ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {KIHAE&WONHYUK} If that day comes ... ถ้าหากวันนั้น

    ลำดับตอนที่ #6 : If that day comes - [2] - Booking tickets

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.59K
      3
      28 เม.ย. 53

                ซีวอนนั่งอยู่บนโซฟาสีดำมองกรอปรูปบนผนังสีน้ำตาลสไตล์เอิร์ธโทน และบนโต๊ะสีเดียวกัน ก็มีถ้วยกาแฟร้อนตั้งอยู่

     

                ...STARBUCKs...

     

                จากปริมาณน้ำกาแฟที่เหลือเพียงครึ่งแก้วทำให้รู้ว่าผู้ที่ดื่มนั่งรอมาได้สักพักแล้ว ร่างสูงยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา นี่มันเลยเวลาที่ฮยอคแจนัดเค้ามาเกือบชั่วโมงแล้วนะ

                ร่างบางโทรมานัดเค้าเมื่อเย็นว่าให้วันนี้มาเจอกันที่ร้านกาแฟร้านประจำที่มักจะมาด้วยกัน แต่ทุกครั้งฮยอคแจไม่เคยมาสายขนาดนี้เลย

                แต่ครั้นโทรไปกลับไม่ยอมรับสายซะงั้น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันนะ

     

                ก่อนที่จะได้เดาอะไรไปต่างๆนานา โทรศัพท์เครื่องหรูก็ส่งสัญญาณว่ามีสายเรียกเข้าเสียก่อน

     

              “My REAL love”

     

                มือหนารีบกดรับทันที

                นายอยู่ที่ไหนเนี่ยฮยอกแจ..ชั้นรอ...... แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรมากกว่านี้ มันก็จบลงเมื่อปลายสายตอบกลับมาเพียงว่า

               

                เราเลิกกันเถอะ ซีวอน

     

                นายพูดเรื่องบ้าอะไรอีกเนี่ย... ซีวอนขำไม่ออกเหมือนกันนะมุกนี้น่ะ

                ชั้นบอกนายว่า ชั้นจะเลิกกับนาย ฮยอคแจพูดอีกครั้ง

                ทำไม....

                ชั้นเหนื่อยที่จะต้องทนต่อไปอีกแล้วล่ะ ฮยอคแจสารภาพตามความจริง

                เรื่องนี้อีกแล้วหรอ ฮยอคแจชั้นก็เคยบอกนายแล้วไง ต่อให้ชั้นไปยุ่งกับใครที่ไหน นายก็ยังเป็นคนสุดท้ายของชั้น ที่ชั้นเรียกว่าแฟนนะ...

                ชั้นไม่อยากเป็นคนสุดท้าย...ชั้นอยากเป็นคนเดียวของนาย แต่ตอนนี้ชั้นไม่ต้องการเป็นอะไรกับนายทั้งนั้น... ฮยอคแจค่อยๆพูด ช้าๆ

                นายอยู่ที่ไหนตอนนี้น่ะ...ออกมาคุยกันให้รู้เรื่องสิ โทรมาแบบนี้ได้ยังไง นายอยู่ที่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ซีวอนผลุดลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างหัวเสีย

                ไม่...ชั้นโทรมาบอกนายแค่นี้ล่ะ...เราอย่าพบกันอีกเลยฮยอคแจพูดก่อนจะวางสายไป

                ฮัลโหล! ฮยอคแจ...ฮัลโหล!! โธ่เว้ย!!!” ซีวอนอยากจะปาเครื่องมือสื่อสารนี่ทิ้งจริงๆเลย

                นี่มันอะไรกัน...ทำไม?....ทำไมกันล่ะ?

                ชั้นไม่ยอมให้เรื่องมันจบลงแบบนี้หรอกนะ ลี ฮยอคแจ!” ซีวอนกำมือแน่นแล้วรีบวิ่งออกไปจากร้านกาแฟแบรนด์ดังนี้ทันที

     

                ฮยอคแจมองรถยี่ห้อเล็กซัสจากโชว์รูมที่ตัวเองทำงานอยู่ ทะยานไปตามท้องถนนด้วยความเร็วที่เกือบจะผิดกฎหมาย ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋าหมือนเดิม และยกกาแฟขขึ้นมาดื่มเล็กน้อย

                ใช่แล้ว...

                เค้าอยู่ในร้านกาแฟแห่งนี้ก่อนที่ซีวอนจะมาเสียอีก และเห็นร่างสูงอยู่ตลอดเวลาในมุมนี้

                เพียงแต่ว่าเค้าไม่มีความกล้ามากพอที่จะออกไปเผชิญหน้ากับร่างสูงแล้วพูดคำว่า

                เราเลิกกันนะ

                เค้าทำมันไม่ได้จริงๆ ดวงตาคู่นั้น...ได้สบกี่ครั้งก็ร่ำจะใจอ่อนอยู่เสมอไป

                แต่ครั้งนี้...เค้าควรจะจบมันเสียที การอยู่เป็นเหมือนของตายของชเว ซีวอน เค้าไม่ต้องการจะเป็นแล้วจริงๆ

     

                เมื่อหมดที่จะไปแล้ว...และพรุ่งนี้ก็คือวันออกเดินทาง ฮยอคแจจึงตัดสินใจที่จะมานอนค้างที่ห้องพักของทงเฮ โดยที่ข้าวของก็ขนมาไว้ที่นี่หมดแล้ว

                อะ...อ้าว ทำไมมาเร็วจังวะแก ทงเฮมองที่นาฬิกาแขวนผนังก็พบว่าเป็นเวลาเพียงห้าโมงครึ่งเท่านั้น แต่เจ้าเพื่อนตัวดีคนนี้กลับมายืนอยู่ที่ระเบียงห้องนอนเค้าซะแล้ว

                ชั้นเริ่มหยุดงานตั้งแต่วันนี้แล้วน่ะ... ฮยอคแจตอบกลับมาทั้งๆที่สายตายังคงทอดยาวออกไปมองท้องฟ้ายามเย็นที่กลายเป็นสีครามอมส้ม

                ทงเฮวางกระเป๋าทำงานลงแล้วเดินไปยืนข้างๆเพื่อนที่ระเบียงนั้น

                มือเรียววางบนไหล่เพื่อนเบาๆ

                ชั้นเลิกกับเค้าแล้วนะ... ฮยอคแจบอกด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

                ใคร? ซีวอนน่ะหรอ? ทงเฮเองก็ตกใจกับข่าวที่ได้รู้เช่นกัน

                อืม...เลิกแล้ว เลิก....

                ทงเฮดึงเพื่อนเข้ามากอดเอาไว้ทันที มือเรียวข้างเดิมลูบหัวของเพื่อนที่ตอนนี้กำลังซุกไหล่ของตนอยู่

                ร้องออกมา...ชั้นรู้แกกำลังอยากร้องไห้...ไม่ต้องกลัวชั้นอยู่ตรงนี้แล้ว ทงเฮใช้มืออีกข้างที่ว่างลูบหลังเพื่อนรักไปด้วยเบาๆ

                ฮยอคแจกำเสื้อของทงเฮเอาไว้แน่นแล้วระเบิดน้ำตาออกมา

                ฮึก...ชั้นเจ็บจังวะ...ทำไม...มันถึงเจ็บขนาดนี้เลยล่ะ

                ฮยอคแจค่อยๆบรรยายสิ่งที่ตัวเองกำลังรู้สึกออกมา โดยมีทงเฮเป็นผู้รับฟัง

                ชั้นไม่อยากเลิกกับเค้า แต่กับสิ่งที่เค้าทำมันทำให้ชั้นทนอยู่ต่อไปกับเค้าไม่ได้ ชั้นอยากจะเป็นคนเดียวที่เค้ารัก! มันมากไปหรอวะ ชั้นขอเค้ามากไปรึไงกัน ฮือ....

                ทงเฮได้แต่มองเพื่อนอย่างสงสาร ไม่บ่อยครั้งนักที่ฮยอคแจจะร้องไห้ออกมามากมายขนาดนี้ เพราะด้วยความที่เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ฮยอคแจมักจะคอยช่วยเหลือเค้าอยู่เสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

                ฮยอคแจคือเพื่อนรักที่เค้าพร้อมจะตายแทนได้ทันที อย่างไม่ลังเลใจ

                แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เค้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะสรรรหาคำไหนๆมาปลอบเพื่อนรักคนนี้ดี เพราะประสบการณ์ความรักของตัวเองก็ไม่มี ผิดกับฮยอคแจที่จะมีคนรักอยู่เสมอ แต่เจ้าตัวกลับไม่เคยพอใจในความรักของตัวเองเลยสักครั้ง

                จะมีก็แต่เพียงคนล่าสุดนี่ล่ะมั้ง ซีวอนที่เพื่อนเค้าสามารถคบมาได้เกือบปี ตอนแรกเค้าก็คิดว่าทั้งคู่จะไปได้ดีเสียอีก ไม่น่าเชื่อว่าฝ่ายนั้นจะขยันทำเรื่องให้เพื่อนเค้าเจ็บช้ำน้ำใจบ่อยเหลือเกิน

                ชั้นจะไม่พูดกับแกว่าอย่าเสียใจนะ...แต่ชั้นจะบอกแกว่า แกยังมีชั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชั้นจะอยู่ข้างๆแกเสมอ ทงเฮกอดกระชับเพื่อนให้แน่นกว่าเดิม

                และผ่านไปสิบกว่านาที ก่อนที่เสียงสะอื้นจะเงียบลงในที่สุด

                ชั้นไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ... ฮยอคแจขืนตัวออกจากอ้อมกอดของเพื่อนรัก

                โหย....นี่น่ะหรอ เพื่อนที่แสนจะมั่นใจในตัวเองของชั้น ทงเฮหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองมาซับน้ำตาเพื่อนเบาๆ

                ฮยอคแจยิ้มให้กับความห่วงใยที่ทงเฮมีให้ตัวเองมาตลอด

                แม้ชั้นจะปากเสียใส่แกไปบ้าง...แต่ไม่มีสักวันที่ชั้นไม่รักแกนะ

                ไอ้ปลาเน่า

     

                แล้วนี่แกอยู่ดีๆลางานตั้งสามอาทิตย์เจ้านายเค้าไม่ว่าหรอวะ? ทงเฮเอ่ยถาม ขณะที่กำลังนั่งกินข้าวเย็นด้วยกันอยู่

                เปล่า...ชั้นไม่ได้ลาหยุด ฮยอคแจกินข้าวอย่างไม่สนใจอะไร

                ห๊ะ...อย่าบอกนะว่านี่แก....?

                ลาออก

                ไอ้บ้า! งานตอนนี้มันหากันได้ง่ายๆที่ไหนล่ะ... ทงเฮอยากจะบีบคอเพื่อนให้ตายนัก

                ฟังชั้นพูดให้จบก่อนสิวะ ชั้นบอกผู้จัดการไปว่าถ้าไม่ยอมให้ชั้นลาหยุดชั้นจะลาออก เค้าเลยยอม

                อ้าว...ก็แกไม่ยอมพูดให้จบนี่หว่า ทงเฮบ่นอุบอิบ

                ตื่นตูมอยู่ตลอดเวลาแหละ แกน่ะ... ฮยอคแจวางตะเกียบลง

                ชั้นไม่ได้เป็น......

     

                ติ๊ง! ต่อง!!

     

                เสียงออกที่นอกประตูห้องหยุดการทะเลาะกันเอาไว้

                ไม่ต้อง เดี๋ยวชั้นออกไปเปิดเอง... ฮยอคแจเห็นทงเฮที่ยังกินไม่เสร็จทำท่าจะลุกขึ้นก็ห้ามไว้

                ก่อนที่ตัวเองจะเดินออกไปที่หน้าประตูห้อง แนบสายตามองผ่านยังช่องกระจกกลมๆเล็กๆเพื่อดูก่อนว่าใครว่า

     

                แล้วรีบถอยหลัง!

     

                อะไร...มีอะไร ทงเฮพลันตกใจตามไปด้วยเมื่อเห็นฮยอคแจวิ่งกลับมาทำหน้าตาตื่นแบบนี้

                ซีวอน...ซีวอนมา.... ฮยอคแจรำล่ำระลักพูด

                ห๊า! ว่าไงนะ....

                ข้างนอก...นั่น...ซีวอน... ฮยอคแจชี้ไปที่ประตูที่มีเสียงกริ่งดังขึ้นระลอกแล้ว ระลอกเล่า

                เอางี้...แกไปหลบอยู่ในห้องนอนชั้นก่อน เดี๋ยวชั้นลากซีวอนออกไปข้างนอกเอง ไม่ว่าจะเกิดไรขึ้นอย่าออกมานะ.... ทงเฮรีบผลักหลังเพื่อน

                ฮยอคแจรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน และหามุมเหมาะนั่งลง

     

                ติ๊งๆๆๆ ต่องๆๆๆๆ

                โอ๊ย! มาแล้วคร้าบ...ใครมากันคร้าบกดจังเลย ทงเฮแกล้งร้องโวยวาย

                อ้าว! ซีวอน...มาทำอะไรเนี่ย ทงเฮถาม

                ไม่ตลก ชั้นได้ยินที่นายกับเพื่อนนายคุยกันเมื่อกี๊หมดแล้ว ว่าชั้นมา ซีวอนพูดเบาๆ

     

                = =;; ทงเฮกำลังกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

     

                หลบไป... ซีวอนจะเดินเข้ามาในห้อง

                ไม่ได้นะ!!! ไม่มีใครอยู่ที่นี่นอกจากชั้น ทงเฮเองก็เอาทั้งตัวบังไว้เหมือนกัน

                ชั้นไม่ยอมให้มันจบลงง่ายๆแบบนี้หรอกนะ... ซีวอนเองกำลังพยายามข่มอารมณ์ไว้เหมือนกัน

                เค้าเกือบจะพลิกทั้งโซลเพื่อหาคนๆเดียวซะแล้ว ลูกน้องภายในบาร์ของเค้าทุกคนถูกสั่งให้ออกตามหาคนๆนี้

                แล้วมันทำเค้าจะเป็นบ้าเมื่อไม่มีใครสามารถตามหาได้เลย

                จนเค้าจะต้องออกตามหาเอง และฉุกคิดขึ้นได้ว่าช่วงเวลาแบบนี้ยังไงคนติดเพื่อนอย่างฮยอคแจต้องออกมาทงเฮแน่ๆ

                และเค้าก็คิดไม่ผิดจริงๆซะด้วย

                ออกไปคุยกันข้างนอกเถอะนะ!” ทงเฮใช้หัวเล็กๆของตัวเองดันซีวอนจนออกมายืนคุยข้างนอกจนได้

                ซีวอนยืนนิ่งเพื่อสงบสติตัวเองเล็กน้อย แล้วจึงเริ่มคุยกับทงเฮ ซึ่งขณะนี้พวกเค้าทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่ที่บันไดหนีไฟของหอพักด้วยกัน

                เค้าเป็นยังไงบ้าง... ซีวอนเริ่มประเด็น

                บ่อน้ำตาแตก ร้องไห้ ฟูมฟาย ทงเฮพูดตามความจริง

                ตัวเองเป็นคนบอกเลิกชั้นแท้ๆ แม้น้ำเสียงจำดูเหมือนว่ารำคาญ แต่ท่าทางของซีวอนนั้นดูร้อนรนใจไม่น้อย เมื่อรู้ว่าร่างบางจะต้องเสียน้ำตาอีกแล้ว

                ชั้นขอร้องล่ะ ซีวอน... ทงเฮมองมือตัวเองที่ประสานอยู่บนตักแล้วพูดออกมา

                อะไร?

                ปล่อยเพื่อนชั้นไปได้มั้ย

                ไม่ได้ ไม่ต้องเสียเวลาคิดกันเลย

                ทำไมกันล่ะ ในเมื่อนายมีใครต่อใครที่ต่างจ้องจะเป็นคนของนายอยู่แล้ว เพื่อนชั้นมันก็แค่หนึ่งในคู่ขาของนาย

                ไม่ใช่! ฮยอคแจไม่ใช่คู่ขาของชั้นนะ ซีวอนดูจะโกรธไม่น้อยที่ทงเฮกล่าวหาฮยอคแจแบบนั้น

                แต่การที่นายมีคนอื่นทั้งๆที่ยังคบฮยอคแจมันก็เป้นการลดคุณค่าของเพื่อนชั้นนะ

                ชั้นแค่...ชั้นมีเหตุผลของชั้น!” ซีวอนบอก

                เราทุกคนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเองนั่นล่ะ และเพื่อนชั้นเองก็มีเหตุผลที่ขอนายเลิกเหมือนกัน แต่นายโชคดีกว่าเพราะอย่างน้อยๆนายก็รู้ว่าเพื่อนชั้นบอกเลิกนายเพราะอะไร ในขณะที่เพื่อนชั้นไม่เคยรู้เลยว่าที่นายจะต้องทำแบบนี้เพราะอะไร

                ซีวอนนิ่งไป เพราะไม่อาจจะสรรหาคำพูดไหนมาโต้เถียงกับทงเฮได้

                ใครบอกกันว่าฮยอคแจนั้นเข้มแข็งกว่าทงเฮ อย่างน้อยๆก็มีเค้าคนนึงนี่ล่ะที่จะขอเถียงชนิดกล้าเอาชีวิตไปพนันเลยล่ะว่าอย่างฮยอคแจยังไม่สามารถเทียบทงเฮได้ติดฝุ่นเลยสักครั้ง

                พรุ่งนี้...ชั้นกับฮยอคแจจะไปลอนดอน ทงเฮตัดสินใจบอกในที่สุด

                ว่ายังไงนะ? ซีวอนเบิกตากว้าง

                เค้ากำลังจะหนีนายไป ทงเฮช่วยย้ำอีกครั้ง

                ชั้นไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่ ร่างสูงกำมือขึ้น

                อย่าตามเราไปนะ...

                ไม่!”

                ทำไม... ทงเฮถามเหตุผล

                ฮยอคแจเป็นคนรักของชั้น

                อดีตคนรักต่างหาก ทงเฮช่วยแก้ไขให้ถูกต้อง

                ชั้นยังไม่ยอมรับเลยว่าจะเลิก ฉะนั้นเค้ายังจะต้องเป้นแฟนชั้นอยู่

                ชั้นกับเค้าเราจะไปอยู่กัน 20 วัน นายลองทบทวนความรู้สึกตัวเองให้ดีๆกว่าสักสามสี่วัน หรือมากกว่านั้น ให้ความรักของนายและฮยอคแจถูกกั้นด้วยเส้นแบ่งของสองประเทศ บางทีนายอาจจะแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองมากขึ้นก็ได้

                ชั้นกลัว.... ซีวอนยอมเผยความอ่อนแอออกมาในที่สุด

                กลัวอะไร...

                กลัวฮยอคแจจะต้องไปเป็นของใคร

                นั่นล่ะ...คือสิ่งที่เพื่อนของชั้นรู้สึกเวลาแห็นใครอยู่ข้างๆนาย

                ตอกย้ำได้เจ็บเหลือเกิน ลี ทงเฮ!

                คิดให้ดีก็แล้วกัน...ชั้นเองก็หวังว่าจะเจอนายที่ลอนดอนนะ แต่ถ้าเลยอาทิตย์นึงแล้วยังไม่มา ชั้นจะยุให้ฮยอคแจคว้าหนุ่มหล่อๆนี่นั่นสักคนมาเป็นแฟนนะ ยังไม่วายหยอดให้ได้เจ็บอีก

                ลี ทงเฮ!!!” ซีวอนได้แต่เข่นเขี้ยวไล่หลัง เมื่อมองเจ้าตัวดีกระโดดหลั่นล้าอย่างมีความสุขกลับไปที่ห้อง

     

                เป็นยังไงบ้าง... ฮยอคแจจัดการซักไซร้ทันทีที่เพื่อนรักเปิดประตูห้องนอนเข้ามา

                หมายถึงอะไร? ทงเฮแกล้งตีหน้าซื่อทำไม่รู้เรื่อง

                เอ่อ...ซีวอนกลับไปแล้วหรอ?

                อืม ทำไมหรือแกคิดว่าเค้าจะบุกเข้ามาง้อแกหรอ?

                แทงใจดำอย่างจังเลยล่ะ ยอมรับว่าในใจลึกๆนั้นฮยอคแจเองก็ยังหวังเช่นนั้นอยู่

                บ้า! ใครจะไปคิดแบบนั้น ดีแล้ว...กลับไปได้ก็ดี ยู่ปากทำหน้าประกอบอีกต่างหาก

                เออ...ไอ้ไก่เผือก เชิญคิดแบบนั้นไปเลย ลอยหน้าลอยตาอีกนะคนเรา

                แล้วแก...แกบอก... ฮยอคแจคิดอยู่นานว่าจะถามดีมั้ย

                บอกว่าชั้นกับแกกำลังจะออกเดินทางพรุ่งนี้น่ะนะ ทงเฮยิ้มให้เพื่อนอย่างรู้ทัน

                บ้า! แกพูดบ้าไรเนี่ย แล้วบอกเค้าไปรึเปล่าล่ะ?

                ทงเฮล่ะอยากรู้จริงๆว่าซีวอนทนจูบปากแข็งๆแบบนี้ไปได้ยังไง

                ก็.................................... ทงเฮลากเสียงยาวๆเพื่อเพิ่มความตื่นเต้นให้กับฮยอคแจ

                เร็วๆสิแก...ชั้นก็ไม่ได้อยากรู้นะ = =’’?

                ไม่ได้บอก!” โกหกอีกสักครั้งแล้วกัน

                อ้าว....แล้วทำไมแกไม่บอกล่ะ ฮยอคแจทำหน้าผิดหวัง

                ก็แกเองไม่ใช่หรอที่เป็นคนเลือกที่จะหลบหน้าเค้า แล้วส่งชั้นออกไปรับมือกับเค้าเนี่ย แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอเลิกติดต่อกันไปเลย ซีวอนจะได้ไม่ต้องมาให้แกเห็นหน้าอีกอย่างที่นายต้องการยังไงกันล่ะ ทงเฮแสร้งเดินไปกินต่อเหมือนว่าต้องการอย่างที่พูดไปจริงๆ

                ฮยอคแจสีหน้าหมองลงเล็กน้อย มองที่บานประตูคล้ายกับว่าจะเฝ้ารอให้ร่างสูงเดินย้อนมาเปิดมันออก

                แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ในเมื่อเค้าไม่ได้สำคัญอะไรต่อร่างสูงขนาดนั้นนี่นา

                ว่าแล้วฮยอคแจก็เดินย้อนเข้าไปในห้องนอนต่อ

                ทงเฮมองตามแล้วก็ยิ้มก่อนจะวางตะเกียบลง

                ทิฐิ...คำเดียวมั้งที่จะบอกคู่รักสองคนนี้ได้

     

                เอาล่ะฮยอคแจ...มาพนันกัน

                ชั้นพนันคนเดียวเลย ไม่เกินสามวันพ่อยอดชายของนายจะต้องรีบแจ้นไปหาพวกเราที่ลอนดอนเลยล่ะ

                ถ้าพลาดทงเฮคนนี้ยอมลาออกจากงานเลยล่ะ เชื่อเถอะ!

               

    สนามบินอินชอน เกาหลีใต้ เวลา 22.00 น.

     

                ทงเฮและฮยอคแจกำลังรอเข้าคิวที่กำลังจะทยอยกันตรวจบัตรเพื่อเข้าไปยังเกทและเดินทางกันต่อไป

                ฮยอคแจยังคงคอยชะเง้อไปมาซ้ายขวาอยู่ตลอดเวลา คล้ายกับว่ากำลังรอใครบางคนอยู่

                มองหาอะไรอยู่วะ...หรือว่า กำลังรอใครอยู่? ทงเฮลองหยั่งเชิง

                ไม่นี่! ชั้นไม่ได้รอซีวอนอยู่นะ ชั้นก็ไม่ได้อยากให้เค้ามาง้อแล้วบอกชั้นว่าอย่าไปเลยนะซะหน่อย เอ่อ....

                หมดแล้วล่ะลี ฮยอคแจ...หมดไก่ทั้งเล้าเลย

                แต่แทนที่ทงเฮจะเอ่ยล้อใดๆให้ฮยอคแจได้เจ้บใจเล่น เจ้าตัวกลับเอื้อมมือมากุมมือฮยอคแจเอาไว้แล้วเดินไปยื่นตั๋วเครื่องบินด้วยกัน

                ฮยอคแจหันมองไปยังบริเวณด้านนอกอีกครั้ง แล้วหันกลับเดินเข้าไปเตรียมตัวขึ้นเครื่องเดินทางกับทงเฮต่อ

                และแล้วการเดินทางมันก็เริ่มต้นขึ้น

                ทงเฮรู้สึกว่าหัวใจตัวเองมันกำลังเต้น ตึกๆๆ ด้วยความตื่นเต้น

                แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนรักของเค้าจะไม่ค่อยมีอารมณ์สุขร่วมกับเค้าเลยน่ะสิ เห็นหลายครั้งเลยว่าแอบเกลี่ยน้ำใสๆที่หางตา

                ทงเฮจึงเอื้อมมือไปบีบมือของเพื่อนรักที่วางอยู่บนตักของเจ้าตัวเอาไว้

                หืม?.... ฮยอคแจรีบยิ้มแล้วหันมาหาทงเฮ

                ชั้นพาแกมาลำบากรึเปล่า

                ทำไมแกพูดแบบนี้ล่ะ....

                ก็แก...มีท่าทางแบบนี้ชั้นใจไม่ดีเลยนะ ทงเฮหน้าเจื่อนลง จนฮยอคแจต้องเลื่อนมือมาขยี้ผมเพื่อน

                คิดมากไม่เปลี่ยนเลยนะแกเนี่ย! ไม่เอาน่าชั้นไม่เป็นไรหรอก

                ทงเฮยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าฮยอคแจ

                สัญญานะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะไม่ทอดทิ้งกัน

                ฮยอคแจยิ้มบางๆแล้วเกี่ยวนิ้วห้อยกับบทงเฮกลับ

                แน่นอน...เราจะไม่ทอดทิ้งกัน

                ก่อนที่ทั้งคู่จะนอนเอาหัวอิงกัน แล้วหลับตาลงรอให้ยานพาหนะลำใหญ่นี้พาพวกเค้าไปพบเจอกับสิ่งที่กำลังรอพวกเค้าอยู่ ณ อีกซีกโลกหนึ่ง

                มหานครลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร

                นครแห่งมนตรา สถานที่ๆได้รับการขนานนามมานานว่าเต็มไปด้วยอารยธรรมยุคต่างๆที่น่าสนใจมากมาย รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก

                ที่แห่งนั่นจะเกิดอะไรขึ้นกับ...

                หนึ่งคน...ที่ออกตามหาความรัก

                หนึ่งคน...ที่ออกหลบหนีความรัก

                แต่ที่แน่ๆนั่นก็คือทั้งสองคนนั้น จะต้องเกี่ยวข้องกับกับความรักแน่ๆ

                แล้วความรักกับใคร? ที่ไหน? เมื่อไหร่ล่ะ?

     

    .
    .
    .
    .
    .

    จองตั๋วกันเรียบร้อยแล้ว...เหยียบลอนดอนกันแล้ว
    ตอนหน้า..ก็ลากกระเป๋าไปเช็ค อิน เข้าโรงแรมกันนะ
    อ้อ! อย่าลืมแลกเงินเป็นเงินปอนด์กันนะ เงินนะมีม๊ายยยย ??

    ฮา...ไรเตอร์ไม่มีเลยสักบาท วอน หรือปอนด์ใดใด
    เกาะซีวอนต่อปายยยยยย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×