คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 : คำข้อร้องของคู่แข่ง 100%
กัปตันแบบนาย...
ไม่เหมาะกับใบหน้าและท่าทางเป็นกังวลเลยสักนิด
นายเป็นคนบอกเองไม่ใช่หรือ...
ว่าถ้าคนเดียวไม่อาจทำได้
ก็ยังมีเพื่อนที่เหลือคอยช่วยอยู่
และก็ยังมีเพื่อนคนอื่นๆทำได้
เพราะนั่นคือฟุตบอลยังไงละ
แต่หลายครั้ง...
นายก็เหมือนกับจะลืมเลือนคำพูดของตนเองไป
แล้วก็ไปนั่งกังวลอยู่คนเดียว
ขอเพียงแค่นายเงยหน้าขึ้นมามอง
นายจะได้เห็น...
แผ่นหลังของพวกพ้อง
ที่จะยืนอยู่ตรงหน้านายไม่ไปไหน
และจะเป็นพลังให้นาย
ยามที่นายล้มลง...
“ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับนายหน่อยนะ” เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่กล่าวในขณะที่ดวงตายังจับจ้องอยู่ที่เอนโดคนเดียวไม่ไปไหน โกเอนจิยังไม่พูดอะไร เจ้าตัวเพียงยืนมองผู้มาใหม่อย่างพิจารณาอยู่ข้างเอนโดเท่านั้น
“นายเป็นใครละ” เอนโดถามออกมาอย่างเป็นมิตรตามนิสัยของเจ้าตัว หมอนี่ไม่เคยระแวงใครเลยสักคนแม้จะเป็นคนที่เพิ่งรู้จัดกันครั้งแรกก็ตาม
“ฉันเป็นกัปตันของทีมที่จะซ้อมแข่งกับนาย” เด็กหนุ่มร่างใหญ่พยายามรวบรัดตัดความ เขามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าจะมาพูดกับคนตรงหน้า
“นายมีอะไรหรือเปล่า” เมื่อเห็นท่าทางร้อนใจของคนตรงหน้าเอนโดก็รีบถามออกมาด้วยความกังวล
“ฉันอยากคุยกับนาย...” ผู้มาใหม่กล่าวแค่นั้นก็จะหันไปมองเด็กหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆกัปตันทีมอินาสึมะเจแปนนิดหนึ่งแล้วหันมาพูดกับเอนโดต่อ
“แค่นายเท่านั้น” มันเป็นคำพูดที่โกเอนจิไม่ชอบใจเสียเท่าไหร่ หมอนี่ต้องการอะไรกันแน่
“งั้นฉันจะยืนรออยู่ตรงนู้นแล้วกัน” โกเอนจิพูดแค่นั้นแล้วออกเดินนำไปก่อน
อันที่จริงเขาไม่มีความคิดจะให้สองคนนี้ได้พูดกันเป็นการส่วนตัวเลยแม้แต่น้อยเพราะเขาไม่ไว้ใจ กัปตันทีมของโรงเรียนที่จะต้องซ้อมแข่งกับพวกเขาอีกไม่กี่วันข้างหน้ามาหากัปตันทีมของเขาเนี่ยนะ คิดยังไงมันก็ออกจะแปลกไปหน่อยหรือเปล่า
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเดินออกมาก่อนคือสายตาขอร้องของเอนโด หมอนี่ก็เป็นแบบนี้ คิดจะเอาปัญหาของคนอื่นมาเป็นปัญหาของตนเองอีกแล้วละสิ แถมยังกันกลับมาทำสายตาขอร้องเขาแบบนั้นอีกแล้วจะให้เขาทนยืนอยู่ต่อไปได้ยังไง
ให้ตายเถอะ...ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรให้พูดคุยกันเพราะอีกฝ่ายคงต้องเอาปัญหามาโยนใส่กัปตันทางนี้แน่ๆ และแน่นอนด้วยนิสัยของเอนโดก็คงเก็บเอาปัญหาของอีกฝ่ายมานั่งกังวลแทนนั่นแหละ แต่นี่ยังถือว่าเป็นปัญหาเล็กน้อย สิ่งที่โกเอนจิกังวลจริงๆก็คือกลัวเอนโดจะทุ่มสุดตัวแบบเกินขอบเขตเพื่อช่วยอีกฝ่ายจนเองตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายนะสิ
อาจจะดูเหมือนเป็นห่วงเกินไปแต่ก็เพราะนิสัยของกัปตันเป็นแบบนั้นจริงๆแล้วจะไม่ให้เขาเป็นห่วงได้ยังไงละ
โกเอนจิหันไปมองกัปตันทั้งสองที่กำลังคุยกันอยู่แล้วได้แต่หวังในใจว่ามันคงจะไม่มีปัญหายุ่งยากตามมาหลังจากบทสนทนาครั้งนี้หรอกนะ เขาก็ได้แต่หวังแบบนั้นจริงๆ
ชอบนิสัยและการกระทำของนาย
เพราะมันทำให้ฉันสามารถยืนหยัดขึ้นได้อีกครั้ง
ชอบถ้อยคำปลอบใจของนาย
เพราะมันเป็นสิ่งที่มอบพลังให้กับทุกคน
แต่บางครั้งก็รู้สึกชิงชังมันนัก
เพราะนิสัยแบบนั้นของนาย
มักจะนำปัญหาใหญ่...
มาให้ตัวของนายเองเสมอ
“มาหาถึงที่นี่ นายมีอะไรอย่างนั้นหรือ” เอนโดถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ถึงขนาดไม่ยอมให้ใครอยู่ฟังบทสนทนาด้วยแบบนี้ปัญหาที่อยู่ในใจของอีกฝ่ายคงหนักอึ้งไม่น้อยเลยทีเดียว การที่ลงทุนมายืนรอเขานั่นหมายความว่าเขาอาจจะหาทางช่วยได้สินะ
“ฉันชอบฟุตบอลมาก...” อยู่ๆอีกฝ่ายก็เปรยขึ้นทำเอาเอนโดงุนงงไปเหมือนกัน ทำไมถึงพูดแบบนี้กับเขาละ ต้องการจะให้เขารู้อะไร
“ไม่ใช่แค่นั้น...ทุกคนในทีมของฉันก็ชอบฟุตบอล...ชอบจนไม่อยากจะเลิกเล่นเลยสักนิด” คนตรงหน้ายังคงกล่าวออกมา แม้ยังไม่เข้าใจเจตนาของอีกฝ่ายว่าต้องการอะไรแต่เอนโดก็ยังตั้งใจฟังโดยไม่พูดขัดขึ้น อาจจะเป็นเพราะดวงตาที่มองตรงมาเหมือนคนมีเรื่องทุกข์ใจมากมายของอีกฝ่ายก็เป็นได้
“นายเข้าใจความรู้สึกนี่ใช่ไหม” เด็กหนุ่มร่างใหญ่ถามกัปตันของทีมอินาสึมะเจแปน
“ฉันเข้าใจสิ...ฉันเองก็ชอบฟุตบอลมากเพราะฉะนั้นถึงเข้าใจความรู้สึกและเข้าใจความสนุกของฟุตบอล” เอนโดตอบให้พร้อมรอยยิ้ม เขาเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายดีเพราะชอบฟุตบอลเหมือนกันนะสิ ชอบจนไม่อยากจะเลิกเล่นเลย
“ฉันเองก็ไม่อยากจะเลิกเล่นฟุตบอลเหมือนกัน” เด็กหนุ่มร่างใหญ่พูดขณะที่ดวงตายังไม่ละออกจากร่างของเอนโด มาโมรุ
ใช่...ไม่ละไปไหนแม้แต่ตอนพูดถ้อยคำที่ทำเอากัปตันทีมอินาสึมะเจแปนแทบแข็งเป็นหินก็ตาม
“เพราะฉะนั้นช่วยแพ้พวกเราหน่อยได้ไหม!!”
นายชอบฟุตบอลใช่ไหมเอนโด
นายชอบมันมากใช่ไหม...
ชอบสิ...ฉันชอบฟุตบอล
ชอบมากขนาดอยากจะเล่นทุกเวลาเลยแหละ
งั้นก็อย่าได้ลังเลสิ...
อย่าได้ลังเลเวลาที่อยู่ในสนาม
อย่าได้ลังเลในเวลาที่ตัดสินใจอะไรลงไป
เพราะฉันเองก็เชื่อมั่นเหมือนกัน
เชื่อทั้งในฟุตบอลที่ตนเองรัก
เชื่อมั่นนายที่ทำให้ฉันกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง
เชื่อมั่นในความคิดของนาย
เชื่อมั่นในการกระทำของนาย
เชื่อมั่นในฟุตบอลของนาย
เพราะฉะนั้นตัวนายเอง...
ก็สมควรจะเชื่อมั่นตนเอง!!
หลังจากนั้นสิ่งที่โกเอนจิสัมผัสได้คือท่าทางที่เปลี่ยนไปของเอนโด ท่าทางในยามที่พูดกับอีกฝ่ายดูไม่เข้าใจ เป็นกังวลและหนักใจอย่างชัดเจน บ่งบอกได้เลยว่าเรื่องที่คุยกันไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แม้แต่ในยามที่อีกฝ่ายจากไปแล้วเอนโดก็ยังคงมีท่าทีที่ไม่ดีนักซึ่งมันทำให้เขาพลอยไม่สบายใจไปด้วย
“มีอะไรหรือเปล่า” โกเอนจิเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาและเอ่ยปากถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางไม่สบายใจของคนเป็นกัปตัน
“หา...เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ” ดูเหมือนว่าเอนโดจะเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขายืนอยู่ข้างๆจึงเอ่ยปากถามออกมาด้วยความงุนงง
“ฉันถามว่ามีอะไรหรือเปล่า” เด็กหนุ่มถามขึ้นอีกครั้ง เห็นท่าทางของกัปตันทีมเขาก็ยิ่งอยากรู้ว่าเมื่อกี้คนทั้งสองพูดคุยเรื่องอะไรกัน
“ไม่มีอะไรหรอก” เอโดกล่าวพร้อมรอยยิ้มหวังสร้างบรรยากาศใหม่ให้มาคลายบรรยากาศน่าอึกอัดของเมื่อครู่ทว่ามันช่างเป็นรอยยิ้มที่จืดชืดนัก จากที่คิดว่าจะทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดกลับยิ่งเผยความไม่สบายใจของตนเองมากว่าเดิมไปเสียได้
โกเอนจิมองอีกฝ่ายอย่างไม่สบายใจเท่าไหร่ ท่าทางฟ้องอยู่ชัดๆแบบนี้ยังจะกล้ามาบอกอีกนะว่าไม่มีอะไร และดูเหมือนว่าเอนโดเองก็จะรู้ตัวเหมือนกันว่าปิดบังอีกฝ่ายไม่มิดเพราะฉะนั้นรีบชิ่งหนีก่อนท่าจะดี
“ฉันว่าวันนี้ฉันคงไปบ้านนายไม่ได้แล้วละโกเอนจิ ฝากขอโทษและฝากความคิดถึงให้ยูกะจังด้วยนะ” เอนโดพูดออกมาอ่างรัวเร็วเป็นการตัดบทจบแล้วทำท่าจะเดินจากไปเพราะเขากลัวว่าถ้าขืนยังอยู่ใกล้หมอนี่มากๆมีหวังเขาได้เผยเรื่องกังวลใจออกมาทั้งหมดแน่ๆ ยิ่งโกเอนจิเป็นพวกจับทางอารมณ์เขาเก่งเสียด้วยสิ
แต่ดูเหมือนว่าเอนโดจะคิดง่ายไปหน่อยเพราะโกเอนจิไม่คิดจะปล่อยเขาไปง่ายๆหรอก
หมับ!!
แขนของคนเป็นกัปตันถูกคว้าไว้ด้วยมือแข็งแกร่งของคนเป็นลูกทีมชนิดไม่ยอมปล่อยให้ดิ้นหลุดไปแน่ๆ ดวงตาสีดำจริงจังสบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลราวกับจะคาดคั้นเอาคำตอบ โกเอนจิตัดสินใจกับตนเองตั้งแต่ที่เห็นท่าทางของเอนโดตั้งแต่เมื่อกี้แล้วว่าเขาจะต้องลากตัวหมอนี่กลับไปบ้านด้วยให้ได้และต่อให้เอนโดไม่อยากจะค้างที่บ้านเขาเขาก็จะทำให้ค้างเอง
เห็นท่าทางเป็นกังวลและหนักใจของคนๆนี้แล้วเขาจะปล่อยให้กัปตันคนนี้กลับบ้านไปพร้อมกับสภาพจิตใจแบบนี้ได้ยังไงกันละ
“นายกำลังปิดบังอะไรไว้กันแน่” โกเอนจิถามออกมาตรงๆ เขาไม่ชอบเห็นความกังวลของคนตรงหน้า เอนโดไม่เหมาะกับท่าทางหนักใจและเป็นกังวลแบบนี้หรอก
“ฉันไม่ได้ปิดบังอะไรนายสักหน่อย” คนเป็นกัปตันเถียงแม้จะรู้ดีที่สุดว่าตนเองนะหรือจะไปปิดบังอะไรคนตรงหน้าได้ในเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าเขาจับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของคนรอบข้างเก่งจะตาย
“ไม่ปิดบังแล้วหนีทำไม” ดาวยิงของทีมยังคงใช้เสียงราบเรียบไล่ต้อนกัปตันอย่างใจเย็น ยังไงเขาก็ไม่มีทางปล่อยคนตรงหน้าไปง่ายๆหรอก
“ไม่ได้หนีเสียหน่อย” คำพูดที่สวนกลับมาแทบจะในทันทีทำเอาโกเอนจิอยากจะส่ายหน้าด้วยความระอาเหลือเกิน หนีกันจะๆแบบนี้ยังหันมาเถียงได้อีกนะว่าไม่ได้หนี ไม่ได้ปิดบังอะไรเอาไว้ ดูท่าเขาต้องลากกลับบ้านไปด้วยกันเท่านั้นละมั้งถึงจะได้รู้อะไรขึ้นมาบ้าง
“ถ้าไม่ได้ปิดบัง ไม่ได้หนี งั้นก็ไปที่บ้านฉันละกัน” ไม่พูดเปล่าเด็กหนุ่มยังลากเอนโดที่โวยวายไปตลอดทางไปด้วยซึ่งผ่านไปไม่นานเสียงโวยวายนั่นก็เงียบลง อาจจะเพราะเจ้าตัวคงจะรู้ว่าต่อให้โวยวายต่อไปก็สู้คนที่กำลังลากเขาไปด้วยไม่ได้อยู่ดี
โกเอนจิมองคนที่กำลังเดินอยู่ข้างๆเขา ตอนแรกเขาชวนเอนโดมาที่บ้านโดยใช้ความสมัครใจของอีกฝ่ายเป็นคำตอบ แต่ตอนนี้ต่อให้อีกฝ่ายมาสมัครใจเขาก็จะเป็นคนบังคับให้มาเองและแน่นอนรวมถึงบังคับให้ค้างด้วย
หวังว่าการทำแบบนี้จะทำให้เขารู้ขึ้นมาบ้างนะว่าเอนโดกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่
นายที่มีท่าทางกังวลแบบนี้
ไม่สมกับที่เป็นนายเอาเสียเลย
นายจะรู้บ้างไหม...
ว่ายังมีใครอีกคน
ที่อดจะกังวลไปกับนายด้วยไม่ได้
ความคิดเห็น