คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 : คำตอบของกัปตัน 100%
มุ่งมั่นและแน่วแน่...
เชื่อมั่นไม่ย่อท้อ
ก้าวเดินไปอย่างไม่หวั่นเกรง
แม้จะต้องเจออุปสรรคมากมายเท่าไหร่
แม้จะรู้ดีว่าคู่แข่งแข็งแกร่งกว่าตนเองแค่ไหน
แม้ว่าสิ่งที่ทำอยู่จะเหมือนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
แต่ทุกครั้งที่นายลงสนาม...
ความมุ่งมั่นและความแน่วแน่ของนายได้โอบล้อมพวกเราไว้
ฉันจึงได้เชื่อมั่นในตัวนาย
เชื่อมั่นอย่างหมดใจ
ว่าตราบใดที่กัปตันอย่างนาย...
คอยอยู่เคียงข้างและคอยระวังหลังให้พวกเรา
พวกเราจะไม่มีวันแพ้ใคร
อย่างแน่นอน
วันนี้นับเป็นวันดีอย่างมาก อย่างน้อยเอนโดก็คิดแบบนั้น นอกจากวันนี้จะเลิกซ้อมเร็วกว่าทุกวันนิดหน่อยแล้วทันทีที่ซ้อมเสร็จโกเอนจิก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและขอตัวกลับบ้านทันทีเพราะวันนี้เจ้าตัวมีธุระที่บ้านจึงไม่ได้เดินกลับบ้านพร้อมกับเอนโดเหมือนอย่างเคยซึ่งถือเป็นเรื่องดีละนะในเมื่อวันนี้เขาเองก็มีนัดเหมือนกัน แถมยังเป็นนัดที่ไม่อยากให้โกเอนจิรู้เสียด้วย
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเอนโดก็ขอตัวกลับบ้านเพื่อไปตามนัดท่ามกลางสายตาของลูกทีมที่มองตามอย่างสงสัย ทุกคนต่างเป็นห่วงกัปตันว่าไปเจอเรื่องอะไรหนักใจมาหรือไม่เพราะวันนี้ต่อให้เอนโดยังคงร่าเริงตามปกติแต่ก็มีหลายครั้งที่เจ้าตัวเผลอขมวดคิ้วราวกับมีเรื่องให้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา
กัปตันทีมของพวกเขาเป็นคนตรงๆและมักจะยิ้มแย้มอารมณ์ดีอยู่เสมอแถมยังเป็นคนมองโลกในแง่ดีขนาดที่ไม่เคยเห็นข้อเสียของคนอื่น พอกังวลขึ้นมาแบบนี้พวกเขาจึงรู้สึกได้ในทันที
“น่าเป็นห่วงกัปตันจังเลยนะครับ” โทระมารุพูดออกมาขณะที่มองแผ่นหลังของกัปตันที่วิ่งออกไปจากโรงเรียน
“นั่นสิครับ” คาเบยามะ เฮย์โกโร่ เห็นด้วยกับโทระมารุขณะที่คิโดหรี่ตาลง ท่าทางแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ นี่ก็ใกล้วันแข่งแล้วแถมวันนี้โกเอนจิก็ไม่อยู่เสียด้วย เอนโดคิดจะทำไรกันนะ
“พวกเราตามไปดูหน่อยดีไหม” ฮิโรโตะถามออกมา เห็นท่าทางแบบนั้นแล้วชวนให้เป็นห่วงไม่น้อยเลย
“เอาแบบนั้นก็ได้...แล้วใครจะไปบ้าง” สิ้นคำพูดของคิโดทุกคนในห้องก็ต่างพร้อมใจกันยกมือทำเอาคนถามได้แต่ถอนหายใจออกมา มันก็น่าดีใจอยู่หรอกนะที่มีคนเป็นห่วงขนาดนี้แต่...
“พวกนายคงไม่ได้คิดจะแห่ไปกันหมดใช่ไหม” คำถามของคิโดทำให้ต่างคนต่างมองหน้ากัน ความจริงแล้วถ้าคิโดไม่ทักท้วงอะไรออกมาพวกเขาก็กะจะยกพลแห่กันไปทั้งหมดนี่แหละ
“พวกนายจะแอบไปดูหมอนั่นไม่ใช่เรอะ ยกโขยงกันไปแบบนี้ก็ถูกจับได้หมดสิ” ฟุโด อาคิโอะซึ่งเป็นคนเดียวในห้องที่ไม่ได้ยกมือพูดออกมา เห็นแบบนี้แล้วคิดว่าทุกคนช่างทำตัวไร้สาระเหลือเกิน
ตัวต้นเหตุนั่นก็อีกคนเล่นทำตัวผิดปกติอย่างโจ่งแจ้งเสียขนาดนั้นทุกคนเขาก็พากันเป็นห่วงนะสิ ฟุโดบ่นในใจตามนิสัยของตนเอง แต่เจ้าตัวก็บ่นไปแบบนั้นแหละเพราะเขารู้ดีว่าคนที่ร่าเริงเสมออย่างเอนโดพอมีเรื่องกลุ้มใจเข้ามาแทรกก็เลยสังเกตอาการง่ายจะตายไป
แต่ที่ทำให้ฟุโดสงสัยคือโกเอนจิจะรู้หรือเปล่าว่าเอนโดกำลังกังวลอะไรบางอย่าง ปกติหมอนั่นจะเป็นคนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเอนโดได้เป็นคนแรกทุกทีนี่
คิโดเองก็เห็นด้วยกับฟุโดเพราะฉะนั้นเจ้าตัวถึงได้จับไม่สั้นไม้ยาวให้สิ้นเรื่อง เพียงไม่นานพวกเขาก็ได้คนที่จะไปดูเอนโดสามคนโดยที่คนที่เหลือต้องกลับบ้านไปนอนรอฟังข่าวในวันพรุ่งนี้
ไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจในการกระทำของนาย
ไม่ใช่ว่าคิดจะสงสัยนายที่คอยช่วยเหลือพวกเรา
ไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจนายที่คอยระวังหลังให้พวกเรามาเสมอ
แต่พวกเราเป็นห่วงนายต่างหาก
เพราะรู้นิสัยของนายดีถึงได้เป็นห่วง
พวกเราน่ะเป็นห่วงนาย...
ที่มักจะทุ่มสุดตัวเพื่อคนอื่น
แม้ว่าคนๆนั้นอาจจะหันกลับมาเป็นคู่แข่งของนายก็ตาม
“ขอโทษที่มาช้า” เอนโดเอ่ยขอโทษเด็กหนุ่มร่างใหญ่ทันทีที่มาถึง ดูแล้วคนตรงหน้าน่าจะมายืนรอเขานานแล้วแน่ๆ
“ไม่เป็นไร ฉันเองก็เพิ่งมาถึง” อีกฝ่ายพูดเมื่อเห็นท่าทางเหนื่อยหอบของคนที่วิ่งมาเต็มฝีเท้า อันที่จริงเขาก็มารออีกฝ่ายอยู่นานแล้วนั่นแหละแต่ก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องไปตอกย้ำคนที่วิ่งมาถึงเหนื่อยๆนี่จริงไหม
“ฉันขอคำตอบของนายเลยได้ไหม” เด็กหนุ่มร่างยักษ์ไม่อยากจะรออีกแล้ว แค่รอมาทั้งคืนก็ทำเอาเขากังวลมามากพอแล้ว ตอนนี้เขาอยากจะรู้คำตอบจากปากของกัปตันทีมอินาสึมะเจแปน
“อินาสึมะเจแปนจะสู้กับทีมของนายอย่างเต็มกำลัง ไม่ว่าในอนาคตผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม” คำพูดที่ออกมาจากปากของกัปตันทีมอินาสึมะเจแปนเต็มไปด้วยความหนักแน่นและไร้ความลังเล เมื่อออกมาจากปากของเอนโด มาโมรุแล้วนั่นหมายความว่าอินาสึมะเจแปนจะทำแบบนั้นจริงๆ
แม้ยังคงเป็นกังวลกับปัญหาที่ทีมของคนตรงหน้าต้องเผชิญทว่าเขาก็ไม่อาจจะละทิ้งความฝันของเพื่อนพ้องซึ่งเดินอยู่เคียงข้างไปได้เช่นกัน...ความฝันทั้งของทุกคนและตัวเอง
“หวังว่านายคงจะเข้าใจเหตุผลของฉันนะ” เอนโดก็ได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจและยอมรับในการตัดสินใจของเขา
“อีกอย่าง...ฟุตบอลที่แท้จริงนะไม่มีทางกำหนดแพ้ชนะได้หรอกจนกว่าจะได้ลงสนามและจนกว่าจะจบเกม ทุกคนจะได้เล่นฟุตบอลอย่างสนุก นั่นแหละคือฟุตบอลของฉัน!!” เอนโดพูดออกมาด้วยท่าทางมั่นใจ
นี่คือฟุตบอลของเขา...คือฟุตบอลที่เขาเชื่อถือและยึดมั่นจนสามารถมาถึงจุดนี้ และเป็นสิ่งที่โกเอนจิยกขึ้นมาเตือนความคิดของเขาเมื่อวาน
“ฉันเองก็อยากจะคิดได้เหมือนนาย” เด็กหนุ่มร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าพูพร้อมรอยยิ้มทว่ามันเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหนักใจ อยากจะคิดให้ได้เหมือนคนตรงหน้าแต่ก็เพราะมีภาระบนบ่าในตอนนี้
เมื่อเห็นท่าทางผิดหวังและหนักใจของเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเอนโดก็เริ่มเป็นกังวลจนอยู่ไม่สุขไปด้วย ในที่สุดเจ้าตัวก็ตัดสินใจ
“ฉันอยากให้พวกนายเล่นฟุตบอลกับพวกฉันอย่างสนุกและเต็มที่ เพราะฉะนั้นฉันจะไปคุยกับโค้ชของนายให้รู้เรื่องไปเลย!!” มันเป็นคำพูดตัดสินใจที่ออกมาจากปากของคนเป็นกัปตันซึ่งทำเอาเหล่าคนที่แอบฟังบทสนทนามาตั้งแต่ต้นอยากจะร้องออกมาอย่างขัดใจนัก แต่ตอนนี้พวกเขาจะไปทำอะไรได้ในเมื่อเอนโดพูดออกไปต่อหน้าต่อตากัปตันทีมอีกฝ่ายไปแล้ว
“บ้าชะมัด...ทำไมนายไม่อยู่ตอนนี้นะโกเอนจิ” คิโดทำได้แต่บ่นหาเพื่อนสนิทอีกคนที่ไม่ได้อยู่ในเวลาที่สมควรจะอยู่ที่สุด ถ้าโกเอนจิอยู่ด้วยละก็ไม่มีทางที่เอนโดจะได้พูดประโยคเมื่อครู่ออกไปเด็ดขาด
แต่ในความเป็นจริงคนที่พวกเขากำลังคิดถึงดันไม่อยู่นี่ ให้ตายสิ...พวกเขาจะทำอะไรได้เล่านอกต้องตามกัปตันคนนั้นไปให้ถึงที่สุดละ
นายไม่จำเป็นต้องเก็บเอาปัญหาของคนอื่นมาใส่ใจ
นายไม่จำเป็นต้องทุ่มเทสุดตัวเพื่อคนที่นายเพิ่งเคยพานพบ
นายไม่จำเป็นจะต้องทำให้คนรอบข้างมากมายขนาดนั้น
นายไม่จำเป็นต้องทำเรื่องพวกนั้นเลย...
แต่นายก็ยังจะทำ...
ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจทำให้ทุกคน
เพราะแบบนั้นพวกเราถึงอยากให้นาย...
ช่วยคิดถึงตนเองบ้างจะได้ไหม
ความคิดเห็น