คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 : จุดเริ่มต้นของเรื่องราว
บางที...
สิ่งที่ทำให้ฉันยังคงเล่นฟุตบอลมาจนถึงตอนนี้
ก็คงเพราะฟุตบอลที่ฉันรัก
และความเชื่อมั่นของนาย
ฉันจึงได้มั่นใจ
ว่าตราบใดที่นายยังคงอยู่ตรงนี้ด้วยกัน
ทั้งฉันทั้งนาย
จะสามารถ...
เดินไปด้วยกัน
ไกลกว่านี้อย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้น...
ไม่ว่าวันนี้...
หรือวันพรุ่งนี้...
เราจะเดินไปด้วยกัน
เรื่องราวทั้งหมดมันเริ่มต้นขึ้นหลังจากการฝึกซ้อมตามปกติในช่วงเย็นของวันหนึ่ง
“จะมีการซ้อมแข่งกับทีมโรงเรียนอื่นอย่างนั้นหรือครับ” กัปตันทีมทวนคำพูดที่ได้ยินมาจากโค้ชคุโดด้วยท่าทางตื่นเต้น ดวงตาของเด็กหนุ่มเป็นประกายบ่งบอกว่าเจ้าตัวอยากให้เวลานั้นมาถึงมากแค่ไหน
“ดีจังเลยนะเอนโด” คิโดพูดออกมาเมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นจนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่ของเพื่อนรัก เขาไม่หวั่นใจอยู่แล้วไม่ว่าจะต้องแข่งกับทีมไหนเพราะตราบใดที่ทุกคนยังเป็นหนึ่งเดียวกันเจ้าตัวเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดีแน่ๆ
“ฉันละอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆจังเลย” คนเป็นกัปตันแทบจะกระโดดโลดเต้นไปรอบๆอยู่แล้ว ลูกทีมคนอื่นต่างพากันหัวเราะเมื่อเห็นท่าทีของคนเป็นกัปตันแม้แต่โกเอนจิ ชูยะก็ยังอดยิ้มออกมาหน่อยๆไม่ได้ นิสัยร่าเริมแบบนี้นี่แหละถึงจะสมกับเป็นเอนโด มาโมรุ
“ฉันยังบอกไม่หมด” คำพูดของคนเป็นโค้ชเรียกความสนใจของลูกทีมทุกคนให้กลับไปสนใจตนได้ดี ทุกคนต่างเงียบและตั้งใจฟังเมื่อเห็นท่าทางเคร่งเครียดของโค้ชคุโดที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา
“ถ้าพวกเธอแพ้พวกเธอคงรู้ใช่ไหมว่าสิทธิที่จะได้ไปแข่งระดับโลกจะถูกเปลี่ยนมือทันที” สิ้นคำพูดของโค้ชทุกคนต่างก็นิ่งเงียบ ทั้งอึ้งทั้งตกใจ
“หา...ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้ละ” โคงุเระ ยูยะโวยวายออกมาทันทีอย่างไม่ชอบใจ อีกไม่นานพวกเขาที่เป็นตัวแทนญี่ปุ่นก็จะไปแข่งอยู่แล้ว
“นะ...ไหนบอกว่าแค่ซ้อมแข่งไงละ” คาเบยามะ เฮย์โกโร่ถามออกมาเสียงสั่นๆ แบบนี้มันแค่ซ้อมแข่งตรงไหนกัน
“มันเป็นข้อต่อรองของทางนั้น” โค้ชคุโดยังคงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบและท่าทางที่ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม คนๆนี้ไม่มีท่าทางตกใจหรือกังวลใจเลยสักนิด
คิโดมองคนที่เป็นโค้ชของพวกเขาอย่างครุ่นคิด อีกไม่นานพวกเขาก็ต้องไปแข่งกันแล้วโค้ชคุโดไม่กลัวว่าจะมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นงั้นหรือ แปลว่าการแข่งในครั้งนี้จะต้องมีเหตุผลอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังแน่ๆ
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย” เสียงของกัปตันทีมดังแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางเป็นกังวลของลูกทีม
“จะยังไงก็ช่าง ขอแค่เล่นให้เต็มที่จะได้ไม่เสียใจทีหลังแล้วก็สนุกกับมันก็พอแล้ว” เอนโดพูดออกมาด้วยท่าทางมุ่งมั่นก่อนจะยิ้มให้ทุกคนด้วยท่าทางร่าเริงไม่เปลี่ยน ดูท่านอกจากโค้ชแล้วก็มีกัปตันเนี่ยแหละที่ไม่รู้สึกกังวล
“ก็นี่คือฟุตบอลของทุกคนนี่นา...” มันเป็นคำพูดที่ทุกคนต่างยิ้มออกมาและพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของคนเป็นกัปตัน
โกเอนจิมองภาพนั้นแล้วนึกชื่นชม เพียงแค่คำพูดไม่กี่ประโยตของเอนโดกลับทำให้ท่าทางและอารมณ์ของทุกคนเปลี่ยนไปได้มากจริงๆ
เพราะฉะนั้นถึงได้เชื่อมั่น...
ว่าถ้ามีนายอยู่ตรงนี้ละก็...
พวกเราจะไม่มีวันล้มลง
แม้ว่าจะเหนื่อยเพียงใดก็ตาม
หลังจากการซ้อมตอนเย็นเสร็จก็ถึงเวลาแยกย้ายกันกลับบ้าน เอนโดและโกเอนจิต่างเดินออกจากโรงเรียนเพื่อจะกลับบ้านด้วยกันตามปกติ
“อยากให้ถึงวันซ้อมแข่งเร็วๆจัง” เอนโดพูดด้วยท่าทางตื่นเต้นจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่
“นั่นสิ” และคนที่เดินอยู่ข้างๆก็ทำได้แต่พูดเห็นด้วยเท่านั้น เห็นท่าทางตื่นเต้นแบบนั้นโกเอนจิเองก็ทำได้เพียงยิ้ม ใครจะไปกล้าขัดความสุขของหมอนี่ลงเล่า คนที่ไม่เคยเดือดร้อนเรื่องการแข่งขันดูเหมือนว่าจะมีเพียงหมอนี่คนเดียวละมั้ง
“วันนี้นายจะมาค้างที่บ้านไหม” โกเอนจิถามอีกฝ่ายที่เดินถือลูกบอลอยู่ข้างๆ
“ฮืม...” เอนโดหันหน้ากลับมามองคนพูดอย่างสนใจ ไปบ้านหมอนี่นะหรือ...
“ยูกะเองก็อยากเจอนาย เห็นบ่นมาหลายวันแล้วคงจะเหงาละมั้ง” เพราะช่วงนี้ซ้อมหนักทั้งเช้าและเย็นเอนโดเลยไม่ได้ไปเที่ยวบ้านเขาเหมือนอย่างเคยทำให้น้องสาวของเขามักบ่นหาตลอดเพราะถ้าเอนโดไปนั่นหมายความว่ายูกะจะได้เพื่อนเล่นที่ถูกใจจนบางครั้งก็เกือบจะลืมพี่อย่างเขาไปเลยก็มี ทำยังไงได้ละก็คนร่าเริงแบบหมอนี่ดันเข้ากับน้องของเขาได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะสิ
“ยูกะจังเหรอ... ไปสิ ฉันเองก็คิดถึงน้องสาวคนนั้นเหมือนกัน” เอนโดตกลงแทบจะในทันที จะว่าไปช่วงนี้เขาก็ไม่ได้เจอยูกะเลยจริงๆนั่นแหละ
“ไปถึงที่บ้านฉันก็โทรไปบอกที่บ้านด้วยละว่าจะกลับดึกหรือไม่ก็ค้าง เดี๋ยวทางบ้านจะเป็นห่วงเอา” โกเอนจิเตือนเพราะกลัวเอนโดจะลืมโทรกลับบ้านอีก พอเล่นกับยูกะเพลินก็เห็นลืมทุกที
“วันนี้คงไม่ได้ค้างหรอก” เอนโดพูดออกมาส่วนโกเอนจิก็ไม่ได้ตอบรับอะไร
เห็นเอนโดพูดแบบนี้ทีไรก็ต้องค้างบ้านของเขาทุกที ไม่ว่าจะเพราะเล่นกับยูกะจนลืมเวลาหรือไม่ก็เล่นกันจนเหนื่อยแล้วหลับไปทั้งคู่สุดท้ายก็ร้อนถึงเขาที่ต้องโทรไปบอกทางบ้านของอีกฝ่ายว่าเจ้าตัวจะอยู่ค้างที่นี่ โทรไปจนแม่ของเอนโดที่มารับโทรศัพท์พอได้ยินว่าเป็นเสียงของเขาก็รีบพูดฝากลูกชายตนเองโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดเลยสักนิดว่าวันนี้เอนโดจะค้างที่นี่ สงสัยคงจะชินไปแล้วละมั้ง
แต่ในขณะที่เอนโดและโกเอนจิกำลังเดินผ่านสนามฟุตบอลริมแม่น้ำอยู่นั้นก็มีเด็กหนุ่มร่างใหญ่คนหนึ่งเดินตรงเข้ามาขวางทางเอาไว้
“นายคือเอนโด มาโมรุใช่ไหม” ผู้มาใหม่ถามออกมาพลางจ้องเจ้าของชื่อไม่วางตา
“ใช่” เอนโดพยักหน้าตอบอีกฝ่ายในขณะที่โกเอนจิมองผู้มาใหม่อย่างระแวง
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายหน่อยนะ...”
เพราะว่ามีนายอยู่ตรงนี้...
ถึงทำให้ฉัน...
สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้ใหม่
และทำให้ฉัน...
มีวันนี้...
ความคิดเห็น