คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : The Love Of Hurt : Chapter 1....Begin
เมื่อแสงแดดสีส้มอุ่นสาดส่องผ่านเข้ามาในห้องทำให้หญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ แววตาของเธอนั้นเป็นแววตาที่แฝงไปด้วยความเศร้าราวกับว่าเธอพึ่งจะเจอสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจ สิ่งที่เจ็บปวด และสิ่งที่มันยังคงฝังอยู่ข้างในใจอย่างไม่มีวันลืมเลือน ร่างบางค่อยๆใช้มือทั้งสองดันร่างของเธอให้ลุกขึ้นจากเตียงและไม่นานนักเสียงของใครบอกคนก็ได้ดังขึ้น
“คุณหนูครับ ลงไปทานข้าวเช้าได้แล้วครับ” เสียงของชายหนุ่มผู้หนึ่งได้บอกกับหญิงสาวที่อยู่ข้างในห้องผ่านทางประตู พอพูดจบชายหนุ่มผู้นี้ก็เดิมกลับไป ส่วนคนที่อยู่ในห้องก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูสีขาวที่แขวนไว้ที่ราว แล้วเดินก้าวเท้าเข้าไปที่ห้องอาบน้ำอย่างช้าๆโดยที่ไม่ได้รีบร้อนอะไรมากนัก
ไม่นานนักร่างบางก็ได้อาบน้ำเสร็จ เธอเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่รอบตัว หยดน้ำใสๆหยดลงบนทางเดินตามรอยทาง มือเรียวยาวได้เปิดตู้เสื้อผ้าออกแล้วหยิบเอาชุดนักเรียนสีขาวสะอาดออกมาใส่ เธอค่อยๆติดกระดุมเสื้อทีละเม็ดจนเม็ดสุดท้าย เธอจึงหยิบกระโปรงลายสก็อตสีแดงตัดกับสีชมพูออกมาใส่พร้อมกับจัดระเบียบร่างกายให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อย พอร่างบางทำกิจวัตรทั้งหมดเสร็จ เธอจึงเดินลงไปที่ห้องรับประทานอาหารที่มีโต๊ะเพียงพอสำหรับคนหลายคน บนโต๊ะนั้นถูกประดับไปด้วยแจกันดอกไม้และผ้าปูโต๊ะสีขาวสายลูกไม้พร้อมกับอาหารเช้าที่ถูกจัดไว้
“ดีใจมั๊ยล่ะ ได้อยู่ที่มาอยู่กับคุณท่านที่บ้านหลังนี้?” ชายหนุ่มอายุวัยกลางคนที่อยู่ตรงโต๊ะอาหารได้เอ่ยถามร่างบางที่พึ่งเดินลงมาจากห้อง แต่คำถามนี้ก็เหมือนกับพูดไปกับสายลม ในเมื่อผู้ถูกถามกลับเงียบ นิ่งเฉย ไม่คิดที่จะตอบหรือฟังคำถามนั้นเลยด้วยซ้ำ
“นี่ ฉันถามเธอได้ยินไหม?” คำถามนี้ได้ถูกพูดออกมาจากปากของชายที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แต่มันก็เป็นเช่นเดิม ผู้ถูกถามกลับทำเหมือนหูทวนลม เธอไม่ฟังคำถามนั้นสักนิดเลย เธอกลับเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อย่างนึกนะว่าเธอเป็นหลานของคุณท่านแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรแก!” ร่างใหญ่ได้พูดจาออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังพร้อมกับใช้มือทุบโต๊ะอาหารอย่างหมดความอดทนที่ร่างบางไม่ยอมตอบคำถามอะไรสักอย่างเลย
“ทิฟฟานี่!” เสียงของคนที่หมดความอดทนได้เรียกชื่อของร่างบางออกมา
‘ทิฟฟานี่’นั้นพึ่งถูกย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ เหตุผลที่เธอต้องมาอยู่ที่นี่ก็เพราะว่าแม่ของเธอถูกยิง กระสุนถูกเข้าไปโดนที่หัวใจทำให้ตายทันที ทิฟฟานี่จึงต้องย้ายมาอยู่ที่นี่อย่างกระทันหัน
“อ ะ ไ ร...” และนี่คือคำพูดคำแรกที่ทิฟฟานี่พูดตอบกลับไปหลังจากที่ถูกถามแบบซ้ำๆไปหลายครั้ง
“อะไรนะ! เมื่อกี้พูดว่าอะไร?”
“ก็ฉันพูดว่าอะไรไง...” ทิฟฟานี่ตอบคำถามนั้นออกไปอย่างหน้านิ่ง
“แต่ฉันอายุมากกว่าเธอนะ เธอจะมาพูดอย่างนี้กับฉันได้ไงล่ะ หางเสียงน่ะมีบางมั๊ย?
เหอะๆ แต่มันก็แน่อยู่แล้วนิ แกก็เป็นเหมือนกับแม่ของแกนั่นแหละ เลวพอๆกันเลย” ร่างใหญ่พูดพร้อมกับยิ้มมุมปาก
“นี่แกพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง!” เมื่อทิฟฟานี่ได้ยินประโยคนี้แล้ว เธอถึงกับอารมณ์ขึ้นเลยทีเดียว
“แกมันก็เ......” ทิฟฟานี่ยังพูดไม่ทันจบประโยค เพราะมีเสียงเสียงหนึ่งได้พูดขึ้นมาแทรก
“เสียงดังอะไรกัน?” ชายผู้หนึ่งที่มีอายุมากแล้วได้เดินลงมาจากบันไดพร้อมกับเอ่ยบอกถามเมื่อได้ยินเสียง ‘ชีวอน’ ที่พูดกับทิฟฟานี่จนดังเกินไป
“ฉันถามว่าคุยอะไรกัน ทำไมถึงเสียงดัง ไม่ได้ยินกันหรือไง?” ชายที่ได้ชื่อว่า ‘ลีทึก’ ได้เอ่ยถามอีกครั้ง ด้วยคำถามประโยคนี้บวกกับเสียงที่เริ่มดังขึ้นจากเดิมจึงทำให้คน 2 คนที่อยู่ที่โต๊ะอาหารต้องหันไปมองด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก
“อ่อ...ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่คุยกับหลานของท่านเท่านั้นเอง ส่วนที่เสียงดังนั้นก็ไม่มีอะไรหรอกครับท่าน” ชีวอนรีบตอบคำถามนั้นออกไปด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว งั้นทานข้าวกันได้แล้วเดี๋ยวไปทำงานไม่ทัน”
“ส่วนทิฟฟานี่ก็รีบทานนะ เดี๋ยวไปโรงเรียนไม่ทันเพื่อน” ลีทึกพูดบอกกับทุกๆคนที่อยู่ที่โต๊ะอาหาร แต่ทิฟฟานี่กลับไม่ทานอาหารสักคำเดียว เธอตัดสินใจลุกออกจากโต๊ะอาหารแล้วพูดกับลีทึกว่า
“หนูขอตัวไปโรงเรียนก่อนนะค่ะคุณลุง” แต่ด้วยประโยคนี้ทำให้คนที่นั่งอยู่ถึงกับมองทิฟฟานี่ด้วยความสงสัย
“เดี๋ยวก่อนซิ” ลีทึกพูดบอกกับทิฟฟานี่ แต่ทิฟฟานี่ไม่ทันได้ฟังอะไร เธอกลับรีบเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าบ้านแห่งนี้อย่างรวดเร็ว
“อ้าว คุณหนูทานข้าวเสร็จแล้วหรอครับ?” ชายหนุ่มที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถชื่อว่า ‘คิบอม’ ได้ถามทิฟฟานี่ที่เดินออกมาจากบ้าน แต่ร่างบางไม่ได้ตอบอะไรแล้วทำหน้านิ่งเฉย เมื่อคิบอมเห็นการกระทำของร่างบางแล้วก็พอเข้าใจ คิบอมจึงเปิดประตูรถให้ทิฟฟานี่แล้วออกรถไปยังโรงเรียนอย่างไม่มีข้อสงสัยอะไร
.
.
.
ผ้าม่านสีฟ้าที่ถูกปิดหน้าต่างไว้ได้บดบังแสงแดดในยามเช้าไม่ให้ส่องเข้ามาในห้องนี้ ทำให้ห้องถูกคลุมไปด้วยความมืด
“แอ๊ด....” เสียงเปิดประตูได้ดังขึ้น
“พี่เจสสสสสสสสส!” เสียงใสๆของเด็กสาวผู้หนึ่งเรียกชื่อของพี่ของเธอออกมาพร้อมกับวิ่งไปเปิดผ้าม่านออก
“โอ๊ยแสบตา! อะไรล่ะเนี่ยคนจะหลับจะนอนมายุ่งทำไมมมมม” ร่างบางที่นอนขดอยู่บนเตียงได้บ่นออกมาพร้อมกับหลับตาปี้ เมื่อแสงของพระอาทิตย์ยามเช้าได้มาโดนตาของเธอ
“พี่เจสตื่นๆๆๆๆๆ วันนี้หนูต้องไปโรงเรียน ไปส่งหนูได้แล้วอย่ามัวแต่นอนเป็นศพขึ้นอืดอยู่แถวนี้นะ” เสียงของ‘คริสตัล’ผู้เป็นน้องสาวของเจสสิก้าได้เอ่ยปากบอกเจสสิก้าให้ลุกขึ้น
“อะไรนะ! เมื่อกี้พูดอะไร ไอ้เด็กบ้าาาาาา” เจสสิก้ารีบลุกขี้นจากเตียงอย่างรวดเร็วพร้อมกับใช้มือตีเข้าที่หัวของคริสตัลอย่างจัง เพราะไอคำว่า ศพขึ้นอืด นี่แหละทำให้น้องสาวของเธอโดนอย่างงี้
“โธ่! ว่าแค่เนี่ย ถึงกับตบหนูเลยหรือไง?” คริสตัลพูดออกมาด้วยคำเจ็บ พร้อมกับใช้มือปิดที่หัว
“ตีไม่ใช่ตบ!”
“ตบๆๆๆ พี่เจสมั่วววววว”
“เอ๊ะ! บอกว่าตีไม่ใช่ตบ พูดอย่างงี้หมายความว่าจะเอาอีกทีใช่ปะ?”
“Oh~ no no no ตีก็ตีค่ะพี่เจส ไม่ตบแล้วค่ะ -3-” คริสตัลพูดพร้อมกับส่ายหัวไปมา
“พี่อะไรก็ไม่รู้ตีน้องได้ดีทุกวี่ทุกวันเลย เพราะอย่างงี้แหละถึงไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยซักที ไปอยู่กับใครก็ชอบทำร้ายเขา คิคิ ไม่มีแฟนๆๆๆ” คริสตัลพูดประโยคนี้ออกมาลอยๆ เหมือนกับว่า ใครจะรับก็รับไป คิคิ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน
“อะไรนะ!” เจสสิก้าอุทานออกมาเมื่อได้ยินสิ่งที่น้องพูดออกมา
“อะไรๆ ป่าวนะ หนูไม่ได้พูดอะไรเลยนะ หนูแค่ร้องเพลง” คริสตัลพูดแก้ตัวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเพราะกลัวเจสสิก้าจะเธอตีอีกครั้ง
“แน่นะ?” เจสสิก้าถามเพื่อความแน่ใจ
“แน่สิค่ะ พี่ไม่เชื่อน้องสาวที่สุดแสนจะน่ารักของพี่หรอค่ะ”
“อ่อ...งั้นหนูให้เวลาพี่คิดก่อนและกัน หนูจะไปรอที่รถนะ จุ๊บๆ ฮ่าๆๆๆ” คริสตัลพูดจบ เธอจึงรีบชิ่งไปที่รถอย่างเร็วทันใจโดยที่ปล่อยให้พี่ของเธอยืนหมั่นไส้อยู่คนเดียว
“เฮ้ยเจ้าน้องคนนี้ พอได้ทีแล้วหนีไปเลยนะ -*-”
“เฮ้อ~...มันก็จริงนะ พี่มันไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที” เจสสิก้าพูดประโยคนี้ออกมาเบาๆ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักหรอก อาจจะเป็นเพราะเธอชินกับเรื่องพวกนี้มากกว่า
หลังจากนั้นร่างบางก็เดินเข้าห้องอาบน้ำแล้วทำภารกิจประจำวันของเธอจนเสร็จ เจสสิก้าจึงรีบเดินลงไปที่รถ
“องค์หญิงกว่าจะเสด็จลงมาได้~” คริสตัลที่ยืนรอพี่สาวเธออยู่ตรงรถได้พูดขึ้นพร้อมกับทำท่ากอดอกแล้วมองด้วยสายตาที่หาเรื่อง
“แหม! ฉันอาบน้ำนะไม่ได้วิ่งผ่านน้ำ จะให้มารวดเร็วทันใจได้ไงล่ะ”
“โอ้วววว ค่ะๆๆๆ”
“เออ...ดีมากที่ไม่เถียง พี่จะได้ไม่ต้องใช้กำลังอีก...งั้นขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวจะสาย”
“T_Tค่ะะะะ” คริสตัลพูดเสียงยาวพร้อมกับเดินไปขึ้นรถ ไม่นานนักรถเฟอร์เรอรี่คันสวยก็ได้ถูกสตาร์ทเครื่องและขับออกไปสู่จุดมุ่งหมาย
สวัสดีรีดเดอร์ทุกๆคนอีกครั้งค่ะ^^
โอ้ววว chapter1 ก็ได้บังเกิดขึ้น 555+
เฮ้อ~เหนื่อยจังอัพฟิคน่ะ(ขนาดนั้นเลยหรอ?)
ไรเตอร์ก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
จะมีก็เเค่ขอบคุณสำหรับทุกๆคนที่เข้ามาอ่านและก็เข้ามาเม้นท์ฟิคเรื่องนี้นะ
อ่อ อีกอย่างสำหรับ [N]aT. ที่เข้ามาแล้วเม้นท์ประมาณว่า "ไรเตอร์รีบๆอัพฟิคนะ ไม่งั้นจะโดน...คิดเอาเอง"
ไรเตอร์อยากรู้ว่า...มันคืออะไร เเต่จริงๆเเล้วไรเตอร์อยากให้มันเป็นคำว่า จับกด อ่า~ฮ่าๆๆๆ
สุดท้าย แล้วเจอกันใหม่ในchapter 2 ค่ะ ^_^
ความคิดเห็น