ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FiC ReBoRn 1827

    ลำดับตอนที่ #2 : ฟากฟ้าที่ 1 : การกลับมาของเมฆา(แก้ไข)

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 63




    เมฆานั้นรักอิสระยิ่งกว่าสิ่งใด

     

    เมฆาล่องลอยไปเรื่อยๆตามใจ

     

    สิ่งใดอยากทำก็จะลงมือโดยมิฟังใคร

     

    สิ่งใดไม่อยากทำก็ไม่มีใครสามารถสั่งได้

     

    ทว่าต่อให้เมฆาล่องลอยไปไกลแค่ไหน

     

    เมฆาก็ยังต้องอยู่ใต้นภาไม่ใช่หรือ

     

    เมฆาก็ยังคงต้องหยุดพักอยู่บนนภา

     

    เพราะฉะนั้นหากไม่มีนภาแล้ว

     

    เมฆาก็ไม่มีวันอยู่ได้เช่นกัน

     

                ยามสายของวันนี้สึนะก็ยังคงนั่งทำงานอยู่ในห้องเหมือนเช่นเคย สึนะมักจะอยู่แต่ในปราสาทหรือไม่ก็ฐานทัพลับแห่งต่างๆของวองโกเล่ จะมีแค่เพียงบางครั้งเท่านั้นที่เขาจะแอบออกไปพักผ่อนคนเดียวเงียบๆ แม้ว่าการออกไปทุกครั้งสุดท้ายก็จะจบลงตรงที่ผู้พิทักษ์คนใดคนหนึ่งหาเขาเจอแล้วลากกลับมาที่ปราสาทก็ตาม แต่สึนะไม่คิดจะต่อว่าพวกเขาหรอกเพราะสึนะรู้ดีว่าพวกผู้พิทักษ์ต่างเป็นห่วงพวกเขาด้วยกันทั้งนั้น

     

    สึนะมองแหวนแห่งนภาที่เขาสวมเอาไว้พลางขยับยิ้มนิดๆ เขาควรจะขอบคุณใครดีที่ทำให้เขากลายมาเป็นผู้นำแห่งวองโกเล่รุ่นที่สิบ เป็นผู้นำที่มีผู้คนรายล้อมและคอยเป็นห่วง ทั้งยังได้อยู่ในแฟมิลี่ที่อบอุ่นแบบนี้

     

    ผู้พิทักษ์ทุกคนอาจจะเป็นห่วงและพร้อมจะปกป้องเขาทว่าคนพวกนั้นไม่รู้หรอกว่าในยามที่มีภัยเขาก็พร้อมที่จะวิ่งขึ้นไปยืนอยู่ข้างหน้าและกางปีกปกป้องพวกเขาเสมอ

     

    เพราะผมสัญญาว่าจะปกป้องแฟมิลี่นี้เอาไว้แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต นภานั้นจะแบกรับและโอบอุ้มทุกสรรพสิ่งและนภาจะเป็นเกราะป้องกันให้ทุกคนเสมอ

     

    คิดแล้วก็ขำนะ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คนอย่างเขา...คนที่ถูกประณามว่า ‘เจ้าห่วยสึนะ’ กลับกลายมาเป็นท้องนภาที่ให้ที่พักพิงกับทุกคนในแฟมิลี่

     

    ผู้นำรุ่นที่สิบแห่งวองโกเล่วางปากกาในมือลงหลังจากทำงานทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว สึนะลุกจากโต๊ะแล้วเดินไปนั่งโซฟาในห้องพลางนึกถึงงานต่อไปที่จะต้องทำ รู้สึกว่าอีกสองวันจะมีงานเลี้ยงพบปะของหัวหน้ามาเฟียแต่ละแฟมิลี่และมันเป็นงานใหญ่ที่เขาปฏิเสธไม่ได้

     

    คิดมาถึงตรงนี้เขากลับรู้สึกคิดถึงผู้พิทักษ์คนสุดท้ายเสียจริง ที่เขาไม่ถามและยามาโมโตะกับโกคุเทระไม่บอกว่าผู้พิทักษ์แห่งเมฆานั้นอยู่ไหนก็เพราะมันเปล่าประโยชน์ ไม่มีใครรู้หรอกว่าเมฆาอยู่ที่ไหนเพราะคนๆนั้นมักล่องลอยไปเรื่อยไม่เคยอยู่เป็นหลักแหล่ง แม้แต่เขาที่เป็นบอสก็ยังไม่รู้

     

    เพราะเมฆาไม่มีวันอยู่กับที่ทว่าสักวันเมฆาก็ต้องหยุดพัก

     

    ใช่ต้องมีสักวันที่เมฆาที่แสนแข็งแกร่งต้องเหนื่อยล้า

     

    เพราะฉะนั้นเมฆาก็ต้องกลับมาหยุดพักที่ท้องนภา

     

    แอ๊ด เสียงเปิดประตูโดยไม่เคาะดังขึ้นทำเอาคนในห้องหันไปมองอย่างไม่ชอบใจ แต่ร่างเล็กก็ต้องเลิกคิ้วอย่างไม่อยากเชื่อเมื่อเห็นผู้มาเยือน

     

    ร่างสูงของคนที่เขาเพิ่งคิดถึงไปเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางสบายๆ ผมสีนิลที่เคยละต้นคอดูจะสั่นลงนิดหนึ่ง ดวงตาสีนิลนั้นยังคมกริบเช่นเดิมทำให้รู้สึกเหมือนสัตว์กินเนื้อที่กำลังจับจ้องเหยื่อแต่ทว่าตอนนี้สึนะก็ไม่ใช่สัตว์กินพืชอ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่เป็นสัตว์กินเนื้อที่มีความสามารถเทียบเท่าคนตรงหน้า

     

    “สวัสดีครับคุณฮิบาริ” สึนะทักทายออกมาพร้อมรอยยิ้ม เขาไม่เกรงกลัวคนตรงหน้าเหมือนแต่ก่อนแล้ว ฮิบาริ เคียวยะมองร่างที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวนุ่มก่อนเดินเข้าไปหา

     

    “ว่าแต่คุณไปไหนมาหรอครับ” สึนะยังคงถามออกมาแม้จะรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่ตอบคำถามของเขาก็เถอะ

     

    “คุณจะรู้ไปทำไม” เสียงห้วนถามกลับขณะค่อยๆนั่งลงข้างๆบอสของตน สึนะหน้าเสียไปเล็กน้อยแต่ก็ยังควบคุมท่าทางที่แสดงออกของตนเองได้ดี เขาจะอ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้วในเมื่อเขาคือผู้นำ เมื่อสึนะเงียบไปเพราะไม่มีอะไรจะถามฮิบาริกลับเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเสียเอง

     

    “เอาเถอะ รู้ว่าผมไปจัดการพวกสัตว์กินพืชก็พอ” ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาพูดออกไปแบบนั้นแต่เขาก็รู้สึกดีเมื่อเห็นรอยยิ้มของสึนะ

     

    เขาไม่อยากให้คนๆนี้รู้หรอกว่าเขาไปมีเรื่องหรือขย้ำพวกไหนมาเพราะคนๆนี้คงต้องเป็นห่วงและเตือนเขาว่าอย่าทำอีกแน่ ครั้งที่ผ่านมาก็ลุยเดี่ยวออกไปจัดการกับศัตรูของเขาเพียงเพราะไม่อยากให้เขาต้องฆ่าใคร

     

    แต่นี่แหละคือสิ่งที่เขาเกลียด ทั้งที่ไม่อยากฆ่า ทั้งที่อ่อนโยน ทั้งที่อ่อนแอขนาดนี้  แต่นภาผืนนี้ก็ยังกางแขนออกเพื่อปกป้องทุกคนในแฟมิลี่ เพราะฉะนั้นเมฆาจึงสาบาน

     

    เมฆาที่ล่องลอยไปเรื่อยๆยังจะอยู่คู่นภา

     

    ต่อให้รักอิสระเพียงใดเขาก็ยังคงคิด...

     

    นภาเป็นของของเขา นภาคือคนของเขา

     

    หากใครทำให้นภาของเขาแปดเปื้อน

     

    มันผู้นั้นต้องชดใช้ด้วยชีวิต!!!

     

    “ว่าแต่คุณกลับมาช่วงนี้ทำไมหรือครับ” สึนะถามออกมาอีกด้วยความอยากรู้ เพราะเมฆาตามตัวได้ยากมากแต่เมื่อใดที่พวกเราต้องการตัวเขา เขาจะกลับมาทันที ราวกับว่าเขาเฝ้าดูพวกเราอยู่ตลอดเวลา

     

    “อีกสองวันคุณต้องไปประชุมไม่ใช่หรือ” ฮิบาริถามกลับทำให้บอสแห่งวองโกเล่คิดได้ ผู้พิทักษ์แห่งเมฆานั้นคือผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในวองโกเล่ทว่าเขาก็เกลียดการสุมหัวยิ่งนัก เพราะแบบนี้คุณฮิบาริถึงไม่ยอมเข้าร่วมการประชุม ยกเว้นมันเป็นการประชุมที่สำคัญจนไม่อาจเลี่ยงหรือไม่ก็เป็นการประชุมที่สึนะเข้าร่วมด้วย เพราะแบบนี้ถึงกลับมาสินะครับ

     

    “ว่าแต่ฮิเบิร์ดหายไปไหนครับ” สึนะถามหานกน้อยสีเหลืองที่ฮิบาริเลี้ยงไว้ ปกติถ้าฮิบาริมาหาเขาฮิเบิร์ดก็ต้องมาเกาะและเล่นกับเขาแล้ว

     

    “ไปสืบข้อมูล” ฮิบาริบอกออกไปก่อนจะเอนหลังพิงไปกับโซฟา ดวงตาสีนิลค่อยๆหลับลงเตรียมจะเข้าสู่นิทรา เพราะเมฆาจะหยุดพักบนนภาเท่านั้น

     

    “สืบข้อมูล? สืบข้อมูลอะไรครับ” สึนะถามอย่างสงสัยทว่าผู้พิทักษ์แห่งเมฆาก็ไม่ยอมตอบ

     

    “คุณฮิบาริสืบข้อมูลอะไร” เสียงที่เคยสุภาพของบอสแห่งวองโกเล่เริ่มเข้มขึ้นจนฮิบาริสัมผัสได้ ผู้พิทักษ์แห่งเมฆาลืมตาขึ้นมาสบตากับดวงตาสีน้ำตาลที่แสดงถึงความกดดันและทรงอำนาจ นี่แหละสัตว์กินเนื้อที่เขารู้จัก สัตว์กินเนื้อที่ชื่อ ซาวาดะ ซึนะโยชิ

     

    “หุบปากน่าสึนะโยชิ จะสืบหาอะไรมันก็เรื่องของผม” ฮิบาริตวาด เรื่องอะไรเขาจะยอมบอกหมอนี่ด้วย จะบอกไม่ได้เด็ดขาดว่ามีแฟมิลี่ไหนบ้างต้องการหัวของวองโกเล่รุ่นที่สิบ เพราะหากบอกออกไปร่างเล็กนี่คงวิ่งไปหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเป็นแน่

     

    “ต่อให้ใช้กำลังผมก็ไม่บอกคุณ” ฮิบาริบอกเพราะเขาเคยปะทะกับสึนะมาหลายครั้งแล้วและผลคือกินกันไม่ลง แม้จะโกรธทว่าสึนะก็ไม่คิดจะใช้กำลังเพราะหากอีกฝ่ายพูดถึงขนาดนี้ยังไงก็ไม่ยอมบอกแน่

     

    “ไม่ต้องบอกก็ได้ครับ เพราะยังไงคุณก็ไม่ใช่คนที่จะเผยความลับให้คนอื่นรู้อยู่แล้ว”

     

    เมฆาก็คือเมฆา

     

    ยังคงเป็นเมฆาที่เอาแต่ใจและไร้ข้อผูกมัด

     

    แม้แต่ท้องฟ้าที่เขายอมรับก็อย่าได้มาออกคำสั่งกับเขา

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×