คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : If that day comes - [2] - Booking tickets
ซีวอนนั่งอยู่บนโซฟาสีดำมองกรอปรูปบนผนังสีน้ำตาลสไตล์เอิร์ธโทน และบนโต๊ะสีเดียวกัน ก็มีถ้วยกาแฟร้อนตั้งอยู่
...STARBUCKs...
จากปริมาณน้ำกาแฟที่เหลือเพียงครึ่งแก้วทำให้รู้ว่าผู้ที่ดื่มนั่งรอมาได้สักพักแล้ว ร่างสูงยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา นี่มันเลยเวลาที่ฮยอคแจนัดเค้ามาเกือบชั่วโมงแล้วนะ
ร่างบางโทรมานัดเค้าเมื่อเย็นว่าให้วันนี้มาเจอกันที่ร้านกาแฟร้านประจำที่มักจะมาด้วยกัน แต่ทุกครั้งฮยอคแจไม่เคยมาสายขนาดนี้เลย
แต่ครั้นโทรไปกลับไม่ยอมรับสายซะงั้น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันนะ
ก่อนที่จะได้เดาอะไรไปต่างๆนานา โทรศัพท์เครื่องหรูก็ส่งสัญญาณว่ามีสายเรียกเข้าเสียก่อน
“My REAL love”
มือหนารีบกดรับทันที
“นายอยู่ที่ไหนเนี่ยฮยอกแจ..ชั้นรอ......” แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรมากกว่านี้ มันก็จบลงเมื่อปลายสายตอบกลับมาเพียงว่า
‘เราเลิกกันเถอะ ซีวอน’
“นายพูดเรื่องบ้าอะไรอีกเนี่ย...” ซีวอนขำไม่ออกเหมือนกันนะมุกนี้น่ะ
‘ชั้นบอกนายว่า ชั้นจะเลิกกับนาย’ ฮยอคแจพูดอีกครั้ง
“ทำไม....”
‘ชั้นเหนื่อยที่จะต้องทนต่อไปอีกแล้วล่ะ’ ฮยอคแจสารภาพตามความจริง
“เรื่องนี้อีกแล้วหรอ ฮยอคแจชั้นก็เคยบอกนายแล้วไง ต่อให้ชั้นไปยุ่งกับใครที่ไหน นายก็ยังเป็นคนสุดท้ายของชั้น ที่ชั้นเรียกว่าแฟนนะ...”
‘ชั้นไม่อยากเป็นคนสุดท้าย...ชั้นอยากเป็นคนเดียวของนาย แต่ตอนนี้ชั้นไม่ต้องการเป็นอะไรกับนายทั้งนั้น...” ฮยอคแจค่อยๆพูด ช้าๆ
“นายอยู่ที่ไหนตอนนี้น่ะ...ออกมาคุยกันให้รู้เรื่องสิ โทรมาแบบนี้ได้ยังไง นายอยู่ที่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ” ซีวอนผลุดลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างหัวเสีย
‘ไม่...ชั้นโทรมาบอกนายแค่นี้ล่ะ...เราอย่าพบกันอีกเลย’ ฮยอคแจพูดก่อนจะวางสายไป
“ฮัลโหล! ฮยอคแจ...ฮัลโหล!! โธ่เว้ย!!!” ซีวอนอยากจะปาเครื่องมือสื่อสารนี่ทิ้งจริงๆเลย
นี่มันอะไรกัน...ทำไม?....ทำไมกันล่ะ?
“ชั้นไม่ยอมให้เรื่องมันจบลงแบบนี้หรอกนะ ลี ฮยอคแจ!” ซีวอนกำมือแน่นแล้วรีบวิ่งออกไปจากร้านกาแฟแบรนด์ดังนี้ทันที
ฮยอคแจมองรถยี่ห้อเล็กซัสจากโชว์รูมที่ตัวเองทำงานอยู่ ทะยานไปตามท้องถนนด้วยความเร็วที่เกือบจะผิดกฎหมาย ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋าหมือนเดิม และยกกาแฟขขึ้นมาดื่มเล็กน้อย
ใช่แล้ว...
เค้าอยู่ในร้านกาแฟแห่งนี้ก่อนที่ซีวอนจะมาเสียอีก และเห็นร่างสูงอยู่ตลอดเวลาในมุมนี้
เพียงแต่ว่าเค้าไม่มีความกล้ามากพอที่จะออกไปเผชิญหน้ากับร่างสูงแล้วพูดคำว่า
‘เราเลิกกันนะ’
เค้าทำมันไม่ได้จริงๆ ดวงตาคู่นั้น...ได้สบกี่ครั้งก็ร่ำจะใจอ่อนอยู่เสมอไป
แต่ครั้งนี้...เค้าควรจะจบมันเสียที การอยู่เป็นเหมือนของตายของชเว ซีวอน เค้าไม่ต้องการจะเป็นแล้วจริงๆ
เมื่อหมดที่จะไปแล้ว...และพรุ่งนี้ก็คือวันออกเดินทาง ฮยอคแจจึงตัดสินใจที่จะมานอนค้างที่ห้องพักของทงเฮ โดยที่ข้าวของก็ขนมาไว้ที่นี่หมดแล้ว
“อะ...อ้าว ทำไมมาเร็วจังวะแก” ทงเฮมองที่นาฬิกาแขวนผนังก็พบว่าเป็นเวลาเพียงห้าโมงครึ่งเท่านั้น แต่เจ้าเพื่อนตัวดีคนนี้กลับมายืนอยู่ที่ระเบียงห้องนอนเค้าซะแล้ว
“ชั้นเริ่มหยุดงานตั้งแต่วันนี้แล้วน่ะ...” ฮยอคแจตอบกลับมาทั้งๆที่สายตายังคงทอดยาวออกไปมองท้องฟ้ายามเย็นที่กลายเป็นสีครามอมส้ม
ทงเฮวางกระเป๋าทำงานลงแล้วเดินไปยืนข้างๆเพื่อนที่ระเบียงนั้น
มือเรียววางบนไหล่เพื่อนเบาๆ
“ชั้นเลิกกับเค้าแล้วนะ...” ฮยอคแจบอกด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“ใคร? ซีวอนน่ะหรอ?” ทงเฮเองก็ตกใจกับข่าวที่ได้รู้เช่นกัน
“อืม...เลิกแล้ว เลิก....”
ทงเฮดึงเพื่อนเข้ามากอดเอาไว้ทันที มือเรียวข้างเดิมลูบหัวของเพื่อนที่ตอนนี้กำลังซุกไหล่ของตนอยู่
“ร้องออกมา...ชั้นรู้แกกำลังอยากร้องไห้...ไม่ต้องกลัวชั้นอยู่ตรงนี้แล้ว” ทงเฮใช้มืออีกข้างที่ว่างลูบหลังเพื่อนรักไปด้วยเบาๆ
ฮยอคแจกำเสื้อของทงเฮเอาไว้แน่นแล้วระเบิดน้ำตาออกมา
“ฮึก...ชั้นเจ็บจังวะ...ทำไม...มันถึงเจ็บขนาดนี้เลยล่ะ”
ฮยอคแจค่อยๆบรรยายสิ่งที่ตัวเองกำลังรู้สึกออกมา โดยมีทงเฮเป็นผู้รับฟัง
“ชั้นไม่อยากเลิกกับเค้า แต่กับสิ่งที่เค้าทำมันทำให้ชั้นทนอยู่ต่อไปกับเค้าไม่ได้ ชั้นอยากจะเป็นคนเดียวที่เค้ารัก! มันมากไปหรอวะ ชั้นขอเค้ามากไปรึไงกัน ฮือ....”
ทงเฮได้แต่มองเพื่อนอย่างสงสาร ไม่บ่อยครั้งนักที่ฮยอคแจจะร้องไห้ออกมามากมายขนาดนี้ เพราะด้วยความที่เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ฮยอคแจมักจะคอยช่วยเหลือเค้าอยู่เสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ฮยอคแจคือเพื่อนรักที่เค้าพร้อมจะตายแทนได้ทันที อย่างไม่ลังเลใจ
แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เค้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะสรรรหาคำไหนๆมาปลอบเพื่อนรักคนนี้ดี เพราะประสบการณ์ความรักของตัวเองก็ไม่มี ผิดกับฮยอคแจที่จะมีคนรักอยู่เสมอ แต่เจ้าตัวกลับไม่เคยพอใจในความรักของตัวเองเลยสักครั้ง
จะมีก็แต่เพียงคนล่าสุดนี่ล่ะมั้ง ซีวอนที่เพื่อนเค้าสามารถคบมาได้เกือบปี ตอนแรกเค้าก็คิดว่าทั้งคู่จะไปได้ดีเสียอีก ไม่น่าเชื่อว่าฝ่ายนั้นจะขยันทำเรื่องให้เพื่อนเค้าเจ็บช้ำน้ำใจบ่อยเหลือเกิน
“ชั้นจะไม่พูดกับแกว่าอย่าเสียใจนะ...แต่ชั้นจะบอกแกว่า แกยังมีชั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชั้นจะอยู่ข้างๆแกเสมอ” ทงเฮกอดกระชับเพื่อนให้แน่นกว่าเดิม
และผ่านไปสิบกว่านาที ก่อนที่เสียงสะอื้นจะเงียบลงในที่สุด
“ชั้นไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ...” ฮยอคแจขืนตัวออกจากอ้อมกอดของเพื่อนรัก
“โหย....นี่น่ะหรอ เพื่อนที่แสนจะมั่นใจในตัวเองของชั้น” ทงเฮหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองมาซับน้ำตาเพื่อนเบาๆ
ฮยอคแจยิ้มให้กับความห่วงใยที่ทงเฮมีให้ตัวเองมาตลอด
แม้ชั้นจะปากเสียใส่แกไปบ้าง...แต่ไม่มีสักวันที่ชั้นไม่รักแกนะ
ไอ้ปลาเน่า
“แล้วนี่แกอยู่ดีๆลางานตั้งสามอาทิตย์เจ้านายเค้าไม่ว่าหรอวะ?” ทงเฮเอ่ยถาม ขณะที่กำลังนั่งกินข้าวเย็นด้วยกันอยู่
“เปล่า...ชั้นไม่ได้ลาหยุด” ฮยอคแจกินข้าวอย่างไม่สนใจอะไร
“ห๊ะ...อย่าบอกนะว่านี่แก....?”
“ลาออก”
“ไอ้บ้า! งานตอนนี้มันหากันได้ง่ายๆที่ไหนล่ะ...” ทงเฮอยากจะบีบคอเพื่อนให้ตายนัก
“ฟังชั้นพูดให้จบก่อนสิวะ ชั้นบอกผู้จัดการไปว่าถ้าไม่ยอมให้ชั้นลาหยุดชั้นจะลาออก เค้าเลยยอม”
“อ้าว...ก็แกไม่ยอมพูดให้จบนี่หว่า” ทงเฮบ่นอุบอิบ
“ตื่นตูมอยู่ตลอดเวลาแหละ แกน่ะ...” ฮยอคแจวางตะเกียบลง
“ชั้นไม่ได้เป็น......”
ติ๊ง! ต่อง!!
เสียงออกที่นอกประตูห้องหยุดการทะเลาะกันเอาไว้
“ไม่ต้อง เดี๋ยวชั้นออกไปเปิดเอง...” ฮยอคแจเห็นทงเฮที่ยังกินไม่เสร็จทำท่าจะลุกขึ้นก็ห้ามไว้
ก่อนที่ตัวเองจะเดินออกไปที่หน้าประตูห้อง แนบสายตามองผ่านยังช่องกระจกกลมๆเล็กๆเพื่อดูก่อนว่าใครว่า
แล้วรีบถอยหลัง!
“อะไร...มีอะไร” ทงเฮพลันตกใจตามไปด้วยเมื่อเห็นฮยอคแจวิ่งกลับมาทำหน้าตาตื่นแบบนี้
“ซีวอน...ซีวอนมา....” ฮยอคแจรำล่ำระลักพูด
“ห๊า! ว่าไงนะ....”
“ข้างนอก...นั่น...ซีวอน...” ฮยอคแจชี้ไปที่ประตูที่มีเสียงกริ่งดังขึ้นระลอกแล้ว ระลอกเล่า
“เอางี้...แกไปหลบอยู่ในห้องนอนชั้นก่อน เดี๋ยวชั้นลากซีวอนออกไปข้างนอกเอง ไม่ว่าจะเกิดไรขึ้นอย่าออกมานะ....” ทงเฮรีบผลักหลังเพื่อน
ฮยอคแจรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน และหามุมเหมาะนั่งลง
ติ๊งๆๆๆ ต่องๆๆๆๆ
“โอ๊ย! มาแล้วคร้าบ...ใครมากันคร้าบกดจังเลย” ทงเฮแกล้งร้องโวยวาย
“อ้าว! ซีวอน...มาทำอะไรเนี่ย” ทงเฮถาม
“ไม่ตลก ชั้นได้ยินที่นายกับเพื่อนนายคุยกันเมื่อกี๊หมดแล้ว ว่าชั้นมา” ซีวอนพูดเบาๆ
= =;; ทงเฮกำลังกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“หลบไป...” ซีวอนจะเดินเข้ามาในห้อง
“ไม่ได้นะ!!! ไม่มีใครอยู่ที่นี่นอกจากชั้น” ทงเฮเองก็เอาทั้งตัวบังไว้เหมือนกัน
“ชั้นไม่ยอมให้มันจบลงง่ายๆแบบนี้หรอกนะ...” ซีวอนเองกำลังพยายามข่มอารมณ์ไว้เหมือนกัน
เค้าเกือบจะพลิกทั้งโซลเพื่อหาคนๆเดียวซะแล้ว ลูกน้องภายในบาร์ของเค้าทุกคนถูกสั่งให้ออกตามหาคนๆนี้
แล้วมันทำเค้าจะเป็นบ้าเมื่อไม่มีใครสามารถตามหาได้เลย
จนเค้าจะต้องออกตามหาเอง และฉุกคิดขึ้นได้ว่าช่วงเวลาแบบนี้ยังไงคนติดเพื่อนอย่างฮยอคแจต้องออกมาทงเฮแน่ๆ
และเค้าก็คิดไม่ผิดจริงๆซะด้วย
“ออกไปคุยกันข้างนอกเถอะนะ!” ทงเฮใช้หัวเล็กๆของตัวเองดันซีวอนจนออกมายืนคุยข้างนอกจนได้
ซีวอนยืนนิ่งเพื่อสงบสติตัวเองเล็กน้อย แล้วจึงเริ่มคุยกับทงเฮ ซึ่งขณะนี้พวกเค้าทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่ที่บันไดหนีไฟของหอพักด้วยกัน
“เค้าเป็นยังไงบ้าง...” ซีวอนเริ่มประเด็น
“บ่อน้ำตาแตก ร้องไห้ ฟูมฟาย” ทงเฮพูดตามความจริง
“ตัวเองเป็นคนบอกเลิกชั้นแท้ๆ” แม้น้ำเสียงจำดูเหมือนว่ารำคาญ แต่ท่าทางของซีวอนนั้นดูร้อนรนใจไม่น้อย เมื่อรู้ว่าร่างบางจะต้องเสียน้ำตาอีกแล้ว
“ชั้นขอร้องล่ะ ซีวอน...” ทงเฮมองมือตัวเองที่ประสานอยู่บนตักแล้วพูดออกมา
“อะไร?”
“ปล่อยเพื่อนชั้นไปได้มั้ย”
“ไม่ได้” ไม่ต้องเสียเวลาคิดกันเลย
“ทำไมกันล่ะ ในเมื่อนายมีใครต่อใครที่ต่างจ้องจะเป็นคนของนายอยู่แล้ว เพื่อนชั้นมันก็แค่หนึ่งในคู่ขาของนาย”
“ไม่ใช่! ฮยอคแจไม่ใช่คู่ขาของชั้นนะ” ซีวอนดูจะโกรธไม่น้อยที่ทงเฮกล่าวหาฮยอคแจแบบนั้น
“แต่การที่นายมีคนอื่นทั้งๆที่ยังคบฮยอคแจมันก็เป้นการลดคุณค่าของเพื่อนชั้นนะ”
“ชั้นแค่...ชั้นมีเหตุผลของชั้น!” ซีวอนบอก
“เราทุกคนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเองนั่นล่ะ และเพื่อนชั้นเองก็มีเหตุผลที่ขอนายเลิกเหมือนกัน แต่นายโชคดีกว่าเพราะอย่างน้อยๆนายก็รู้ว่าเพื่อนชั้นบอกเลิกนายเพราะอะไร ในขณะที่เพื่อนชั้นไม่เคยรู้เลยว่าที่นายจะต้องทำแบบนี้เพราะอะไร”
ซีวอนนิ่งไป เพราะไม่อาจจะสรรหาคำพูดไหนมาโต้เถียงกับทงเฮได้
ใครบอกกันว่าฮยอคแจนั้นเข้มแข็งกว่าทงเฮ อย่างน้อยๆก็มีเค้าคนนึงนี่ล่ะที่จะขอเถียงชนิดกล้าเอาชีวิตไปพนันเลยล่ะว่าอย่างฮยอคแจยังไม่สามารถเทียบทงเฮได้ติดฝุ่นเลยสักครั้ง
“พรุ่งนี้...ชั้นกับฮยอคแจจะไปลอนดอน” ทงเฮตัดสินใจบอกในที่สุด
“ว่ายังไงนะ?” ซีวอนเบิกตากว้าง
“เค้ากำลังจะหนีนายไป” ทงเฮช่วยย้ำอีกครั้ง
“ชั้นไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่” ร่างสูงกำมือขึ้น
“อย่าตามเราไปนะ...”
“ไม่!”
“ทำไม...” ทงเฮถามเหตุผล
“ฮยอคแจเป็นคนรักของชั้น”
“อดีตคนรักต่างหาก” ทงเฮช่วยแก้ไขให้ถูกต้อง
“ชั้นยังไม่ยอมรับเลยว่าจะเลิก ฉะนั้นเค้ายังจะต้องเป้นแฟนชั้นอยู่”
“ชั้นกับเค้าเราจะไปอยู่กัน 20 วัน นายลองทบทวนความรู้สึกตัวเองให้ดีๆกว่าสักสามสี่วัน หรือมากกว่านั้น ให้ความรักของนายและฮยอคแจถูกกั้นด้วยเส้นแบ่งของสองประเทศ บางทีนายอาจจะแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองมากขึ้นก็ได้”
“ชั้นกลัว....” ซีวอนยอมเผยความอ่อนแอออกมาในที่สุด
“กลัวอะไร...”
“กลัวฮยอคแจจะต้องไปเป็นของใคร”
“นั่นล่ะ...คือสิ่งที่เพื่อนของชั้นรู้สึกเวลาแห็นใครอยู่ข้างๆนาย”
ตอกย้ำได้เจ็บเหลือเกิน ลี ทงเฮ!
“คิดให้ดีก็แล้วกัน...ชั้นเองก็หวังว่าจะเจอนายที่ลอนดอนนะ แต่ถ้าเลยอาทิตย์นึงแล้วยังไม่มา ชั้นจะยุให้ฮยอคแจคว้าหนุ่มหล่อๆนี่นั่นสักคนมาเป็นแฟนนะ” ยังไม่วายหยอดให้ได้เจ็บอีก
“ลี ทงเฮ!!!” ซีวอนได้แต่เข่นเขี้ยวไล่หลัง เมื่อมองเจ้าตัวดีกระโดดหลั่นล้าอย่างมีความสุขกลับไปที่ห้อง
“เป็นยังไงบ้าง...” ฮยอคแจจัดการซักไซร้ทันทีที่เพื่อนรักเปิดประตูห้องนอนเข้ามา
“หมายถึงอะไร?” ทงเฮแกล้งตีหน้าซื่อทำไม่รู้เรื่อง
“เอ่อ...ซีวอนกลับไปแล้วหรอ?”
“อืม ทำไมหรือแกคิดว่าเค้าจะบุกเข้ามาง้อแกหรอ?”
แทงใจดำอย่างจังเลยล่ะ ยอมรับว่าในใจลึกๆนั้นฮยอคแจเองก็ยังหวังเช่นนั้นอยู่
“บ้า! ใครจะไปคิดแบบนั้น ดีแล้ว...กลับไปได้ก็ดี” ยู่ปากทำหน้าประกอบอีกต่างหาก
“เออ...ไอ้ไก่เผือก เชิญคิดแบบนั้นไปเลย” ลอยหน้าลอยตาอีกนะคนเรา
“แล้วแก...แกบอก...” ฮยอคแจคิดอยู่นานว่าจะถามดีมั้ย
“บอกว่าชั้นกับแกกำลังจะออกเดินทางพรุ่งนี้น่ะนะ” ทงเฮยิ้มให้เพื่อนอย่างรู้ทัน
“บ้า! แกพูดบ้าไรเนี่ย แล้วบอกเค้าไปรึเปล่าล่ะ?”
ทงเฮล่ะอยากรู้จริงๆว่าซีวอนทนจูบปากแข็งๆแบบนี้ไปได้ยังไง
“ก็....................................” ทงเฮลากเสียงยาวๆเพื่อเพิ่มความตื่นเต้นให้กับฮยอคแจ
“เร็วๆสิแก...ชั้นก็ไม่ได้อยากรู้นะ” = =’’?
“ไม่ได้บอก!” โกหกอีกสักครั้งแล้วกัน
“อ้าว....แล้วทำไมแกไม่บอกล่ะ” ฮยอคแจทำหน้าผิดหวัง
“ก็แกเองไม่ใช่หรอที่เป็นคนเลือกที่จะหลบหน้าเค้า แล้วส่งชั้นออกไปรับมือกับเค้าเนี่ย แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอเลิกติดต่อกันไปเลย ซีวอนจะได้ไม่ต้องมาให้แกเห็นหน้าอีกอย่างที่นายต้องการยังไงกันล่ะ” ทงเฮแสร้งเดินไปกินต่อเหมือนว่าต้องการอย่างที่พูดไปจริงๆ
ฮยอคแจสีหน้าหมองลงเล็กน้อย มองที่บานประตูคล้ายกับว่าจะเฝ้ารอให้ร่างสูงเดินย้อนมาเปิดมันออก
แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ในเมื่อเค้าไม่ได้สำคัญอะไรต่อร่างสูงขนาดนั้นนี่นา
ว่าแล้วฮยอคแจก็เดินย้อนเข้าไปในห้องนอนต่อ
ทงเฮมองตามแล้วก็ยิ้มก่อนจะวางตะเกียบลง
ทิฐิ...คำเดียวมั้งที่จะบอกคู่รักสองคนนี้ได้
เอาล่ะฮยอคแจ...มาพนันกัน
ชั้นพนันคนเดียวเลย ไม่เกินสามวันพ่อยอดชายของนายจะต้องรีบแจ้นไปหาพวกเราที่ลอนดอนเลยล่ะ
ถ้าพลาดทงเฮคนนี้ยอมลาออกจากงานเลยล่ะ เชื่อเถอะ!
สนามบินอินชอน เกาหลีใต้ เวลา 22.00 น.
ทงเฮและฮยอคแจกำลังรอเข้าคิวที่กำลังจะทยอยกันตรวจบัตรเพื่อเข้าไปยังเกทและเดินทางกันต่อไป
ฮยอคแจยังคงคอยชะเง้อไปมาซ้ายขวาอยู่ตลอดเวลา คล้ายกับว่ากำลังรอใครบางคนอยู่
“มองหาอะไรอยู่วะ...หรือว่า กำลังรอใครอยู่?” ทงเฮลองหยั่งเชิง
“ไม่นี่! ชั้นไม่ได้รอซีวอนอยู่นะ ชั้นก็ไม่ได้อยากให้เค้ามาง้อแล้วบอกชั้นว่าอย่าไปเลยนะซะหน่อย เอ่อ....”
หมดแล้วล่ะลี ฮยอคแจ...หมดไก่ทั้งเล้าเลย
แต่แทนที่ทงเฮจะเอ่ยล้อใดๆให้ฮยอคแจได้เจ้บใจเล่น เจ้าตัวกลับเอื้อมมือมากุมมือฮยอคแจเอาไว้แล้วเดินไปยื่นตั๋วเครื่องบินด้วยกัน
ฮยอคแจหันมองไปยังบริเวณด้านนอกอีกครั้ง แล้วหันกลับเดินเข้าไปเตรียมตัวขึ้นเครื่องเดินทางกับทงเฮต่อ
และแล้วการเดินทางมันก็เริ่มต้นขึ้น
ทงเฮรู้สึกว่าหัวใจตัวเองมันกำลังเต้น ตึกๆๆ ด้วยความตื่นเต้น
แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนรักของเค้าจะไม่ค่อยมีอารมณ์สุขร่วมกับเค้าเลยน่ะสิ เห็นหลายครั้งเลยว่าแอบเกลี่ยน้ำใสๆที่หางตา
ทงเฮจึงเอื้อมมือไปบีบมือของเพื่อนรักที่วางอยู่บนตักของเจ้าตัวเอาไว้
“หืม?....” ฮยอคแจรีบยิ้มแล้วหันมาหาทงเฮ
“ชั้นพาแกมาลำบากรึเปล่า”
“ทำไมแกพูดแบบนี้ล่ะ....”
“ก็แก...มีท่าทางแบบนี้ชั้นใจไม่ดีเลยนะ” ทงเฮหน้าเจื่อนลง จนฮยอคแจต้องเลื่อนมือมาขยี้ผมเพื่อน
“คิดมากไม่เปลี่ยนเลยนะแกเนี่ย! ไม่เอาน่าชั้นไม่เป็นไรหรอก”
ทงเฮยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าฮยอคแจ
“สัญญานะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะไม่ทอดทิ้งกัน”
ฮยอคแจยิ้มบางๆแล้วเกี่ยวนิ้วห้อยกับบทงเฮกลับ
“แน่นอน...เราจะไม่ทอดทิ้งกัน”
ก่อนที่ทั้งคู่จะนอนเอาหัวอิงกัน แล้วหลับตาลงรอให้ยานพาหนะลำใหญ่นี้พาพวกเค้าไปพบเจอกับสิ่งที่กำลังรอพวกเค้าอยู่ ณ อีกซีกโลกหนึ่ง
มหานครลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร
นครแห่งมนตรา สถานที่ๆได้รับการขนานนามมานานว่าเต็มไปด้วยอารยธรรมยุคต่างๆที่น่าสนใจมากมาย รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก
ที่แห่งนั่นจะเกิดอะไรขึ้นกับ...
หนึ่งคน...ที่ออกตามหาความรัก
หนึ่งคน...ที่ออกหลบหนีความรัก
แต่ที่แน่ๆนั่นก็คือทั้งสองคนนั้น จะต้องเกี่ยวข้องกับกับความรักแน่ๆ
แล้วความรักกับใคร? ที่ไหน? เมื่อไหร่ล่ะ?
.
.
.
.
.
จองตั๋วกันเรียบร้อยแล้ว...เหยียบลอนดอนกันแล้ว
ตอนหน้า..ก็ลากกระเป๋าไปเช็ค อิน เข้าโรงแรมกันนะ
อ้อ! อย่าลืมแลกเงินเป็นเงินปอนด์กันนะ เงินนะมีม๊ายยยย ??
ฮา...ไรเตอร์ไม่มีเลยสักบาท วอน หรือปอนด์ใดใด
เกาะซีวอนต่อปายยยยยย
ความคิดเห็น