ตอนที่ 19 : If that day comes - [12] - St.Paul Cathedral
วันนี้เป็นวันที่สิบเจ็ดแล้วกับการมาเยือนลอนดอนครั้งแรกของทงเฮ และก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งวันที่จะได้เดินทางท่องเที่ยวไปชมสถานที่ต่างๆกับคิบอม
แต่ล่ะวันผ่านไปอย่างรวดเร็วจนร่างบางรู้สึกกลัว กระวนกระวายกับช่วงเวลาที่สั้นลงเรื่อยๆ
ผิดกับคิบอมที่ยังคงทำตัวสบายๆราวกับว่าไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นเลยสักนิด จนบางทีร่างบางก็ชักจะสงสัยเหมือนกัน ว่าคิบอมไม่รู้สึกอะไรเลยหรือหากตนจะต้องเดินทางกลับไปยังประเทศบ้านเกิด
รถไฟฟ้าคันโตแล่นมาจอดที่สถานี
เชื่อเลยล่ะว่าถ้าคราวหน้ามีโอกาสได้มาเที่ยวที่อังกฤษนี่อีก เค้าจะต้องกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเส้นทางสถานีรถใต้ดินนี่แน่ๆ
มีผมเป็นไกด์เนี่ย...สนุกมั้ยครับ ร่างสูงหันมาถามขณะที่กำลังเดินจับมือของทงเฮเอาไว้
มากที่สุด ไม่ตอบเพียงอย่างเดียวร่างบางยังแถมรอยยิ้มแสนสดใสไปให้อีกไม่หยุดด้วย
ขอบคุณครับ ร่างสูงยิ้มรับ
วันนี้จะเป็นที่ไหนกันนะ ทงเฮพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
โบสถ์ครับ... คิบอมเฉลยอย่างง่ายดาย
หื๊ม?...โบสถ์หรอ เหมือนตอนที่เราไปเวสมินเตอร์คราวนั้นรึเปล่าครับ? ทงเฮถาม
ไม่เหมือนหรอก คราวนี้เราขอพรได้
ว้าว...ดีจังเลย
เดินมองดูถนนหนทางไปเรื่อยๆไม่นานคิบอมก็บอกแก่ร่างบางว่าถึงจุดหมายเรียบร้อยแล้ว
ทงเฮจึงกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อสำรวจสถานที่แห่งนี้
ขอต้อนรับคุณลี ทงเฮเข้าสู่โบสถ์เซนต์ปอลครับ
มหาวิหารหลังคาทรงโดม กับการตกแต่งภายนอกที่ดูคล้ายสีขามเหลือบครีมที่เก่าแก่ไปตามสภาพกาลเวลา สไตล์ของมันยังบ่งบอกความเป็นมาในอดีตของประเทศนี้อีกด้วย
ร่างสูงฉวยโอกาสที่ร่างบางกำลังให้ความสนใจกับรูปร่างภายนอกของโบสถ์แห่งนี้ เดินเลี่ยงไปซื้อตั๋วสำหรับเข้าชมด้านใน
โดยที่ราคาสำหรับผู้ใหญ่นั้นอยู่ที่ 7 ปอนด์ ในขณะที่เด็กๆจะถูกลดลงมาให้เหลือเพียง 3 ปอนด์เท่านั้น
ใคร...เป็นคนสร้างที่นี่หรอคิบอม? ทงเฮกระตุกมือร่างสูงที่ตนเองกำลังกุมอยู่ เมื่อเดินเข้ามาในตัวอาคารภายในแล้ว
ราวกับว่าที่นี่จะตกแต่งด้วยหินอ่อน หรือโทนสีขาวสว่างซะเป็นส่วนใหญ่
เวลาที่มีแสงมาตกกระทบยิ่งช่วยให้ความงดงามที่มีมากอยู่แล้วมากเพิ่มขึ้นไปกว่าเดิมอีก
ที่โบสถ์เซนต์ปอลนี้ ผู้ที่ออกแบบสร้างก็คือ เซอร์คริสโตเฟอร์ เรน สถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษครับ
สวยจังเลยนะ แล้วที่นี่มีความสำคัญยังไงหรอ?
ที่นี่เต็มไปด้วยเรื่องราวในประวัติศาสตรืล่ะครับบ เพราะที่โบสถ์แห่งนี้เคยเป้นที่ประกอบพิธีสำคัญ อยางเช่น พระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายแห่งเวลส์
ระหว่างที่ฟังคิบอมพูดนั้น ทงเฮก็คอยมองตลอดทางที่เดินกันไปด้วย ที่นี่ยังเป็นสถานที่ฝังศพของบุคคลสำคัญชาวอังกฤษโดยเฉพาะด้านการทหารเช่น ดยุก ออฟ เวลลิงตัน , ลอร์ด เนลสัน หรือแม้แต่ฟลอเรนสส์ ไนติงเกลก็ใช่ครับ
อ่าๆ มีแต่ประวติศาสตร์เต็มไปหมดเลยนะเนี่ย
ที่ไหนๆก็ต้องมีเรื่องราวในตัวของพวกมันอยู่แล้วล่ะครับ
นั่นสินะ...โอ้ว.......... ทงเฮอ้าปากค้าง เมื่อคิบอมเปิดประตูให้เข้าไปยังห้องทำพิธีทางศาสนา
มันช่างดูงดงามและมีสง่าเหลือเกิน เมื่อได้เข้ามาอยู่ต่อหน้าแท่นพิธีของที่นี่แล้ว ทั่วทั้งผนัง หลังคา หรือตามที่ต่างๆ ก็ถูกตกแต่งให้สวยงามราวกับได้ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า บนสวรรค์
สีขาว ทอง แดง น้ำเงิน รวมทั้งไฟต่างๆตัดกันมากมาย แต่กลายเป็นความลงตัวที่พอเหมาะพอควรในที่สุด
ตราไม้กางเขนอันใหญ่ที่ตั้งตะหง่านบ่งบอกพวกเราให้เข้าหาศาสนาด้วยหัวใจที่ศรัทธา
เก้าที่ยาวตัวใหญ่ที่เรียงหลายกันหลายสิบตัว บ่งบอกถึงความใหญ่โตของสถานที่นี้ในการทำพิธีต่างๆ
คิบอมจูงมือทงเฮให้เดินชมสถานที่นี้ไปรอบๆ จจนมาหยุดที่เก้าอี้ยาวตัวแรกใกล้กับหน้าแท่นพิธีมากที่สุดจึงพากันนั่งลงในที่สุด
คุณคิดว่าที่นี่เป็นยังไงครับ? คิบอมถามเป็นคนแรก
ก็...มันดูสง่ามากๆเลย...สวยจนบรรยายไม่ถูก แล้วก็ชวนศรัทธามากๆเลย
ผมชอบมาที่นี่...มันจะทำให้ผมใจเย็นมากขึ้น
หรอครับ? แต่ทว่าคุณเป็นนักดนตรีนี่นา ไม่น่าจะมีอะไรให้ทุกข์ใจนะ
คิบอมยิ้มบางๆไม่ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรทงเฮทั้งนั้น
แม้ว่าจะแปลกใจ แต่ทงเฮก็ไม่ได้ติดใจที่จะระแวงหรือคิดมากอะไร
ผมมีเวลาให้คุณอีกแค่ชั่วโมงเดียวนะครับทงเฮ ผมขอโทษด้วย แต่ว่าตอนเย็นนี้ผมมีงานด่วนน่ะครับ
งานด่วน? อาชีพคุณมันเป็นอาชีพอิสระนี่นา ร่างบางขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจ
เอ่อ...คือ....
หรือว่า...เค้าจ้างคุณด้วยเงินที่เยอะมาก?
อะ...อ่า ใช่! เงินหนามากๆเลยล่ะครับ คิบอมทำเสียงให้น่าตื่นเต้นมากกว่าที่ควร
อ่อ...งั้นทำไมไม่รีบบอกผมล่ะ คุณควรจะไปเตรียมตัวนะ ร่างบางเป็นห่วง
ไม่ครับ...ผมอยากจะนั่งอยู่กับคุณต่ออีกสักพัก คิบอมส่งสายตาหวานมาให้จนร่างบางไปไม่เป็นเลยทีเดียว
มาถึงที่นี่แล้ว...จะไม่ลองสารบาปหรือขอพรอะไรหน่อยหรอครับ
คิบอมเลื่อนสายตาผละจากใบหน้าขาวเนียนเป็นมองที่ไม้กางเขนขนาดใหญ่
อืม...นั่นสินะ...งั้นเราไปขอพร้อมๆกันเถอะ ร่างบางลุกขึ้นยืนแล้วดึงมือคิบอมให้เดินไปตรงหน้าแท่นไม้กางเขนด้วยกัน
ก่อนที่ต่างฝ่ายจะยกสองมือของตัวเองขึ้นมาประสานไว้ตรงหน้า แล้วตั้งใจเพ่งจิตอธิษฐาน
...ขอให้ผมตื่นมาทุกวัน แล้วยังพบว่าเค้ายังคอยยืนอย่เคียงข้างของผมด้วยเถอะนะครับ ผมไม่ต้องการสิ่งใดในโลกอีกแล้ว นอกจากคิบอม เพราะเค้าสอนให้ผมได้เรียนรู้ว่าความรักนั้นเป็นเช่นไร อย่าให้ผมต้องสูญเสียเค้าไปเลย...
ทงเฮตั้งใจกับการขอพรอันนี้มากๆ
และเมื่อลืมตาขึ้นมาจากการอธิษฐานก็พบว่าคิบอมยืนรออยู่ก่อนแล้ว
คุณขอนานจังเลยนะครับ ร่างสูงบอก
ก็อุตส่าห์มาทั้งทีนี่นา คิบอมนั่นล่ะที่ขอเร็วเกินไป
ฮะๆ...ก็ผมมาขอบ่อยจนพระเจ้าอาจจะเหม็นขี้หน้าผมแล้วก็เป็นได้นี่นา
ดูพูดเข้าสิ... ทงเฮมองด้วยความหมั่นไส้
คิบอมยิ้มรับก่อนจะมองเวลาที่ล่วงเลยมามากแล้ว
คุณคง...ต้องไปแล้วสินะ... ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ทงเฮกลับรู้สึกใจหายแปลกๆ
พรุ่งนี้...ผมจะไปรับคุณไปดูที่อื่นตามเวลาเดิมนะ
แต่คุณไม่ต้องทำงานหรอ? เพราะที่ตกลงกันไว้มันคือวันเว้นวันนี่นา
ไม่เป็นไร...ผมอยากอยู่กับคุณ
อะ...อืม...ครับ ทงเฮอดกังวลใจเกี่ยวกับน้ำเสียงของร่างสูงไม่ได้เลย
เหมือนมันแฝงเรื่องราวบางอย่างที่เค้าไม่รู้เอาไว้
ขากลับพวกเค้าก็ยังคงใช้บริการยาพาหนะเดิม แต่ดูเหมือนว่าเวลามันจะผ่านไปเร็วมากๆ ไม่นานทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ที่หน้าโรงแรมเสียแล้ว
ร่างบางไม่อยากจะปล่ยมือที่เกาะกุมเอาไว้เลย
กลัว...ว่าถ้าปล่อยไปแล้ว อาจจะไม่ได้จับอีกเลยก็ได้
ผมไปนะ... ร่างสูงเอ่ยสั้นๆ แล้วหมุนตัวกลับไป
คิบอม.... ทงเฮเรียกเอาไว้เบาๆ
ครับ...?
ผมรักคุณ... ทงเฮพูดออกไป
คิบอมยิ้มแล้วเดินตรงกลับมาหาร่างบาง
โน้มตัวลงมาแนบริมฝีปากสื่อแทนความรู้สึกของตัวเอง
ผมก็รักคุณ...ได้โปรด เชื่อใจผม ก่อนจะเดินออกไปจริงๆ
ทงเฮเดินอมยิ้มตลอดทางระหว่างที่กำลังเดินขึ้นห้องพัก และเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบกับฮยอคแจที่ยืนหน้าเครียดอยู่ก่อนแล้ว
อ้าว...แกไม่ได้ไปอยู่ห้องซีวอนหรอกหรอ
เปล่า...มาคุยกันหน่อยสิ ฮยอคแจบอกแล้วเดินนำทงเฮไปอยู่ในห้องนอน
แกมีอะไรรึเปล่า? ทงเฮมองอาการไม่สบายใจของเพื่อนแล้วก็อดถามไม่ได้
คนนั่นน่ะ... ฮยอคแจเองก็พยายามจะหาทางออกให้กับเรื่องนี้เช่นกัน
คนนั้น...?
คิม คิบอม...
ทงเฮขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อได้ยินชื่อคนรักหลุดออกมาจากปากของเพื่อนสนิท
ทำไม
เค้าเป็นใคร...
ทำไมแกถึงอยากรู้...เค้าเป็นนักดนตรีริมถนน แกคงไม่รังเกียจใช่มั้ย?
นักดนตรี? ฮยอคแจทวนคำ
ใช่...เค้าเล่นกีตาร์ริมถนน ชั้นเจอเค้าตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่
เค้ากำลังหลอกแก...
ทงเฮชะงักไปเล็กน้อย
แกกำลังพูดเรื่องอะไร
ชั้นเคยเจอเค้ามาก่อน เค้าไม่ใช่นักดนตรี เค้า....
หยุดพูด! แกกำลังจะทำให้ชั้นกับเค้าทะเลาะกันนะ ทงเฮพูดเสียงแข็ง
แต่แกต้องฟัง เพราะทุกสิ่งที่ชั้นพูดมันคือความจริง!!! คิม คิบอมที่นายมองว่าเค้าเป็นคนธรรมดาน่ะ เค้าเป็นถึงลูกคนเล็กของบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอนนี่
วะ...ว่ายังไงนะ ทงเฮเบิกตากว้างกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งจะได้รู้
เค้าเป็นหนึ่งในประธนกรรมการของบริษัท แกได้ยินมั้ย! อีกไม่นานเค้าจะได้เป็นเจ้าของที่นั่น!!!
ไม่เชื่อ! ชั้นไม่เชื่อ!! แกโกหก แกจะแยกชั้นกับคิบอมออกจากกันใช่มั้ย!
แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง...
คนนี้ชั้นขอ! แกก็มีซีวอนอยู่แล้วนี่นา จะมายุ่งกับคิบอมของชั้นทำไม!!!!
...เพียะ!!!!...
เสียงฝ่ามือบางของฮยอคแจฟาดลงบนใบหน้าขาวเนียนของทงเฮอย่างแรงจะเป็นรอยแดงขึ้นมาชัดเจนทันที
ทงเฮค่อยๆหันหน้ากลับมามองฮยอคแจที่ยังคงมือสั่นกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งทำลงไป
แก...พูดออกมาได้ยังไง... ฮยอคแจพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ทั้งๆที่ดวงตาทั้งสองข้างมันก็แดงก่ำไปหมดแล้ว
แกบอกว่าเชื่อใจคนที่แกเพิ่งเจอได้ไม่ถึงเดือน...กับชั้นที่อยู่กับแกมาเป็นสิบปี แกกลับระแวงว่าชั้นจะทำเรื่องแบบนี้... เหมือนจะหมดแรงเอาเสียดื้อๆ
ชั้น...รักเค้า ทงเฮเองก็เสียใจ
ชั้นก็รักแก!!!
ทงเฮกำมือแน่นทั้งสองข้าง แล้วสะบัดตัววิ่งออกจากห้องไป
เค้าจะต้องรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้
เค้าจะไปถามคิบอม!
ฮยอคแจมองประตูที่ปิดลงพร้อมกับการจากไปของเพื่อนที่รักที่สุดของตัวเอง
ร่างบางทรุดตัวนั่งลงกับพื้นห้องช้าๆ ปาดน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่ขาดสายนั่นออก
เชื่อแล้ว...ว่าความรักสามารถทำให้มิตรภาพแปรเปลี่ยนได้จริงๆ
แต่คนเรา...จะเปลี่ยนไปเพราะความรักได้ขนาดนี้เลยหรอ?
ทงเฮ...ที่คอยต้องให้เค้าปกป้องอยู่เสมอ
ทงเฮ...ที่ไม่กล้าตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง
ทงเฮ...ที่เค้ารักมากกว่าชีวิตของตัวเอง
วันนี้...เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยหรอ?
ขอบคุณทุกๆคนที่ให้การสนับสนุนเรื่องนี้นะคะ
แล้วก็ขอโทษที่มาอัพช้า สังเกตได้ว่าตอนนี้แทบไม่ได้อัพเรื่องไหนเลย
ตั้งแต่ปิดเทอมมา ยังไม่ได้พักเลย TT' ระเห็จออกไปทำอุปกรณ์สำหรับกีฬาสี
หาวัดทำโครงงานเทศน์มหาชาติ บลาๆๆๆ
แต่เรื่องนี้เหลืออีกไม่กี่ตอนจะจบแล้ว จะพยายามอัพให้จบเลยค่ะ
อย่างอนกันน้า T^T
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นั่นไงงานงอก
T T ยอกใจเย้นนน~
แล้วด๊องทำไมจะต้องเข้าใจผิดฮยอกแบบนั้นล่ะ คาใจย่างแรง
เอาแล้วไง ฮยอคด๊องจะเข้สใจกันไหมเนี่ย
แล้วด๊องจะเอายังไงกับคิบอมล่ะ รักไปแล้วนะ
' ดราม่า '
T^T
สงสารฮยอกอ่ะ
หมวยระแวงมากไปไหมลูก
เฮอ่ะ ฮยอกแค่เป็นห่วงหน่า
ใจเย็นๆ
อ๊ายยยย ดีใจๆๆ พี่จีนอัพแล้วว เย้
กะแล้วว่าต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ แต่รวยกว่าที่เราคาดไว้เยอะเลยนะเนี่ย ว้ากกกกกก
แล้วทำไมหมวยต้องว่าฮยอกอย่างนั้นล่ะ มันแรงมากเลยนะนั่น
ย๊อกเขาเตือนเพราะเขาหวังดีน้า ถ้าเค้าเป็นฮยอกเค้าก็คงทำเหมือนกันแหละ
ว่าแต่บอมมาเป็นนักดนตรีทำไมเนี่ย บ้านรวยจนไม่มีไรจะทำแล้วเหรอ /me โดนบอมตบ
โอ้ยย
ดีใจสุดซึ้งงง จีนมาอัพแล้วววX3
อ่า,, เข้าใจผิดกันเพราะคำพูด นี่ล่ะนะคนเรา=='
แง่มม ม ม
เพื่อนอย่ามาทะเลาะกันอย่างนี้เลยยย~
งื้อออออออออออ
จีนสู้ๆๆๆๆๆๆ!
^^=V
สงสารรรรฮยอก ด็องก็เกินไป YOY
ทงเฮพูดแรงไปรึเปล่า พูดเหมือนกะฮยอกจะไปแย่งคิบอม งั้นแหละ
ความรักมันบังตาจริง ๆ นะ ไม่คิดจะฟังเหตุผลกันเลย ฮยอกก็แต่เตือน
ทำไมต้องโกรธมากมายขนาดนั้น แล้วที่วิ่งออกไปหน่ะ จะทันคิบอมรึเปล่าก็ไม่รู้
ติดตามค่ะ
แล้วยอกเคยเป็นแฟนบอม ? 5555 งงไปหมดแล้ววว
มาอัพต่อเร็วๆๆนะค้า
:D
คุยกันดีๆ คิบอมสรุปว่ายังไงกันแน่เนี่ย
แกหลอกหมวยชั้นงั้นเหรอ
ไรท์เตอร์สู้ๆจ้า
สู้ๆๆๆๆนะคะไรเตอร์ สนุกมากๆๆๆๆๆๆเลยคะ
ทำให้ฮยอกของนูน่าเสียใจ
ทำไมไม่ฟังบ้างอ่ะ
สู้ๆนะค่ะไรเตอร์
ถ้าเราเป็นฮยอค
เราก็ทำแบบฮยอคแหละเสีนใจเหมือนกันแหละแต่คงเจ็บข้างในมากกว่า
อยู่ๆเพื่อนก็มาหาว่าจะเอาแฟนเพื่อนเนี่ย(แล้วมีหรือ...วอนจะยอมหา)
ด๊องใช้หัวสมองอะไรคิด...?ขี้เลื่อยหรือไง..?หรือรักจนตาบอดหา
เหอๆเพื่อนมาบอกให้ทราบนะเว๊ย
ถ้าบอมโกหกแล้วใครล่ะที่อยู่ข้างแก..?
แต่ด๊องก้พูดกะฮยอกแรงเกินไปนะ
ฮยอกอุตส่าห์เป็นห่วง
แต่ด๊องก้ต้องเชื่อใจบอมด้วยนะ
บอมรักแกจริง ๆ นั่นแหละ
เดี๋ยวหมวยใจเย็นเเล้วอะไรๆคงพูดกันง่ายขึ้น
ว่าเเต่บอมรวยใช่เล่นเลยอ่ะ
เเล้วมาเป็นนักดนตรีทำไม
ฮยอกใจเย็นๆนาาา -..-
ไรเตอร์สู้ๆ อัพเร็วๆด้วยนะ>
ถ้าเราเป็นฮยอก เราก็โกรธด๊องนะเนี่ย