ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Inazuma eleven {Goenji Shuya X Endou Mamoru} YAOI

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 : จุดเริ่มต้นของเรื่องราว

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 57


     

    บางที...

     

    สิ่งที่ทำให้ฉันยังคงเล่นฟุตบอลมาจนถึงตอนนี้

     

    ก็คงเพราะฟุตบอลที่ฉันรัก

     

    และความเชื่อมั่นของนาย

     

    ฉันจึงได้มั่นใจ

     

    ว่าตราบใดที่นายยังคงอยู่ตรงนี้ด้วยกัน

     

    ทั้งฉันทั้งนาย

     

    จะสามารถ...

     

    เดินไปด้วยกัน

     

    ไกลกว่านี้อย่างแน่นอน

     

    เพราะฉะนั้น...

     

    ไม่ว่าวันนี้...

     

    หรือวันพรุ่งนี้...

     

    เราจะเดินไปด้วยกัน

     

    เรื่องราวทั้งหมดมันเริ่มต้นขึ้นหลังจากการฝึกซ้อมตามปกติในช่วงเย็นของวันหนึ่ง

     

    จะมีการซ้อมแข่งกับทีมโรงเรียนอื่นอย่างนั้นหรือครับ กัปตันทีมทวนคำพูดที่ได้ยินมาจากโค้ชคุโดด้วยท่าทางตื่นเต้น ดวงตาของเด็กหนุ่มเป็นประกายบ่งบอกว่าเจ้าตัวอยากให้เวลานั้นมาถึงมากแค่ไหน

     

    ดีจังเลยนะเอนโด คิโดพูดออกมาเมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นจนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่ของเพื่อนรัก เขาไม่หวั่นใจอยู่แล้วไม่ว่าจะต้องแข่งกับทีมไหนเพราะตราบใดที่ทุกคนยังเป็นหนึ่งเดียวกันเจ้าตัวเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดีแน่ๆ

     

    ฉันละอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆจังเลย คนเป็นกัปตันแทบจะกระโดดโลดเต้นไปรอบๆอยู่แล้ว ลูกทีมคนอื่นต่างพากันหัวเราะเมื่อเห็นท่าทีของคนเป็นกัปตันแม้แต่โกเอนจิ ชูยะก็ยังอดยิ้มออกมาหน่อยๆไม่ได้ นิสัยร่าเริมแบบนี้นี่แหละถึงจะสมกับเป็นเอนโด มาโมรุ

     

    ฉันยังบอกไม่หมด คำพูดของคนเป็นโค้ชเรียกความสนใจของลูกทีมทุกคนให้กลับไปสนใจตนได้ดี ทุกคนต่างเงียบและตั้งใจฟังเมื่อเห็นท่าทางเคร่งเครียดของโค้ชคุโดที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา

     

    ถ้าพวกเธอแพ้พวกเธอคงรู้ใช่ไหมว่าสิทธิที่จะได้ไปแข่งระดับโลกจะถูกเปลี่ยนมือทันที สิ้นคำพูดของโค้ชทุกคนต่างก็นิ่งเงียบ ทั้งอึ้งทั้งตกใจ

     

    หา...ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้ละ โคงุเระ ยูยะโวยวายออกมาทันทีอย่างไม่ชอบใจ อีกไม่นานพวกเขาที่เป็นตัวแทนญี่ปุ่นก็จะไปแข่งอยู่แล้ว

     

    นะ...ไหนบอกว่าแค่ซ้อมแข่งไงละ คาเบยามะ เฮย์โกโร่ถามออกมาเสียงสั่นๆ แบบนี้มันแค่ซ้อมแข่งตรงไหนกัน

     

    มันเป็นข้อต่อรองของทางนั้น โค้ชคุโดยังคงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบและท่าทางที่ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม คนๆนี้ไม่มีท่าทางตกใจหรือกังวลใจเลยสักนิด

     

    คิโดมองคนที่เป็นโค้ชของพวกเขาอย่างครุ่นคิด อีกไม่นานพวกเขาก็ต้องไปแข่งกันแล้วโค้ชคุโดไม่กลัวว่าจะมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นงั้นหรือ แปลว่าการแข่งในครั้งนี้จะต้องมีเหตุผลอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังแน่ๆ

     

    ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย เสียงของกัปตันทีมดังแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางเป็นกังวลของลูกทีม

     

    จะยังไงก็ช่าง ขอแค่เล่นให้เต็มที่จะได้ไม่เสียใจทีหลังแล้วก็สนุกกับมันก็พอแล้ว เอนโดพูดออกมาด้วยท่าทางมุ่งมั่นก่อนจะยิ้มให้ทุกคนด้วยท่าทางร่าเริงไม่เปลี่ยน ดูท่านอกจากโค้ชแล้วก็มีกัปตันเนี่ยแหละที่ไม่รู้สึกกังวล

     

    ก็นี่คือฟุตบอลของทุกคนนี่นา... มันเป็นคำพูดที่ทุกคนต่างยิ้มออกมาและพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของคนเป็นกัปตัน

     

    โกเอนจิมองภาพนั้นแล้วนึกชื่นชม เพียงแค่คำพูดไม่กี่ประโยตของเอนโดกลับทำให้ท่าทางและอารมณ์ของทุกคนเปลี่ยนไปได้มากจริงๆ

     

    เพราะฉะนั้นถึงได้เชื่อมั่น...

     

    ว่าถ้ามีนายอยู่ตรงนี้ละก็...

     

    พวกเราจะไม่มีวันล้มลง

     

    แม้ว่าจะเหนื่อยเพียงใดก็ตาม

     

    หลังจากการซ้อมตอนเย็นเสร็จก็ถึงเวลาแยกย้ายกันกลับบ้าน เอนโดและโกเอนจิต่างเดินออกจากโรงเรียนเพื่อจะกลับบ้านด้วยกันตามปกติ

     

    อยากให้ถึงวันซ้อมแข่งเร็วๆจัง เอนโดพูดด้วยท่าทางตื่นเต้นจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่

     

    นั่นสิ และคนที่เดินอยู่ข้างๆก็ทำได้แต่พูดเห็นด้วยเท่านั้น เห็นท่าทางตื่นเต้นแบบนั้นโกเอนจิเองก็ทำได้เพียงยิ้ม ใครจะไปกล้าขัดความสุขของหมอนี่ลงเล่า คนที่ไม่เคยเดือดร้อนเรื่องการแข่งขันดูเหมือนว่าจะมีเพียงหมอนี่คนเดียวละมั้ง

     

    วันนี้นายจะมาค้างที่บ้านไหม โกเอนจิถามอีกฝ่ายที่เดินถือลูกบอลอยู่ข้างๆ

     

    ฮืม... เอนโดหันหน้ากลับมามองคนพูดอย่างสนใจ ไปบ้านหมอนี่นะหรือ...

     

    ยูกะเองก็อยากเจอนาย เห็นบ่นมาหลายวันแล้วคงจะเหงาละมั้ง เพราะช่วงนี้ซ้อมหนักทั้งเช้าและเย็นเอนโดเลยไม่ได้ไปเที่ยวบ้านเขาเหมือนอย่างเคยทำให้น้องสาวของเขามักบ่นหาตลอดเพราะถ้าเอนโดไปนั่นหมายความว่ายูกะจะได้เพื่อนเล่นที่ถูกใจจนบางครั้งก็เกือบจะลืมพี่อย่างเขาไปเลยก็มี ทำยังไงได้ละก็คนร่าเริงแบบหมอนี่ดันเข้ากับน้องของเขาได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะสิ

     

    ยูกะจังเหรอ... ไปสิ ฉันเองก็คิดถึงน้องสาวคนนั้นเหมือนกัน เอนโดตกลงแทบจะในทันที จะว่าไปช่วงนี้เขาก็ไม่ได้เจอยูกะเลยจริงๆนั่นแหละ

     

    ไปถึงที่บ้านฉันก็โทรไปบอกที่บ้านด้วยละว่าจะกลับดึกหรือไม่ก็ค้าง เดี๋ยวทางบ้านจะเป็นห่วงเอา โกเอนจิเตือนเพราะกลัวเอนโดจะลืมโทรกลับบ้านอีก พอเล่นกับยูกะเพลินก็เห็นลืมทุกที

     

    วันนี้คงไม่ได้ค้างหรอก เอนโดพูดออกมาส่วนโกเอนจิก็ไม่ได้ตอบรับอะไร

     

    เห็นเอนโดพูดแบบนี้ทีไรก็ต้องค้างบ้านของเขาทุกที ไม่ว่าจะเพราะเล่นกับยูกะจนลืมเวลาหรือไม่ก็เล่นกันจนเหนื่อยแล้วหลับไปทั้งคู่สุดท้ายก็ร้อนถึงเขาที่ต้องโทรไปบอกทางบ้านของอีกฝ่ายว่าเจ้าตัวจะอยู่ค้างที่นี่ โทรไปจนแม่ของเอนโดที่มารับโทรศัพท์พอได้ยินว่าเป็นเสียงของเขาก็รีบพูดฝากลูกชายตนเองโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดเลยสักนิดว่าวันนี้เอนโดจะค้างที่นี่ สงสัยคงจะชินไปแล้วละมั้ง

     

    แต่ในขณะที่เอนโดและโกเอนจิกำลังเดินผ่านสนามฟุตบอลริมแม่น้ำอยู่นั้นก็มีเด็กหนุ่มร่างใหญ่คนหนึ่งเดินตรงเข้ามาขวางทางเอาไว้

     

    นายคือเอนโด มาโมรุใช่ไหม ผู้มาใหม่ถามออกมาพลางจ้องเจ้าของชื่อไม่วางตา

     

    ใช่ เอนโดพยักหน้าตอบอีกฝ่ายในขณะที่โกเอนจิมองผู้มาใหม่อย่างระแวง

     

    ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายหน่อยนะ...

     

    เพราะว่ามีนายอยู่ตรงนี้...

     

    ถึงทำให้ฉัน...

     

    สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้ใหม่

     

    และทำให้ฉัน...

     

    มีวันนี้...








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×