คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 : บนเกาะ 100%
แค่กัปตันคนเดียว...
ยังไม่อาจจะปกป้องได้
แล้วยังจะสามารถทะเยอทะยานในเรื่องใดได้อีก
“คนที่ไม่สามารถค้ำจุนหมอนี่ได้ในยามคับขัน...
คนแบบนั้นอย่าได้มีอยู่ในกลุ่มเลยจะดีกว่า”
“กลุ่มที่กัปตันสูญเสียอำนาจไป...
กลุ่มนั้นจะต้องทลายลงมาอย่างแน่นอน”
เพราะฉะนั้นจึงได้เลือกที่จะสู้เคียงข้างนายมาตลอด
เพราะฉะนั้นถึงได้คอยปกป้องนาย ถึงได้คอยค้ำจุนนาย
ทั้งหมดนั่นก็เพื่อไม่ให้นายเพลี่ยงพล้ำยังไงละ
ไม่เพลี่ยงพล้ำและสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
โดย โรโรโนอา โซโล
นักดาบประจำเรือเทาซัน ซันนี่
สังกัดกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
เสียงคลื่นซาดซัดเข้าสู่ฝั่งเรียกสติของชายหนุ่มผมเขียวให้กลับคืนมา ดวงตาสีเขียวค่อยๆลืมขึ้นสัมผัสกับความมืดมิดและความเย็นเยียบของสายลมในยามราตรี
ที่นี่...ที่ไหนกัน นักดาบหนุ่มถามตนเองอยู่ในใจพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ ที่ที่เขาอยู่เป็นชายฝั่งของเกาะใดเกาะหนึ่งแม้จะไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าเป็นเกาะเดียวกันกับที่พวกเขาเจอฮาร์ปีหรือไม่
พอนึกถึงเรื่องฮาร์ปีและสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจกระโดดลงจากเรือดวงตาของโซโลก็รีบกวาดหาร่างของกัปตันที่เขาสามารถคว้าเอาไว้ได้ก่อนที่กระแสน้ำจะพัดพาพวกเขามาที่นี่แล้วชายหนุ่มก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อสัมผัสได้ว่ามือของเขากุมมือของเด็กหนุ่มหมวกฟางที่นอนห่างออกไปไม่มากเอาไว้แน่นในขณะที่หมวกแสนรักของคนเป็นกัปตันก็อยู่ห่างออกไปอีกเล็กน้อย
โซโลรีบลุกขึ้นมาดูลูฟี่ด้วยความเป็นห่วงเพราะเมื่อครู่เด็กหนุ่มคนนี้อยู่ในทะเลนานทีเดียว เขาหวังว่าเด็กหนุ่มจะยังปลอดภัย
“เฮ้ย...ลูฟี่” นักดาบหนุ่มเรียกก่อนจะเอามืออังใต้จมูกเพื่อตรวจดูว่าคนที่เขายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ลมหายใจอุ่นๆที่สัมผัสกับฝ่ามือของเขาบ่งบอกว่ากัปตันคนนี้ยังคงมีชีวิต มันช่างน่ายินดีเหลือเกินสำหรับคนที่เสี่ยงตายกระโดดลงจากเรือมาช่วยทั้งที่รู้ดีว่ากระแสน้ำที่ไหลอยู่รอบเรือในตอนนั้นรุนแรงมากแค่ไหน
แต่มันก็ดีแล้วที่เด็กหนุ่มไม่เป็นอะไร...ดีมากแล้วจริงๆ โซโลคงจะทำใจไม่ได้แน่ๆหากกัปตันคนนี้เป็นอะไรไป
ใช่ดีแล้ว...ดีแล้วที่ไม่ทำหลุดมือไปอีกเพราะคราวนี้ถ้าทำเด็กหนุ่มคนนี้หลุดมือไปโซโลคงไม่ให้อภัยตนเองเป็นแน่
นักดาบหนุ่มก็อยากจะปลุกกัปตันให้ตื่นขึ้นมาอยู่หรอกแต่เขาคิดว่าลูฟี่ควรจะพักผ่อนให้มากกว่านี้ ผู้มีพลังพิเศษถ้าตกลงไปอยู่ในทะเลนานๆละก็ถ้าไม่ตายก็หมดแรงแบบนี้ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ต่อให้แข็งแรงเหมือนปีศาจแบบหมอนี่ก็ไม่มีข้อยกเว้น
ชายหนุ่มผมเขียวหาดาบสามเล่มของเขาเป็นสิ่งต่อไป อย่างน้อยถ้ามีอันตรายเขาก็ควรจะมีดาบเอาไว้เพื่อความอุ่นใจดีกว่า อีกอย่างดาบพวกนั้นก็เป็นสมบัติสำคัญของเขา ถึงเขาจะลืมมันไปแวบหนึ่งเพราะมัวแต่เป็นห่วงกัปตันก็เถอะ
ในที่สุดโซโลก็เจอดาบทั้งสามเล่มของตนเองหลังจากเดินวนไปวนมาตามหามันอยู่นาน จะไม่ให้นานได้ยังไงเล่าในเมื่อดาบทั้งสามเล่มเกือบจะถูกทรายฝังเสียมิด นั่นแปลว่าพวกเขาคงถูกซัดมาอยู่ที่นี่นานทีเดียว ไม่รู้ว่าเจ้าพวกที่อยู่บนเรือจะเป็นยังไงบ้าง โซโลคิดพลางเดินกลับไปหาเด็กหนุ่มหมวกฟากที่ยังสลบไม่ตื่น
พวกเขาควรจะรีบย้ายที่ก่อนที่จะมีสัตว์ร้ายหรือฮาร์ปีเหมือนเมื่อตอนกลางวันมาพบเข้า ชายหนุ่มผู้เป็นนักดาบแบกร่างที่เล็กกว่าของกัปตันขึ้นหลังก่อนจะออกเดินหายเข้าไปในป่าโดยหวังว่าตนจะพบเรือเทาซัน ซันนี่หรือไม่ก็ถ้ำสักแห่งที่สามารถพักพิงได้ในวันนี้
เรื่องถ้ำอาจจะพอหวังได้ว่าจะพบทว่าเรื่องเรือนะลืมไปได้เลยในเมื่อนักล่าโจรสลัดโรโรโนอา โซโลเป็นจอมหลงทางนี่นา
ทั้งที่บอกว่ามีพวกพ้องอยู่ข้างหลัง
ทั้งที่ปกติก็จะร่วมฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างไปด้วยกัน
ทว่าในเวลาที่นายทุกข์ใจมากที่สุด...
เหตุใดพวกเราจึงไม่ได้อยู่ตรงนั้น
เหตุใดจึงไม่ได้ยืนอยู่ที่เดียวกับนาย
เหตุใดจึงไม่ได้เป็นคนปลอบโยนนาย
เหตุใดจึงทิ้งให้นายอยู่คนเดียว
เหตุใดจึงทำได้เพียงแค่รอฟังข่าวของนายผ่านหนังสือพิมพ์
เหตุใดจึงไม่สามารถทำอะไรได้สักอย่าง
แบบนั้นพลังและความสามารถที่มีมันจะไปมีค่าอะไร
ในเมื่อยามที่สมควรจะปกป้องนายมากที่สุด...
พวกเรากลับทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่างเดียว
เดินวนไปวนมาในป่าอยู่นานโซโลก็ยังไม่เจอถ้ำเลยสักนิดซ้ำร้ายกว่านั้นเหมือนเขาจะเดินหลงวนไปวนมาในป่าจนกลับมาที่เดิมครั้งแล้วครั้งเล่า
โซโลหยุดเดินหลังจากพยายามหาทางออกจากป่าแต่ก็ยังเดินวนมาอยู่ที่เดิมไม่รู้กี่รอบแล้ว ท้องของเขาเริ่มร้องประท้วงเพราะความหิว จะว่าไปวันนี้นอกจากข้าวเช้าเขาก็ไม่ได้กินอะไรเลยนี่ ขนมและของว่างก็ยกให้กัปตันที่ค่อยบ่นว่าทานไม่พอ กินไม่อิ่ม จะรู้สึกหิวขึ้นมาก็ไม่แปลก
โซโลมองไปรอบด้านที่มีแต่ผืนป่าอันมืดมิดแล้วความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว
หรือจะจุดไฟมันเสียตรงนี้...
ชายหนุ่มรู้ดีว่าการจุดไฟจะเป็นการชักจูงพวกสัตว์ป่าให้เข้ามาหาแต่มันก็ดีไม่ใช่หรือ ตอนนี้เขากำลังหิวพอดีมีเหยื่อเดินเข้ามาหาด้วยตนเองโดยไม่ต้องออกไปล่ามันไม่ดีตรงไหน จัดการกับอาหารเสร็จค่อยเดินทางต่อถึงตอนนั้นต่อให้มีนักล่ามากมายบุกเข้ามาเพราะได้กลิ่นเลือดก็ไม่เจอพวกเขาแล้ว
เมื่อคิดได้แบบนั้นโซโลก็จัดการก่อกองไฟทันที เจ้าตัวหากิ่งไม้แถวนั้นมาเสียดสีกันให้เกิดประกายไฟและเพียงไม่นานเปลวไฟสีส้มก็ลุกโชนอยู่บนกิ่งไม้ที่มาก่อเป็นกองไฟ เสียงประทุของกิ่งไม้ที่อยู่ในเปลวเพลิงดังมาพร้อมควันไฟที่ลอยขึ้นสูง
นักดาบหนุ่มอุ้มกัปตันที่ยังหลับไม่ตื่นมาวางไว้ข้างๆกองไฟหวังให้ความอบอุ่นช่วยปัดเป่าความหนาวเหน็บของค่ำคืนนี้ ลูฟี่ยังคงสลบอยู่แบบนั้นโดยไม่มีท่าทางว่าจะตื่นขึ้นมาในตอนนี้และโซโลเองก็ไม่คิดจะปลุกด้วย
นอนพอเมื่อไหร่เดี๋ยวกัปตันเรือเทาซัน ซันนี่ก็ลุกขึ้นมาป่วนเองนั่นแหละและเขาก็เต็มใจจะแบกร่างของเด็กหนุ่มคนนี้ไปจนกว่าเจ้าตัวจะตื่นขึ้นมาเอง
นักดาบหนุ่มมองคนที่ยังหลับอยู่ข้างกายแล้วลองถามตนเอง จุดมุ่งหมายของเขามันถูกแยกออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
ครั้งแรกที่ยอมติดตามเด็กหนุ่มคนนี้มาก็เพราะอยากจะเป็นนักดาบอันดับหนึ่งของโลกโดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าชื่อเสียงของตนเองจะอยู่ในด้านดีหรือไม่ดี
โซโลยังจำวันนั้นได้ดี เขาประกาศกับว่าที่เจ้าแห่งโจรสลัดในอนาคตว่าจะเป็นนักดาบอันดับหนึ่งของโลกและบอกเด็กหนุ่มคนนั้นว่าถ้าทำอะไรที่เป็นการขัดขวาง เขาจะขอคว้านท้องของเด็กหนุ่มเพื่อเป็นการชดใช้แต่ลูฟี่ในวันนั้นกลับตอบว่า เมื่อมาเป็นพรรคพวกของเจ้าแห่งโจรสลัดแล้วเรื่องแค่นี้ขืนทำไม่ได้เขาก็ลำบากแย่สิ ช่างเป็นคำตอบที่แตกต่างกับคนอื่นมากมายเหลือเกิน
หลังจากมาเป็นสมาชิกในกลุ่มหมวกฟาง หลังจากได้ขึ้นเรือและหลังจากได้มีพวกพ้องมากมาย วันแล้ววันเล่า...คืนแล้วคืนเล่าที่หมุนเวียนไปกลับเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของเขาไปด้วย...กลับทำให้เขามีความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิม...
กัปตันเรือของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางนอกจากความแข็งแกร่งที่พัฒนาไปอย่างไร้ขีดจำกัดแล้วทั้งนิสัยและคำพูดคำจากลับไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย เขาซึมซับความตรงไปตรงมาของกัปตันคนนั้น เขาซึมซับการกระทำทุกอย่างที่ไม่เคยลังเลของลูฟี่ ซึมซับจนจรดลงในหัวใจ
จากความแปลกใจที่เด็กหนุ่มไม่เคยเหมือนกับคนอื่น วันนี้มันกลับกลายเป็นความชื่นชอบและความเชื่อมั่น...เชื่อมั่นในการกระทำและการตัดสินใจของกัปตัน สุดท้ายตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ความชื่นชอบและความเชื่อมั่นกลับกลายเป็นความรู้สึกอันรุนแรงที่พยายามจะฝังเอาไว้ในใจ
พยายามจะข่มมัน...พยายามจะเก็บซ่อนและพยายามจะถมมันให้มิด ยับยั้งไม่ให้มันแสดงออกมาทางการกระทำมากเกินไปทว่าดูท่าช่วงหลังๆมาเขาชักจะควบคุมตนเองลำบากขึ้นเสียแล้ว เพิ่งจะมารับรู้เอาตอนนี้ว่าแค่ความเชื่อมั่นและความชอบมันไม่พอมาตั้งนานแล้ว... เขาไม่เคยคิดเลยว่าตนเองจะมีความรู้สึกเช่นนี้...ไม่เคยคิดเลยจริงๆ
โซโลอยากจะถอนหายใจออกมาเมื่อคิดถึงความรู้สึกมากมายที่อยู่ในใจ
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่จุดมุ่งหมายชักจะไม่เหมือนเดิม ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มีความรู้สึกแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่การกระทำทั้งหมดของคนเป็นกัปตันเริ่มมีผลกระทบต่อความรู้สึกของเขา ไม่ว่าการกระทำนั้นจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม
โซโลเคยตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นนักดาบอันดับหนึ่งในโลก แม้แต่ตอนนี้เป้าหมายของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดทว่าเขากลับมีเป้าหมายใหม่เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว...พอมารู้ตัวอีกทีเป้าหมายที่สองก็เป็นเป้าหมายที่มีความสำคัญไม่แพ้เป้าหมายแรกเลยทีเดียว
เขาอยากเป็นนักดาบอันดับหนึ่งของโลกแต่ในขณะเดียวกันก็อยากปกป้องและช่วยเป็นกำลังให้กัปตันคนนี้ก้าวไปสู่ความฝันของตนเองอย่างมั่นคง...
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขามีเป้าหมายใหม่เพิ่มขึ้นมา...โซโลไม่รู้เลยจริงๆ เขารู้เพียงแค่ว่ามันเป็นเป้าหมายที่สำคัญไม่แพ้กัน...สำคัญจนเขาเริ่มกลัวว่ามันจะกลืนกินเป้าหมายแรกของเขาไปหรือไม่
“นายนี่ช่างมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของคนรอบข้างจริงนะ” โซโลพึมพำออกมาขณะมองกัปตันที่ยังสามารถหลับได้อย่างสบายใจ ไม่ได้รับรู้ความรู้สึกของเขาเลยแม้แต่น้อย...
แกรบ... เสียงที่ดังกระทบโสตของนักดาบหนุ่มเรียกดวงตาให้ละออกจากกัปตันไปมอง มือทั้งสองข้างของเจ้าตัวเอื้อมไปกระชับดาบเตรียมพร้อมลงมือ ดูท่าอาหารตัวแรกจะเข้ามาทักทายเขาเสียแล้ว
อยากจะแข็งแกร่ง...
อยากจะเก่งกาจ...
ทั้งหมดก็เพื่อความฝันและนาย
และเพื่อไม่ให้กลับไปสัมผัสกับความรู้สึกในวันนั้น
วันที่ทำอะไรไม่ได้...
วันที่ทุกคนต้องกระจัดกระจาย...
วันที่ต้องทอดทิ้งนายไป...
ไม่อยากจะกลับไปสัมผัสกับความรู้สึกเจ็บใจแบบวันนั้นอีก
ความคิดเห็น