ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {KIHAE&WONHYUK} If that day comes ... ถ้าหากวันนั้น

    ลำดับตอนที่ #20 : If that day comes - [13] - Accident&Sick

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.04K
      4
      6 พ.ย. 53






                   
    ไม่รู้...ว่าตัวเองวิ่งมานานเท่าไหร่แล้ว

                    ไม่รู้...ว่าตัวเองออกมาไกลจากโรงแรมมากแค่ไหน

                    ไม่รู้...ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าคิบอมอยู่ที่ไหน

     

                    และมีอีกมากมายที่เค้า...ไม่รู้

     

                    อกบางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วบ่งบอกอัตราการเต้นของหัวใจที่ถี่มากเกินที่ควรในเวลาปกติ

                    ทงเฮกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณที่ตัวเองวิ่งมา จะเป็นลานกว้างที่

    คิบอมมักจะมาเล่นกีตาร์ หรือร้านดอกไม้ประจำของทั้งสองคน แต่ทว่ามันกลับไม่มีวี่แววของร่างสูงเลยแม้แต่น้อย

                    เค้าจะทำอย่างไรดีถ้าหากว่าเรื่องที่ฮยอคแจพูดเป็นความจริง?

    ฮยอคแจไม่เคยโกหก เรื่องนั้นเค้ารู้ดี รู้ดีที่สุดด้วย

                    แต่...ทำไมล่ะ ทำไมคิบอมจะต้องปิดบังเค้าด้วย

                ...ได้โปรด เชื่อใจผม

                    จะผิดมั้ย? ถ้าหากผมจะเชื่อเค้า เชื่อในคำพูดและน้ำเสียงของคนที่ผมรัก

                    ทงเฮค่อยๆหยุดวิ่งและเปลี่ยนมันเป็นการเดิน ก่อนจะหยุดลงในที่สุด

    มองซ้ายมองขวา มองไปทุกทิศ...ก็ยังไม่เจอ

                    คุณจะทรมานผมให้บ้าตายใช่มั้ย?...คิบอม

                    ร่างบางยกมือขึ้นทาบที่หน้าอกตัวเองเอาไว้เพราะเหนื่อยกับการวิ่งไปมามากมาย

                    อยู่ไหน...แฮ่กๆ...คุณอยู่...ที่ไหน... ตาหวานปริ่มว่าจะร้องไห้เสียให้ได้

                    ความจริง...คือสิ่งเดียวที่เค้าต้องการ เค้าแค่ต้องการรู้ความจริงจากปากคิบอมเท่านั้นเอง

                    แต่ทำไม...ความจริงมันช่างดูน่ากลัวได้มากถึงขนาดนี้

                    ทงเฮมองรถขนาดต่างๆที่สวนกันไปมาบนถนนก็เริ่มท้อ มองยังไงก็ไม่มีวี่แววว่าจะพบคิบอม แต่ถ้าหากจะกลับไปโรงแรมในตอนนี้...ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดกับฮยอคแจยังไงดี

                    ความเจ็บที่ถูกตบ...คงไม่ได้ครึ่งกับบาดแผลที่ฮยอคแจได้รับ

    ทำไม...เค้าถึงได้เกลียดตัวเองขนาดนี้

                    ร่างบางถอนหายใจจหนักๆ แล้วหมุนตัวกลับเพื่อจะเดินกลับโรงแรม

    ....

    ...

    ..

    .

     

    !!!

     

                    คิบอมคะ!!!......

     

                    มัน...ไม่ใช่...ความจริงใช่มั้ย ใครก็ได้ช่วยบอกเค้าทีว่านี่มันไม่ใช่ความจริง

                    ผู้ชายใส่สูทผูกไทด์ดูภูมิฐานคนนี้ ที่กำลังเดินออกมาจากร้านอาหารชั้นเยี่ยมพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ควงแขนเค้าออกมา

                    บอกผมที...ว่านี่ไม่ใช่คิม คิบอม

                    ผมคงจะกล้าหลอกตัวเอง...ถ้าหากดวงตาคู่นั้นที่มองสบกับผมในตอนนี้

                    ...ไม่ใช่สีฟ้าน้ำเงิน...

     

                    ทง...เฮ...

                    อย่า! อย่าเรียกชื่อผม...อย่าทำเหมือนว่ารู้จักผม อย่าทำให้ผมแน่ใจ...ว่าคุณคือคนที่ผมรัก ว่าคุณคือคนที่ผมไว้ใจ...ว่าคุณคือ...

                    คนรักของผม

                    ผู้หญิงผมสีน้ำตาลทองแสนสวยคนนั้น คนที่กำลังควงแขนคิบอมเอาไว้ หันกลับมามองผมเช่นกัน

                    และดูจากท่าทาง เธอคงจะสงสัยเช่นกันว่าผมเป็นใคร

    ร่างบางค่อยๆก้าวเดินช้าๆ แต่มั่นคงไปยังพื้นที่ๆทั้งสองคนนั้นยืนอยู่

                    เอ่อ...มีอะไรรึเปล่าคะ? ผู้หญิงหน้าสวยคนนี้ถามผมด้วยภาษาเกาหลี น่าแปลกดีนะ คนที่ผมได้รู้จักในประเทศนี้กลับพูดภาษาเดียวกับผมหมดเลย

                    ผมชื่อ...ทงเฮครับ ร่างบางตอบแต่สายตานั้นก็ไม่ได้ละไปจากใบหน้าของคิบอมเลย

                    เอ่อค่ะ...ชั้น...วิคตอเรียค่ะ

                    ช่วย...แนะนำ...ผู้ชายคนนี้ให้ผมรู้จักหน่อย...ได้มั้ยครับ... ทงเฮค่อยๆพูดเพราะขาทั้งสองข้างมันรังแต่จะทรุดลงไปกองกับพื้นซะให้ได้

                    คะ?....

                    ช่วยบอกผมที...คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้...เค้าเป็นใคร... ดวงตาของทงเฮแดงก่ำจนน่ากลัว

                    กลัวว่าน้ำตามันจะไหลลงมาแล้วไม่ยอมหยุดไหล หัวใจที่ค่อยๆถูกฉีกออกจากกัน มันเจ็บแบบนี้เองสินะ...ความรักครั้งแรก...มันเจ็บขนาดนี้เลยสินะ

                    ทงเฮ...ผม... คิบอมเหมือนจะอยากอธิบาย

                    แต่ตอนนี้ที่ผมต้องการก็แค่อยากจะรู้...

                    เค้าเป็นใคร!! บอกผมทีว่าเค้าเป็นใคร!!!” ทงเฮถามกึ่งจะเกือบเป็นตะคอก

                    วิคตอเรียมีสีหน้าตื่นตระหนกเล็กน้อย

                    คิม คิบอมลูกชายคนเล็กของนักธุรกิจซอฟแวร์ซึ่งเกิดกับภรรยาชาวเกาหลีซึ่งเสียชีวิตไปแล้วค่ะ และอีกไม่นานเค้าจะก้าวเข้าสู่รองประธานกรรมการบริษัท...

                    ทงเฮหลับตาแล้วยิ้มสมเพชตัวเอง ก่อนจะพยักหน้าว่ารับรู้ช้าๆ

                    ทำไม...เค้าถึงไม่สังเกตเลยนะ

                    ทั้งการจ่ายค่าสิ่งต่างๆให้เค้า การจองตั๋วอะไรที่ต้องใช้เวลาล่วงหน้านานๆ แต่เค้ากลับทำได้อย่างง่ายดายเพียงข้ามวัน

                    หรือแม้แต่...การจ้างเรือสุดหรูลำนั้น ให้ใช้บริการเพียงแค่สองคน

                    คำว่า คุณหนู ที่เค้าเองก็ไม่ได้ชะล่าใจไปด้วยเลย

                    โง่อีกแล้วนะ...ลี ทงเฮ นายมันโง่ที่สุดเลย

     

                    ทงเฮ...คือ...ผม...ให้โอกาส...

                    คุณวิคตอเรียครับ...คุณรู้รึเปล่าครับว่าเค้าเล่นกีตาร์

                    อ๋อค่ะ พอดีว่าคิบอมมักจะชอบปลอมตัวออกไปเล่นตามที่ต่างๆเสมอล่ะค่ะ เป็นงานอดิเรก แต่ก็ไม่เข้าใจว่าจะไปทำอะไรพวกนั้นเพื่อแลกกับเศษเหรียญทำไม

                    อีกครั้งที่ทงเฮพยักหน้ารับว่าเข้าใจ

                    ทงเฮ ได้โปรด! ฟังผมก่อน คิบอมทำสีหน้าขอร้อง

                    คุณบอกให้ผมเชื่อใจคุณผมก็เชื่อ...คุณบอกให้ผมไว้ใจคุณผมก็ไว้ใจ...แล้วนี่หรอ...ผลของการที่ผมไว้เนื้อเชื่อใจคุณ?

                    ...

                    ทงเฮมองสบตากับคิบอมอีกครั้ง

                    คุณรู้มั้ย? ฮยอคแจที่คุณเจอน่ะ ผมเป็นเพื่อนเค้ามาสิบกว่าปี เราไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง แต่วันนี้ผมกับเค้าแทบจะตัดความเป็นเพื่อนกัน เพราะอะไรคุณรู้มั้ย?...

                    ...

                    เพราะคำว่าผมเชื่อใจคุณยังไงล่ะ!!!”

                    ทงเฮ...ผม...ผมขอโทษ...แต่คุณฟังผมก่อน...

                    วิคตอเรียมองทั้งคู่สลับกันไปมาด้วยความไม่เข้าใจ

                    ผมถามอีกสักข้อได้มั้ยครับ? คุณวิคตอเรีย ทงเฮหันไปหาหญิงสาว

                    เอ่อ...ค่ะ...

                    คุณ...กับผู้ชายคนนี้...เป็นอะไรกันหรอครับ?

                    จะเจ็บทั้งทีก็เอาทีเดียวให้มันจบ

                    วิคตอเรียมีท่าทีลังเลเล็กน้อย ก่อนจะกระชับมือที่กำลังกอดแขน

    คิบอมเอาไว้แล้วตอบทงเฮออกไป

                    เรากำลัง...จะกลับมารักกันค่ะ

                    วิค!.... คิบอมหันไปมองหน้าหญิงสาวทันที

                    ฮะๆ...งั้นหรอครับ... ทงเฮทำอะไรไม่ได้นอกจากหัวเราะออกมา

                    ทงเฮมันไม่ใช่อย่างนั้น..คือว่า....

                    ตลอดมา...มันคงจะมีแต่ผมสินะ ที่คิดไปคนเดียว ผมขอโทษครับ..

                    มันก็คงจะจริงอย่างที่คุณพูดนั่นล่ะ ความรักจะเกิดขึ้นได้ยังไงในช่วงเวลาแค่ยี่สิบวัน...ผมคงอ่านนิยายมากเกินไป...

                    ทงเฮ....

                    แต่คุณคงจะลืมไปอีกคำ มันคือคำว่าความรักที่สมหวังยังไงล่ะครับที่มันไม่เกิดขึ้น เพราะผมรักคุณไปแล้ว...

                    ...

                    แต่เชื่อเถอะ...นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะได้พบผม...ลาก่อนนะครับ ความฝันในลอนดอนของผม ทงเฮหันหลังกลับวิ่งออกมาทันที

                    เพราะ...กลั้นน้ำตาเอาไว้...ไม่ไหวแล้ว

                    แม้จะได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองที่ดังตามหลังมา แต่ร่างบางก็ไม่ลังเลเลยที่จะเร่งฝีเท้าให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม

                    อกหัก...มันเป็นแบบนี้ใช่มั้ย? มันเจ็บแบบนี้เลยใช่มั้ย?

                    ครืน! ครืน!!!

                    เสียงท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยเมฆสีเทา และไม่นานหยดน้ำก็แข่งกันร่วงหล่นลงมาจากฟ้า

                    ที่เคยเห็นแต่ในมิวสิควิดีโอว่าเวลาคนอกหักจะมาเดินตากฝนบิ๊วอารมณ์กันเล่นๆ ไม่เคยคิดเลยยว่าวันหนึ่งจะต้องกลายมาเป็นตัวเอง

                    ร่างบางหยุดวิ่งแล้วกลายมาเป็นเดินอย่างเชื่องช้า เพราะมันเหมือนจะหมดแรงไปแล้ว หมดตั้งแต่ที่ได้รับรู้ความจริงทุกอย่าง นี่เค้าโง่ตลอดมาเลยใช่มั้ย?

                    ปิดหูปิดตารักเค้าไปโดยไม่เคยเอะใจอะไรเลย มองโลกในแง่ดีมาตลอด

                    สองมือเรียวถูกยกขึ้นมากอดตัวเอง ปิดกั้นจากความหนาวเย็นที่สาดมาระลอกแล้วระลอกเล่า และไม่มีท่าทีว่าจะสงบลงอย่างง่ายๆด้วย

                    ริมฝีปากที่เคยเป็นสีชมพูกลับช้ำม่วงจนน่าใจหาย รวมทั้งใบหน้าที่ขาวซีดพร้อมกับท่าทางการเดินที่พร้อมจะล้มลงไปได้ทุกเมื่อ

                    ก่อนจะต้องปล่อยโฮออกมาอีกรอบเมื่อเดินมาจนอยู่ใกล้บริเวณโรงแรมแล้วพบว่าคนที่กำลังยืนกางร่มรอเค้านั้นเป็นใคร

                    ฮยอคแจ...กับซีวอน

                    แกไปไหนมา! ชั้นขอโทษนะทงเฮ..ชั้น...ชั้น... ฮยอคแจตรงเข้ามากางร่มเหนือหัวผมทันทีพร้อมกับพร่ำพูดคำว่าขอโทษที่ผมไม่สมควรได้รับมันเลยด้วยซ้ำไป

                    ชั้น...ขอ...โทษ.... ทงเฮพูดกับจะทรุดลงไปกับพื้น

                    ทงเฮ!!!” ฮยอคแจทิ้งร่มแล้ววิ่งเข้ามาประคองเพื่อนรักทันที

                    หลบ ตัวเล็ก!” ซีวอนรีบเข้ามาช้อนตัวร่างบางแล้วพากันเข้าไปในโรงแรมทันที

                    ผ่อนไปร่วมกว่าสองชั่วโมงที่ฮยอคแจเอาแต่คอยเช็ดตัวให้ทงเฮและไม่ยอมห่างจากเพื่อนไปไหนเลย โดยมีซีวอนที่นั่งเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ

                    ฮยอคแจต้องลอบปาดน้ำตาทิ้งเมื่อได้ยินแต่เพื่อนตัวเองพร่ำละเมอว่า คิบอม...คิบอม... อยู่แบบนั้น

                    เข้มแข็งเข้าไว้... ซีวอนลุกจากเก้าอี้มาโอบกอดคนรักเอาไว้

                    ชั้นรู้สึกผิดจังเลยล่ะซีวอน...รู้สึกไม่ดีเลย... ฮยอคแจค่อยๆร้องไห้กับร่างสูง

                    นายไม่ได้ทำอะไรผิด นายแค่บอกความจริงเพราะเป็นห่วงเพื่อนเท่านั้น ไม่มีอะไรต้องเสียใจจนี่นา... ซีวอนลูบหัวร่างบางเบาๆ

                    ทงเฮในตอนนี้...น่าสงสาร...ชั้นเป็นห่วงเพื่อนจังเลย

                    คนเราต่างก็มีช่วงเวลาที่ต้องเจ็บบปวดเพราะความรักกันทั้งนั้น ทั้งชั้น ทั้งนายหรือแม้แต่ทงเฮ ต่างก้ต้องเผชิญกับมัน

                    ฮยอคแจกอดกระชับกับร่างสูงเอาไว้ จนเมื่อได้ยินเสียงครางเบาๆของทงเฮจึงรีบผละออกมาดูเพื่อนทันที

                    และก็พบว่าทงเฮได้รู้สึกตัวเรียบร้อยแล้ว

                    ซีวอนจึงขอตัวกลับห้องพักของตัวเองเพื่อให้เพื่อนรักทั้งสองคนได้มีปรับความเข้าใจแก่กันและกัน

                    ทงเฮปรับสายตาให้เข้ากับหลอดไฟนีออนส์สีทองที่ลอยอยู่ตรงหน้าช้าๆ และมองไปด้านขวาก็พบกับฮยอคแจที่นั่งตาแดงๆรออยู่แล้ว

                    ฮ...ฮยอคแจ... ทงเฮค่อยๆเรียกชื่อเพื่อนออกมาอย่างยากลำบาก

    ฮยอคแจแทบจะถลาเข้ามาหาแล้วใช้สองมือลูบหัวทงเฮเบาๆ

                    เจ็บตรงไหนรึเปล่า? ปวดหัวมั้ย? หิวมั้ย? อยากกินอะไรมั้ย?

                    แต่ละคำถาม...ทำเอาทงเฮอยากจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ

                    น้ำใสๆค่อยๆไหลซึมออกมาจากหางตา

                    ชั้นเจ็บ...ที่หัวใจจังเลย

                    แค่ได้ฟังคำตอบน้ำตามันก็ไหลออกมาทันทีเลยล่ะสำหรับฮยอคแจ

                    เจ็บมากมั้ย ฮือๆ...ร้องออกมา ร้องออกมาทงเฮ ร้องออกมาเลยชั้นยังอยู่กับแกตรงนี้ ไม่เคยไปไหน ร้องออกมา แม้ปากจะบอกให้ทงเฮร้องไห้ระบายความเศร้าแต่กลับเป็นตัวฮยอคแจเองทั้งนั้นที่ร้องไห้ออกมาอย่างไม่ขาดสาย

                    ชั้น...น่าจะเชื่อแก...ชั้นขอโทษที่ระแวงแก ชั้นขอโทษ...

                    ไม่เอา ไม่ต้องขอโทษ...ชั้นสิต้องขอโทษ...อย่าพูดเลย ฮือๆ... ฮยอคแจจับเอามือเพื่อนมากุมเอาไว้

                    ชั้นจะไม่เจอเค้าอีก...ชั้นสัญญา... แม้จะต้องเสียใจแค่ไหน แต่มันคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

                    เค้าไม่มีความจำเป็นจะต้องเจอคนๆนั้นอีกแล้ว

                    อย่าทำร้ายตัวเอง...แกอย่าปฏิเสธหัวใจตัวเองเลย... ฮยอคแจเองก็ทนไม่ได้เหมือนกันหากจะต้องทนเห็นทงเฮเป็นร่างที่ไร้วิญญาณแบบนี้

                    เรากลับบ้าน...กันเถอะนะ... ทงเฮตัดสินใจในที่สุด

                    ?!!!”

                    กลับเกาหลีกันเถอะ...ไม่มีที่ไหนสุขใจ...เท่าบ้านเรา ทงเฮยิ้มให้เพื่อนบางๆ

                    คงจะเป็นรอยยิ้มที่ดีที่สุดของเค้าแล้วล่ะ ในตอนนี้

                    ได้! กลับ...กลับพรุ่งนี้เลย ฮยอคแจรีบรับคำ

                    ขอบใจนะ...ขอบใจที่ไม่เคยทิ้งชั้น... ทงเฮบอก

                    ชั้นจะทิ้งแกได้ยังไง...ในเมื่อแกคือคนที่ชั้นรักมากที่สุด

                    ขอบใจนะ..เพื่อน...ขอบใจ... ทงเฮได้แต่บอกอยู่แบบนั้น

                    เพราะคำว่าขอบคุณ ต่อให้พูดเป็นล้านครั้งเค้าก้ชดใช้ให้ฮยอคแจไม่หมด

                    ไม่ต้องพูดแล้ว...ไม่ต้องแล้ว... ฮยอคแจก้มลงไปกอดเพื่อนเอาไว้

     

                    คำว่ามิตรภาพ...ต่อให้ถูกทำร้ายกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

                    คำว่ามิตรภาพ...ก็ยังคงสวยงามอยู่เสมอ

                    คำว่ามิตรภาพ...ไม่อาจจะถูกทำลายด้วยคำสั้นๆ

                    ที่เรียกว่า ความรัก

     

     


    T^T' มิตรภาพนี่มันซึ้งดีแท้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×