

     

    นายเองก็รักฟุตบอลมากใช่ไหม

     

    เพราะต่อให้นายพยายามจะทิ้งมันไป

     

    ทว่าสุดท้าย...

     

    ก็ต้องกลับมาเล่นมันอยู่ดี

     

    นายมักจะบอกกับฉัน...

     

    ว่าที่นายยังเล่นฟุตบอลอยู่ได้ทุกวันนี้

     

    เป็นเพราะคำพูดและการกระทำของฉันในวันวาน

     

    แต่ฉันอยากจะบอกนาย

     

    ว่าที่นายยังเล่นฟุตบอลอยู่จนถึงวันนี้

     

    เป็นเพราะนายรักฟุตบอลมากต่างหาก

     

    และฉันดีใจนะ

     

    ที่วันนี้ได้เล่นฟุตบอลกับนาย

     

    เอนโดขอที่อยู่ของโค้ชอีกฝ่ายและไม่รีรอที่จะตรงไปหาทันที คิโด โทระมารุและฮิโรโตะที่ได้รับเลือกจากเพื่อนๆให้ตามมาสืบข่าวของกัปตันก็ตามเอนโดมาติดๆ พวกเขาไม่รู้ว่ากัปตันทีมมีความคิดอะไรอยู่ในหัวกันแน่ถึงได้ตรงไปที่บ้านของโค้ชอีกฝ่ายโดยไม่มีการเตรียมการล่วงหน้าแบบนี้ แถมยังคิดจะบุกเดี่ยวไปยังถิ่นอีกฝ่ายคนเดียวอีกต่างหาก ช่างเป็นกัปตันทีมที่หาเรื่องโดยแท้

     

    แต่เมื่อมาถึงที่หมายแล้วเอนโดก็ต้องเบิกตากว้างเพราะสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ตรงหน้ามันไม่ได้มีความใกล้เคียงกับคำว่าบ้านเลยสักนิด สิ่งปลูกสร้างตรงหน้ามันคฤหาสน์ชัดๆแถมยังหลังใหญ่และใช้พื้นที่กว้างกว่าบ้านหลังอื่นหลายเท่า ดูท่าเจ้าของบ้านจะรวยไม่ใช่เล่นๆเลย

     

    แต่สิ่งที่ทำให้เอนโดนึกหนักใจไม่ใช่ตัวบ้านที่กว้างใหญ่แต่เป็นผู้รักษาความปลอดภัยซึ่งยืนเฝ้าหน้าประตูใหญ่ถึงสองคนต่างหาก ท่าทางจะผ่านเข้าไปไม่ได้ง่ายๆ เอนโดบอกตัวเองแต่ก็เลือกที่จะเดินตรงเข้าไปอย่างไม่ลังเล สิ่งที่เขาตัดสินใจแล้วก็จะทำ

     

    เมื่อเห็นคนเป็นกัปตันทีมเดินตรงไปยังประตูใหญ่อย่างไม่เกรงกลัวโทระมารุก็ขยับตัวหวังจะออกไปห้าม ขืนเดินดุ่มๆเข้าไปแบบนั้นเกิดเรื่องแน่ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ออกไปห้ามกัปตันทีมทั้งรุ่นพี่คิโดและรุ่นพี่ฮิโรโตะที่อยู่ข้างๆกลับขวางเขาเอาไว้เสียก่อน

     

    “ดูต่อไปก่อนโทระมารุ ออกไปห้ามตอนนี้เอนโดก็ไม่ฟังหรอก” คิโดบอกแต่สายตายังไม่ละจากเพื่อนสนิทที่เดินเข้าไปคุยกับผู้รักษาความปลอดภัย

     

    “แต่...” โทระมารุทำท่าจะคัดค้าน กัปตันทำแบบนั้นเท่ากับหาเรื่องชัดๆ ทำไมจะต้องไปสนใจปัญหาของทีมอื่นด้วยละ ทำไมถึงต้องไปช่วยทั้งที่อีกฝ่ายกำลังจะมาแข่งกับเราในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทำไมถึงจะต้องไปวิ่งแก้ปัญหาให้กับคนที่เพิ่งรู้จักกัน ทำไม... โทระมารุไม่เข้าใจความคิดของคนเป็นกัปตันของอิสึนามะเจแปนเลยแม้แต่น้อย ไม่เข้าใจนิสัยของกัปตันในทีมพวกเขา

     

    “เอนโดคุงท่าทางมุ่งมั่นแบบนั้น คงหยุดเจ้าตัวไม่ได้หรอกโทระมารุคุง” ฮิโรโตะเองก็เลือกจะยืนดูอยู่ตรงนี้ไปอีกสักพักเช่นเดียวกัน เผื่อมีเรื่องอะไรจะได้พุ่งเข้าไปช่วยทัน

     

    “ผมละไม่เข้าใจความคิดของกัปตันเขาเลย ทำไมถึงชอบเอาตัวเองเข้าไปช่วยคนนู้นคนนี้อยู่เรื่อย” โทระมารุพูดออกมาเพราะเขาจำได้ว่ากัปตันเองก็เคยไปช่วยงานที่บ้านเขาเหมือนกัน

     

    “เรียกว่าความคิดไม่ได้หรอก ต้องเรียกว่านิสัยของเอนโดต่างหาก” คิโดพูดแก้ นิสัยแบบนั้นของเอนโดมันฝังรากลึกจนแก้ไม่หายแล้ว

     

    “แต่นั่นแหละถึงจะเป็นเอนโดคุง” ฮิโรโตะพูดออกมาง่ายๆ ก็เพราะมีนิสัยและความคิดแบบนั้นไม่ใช่หรือทุกคนถึงได้ชอบเอนโดคุงนัก

     

    “มันก็จริงอยู่หรอกนะ แบบนั้นถึงจะสมกับเป็นเอนโด” คิโดเห็นด้วยกับคำพูดนั้น เขายังจำได้ดีตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เด็กหนุ่มที่ชื่อเอนโด มาโมรุคนนั้นทำอะไรมากมายเอาไว้ให้พวกเขาเยอะเหลือเกิน เพื่อนสนิทคนนั้นไม่เคยเปลี่ยนไปตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอ


     

    “ทำไมละ..ทำไมถึงไม่ยอมให้เข้าพบ” เสียงโวยวายของคนเป็นกัปตันทีมดึงความสนใจของคนที่แอบตามมาไปอีกครั้งหนึ่งและพวกเขาก็ได้เห็นเด็กหนุ่มกำลังเถียงกับยามรักษาความปลอดภัยอย่างโมโหสุดๆ ท่าทางแบบนี้คงโดนห้ามไม่ให้เข้าไปแน่ๆ

     

    “ผมก็แค่อยากจะพบเขาเท่านั้นเอง พวกคุณได้บอกเขาหรือเปล่าว่าผมคือเอนโด มาโมรุจากทีมอิสึนามะเจแปน” เอนโดกำลังเถียงกับยามรักษาความปลอดภัยที่ยืนขวางทางกั้นไม่ให้เขาเข้าไปข้างใน

     

    “นายบอกว่าไม่ต้องการจะพบใครทั้งนั้นในตอนนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม แม้แต่ลูกทีมตัวเองก็ไม่ให้พบ” ยามรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งกล่าวขณะที่อีกคนแทบจะไม่สนใจเอนโดเลยสักนิด

     

    “แต่ผมต้องการพบเขาวันนี้ ผมต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง” เด็กหนุ่มยังคงดึงดันเพราะเขาจำได้ดีว่ากัปตันทีมอีกฝ่ายทำหน้าเจ็บปวดและละอายใจแค่ไหนตอนที่ได้ยินคำว่าแข่งขันกันอย่างยุติธรรม ใช่...สีหน้านั้นมันทั้งกังวล เจ็บปวดและละอายที่ต้องบากหน้ามาขอร้องทีมคู่แข่งทั้งที่รู้คำตอบดี

     

    เอนโดเข้าใจความรู้สึกนั้น เขาไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกเจ็บปวดของอีกฝ่ายจะเหมือนเขาหรือไม่ เจ็บปวด...เพราะอยากจะสู้อย่างยุติธรรมและไร้ความกังวลใด ทุ่มสุดตัวโดยไม่ต้องแบกรับความหนักอึ้ง แต่ก็เพราะทำไม่ได้มันถึงได้เจ็บปวดยังไงละ

     

    “ก็บอกว่านายไม่พบใครทั้งนั้น” ยามรักษาความปลอดภัยก็ไม่ยอมให้เอนโดเข้าไปง่ายๆเหมือนกัน พวกเขามีหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์เพราะฉะนั้นจะปล่อยให้คนนอกเข้าไปง่ายๆโดยที่เจ้าของบ้านก็ไม่ได้ต้อนรับได้อย่างไร

     

    “แต่ผมต้องเข้าไป...ต้องเข้าไปพูดกันให้รู้เรื่อง” เอนโดยังคงยืนเถียงอยู่แบบนั้นและเมื่ออีกฝ่ายทนไม่ไหวก็เลยจับเด็กหนุ่มโยนออกไปไกลๆจากที่พวกเขาประจำการกันอยู่ เล่นเอากัปตันทีมอินาสึมะเจแปนไถลตัวไปกับพื้นทีเดียว

     

    “เด็กบ้า ก็บอกว่าเข้าไม่ได้ยังไงละ” ยามรักษาความปลอดภัยพูดอย่างหัวเสียก่อนจะเดินกลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ

     

    “ยังไงก็ต้องเข้าไปให้ได้” เอนโดสวนคำพูดกลับไปแทบจะในทันทีแม้ว่าจะเจ็บไปทั้งตัวในเมื่ออีกฝ่ายโยนเขาออกมาอย่างไม่ปรานีเลยนี่แต่มันเป็นคำพูดที่ถึงกับทำให้เหล่าคนที่ได้ยินแทบกุมขมับเลยทีเดียว ทำงานมาตั้งนานก็เพิ่งจะเคยเจอนี่แหละคนที่ดื้อดึงแบบนี้

     

    “ถ้าไม่กลับไปจะมาหาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นะไอ้หนู” ไม่ใช่แค่คำขู่แล้วเพราะยามรักษาความปลอดภัยย่างเท้าเข้าหาเด็กหนุ่มด้วยท่าทางเอาจริงแต่เอนโดก็ไม่เกรงกลัวเลยสักนิดเพราะเจ้าตัวมีแต่ความมุ่งมั่นที่จะเข้าไปพบโค้ชของอีกฝ่ายให้ได้

     

    ทว่าก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปมากกว่านี้เหล่าผู้ที่แอบดูมาตั้งแต่ต้นก็รีบวิ่งออกมาช่วยแก้สถานการณ์โดยทันที ถ้าขืนยังปล่อยให้กัปตันทีมดึงดันต่อไปได้เกิดเรื่องขึ้นจริงๆแน่

     

    “ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับ” คิโดออกมายืนขวางหน้าระหว่างกัปตันทีมและยามของคฤหาสน์ทำเอาเอนโดงุนงงไปเหมือนกันว่าเพื่อนพวกนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่แต่เหล่าผู้เข้ามาใหม่ไม่สนใจท่าทางงุนงงของกัปตันเพราะพวกเขาเริ่มเปิดบทเจรจาอย่างรวดเร็ว

     

    “ผมขอโทษแทนกัปตันด้วยครับ” โทระมารุเองก็รีบเอ่ยขอโทษอีกฝ่ายเป็นการช่วยรุ่นพี่ ยังไงก็ปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นตอนนี้และที่นี่ไม่ได้หรอก เอนโดทำท่าจะคัดค้านแต่ก็ต้องนิ่งไปเมื่อได้ฟังคำพูดของเพื่อนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง

     

    “เอนโดคุงใจเย็นๆก่อนนะ เราไม่ควรจะมามีเรื่องกันที่นี่” ฮิโรโตะพูดเตือนสติพลางเอามือจับไหล่ของเอนโดเอาไว้ด้วยราวกับจะปรามไปในตัว เอนโดถอนหายใจออกมา ตอนนี้เขาอาจเลิกราแต่ใช่ว่าจะล้มเลิกไปง่ายๆหรอก

     

    “เหอะ...รีบๆพาเพื่อนหัวดื้อของพวกเธอกลับไปได้แล้ว” ชายตรงหน้ารีบไล่เด็กหนุ่มทั้งสี่คนให้กลับไป เขาเบื่อเด็กที่ชื่อเอนโด มาโมรุนั่นเต็มทีแล้ว เด็กอะไรดื้อด้านเหลือทน

     

    “ขอบคุณครับ” โทระมารุขอบคุณอีกฝ่ายขณะที่คิโดและฮายาโตะช่วยกับพยุงหัวหน้าทีมให้ลุกขึ้นจากพื้นแล้วพาเดินออกมาจากตรงนั้น

     

    “นายคิดจะทำอะไรกันแน่” หลังจากี่ห่างออกมาจากคฤหาสน์พอสมควรคิโดก็รีบซักฟอกเพื่อนสนิททันที ต่อให้ได้ยินบทสนทนาของเอนโดกับกัปตันของอีกทีมแต่เขาก็ไม่เก่งถึงขนาดจะปะติดปะต่อและเชื่อมโยงเรื่องราวได้ทั้งหมดหรอกนะ ต่อให้เป็นโกเอนจิที่มักจะเดาการกระทำของคนๆนี้ออกคิโดก็กล้ายืนยันว่าหมอนั่นก็เดาเรื่องราวและความเป็นมาทั้งหมดไม่ออกเหมือนกัน

     

    “ฉันก็แค่อยากจะพบโค้ชของอีกทีมให้ได้เท่านั้นเอง” ดูท่าเอนโดจะไม่ละความพยายามไปง่ายๆจริงๆนั้นแหละ แต่เพราะสิ่งใดถึงทำให้กัปตันคนนี้ดึงดันถึงขนาดนั้น คิโดไม่เชื่อหรอกว่าเอนโดจะทำแบบนี้โดยไม่มีเหตุผลและถ้าให้เขาคาดเดา การทำแบบนี้ทั้งหมดคงเป็นการช่วยอีกทีมสินะ

     

    “ช่วยเล่าให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหม ว่าทำไมเอนโดคุงถึงอยากเข้าไปพบโค้ชของอีกฝายขนาดนั้น” ฮิโรโตะถามออกมา เขาไม่เสียเวลาไปนั่งคาดเดาหรอก ถ้าอยากรู้ถามออกไปตรงๆก็สิ้นเรื่อง ไหนๆเรื่องทุกอย่างมันก็เลยมาถึงขนาดนี้แล้ว

     

    เอนโดมองหน้าลูกทีมของเขาแต่ละคนสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเล่าทุกอย่างออกมา ทั้งเรื่องตั้งแต่ที่กัปตันของอีกฝ่ายมาคุยกับเขา เรื่องความกังวลของเขา เรื่องคำตอบที่เขาให้อีกฝ่ายไป เรื่องที่เขาตัดสินใจมาที่นี่และเรื่องที่เขาจะทำต่อไป

     

    “เพราะฉะนั้นไม่ว่ายังไงฉันก้จะเข้าไปพบอีกฝ่ายให้ได้!!

     

    นายที่ยืนอยู่ในศูนย์กลางของวงกลม

     

    นายที่ยืนอยู่ด้านหลังของพวกเรา

     

    นายที่ยืนอยู่หน้าประตู

     

    นายที่คอยช่วยเหลือพวกเรามาโดยตลอด

     

    การกระทำทุกอย่างของนาย

     

    นำทีมไปสู่ชัยชนะ

     

    และพาพวกเราทุกคนออกจากความมืดของจิตใจ

     

    ทว่าตัวนาย...

     

    จะทำให้ทุกคนไปอีกมากเท่าไหร่กัน









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×