ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Inazuma eleven {Goenji Shuya X Endou Mamoru} YAOI

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 : คำข้อร้องของคู่แข่ง 100%

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 57


     

    กัปตันแบบนาย...

     

    ไม่เหมาะกับใบหน้าและท่าทางเป็นกังวลเลยสักนิด

     

    นายเป็นคนบอกเองไม่ใช่หรือ...

     

    ว่าถ้าคนเดียวไม่อาจทำได้

     

    ก็ยังมีเพื่อนที่เหลือคอยช่วยอยู่

     

    และก็ยังมีเพื่อนคนอื่นๆทำได้

     

    เพราะนั่นคือฟุตบอลยังไงละ

     

    แต่หลายครั้ง...

     

    นายก็เหมือนกับจะลืมเลือนคำพูดของตนเองไป

     

    แล้วก็ไปนั่งกังวลอยู่คนเดียว

     

    ขอเพียงแค่นายเงยหน้าขึ้นมามอง

     

    นายจะได้เห็น...

     

    แผ่นหลังของพวกพ้อง

     

    ที่จะยืนอยู่ตรงหน้านายไม่ไปไหน

     

    และจะเป็นพลังให้นาย

     

    ยามที่นายล้มลง...

     

    ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับนายหน่อยนะ เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่กล่าวในขณะที่ดวงตายังจับจ้องอยู่ที่เอนโดคนเดียวไม่ไปไหน โกเอนจิยังไม่พูดอะไร เจ้าตัวเพียงยืนมองผู้มาใหม่อย่างพิจารณาอยู่ข้างเอนโดเท่านั้น

     

    นายเป็นใครละ เอนโดถามออกมาอย่างเป็นมิตรตามนิสัยของเจ้าตัว หมอนี่ไม่เคยระแวงใครเลยสักคนแม้จะเป็นคนที่เพิ่งรู้จัดกันครั้งแรกก็ตาม

     

    ฉันเป็นกัปตันของทีมที่จะซ้อมแข่งกับนาย เด็กหนุ่มร่างใหญ่พยายามรวบรัดตัดความ เขามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าจะมาพูดกับคนตรงหน้า

     

    นายมีอะไรหรือเปล่า เมื่อเห็นท่าทางร้อนใจของคนตรงหน้าเอนโดก็รีบถามออกมาด้วยความกังวล

     

    ฉันอยากคุยกับนาย... ผู้มาใหม่กล่าวแค่นั้นก็จะหันไปมองเด็กหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆกัปตันทีมอินาสึมะเจแปนนิดหนึ่งแล้วหันมาพูดกับเอนโดต่อ

     

    แค่นายเท่านั้น มันเป็นคำพูดที่โกเอนจิไม่ชอบใจเสียเท่าไหร่ หมอนี่ต้องการอะไรกันแน่

     

    งั้นฉันจะยืนรออยู่ตรงนู้นแล้วกัน โกเอนจิพูดแค่นั้นแล้วออกเดินนำไปก่อน

     

    อันที่จริงเขาไม่มีความคิดจะให้สองคนนี้ได้พูดกันเป็นการส่วนตัวเลยแม้แต่น้อยเพราะเขาไม่ไว้ใจ กัปตันทีมของโรงเรียนที่จะต้องซ้อมแข่งกับพวกเขาอีกไม่กี่วันข้างหน้ามาหากัปตันทีมของเขาเนี่ยนะ คิดยังไงมันก็ออกจะแปลกไปหน่อยหรือเปล่า

     

    ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเดินออกมาก่อนคือสายตาขอร้องของเอนโด หมอนี่ก็เป็นแบบนี้ คิดจะเอาปัญหาของคนอื่นมาเป็นปัญหาของตนเองอีกแล้วละสิ แถมยังกันกลับมาทำสายตาขอร้องเขาแบบนั้นอีกแล้วจะให้เขาทนยืนอยู่ต่อไปได้ยังไง

     

    ให้ตายเถอะ...ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรให้พูดคุยกันเพราะอีกฝ่ายคงต้องเอาปัญหามาโยนใส่กัปตันทางนี้แน่ๆ และแน่นอนด้วยนิสัยของเอนโดก็คงเก็บเอาปัญหาของอีกฝ่ายมานั่งกังวลแทนนั่นแหละ แต่นี่ยังถือว่าเป็นปัญหาเล็กน้อย สิ่งที่โกเอนจิกังวลจริงๆก็คือกลัวเอนโดจะทุ่มสุดตัวแบบเกินขอบเขตเพื่อช่วยอีกฝ่ายจนเองตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายนะสิ

     

    อาจจะดูเหมือนเป็นห่วงเกินไปแต่ก็เพราะนิสัยของกัปตันเป็นแบบนั้นจริงๆแล้วจะไม่ให้เขาเป็นห่วงได้ยังไงละ

     

    โกเอนจิหันไปมองกัปตันทั้งสองที่กำลังคุยกันอยู่แล้วได้แต่หวังในใจว่ามันคงจะไม่มีปัญหายุ่งยากตามมาหลังจากบทสนทนาครั้งนี้หรอกนะ เขาก็ได้แต่หวังแบบนั้นจริงๆ

     

    ชอบนิสัยและการกระทำของนาย

     

    เพราะมันทำให้ฉันสามารถยืนหยัดขึ้นได้อีกครั้ง

     

    ชอบถ้อยคำปลอบใจของนาย

     

    เพราะมันเป็นสิ่งที่มอบพลังให้กับทุกคน

     

    แต่บางครั้งก็รู้สึกชิงชังมันนัก

     

    เพราะนิสัยแบบนั้นของนาย

     

    มักจะนำปัญหาใหญ่...

     

    มาให้ตัวของนายเองเสมอ



     

    มาหาถึงที่นี่ นายมีอะไรอย่างนั้นหรือ เอนโดถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ถึงขนาดไม่ยอมให้ใครอยู่ฟังบทสนทนาด้วยแบบนี้ปัญหาที่อยู่ในใจของอีกฝ่ายคงหนักอึ้งไม่น้อยเลยทีเดียว การที่ลงทุนมายืนรอเขานั่นหมายความว่าเขาอาจจะหาทางช่วยได้สินะ

     

    ฉันชอบฟุตบอลมาก... อยู่ๆอีกฝ่ายก็เปรยขึ้นทำเอาเอนโดงุนงงไปเหมือนกัน ทำไมถึงพูดแบบนี้กับเขาละ ต้องการจะให้เขารู้อะไร

     

    ไม่ใช่แค่นั้น...ทุกคนในทีมของฉันก็ชอบฟุตบอล...ชอบจนไม่อยากจะเลิกเล่นเลยสักนิด คนตรงหน้ายังคงกล่าวออกมา แม้ยังไม่เข้าใจเจตนาของอีกฝ่ายว่าต้องการอะไรแต่เอนโดก็ยังตั้งใจฟังโดยไม่พูดขัดขึ้น อาจจะเป็นเพราะดวงตาที่มองตรงมาเหมือนคนมีเรื่องทุกข์ใจมากมายของอีกฝ่ายก็เป็นได้

     

    นายเข้าใจความรู้สึกนี่ใช่ไหม เด็กหนุ่มร่างใหญ่ถามกัปตันของทีมอินาสึมะเจแปน

     

    ฉันเข้าใจสิ...ฉันเองก็ชอบฟุตบอลมากเพราะฉะนั้นถึงเข้าใจความรู้สึกและเข้าใจความสนุกของฟุตบอล เอนโดตอบให้พร้อมรอยยิ้ม เขาเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายดีเพราะชอบฟุตบอลเหมือนกันนะสิ ชอบจนไม่อยากจะเลิกเล่นเลย

     

    ฉันเองก็ไม่อยากจะเลิกเล่นฟุตบอลเหมือนกัน เด็กหนุ่มร่างใหญ่พูดขณะที่ดวงตายังไม่ละออกจากร่างของเอนโด มาโมรุ

     

    ใช่...ไม่ละไปไหนแม้แต่ตอนพูดถ้อยคำที่ทำเอากัปตันทีมอินาสึมะเจแปนแทบแข็งเป็นหินก็ตาม

     

    เพราะฉะนั้นช่วยแพ้พวกเราหน่อยได้ไหม!!”

     

    นายชอบฟุตบอลใช่ไหมเอนโด

     

    นายชอบมันมากใช่ไหม...

     

    ชอบสิ...ฉันชอบฟุตบอล

     

    ชอบมากขนาดอยากจะเล่นทุกเวลาเลยแหละ

     

    งั้นก็อย่าได้ลังเลสิ...

     

    อย่าได้ลังเลเวลาที่อยู่ในสนาม

     

    อย่าได้ลังเลในเวลาที่ตัดสินใจอะไรลงไป

     

    เพราะฉันเองก็เชื่อมั่นเหมือนกัน

     

    เชื่อทั้งในฟุตบอลที่ตนเองรัก

     

    เชื่อมั่นนายที่ทำให้ฉันกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง

     

    เชื่อมั่นในความคิดของนาย

     

    เชื่อมั่นในการกระทำของนาย

     

    เชื่อมั่นในฟุตบอลของนาย

     

    เพราะฉะนั้นตัวนายเอง...

     

    ก็สมควรจะเชื่อมั่นตนเอง!!

     

    หลังจากนั้นสิ่งที่โกเอนจิสัมผัสได้คือท่าทางที่เปลี่ยนไปของเอนโด ท่าทางในยามที่พูดกับอีกฝ่ายดูไม่เข้าใจ เป็นกังวลและหนักใจอย่างชัดเจน บ่งบอกได้เลยว่าเรื่องที่คุยกันไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แม้แต่ในยามที่อีกฝ่ายจากไปแล้วเอนโดก็ยังคงมีท่าทีที่ไม่ดีนักซึ่งมันทำให้เขาพลอยไม่สบายใจไปด้วย

     

    “มีอะไรหรือเปล่า” โกเอนจิเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาและเอ่ยปากถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางไม่สบายใจของคนเป็นกัปตัน

     

    “หา...เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ” ดูเหมือนว่าเอนโดจะเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขายืนอยู่ข้างๆจึงเอ่ยปากถามออกมาด้วยความงุนงง

     

    “ฉันถามว่ามีอะไรหรือเปล่า” เด็กหนุ่มถามขึ้นอีกครั้ง เห็นท่าทางของกัปตันทีมเขาก็ยิ่งอยากรู้ว่าเมื่อกี้คนทั้งสองพูดคุยเรื่องอะไรกัน

     

    “ไม่มีอะไรหรอก” เอโดกล่าวพร้อมรอยยิ้มหวังสร้างบรรยากาศใหม่ให้มาคลายบรรยากาศน่าอึกอัดของเมื่อครู่ทว่ามันช่างเป็นรอยยิ้มที่จืดชืดนัก จากที่คิดว่าจะทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดกลับยิ่งเผยความไม่สบายใจของตนเองมากว่าเดิมไปเสียได้

     

    โกเอนจิมองอีกฝ่ายอย่างไม่สบายใจเท่าไหร่ ท่าทางฟ้องอยู่ชัดๆแบบนี้ยังจะกล้ามาบอกอีกนะว่าไม่มีอะไร และดูเหมือนว่าเอนโดเองก็จะรู้ตัวเหมือนกันว่าปิดบังอีกฝ่ายไม่มิดเพราะฉะนั้นรีบชิ่งหนีก่อนท่าจะดี

     

    “ฉันว่าวันนี้ฉันคงไปบ้านนายไม่ได้แล้วละโกเอนจิ ฝากขอโทษและฝากความคิดถึงให้ยูกะจังด้วยนะ” เอนโดพูดออกมาอ่างรัวเร็วเป็นการตัดบทจบแล้วทำท่าจะเดินจากไปเพราะเขากลัวว่าถ้าขืนยังอยู่ใกล้หมอนี่มากๆมีหวังเขาได้เผยเรื่องกังวลใจออกมาทั้งหมดแน่ๆ ยิ่งโกเอนจิเป็นพวกจับทางอารมณ์เขาเก่งเสียด้วยสิ

     

    แต่ดูเหมือนว่าเอนโดจะคิดง่ายไปหน่อยเพราะโกเอนจิไม่คิดจะปล่อยเขาไปง่ายๆหรอก

     

    หมับ!!

     

    แขนของคนเป็นกัปตันถูกคว้าไว้ด้วยมือแข็งแกร่งของคนเป็นลูกทีมชนิดไม่ยอมปล่อยให้ดิ้นหลุดไปแน่ๆ ดวงตาสีดำจริงจังสบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลราวกับจะคาดคั้นเอาคำตอบ โกเอนจิตัดสินใจกับตนเองตั้งแต่ที่เห็นท่าทางของเอนโดตั้งแต่เมื่อกี้แล้วว่าเขาจะต้องลากตัวหมอนี่กลับไปบ้านด้วยให้ได้และต่อให้เอนโดไม่อยากจะค้างที่บ้านเขาเขาก็จะทำให้ค้างเอง

     

    เห็นท่าทางเป็นกังวลและหนักใจของคนๆนี้แล้วเขาจะปล่อยให้กัปตันคนนี้กลับบ้านไปพร้อมกับสภาพจิตใจแบบนี้ได้ยังไงกันละ

     

    “นายกำลังปิดบังอะไรไว้กันแน่” โกเอนจิถามออกมาตรงๆ เขาไม่ชอบเห็นความกังวลของคนตรงหน้า เอนโดไม่เหมาะกับท่าทางหนักใจและเป็นกังวลแบบนี้หรอก

     

    “ฉันไม่ได้ปิดบังอะไรนายสักหน่อย” คนเป็นกัปตันเถียงแม้จะรู้ดีที่สุดว่าตนเองนะหรือจะไปปิดบังอะไรคนตรงหน้าได้ในเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าเขาจับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของคนรอบข้างเก่งจะตาย

     

    “ไม่ปิดบังแล้วหนีทำไม” ดาวยิงของทีมยังคงใช้เสียงราบเรียบไล่ต้อนกัปตันอย่างใจเย็น ยังไงเขาก็ไม่มีทางปล่อยคนตรงหน้าไปง่ายๆหรอก

     

    “ไม่ได้หนีเสียหน่อย” คำพูดที่สวนกลับมาแทบจะในทันทีทำเอาโกเอนจิอยากจะส่ายหน้าด้วยความระอาเหลือเกิน หนีกันจะๆแบบนี้ยังหันมาเถียงได้อีกนะว่าไม่ได้หนี ไม่ได้ปิดบังอะไรเอาไว้ ดูท่าเขาต้องลากกลับบ้านไปด้วยกันเท่านั้นละมั้งถึงจะได้รู้อะไรขึ้นมาบ้าง

     

    “ถ้าไม่ได้ปิดบัง ไม่ได้หนี งั้นก็ไปที่บ้านฉันละกัน” ไม่พูดเปล่าเด็กหนุ่มยังลากเอนโดที่โวยวายไปตลอดทางไปด้วยซึ่งผ่านไปไม่นานเสียงโวยวายนั่นก็เงียบลง อาจจะเพราะเจ้าตัวคงจะรู้ว่าต่อให้โวยวายต่อไปก็สู้คนที่กำลังลากเขาไปด้วยไม่ได้อยู่ดี

     

    โกเอนจิมองคนที่กำลังเดินอยู่ข้างๆเขา ตอนแรกเขาชวนเอนโดมาที่บ้านโดยใช้ความสมัครใจของอีกฝ่ายเป็นคำตอบ แต่ตอนนี้ต่อให้อีกฝ่ายมาสมัครใจเขาก็จะเป็นคนบังคับให้มาเองและแน่นอนรวมถึงบังคับให้ค้างด้วย

     

    หวังว่าการทำแบบนี้จะทำให้เขารู้ขึ้นมาบ้างนะว่าเอนโดกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่

     

    นายที่มีท่าทางกังวลแบบนี้

     

    ไม่สมกับที่เป็นนายเอาเสียเลย

     

    นายจะรู้บ้างไหม...

     

    ว่ายังมีใครอีกคน

     

    ที่อดจะกังวลไปกับนายด้วยไม่ได้




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×