ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Inazuma eleven {Goenji Shuya X Endou Mamoru} YAOI

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 : ความกังวลและทางออก 100%

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 57


     

    รู้ไหม...

     

    ทีมอินาสึมะเจแปนคือวงกลม

     

    เป็นวงกลมวงใหญ่...

     

    ที่มีเอนโด มาโมรุเป็นศูนย์กลาง

     

    ตราบใดที่ยังมีวงกลมวงนี้อยู่ละก็...

     

    พวกเราจะไม่แพ้ใคร

     

    ต่อให้จะหมดแรงสักแค่ไหนก็ตาม

     

    ทว่า...

     

    แล้วในวันที่ศูนย์กลางเสียความมั่นใจไปเสียเอง

     

    ใครจะเป็นคนช่วยศูนย์กลางคนนั้น

     

    ใครจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวกับคนๆนั้น

     

    แล้ววงกลมวงใหญ่ที่แข็งแกร่ง

     

    จะเหลืออะไรอีก...

     

    เพราะฉะนั้นช่วยแพ้พวกเราหน่อยได้ไหม คำพูดและน้ำเสียงของอีกฝ่ายยังคงติดอยู่ในหัวแม้ในยามที่เวลาผ่านไปนานแล้วก็ตามที

     

    ทำไมละ เอนโดจำได้ว่านั่นคือเสียงที่เขาถามออกไปด้วยความแปลกใจ เขาไม่เข้าใจเลย ทั้งที่อีกฝ่ายก็น่าจะรักฟุตบอลพอเหมือนกันไม่ใช่หรือ ถ้ารักฟุตบอลแล้วเหตุใดจึงได้พูดแบบนี้ออกมา

     

    เพราะมันไม่มีทางเลือก เด็กหนุ่มร่างใหญ่ตอบแม้ท่าทางภายนอกจะดูสงบแต่ดวงตาฉายแววเจ็บใจ...เจ็บใจที่มาขอร้องคู่แข่งแบบนี้ทั้งที่อยากจะใช้พลังและความสามารถของตนเองทำแต้มในสนามและคว้าชัยชนะมาเสียมากกว่า อยากจะเล่นกับอีกฝ่ายอย่างยุติธรรมและทำให้เต็มความสามารถโดยไม่ต้องห่วงผลแพ้ชนะ

     

    ถ้าไม่ชนะ เราก็จะไม่ได้เล่นฟุตบอลอีก มันเป็นคำพูดที่แม้แต่คนพูดออกมาเองก็สะเทือนใจมากทีเดียว

     

    มันเป็น...ขอแลกเปลี่ยนของโค้ช เป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ทำเอาเอนโดอึ้งไปเหมือนกัน โค้ชทางนั้นคิดอะไรอยู่กันแน่ เหตุใดจึงได้ตั้งเงื่อนไขแบบนั้นขึ้นมา เขาไม่เข้าใจเลย

     

    ทำแบบนี้จะเป็นการดูถูกอินาสึมะเจแปนหรือเปล่า เอนโดก็ไม่รู้ ตอนนี้ที่เขารู้มีแต่ความสับสนและความเป็นกังวลเท่านั้น

     

    เอนโดกำลังคิดถึงตนเองว่าถ้าชีวิตที่เหลือของเขาไม่มีฟุตบอลแล้วจะเป็นยังไง แค่เริ่มเขาก็ไม่อยากจะคิดต่อแล้ว เขาไม่อยากให้ใครถูกพรากฟุตบอลไป ตัวเขาเองก็เช่นกัน ทว่าพวกเขาเองก็มีความฝันที่จะทำให้มายอมแพ้ตรงนี้ไม่ได้...เขายังมีความฝันและยังมีลูกทีมที่ไล่ตามความฝันไปด้วยกัน แล้วจะให้เขามาจบความฝันของตนเองและทุกคนตรงนี้นะหรือ เรื่องนี้เขาก็ทำไม่ได้เหมือนกัน

     

    ในตอนนั้นเอนโดไม่รู้จะทำยังไง เขาไม่กล้าตัดสินใจสักอย่าง อาจจะเพราะเขาเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายดีพอๆกับที่เข้าใจความจำเป็นของฝ่ายตนเอง ไม่ว่าทางใดก็เป็นทางที่เขาไม่อยากจะเลือกทั้งสิ้น

     

    ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายก็เข้าใจความรู้สึกของเขาเหมือนกันเพราะคนตรงหน้าไม่ได้เร่งรัดเอาคำตอบจากเขาตอนนี้ เพียงแค่บอกว่า

     

    แล้วฉันจะมาเอาคำตอบในวันพรุ่งนี้ที่นี่ก็แล้วกัน มันเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินจากเขาไปปล่อยให้เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยความสับสนและเป็นกังวล

     

    เขาถามตนเองตั้งแต่ตอนนั้น...ถามตนเองว่าเขาควรจะเลือกทางไหนและเขาควรจะจัดการกับปัญหาครั้งนี้อย่างไรถึงจะดี

     

    นายก็เป็นเช่นนั้น...

     

    มักมองแต่สิ่งดีๆของผู้อื่น

     

    มักเห็นใจทุกคนไปทั่ว

     

    มักจะพยายามช่วยเหลือคนอื่นอยากเต็มกำลัง

     

    ฉันไม่ได้เกลียดนิสัยแบบนั้นของนาย

     

    ทว่าบางครั้งก็ต้องยอมรับ

     

    ว่าไม่ชอบนิสัยแบบนั้นของนายเหมือนกัน

     

    เพราะมันมักจะพาปัญหามาให้นาย



     

    แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาดึกดื่นแล้วแต่กัปตันทีมอินาสึมะเจแปนกลับนอนไม่หลับทั้งที่ถ้าเป็นเวลาปกติยามนี้เจ้าตัวคงนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนที่นอนไปแล้ว

     

    จะบอกว่าที่นอนไม่หลับเพราะแปลกที่ก็ไม่ใช่ ห้องนอนห้องนี้ในบ้านของโกเอนจิเขาก็มาจนไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบจนคนในครอบครัวหมอนั่นจะเก็บห้องนี้ไว้ให้เขาใช้คนเดียวอยู่แล้ว สิ่งที่ทำให้เขานอนไม่หลับคือคำพูดของกัปตันอีกทีมหนึ่งต่างหาก

     

    เอนโดสลัดผ้าห่มบนตัวออกก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปเปิดหน้าต่างห้องนอน สายลมเย็นๆยามดึกพัดผ่านเข้ามาในห้องแต่มันไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มสบายใจขึ้นเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่ยังหาหนทางออกให้กับปัญหาครั้งนี้ไม่ได้เอนโดก็ยังไม่สบายใจขึ้นมาหรอก แต่ตอนนี้เขาพยายามคิดจนหัวแทบแตกแล้วก็ยังหาทางออกดีๆไม่เจอสักที

     

    แอด... เสียงประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันทำเอาเอนโดรีบหันไปมอง อันที่จริงคนเป็นกัปตันอยากจะหันหลังวิ่งกลับขึ้นเตียงห่มผ้าห่มแล้วแกล้งทำเป็นหลับไปเสียเลยเพราะเขารู้ว่าใครเป็นคนเปิดประตูเข้ามา คนที่จะเข้ามาหาเขาในตอนนี้มีไม่กี่คนหรอก อันที่จริงต้องบอกว่ามีคนเดียวเลยต่างหาก

     

    “ขอโทษที่ไม่ได้เคาะประตู” เด็กหนุ่มที่เข้ามาใหม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบด้วยท่าทางที่ไม่รู้สึกผิดตามคำพูดเลยแม้แต่น้อยก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามาในห้อง

     

    “แต่ถ้าเคาะประตู คงจะไม่ได้เห็นคนที่กังวลจนนอนไม่หลับแล้วมายืนรับลมเย็นตรงหน้าต่างแบบนี้หรอก” โกเอนจิพูดขณะมองคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างแล้วยิ้มแห้งๆมาให้ด้วยสายตาติดจะดุ

     

    เอนโดถึงกับเถียงคนตรงหน้าไม่ออก ก็จะไปเถียงได้ยังไงเล่าในเมื่อหมอนี่พูดถูกทุกอย่าง ถ้าโกเอนจิเคาะประตูละก็เขาคงจะรีบโดดขึ้นเตียงห่มผ้าห่มนอนไปแล้ว ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายมาจับได้หรอกว่าเขากังวลจนนอนไม่หลับแบบนี้

     

    สมกับเป็นโกเอนจิ พูดออกมาราวกับมีตาเห็นเลยนะว่าเขาคิดตะทำอะไร เพราะแบบนี้เขาถึงปิดบังอะไรคนๆนี้ไม่ค่อยได้เลย...ไม่ใช่สิคิดๆไปแล้วก็ไม่เห็นจะปิดบังได้เลยสักครั้ง

     

    “เอาละ...คราวนี้นายจะบอกได้หรือยังว่ากังวลอะไร” เด็กหนุ่มที่เข้ามาใหม่ถามกลับพร้อมสายตาคาดคั้น จับได้ถึงขนาดนี้แล้วหวังว่าเอนโดจะไม่หลบเลี่ยงโดยการไม่ตอบอีกหรอกนะ

     

    ต่อให้เขาจะรับรู้ถึงความกังวลและอารมณ์ความรู้สึกของเอนโดที่เปลี่ยนแปลงไปแทบจะในทันทีแต่เขาก็ไม่ได้เก่งถึงขนาดเดาได้หรอกว่าเอนโดกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่

     

    คนเป็นกัปตันทีมถอนหายใจแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาละยอมแพ้โกเอนจิจริงๆ

     

    “นี่...ถ้าเกิดวันซ้อมแข่งทีมเราแพ้ขึ้นมามันจะเป็นยังไง” ในที่สุดเอนโดก็ยอมเปิดปากถามออกมา มันไม่ได้เป็นการเปิดปากเล่าสาเหตุที่ทำให้เขากังวลแต่เขาอยากจะได้ทางออกของปัญหาในครั้งนี้ต่างหาก ขอแค่แนวทางก็ยังดี

     

    โกเอนจิขมวดคิ้วพลางมองคนพูดที่ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่ยอมหันมาสบตาเขาเลยสักนิด

     

    ไม่เหมือนเอนโดยามปกติ... ดาวยิงแห่งอินาสึมะเจแปนคิดกับตนเองอยู่เงียบๆ ความกังวลใจอะไรกันที่เกือบจะทำลายความมั่นใจและความมุ่งมั่นของกัปตันคนนี้ลงทั้งหมด เอนโดกำลังลืมฟุตบอลของตนเอง

     

    โกเอนจิเคยคิดกับตนเองว่าต่อให้คนอื่นลืมวิถีทางของตนเองแต่จะมีแค่เอนโดเท่านั้นแหละที่จะไม่ลืมและจะไม่ไขว่เขวในทางที่ตนเองเลือกเป็นอันขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะลืมไปว่าความจริงแล้วกัปตันคนนี้ก็หวั่นไหวและเอนเอียงเป็น

     

    นายที่ยึดมั่นในวิถีทางที่เลือกเดินมาตลอดกำลังลืมความมุ่งมั่นของตนเอง

     

    “ทำไมถึงพูดแบบนั้น” โกเอนจิพูดออกมาขณะมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา นายในตอนนี้ทำตัวไม่สมกับที่เป็นนายเลย นั่นยิ่งทำให้เขาอยากรู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้เอนโดมีท่าทางแบบนี้

     

    ก่อนการแข่งทุกครั้งนายไม่เคยบอกและไม่เคยเอ่ยถึงคำว่า แพ้ สักครั้ง สิ่งที่นายมีคือความมุ่งมั่นและสนุกมากกว่าใครๆ

     

    “นายคิดว่าถ้าพวกเราเล่นกันเต็มที่แล้วพวกเราจะแพ้งั้นหรือ” โกเอนจิไม่รู้หรอกนะว่าเอนโดกังวลกับเรื่องอะไรอยู่แต่ตอนนี้เขาควรจะเรียกเอนโดคนเดิมกลับมาก่อน เอนโดกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นของตนเองและกำลังทรยศฟุตบอลที่ตนเองเชื่อมั่นมาตลอด

     

    “หรือว่านายคิดจะแพ้ตั้งแต่แรก” พอสิ้นคำพูดนี้โกเอนจิก็เห็นท่าทางสะดุ้งนิดหน่อยของเอนโดก่อนคนตรงหน้าจะนิ่งไปอีกครั้ง

     

    เด็กหนุ่มที่เฝ้ามองกัปตันของทีมตนเองมาตลอดกำมือแน่นเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้น เขาไม่ชอบเอนโดในสภาพนี้เลยเพราะมันเหมือนกับว่าคนตรงหน้าไม่ใช่เอนโดที่เขารู้จักมาตั้งแต่แรก

     

    “นายคิดว่าฟุตบอลกำหนดว่าแพ้ชนะได้ตั้งแต่แรกงั้นหรือ...นั่นคือฟุตบอลที่แท้จริงของนายหรือเอนโด” โกเอนจิถามเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยเสียงที่ดังขึ้นมาอีกนิด คนที่เข้มแข็งแบบคนตรงหน้าไม่เหมาะกับท่าทางแบบนี้ เพราะฉะนั้นช่วยรู้ตัวสักที...ช่วยรู้ตัวว่าสิ่งที่นายกังวลอยู่นั้นเพียงแค่ใช้ฟุตบอลที่นายเชื่อมั่นมาตลอดก็จะสามารถผ่านไปได้อย่างแน่นอน

     

    เอนโดหันกลับมามองคนที่เข้ามายืนอยู่ข้างเขาแล้วกำลังพยายามเรียกสติเขาอยู่และมันได้ผล ฟุตบอลไม่ใช่สิ่งที่จะตัดสินได้ว่าแพ้ชนะตั้งแต่แรกหรอก

     

    “นั่นสินะโกเอนจิ” เอนโดพูดออกมาพร้อมกับดวงตาที่เริ่มเป็นประกายพร้อมรอยยิ้มกว้างที่ถูกส่งมาให้ รอยยิ้มที่สว่างของคนตรงหน้าบอกกับโกเอนจิว่าเอนโด มาโมรุที่เขารู้จักและชอบกลับมาแล้ว...แม้จะยังไม่เต็มร้อยก็ตาม

     

    “ฟุตบอลที่แท้จริงนะมันไม่มีทางกำหนดแพ้ชนะได้ก่อนจะแข่งหรอก มันต้องลองแข่งแล้วถึงจะรู้” ทว่าแค่ท่าทางร่าเริงของคนตรงหน้าตอนนี้ก็ทำให้โกเอนจิพอใจในระดับหนึ่งแล้ว ที่เหลือต้องค่อยๆต้อนถามให้รู้เรื่อง

     

     “ขอบใจนะโกเอนจิ” คนเป็นกัปตันพูดเสียงใสและเมื่อความกังวลหายไปความง่วงก็เข้ามาแทนที่เสียแล้ว

     

    เอนโดพาร่างที่สะลึมสะลือของตนเองไปที่เตียงก่อนจะล้มตัวลงนอนท่ามกลางสายตาเอ็นดูของดาวยิงแห่งอินาสึมะเจแปนที่ถูกทิ้ง โกเอนจิเดินเข้าไปดูคนที่ใช้เวลาไม่นานก็นอนหลับไปเรียบร้อย

     

    “พอหายกังวลก็นอนหลับสบายเลยนะ” แบบนี้แหละค่อยสมกับเป็นเอนโดหน่อย ถึงจะยังมีท่าทางกังวลเหลืออยู่นิดหน่อยแต่แค่นี้ก็ดีมากแล้ว

     

    “หวังว่านายจะไม่กลับไปเป็นแบบนั้นอีก” โกเอนจิพูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไปปล่อยให้คนเป็นกัปตันนอนหลับอย่างสบายใจเช่นทุกค่ำคืนที่ผ่านมา

     

    นายที่เป็นจุดศูนย์กลางวงกลม

     

    เมื่อใดที่ไปต่อไม่ไหว

     

    เมื่อใดที่นายล้มลง

     

    พวกเราที่ยืนอยู่รอบด้าน...

     

    จะคอยช่วยพยุงนายเอาไว้เอง

     

    เพราะนั่นแหละคือฟุตบอลของเรา





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×