ตอนที่ 70 : COME BACK-[END]=เรารักกัน
3 ปีผ่านไป
“คุณอาฮยอคแจ!!” ซอกฮยอนยิ้มร่าทันทีเมื่อพบว่าเมื่อกลับบ้านมาแล้วพบใครกำลังนั่งคุยอยู่กับพ่อของตัวเอง
“ว่าไงห๊ะ ซอกฮยอน” ฮยอคแจยิ้มตอบ ตอนนี้เค้าเดินทางมาเยี่ยมครอบครัวของฮยองจุนที่เวียนนา ซึ่งหลังจากปรับความเข้าใจกันได้แล้วก็พากันย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวร และเมื่อซอกฮยอนเติบโตขึ้น ทั้งคู่จึงค่อยๆอธิบายความจริงให้ลูกฟัง
ซอกฮยอนก็เป็นเด็กดีมาก ในปีนี้ที่อยู่ชั้นประถมปีสุดท้ายแล้ว ก็ทำความเข้าใจกับความจำเป้นของพ่อแม่ได้ แถมยังดีใจเสียอีกที่รู้ว่าพี่ชายฮีโร่คือพ่อแท้ๆของตัวเอง
“สวัสดีนะคะ ฮยอคแจ จะพักอยู่กับเรารึเปล่าคะ?” ยอนฮีเอ่ยถาม
เพราะเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วที่คนๆนี้จะหาโอกาสแวะเวียนมาเยี่ยมพวกเธอ ซีวอนเองก้มาเช่นกัน เพียงแต่คนละช่วงเวลากับฮยอคแจเท่านั้น เธอเองก็พอจะได้รับรู้เรื่องราวของทั้งสองคนอยู่บ้าง เพียงแต่พูดหรอืช่วยอะไรไม่ได้มากเท่านั้นเอง
“ไม่เป็นไรล่ะ พอดีว่าผมค้างโรงแรมดีกว่าน่ะ” ฮยอคแจพูดอย่างเกรงใจ
“แล้วมานี่จะอยู่กี่วันล่ะ” ฮยองจุนถามบ้าง
“ไม่รู้สิ....สักอาทิตย์หนึ่งมั้ง?” ฮยอคแจไม่แน่ใจ
“งั้นกินข้าวด้วยกันก่อนนะ ยอนฮีทำกับข้าวไว้แล้วล่ะ” ฮยองจุนเชิญ พร้อมกับแยกออกไปตั้งโต๊ะกับยอนฮีปล่อยให้ฮยอคแจนั่งเล่นอยู่กับซอกฮยอน
“คุณอาครับ!....ผมมีอะไรจะอวดล่ะ” ซอกฮยอนยืนขึ้นอยย่างภูมิใจ
“อ่า...ไหนล่ะ....โชว์มาซิ....” ฮยอคแจนั่งหัวเราะอยู่กับซอกฮยอนอย่างมีความสุข
เด็กคนนี้เติบโตมาพร้อมเรื่องราวร้ายๆ แต่ก็ยังเติบโตมาเป็นเด็กที่มองโลกในแง่ดี ยอมรับกับความเป็นจริงได้ตลอด มันช่างน่าอิจฉาจริงๆ
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงกับครอบครัวคิมแล้ว ฮยอคแจก็ขอตัวกลับ แต่ก็ถูกซอกฮยอนเรียกเอาไว้เสียก่อน
“มีอะไรหรอ?”
“นี่ฮะ...ผมให้” ซอกฮยอนยื่นอุปกรณ์โชว์นั้นให้ฮยอคแจ
“อ้าว มาให้อาทำไมล่ะ ทำไมไม่เก็บไว้เล่นเอง”
“ผมสนุกพอแล้วล่ะครับ ผมให้คุณอา เผื่อว่าคุณอาจะต้องใช้มัน”
“อ่า...อาจะได้เอามันไปทำอะไรล่ะเนี่ย แต่ก็ขอบใจมากนะ ไปล่ะ” ฮยอคแจยิ้มขำแต่ก้ยอมรับมาใส่กระเป่าไว้ แล้วเดินออกมา
ฮยอคแจมาเดินที่ลานกว้าง เพื่อพักผ่อน โชคดีที่อากาศไม่ร้อนนักในวันนี้
ฮยอคแจเดินมาเรื่อยๆก็มาเจอกับโบสถ์ที่ฮยองจุนเคยพาตัวเองเข้ามาขอพร แต่ตอนนี้ฮยอคแจยังอยากจะเข้าไปที่นั่นนัก จึงเลือกที่จะมานั่งที่ม้านั่งหน้าโบสถ์ที่มีลักษณะสองตัวหันหลังชนกัน
“เฮ้อ....” ฮยอคแจนั่งแล้วก็นึกถึงเรื่องราวเก่าๆที่เคยเกิดขึ้น
สามปีแล้วสินะ นับจากวันนั้นที่เค้าไม่ได้พบเจอร่างสูงอีกเลย ได้ข่าวเป็นระยะๆเพียงแต่ว่า ร่างสูงผันตัวมาทำสื่อสร้างสรรค์เพื่อเด็กในเครือข่ายๆเล็กๆของอเมริกา ทางด้านชางมินเองก็ได้เป็นนักบิน สมใจแล้วเรียบร้อย
พอเวลาผ่านไปคนเราต่างก็เติบโตขึ้นไปด้วย มาจนถึงตอนนี้เค้าเริ่มทำความเข้าใจหลายๆยอ่างมากขึ้นแล้ว ไม่ใช่ว่าเค้าไม่เชื่อ เค้าเชื่อแล้วล่ะ ว่าคำว่ารักจากร่างสูงนั้นมันคือรักจริงๆ
เวลาคงจะสอนให้เราทั้งคู่ได้คิดอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น สามปีที่ผ่านมาของเค้าก็ได้เกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมามากมาย ทั้งเดินทางไปหลายประเทศ เขียนนิยายออกมาอีกหลายเรื่อง ทำให้ประสบการณ์ของเค้ายิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก
แต่เมื่อมีเวลาว่างทีไร เค้าก็ยังคงคิดถึงร่างสูงอยู่ตลอดเวลา ยังคงรักเสมอไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ที่เค้าพูดกับร่างสูงไปเมื่อสามปีก่อนนั้น ก็เพียงเพราะว่าอยากให้เวลารักษาร่างสูงให้หายจากแผลในอดีต และเรียนรู้วิธีการที่จะรักใครสักคนจริงๆเสียก่อน
และเค้าก็หวังว่ามันจะเป็นสามปีที่มีค่าต่ออีกฝ่ายด้วย
“มาเที่ยวคนเดียวหรอครับ?” เสียงทุ้มที่เอ่ยขึ้นจากม้านั่งด้านหลังทำให้อยอคแจสะดุ้งทันที แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องหันไปมอง เพราะจำได้ดีว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร
“ครับ...คุณล่ะ” ฮยอคแจถามกลับด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย มาถึงตอนนี้ไม่มีความขุ่นข้องใจใดๆอีกแล้วล่ะ เรื่องราวในอดีตเค้ารู้จักที่จะปล่อยวางมันไปบ้างแล้ว
“ผมมาคนเดียวครับ แต่ตั้งใจว่าจะกลับไปสองคน” เสียงนั้นตอบกลับมา
“แปลกดีนะครับ” อยอคแจยิ้มบางๆ
“ในอดีตผมเคยรักผู้ชายคนหนึ่งนะครับ คุณรู้มั้ย ผมรักเค้ามาก แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะแสดงออกไปยังไง สุดท้ายแล้วผมก็ทำให้สิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจตลอด”
“แล้วคุณทำยังไงล่ะครับ....”
“สุดท้ายแล้วผมก็ต้องเสียเค้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า ชีวิตผมที่ได้อยู่คนเดียวต้องพบเจอกับคนใหม่ๆมากมาย แต่ท้ายที่สุดแล้ว หัวใจของผมก็ยังคงตอบว่า คนที่ผมรักยังคงเป็นคนเดิมอยู่เรื่อยมา....คุณว่าตลกมั้ยล่ะ?”
“ผมว่าบางทีเรื่องราวของผมอาจจะตลกกว่าคุณก็ได้นะ...” ฮยอคแจยิ้มขึ้นกว่าเดิม แล้วเริ่มต้นเล่าเรื่องของตัวเองให้อีกฝ่ายฟังบ้าง
“ผมเคยแอบรักผู้ชายคนหนึ่งมาสิบกว่าปี เดี๋ยวรัด เดี๋ยวจาก ทั้งสุข และทุกข์ ทรมานหรือสุขสม ผมผ่านมันมาแล้วทั้งนั้น แต่คุณเชื่อมั้ยถึงแม้ผมจะหนีเค้าไปสุดขอบโลก ผมก็ยังได้พบเค้าอีกครั้ง เค้าทำให้เจ็บสักแค่ไหน....ใจผมก็ยังคงให้อภัยเค้าตลอด คุณว่ามันตลกมากกว่ารึเปล่า”
ทั้งคู่เงียบไปอย่างเนิ่นนาน ก่อนที่เสียงทุ้มจะพูดออกมา
“เราเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้งได้มั้ย...ฮยอคแจ” ร่างสูงถอดหมวกออกจนพบว่าคือซีวอนนั่นเอง
“ไม่กลัวมันกลับมามีจุดจบแบบเดิมอีกหรอ” ฮยอคแจถาม
“ถ้ามันเป็นแบบนั้น เราก็มาเริ่มกันใหม่อีกครั้ง ถ้าต้องจากอีก ชั้นก็จะกลับมาพบนาย เราอาจจะต้องเรียนรู้กันไปทั้งชีวิต แต่ชั้นค้นพบแล้วจริงๆฮยอคแจ ว่าต่อจากนี้ชั้นจะมีชีวิตอยู่เพื่อใคร”
ฮยอคแจพยักหน้ารับ นั่นสินะ...เค้าเองก็ยอมรับเช่นกันว่าซีวอนคือที่สุดของชีวิตเค้าจริงๆ
“ชั้นมีเหรียญอยู่เหรียญหนึ่ง ชั้นจะโยนมัน ถ้าผลมันออกมาเป็นหัว ชั้นจะลองให้โอกาสนายอีกครั้งหนึ่ง...แต่ถ้าไม่...นายจะต้องออกไปจากชีวิตชั้นแล้วอย่ากลับมาอีกนะ” ฮยอคแจล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า และหยิบเหรียญที่ได้รับจากซอกฮยอนขึ้นมาถือไว้
ซีวอนลุกขึ้นมายืนตรงหน้าร่างบางทันที พร้อมกับมองเหรียญอย่างใจจดใจจ่อ
ฮยอคแจสูดลมหายใจเข้าเรื่อยๆก่อนจะโยนเหรียญขึ้นไปบนอากาศ แล้วปล่อยให้มันตกลงมาสู่มือของตัวเอง
ซีวอนมองมือขาวนั้นด้วยอาการตื่นเต้น จะเกิดอะไรขึ้นกันล่ะถ้าหากมันออกมาเป็นก้อย? เค้าไม่ยอมออกไปจากชีวิตอีกฝ่ายหรอกนะ!
“จะออกมาเป็นอะไรนะ.....” ฮยอคแจพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก่อนจะค่อยๆเปิดมือออกมาก็พบว่า ด้านหัวคือคำตอบนั่นเอง
ซีวอนที่เห็นผลแล้วก็รวบฮยอคแจเข้ามากอดเอาไว้ทันที เพราะนั่นหมายความว่าเค้าได้รับโอกาสนี้แล้ว
ฮยอคแจยิ้มร่ากอดจะยกมือสวมกอดอีกฝ่ายอย่างรักใคร่ เนิ่นนานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้รับไออุ่นจากอ้อมกอดนี้
“ขอบคุณนะฮยอคแจ...ขอบคุณมาก...” ซีวอนพูดเสียงหนักแน่น
“ชั้นรักนาย...ซีวอน รักเสมอมา...” ฮยอคแจบอก
“ชั้นก็รักนาย กว่าชั้นจะได้รู้ว่าการรักใครสักคนมันยิ่งใหญ่ขนาดไหน มันต้องใช้เวลาขนาดนี้เลยสินะ...ขอบคุณนะที่ให้โอกาสชั้น”
“เราจะเรียนรู้กันและกันเรื่อยไปนะซีวอน” ฮยอคแจผละออกมาสบตากับซีวอน
“อืม...ชั้นอาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุด แต่ชั้นจะรักนายให้ดีที่สุด ชั้นสัญญา ขอบคุณนะที่สร้างชั้นขึ้นมาให้เป้นคนมากกว่าเดิม ขอบคุณที่ค่อยๆต่อเติมหัวใจให้กับชั้น นายคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของชั้นแล้วล่ะฮยอคแจ” ซีวอนพูดก่อนจะก้มลงสัมผัสริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างเนิ่นนานให้สมกับการรอคอยอันยาวนาน
“นายเคยเข้าไปขอพรที่โบสถ์รึยัง...” ฮยอคแจเอ่ยถามร่างสูง
“เพิ่งเข้าไปก่อนนายจะมานี่ล่ะ ชั้นเชื่อแล้วว่าการขอพรแรกมันจะสมหวังจริงๆ” ซีวอนเงยหน้าเพื่อขอบคุณพระเจ้า
ขอบคุณที่ทำให้เค้ากลับมาหาผม
ฮยอคแจเดินจูงมือซีวอนผ่านหน้าโบสถ์ ก่อนจะหย่อนเหรียญที่ได้รับมาจากซอกฮยอนให้ลงไปในกล่องรับบริจาค รวมกับเหรียญอื่นๆอีกเล็กน้อย แล้วเดินออกไปพร้อมกับซีวอน
แกร๊งส์!! เสียงเหรียญที่มีขนาดใหญ่กว่าเหรียญอื่นเด้งกระดอนไปมาในกล่อง หากมองดูแล้วจะพบว่าเหรียญนั้นคือเหรียญมายากล...ที่มีหัวทั้งสองด้าน!
“ฮยอคแจ...นายรู้มั้ยชั้นรักนายมากแค่ไหน” ซีวอนพูดพร้อมกับกระชับมือที่กุมอยู่ให้แน่นมากกว่าเดิม
“แล้วเท่าไหร่ล่ะ?”
“ก็มากพอที่ชั้นจะบอกนายไปทุกวันเลยยังไงล่ะ ว่าชั้นรักนาย วันนี้ พรุ่งนี้ หรือมะรืน ชั้นก็จะคอยบอกนายทุกวันว่าชั้นรักนาย...และรักนายตลอดไป” ซีวอนยิ้มละไม
ฮยอคแจยิ้มรับกับคำพูดแสนหวานนั้น พร้อมกับตอบร่างสูงไปเช่นกัน
“ถ้าอย่างนั้นนายก็ควรรู้ไว้นะ ว่าชั้นจะรักนายเท่ากับที่นายรักชั้น ทุกครั้งนายบอกรักชั้น ชั้นก็ตอบรักนายกลับไปเช่นกัน”
ทั้งคู่ยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ ภายใต้ท้องฟ้าสีคราม ที่สดใสไม่อึมครึมดังเช่นที่เคยเป็นมา
ไม่มีใครสามารถตอบได้ว่าสำหรับความรักแล้ว ความเจ็บปวด การจากลา และความสูญเสียมันจะจบลงเมื่อไหร่ ที่ไหนและยังไง มันเป็นเพียงเรื่องราวของคนสองคนเท่านั้นที่จะเป็นผ้หาคำตอยนี้เอง
และสำหรับซีวอนและฮยอคแจ พวกเค้าไม่ได้สนใจในส่วนนี้อีกแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก พวกเค้าจะปล่อยให้มันเป็นเรื่องราวในอนาคต ไม่นำมันมาบั่นทอนปัจจุบันที่กำลังมีความสุข
ขอเพียงตอนนี้เรามีกันและกัน...แค่นี้ก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว
มีเพียงชเว ซีวอนที่รักลี ฮยอคแจ มีเพียงคนสองคนที่รักกัน เท่านั้นมันก็สุขใจมากเกินพอแล้ว
...ชั้นรักนาย...
UPDATED 06/10/2013
จบแล้ว :) ลากยาวมาเป็นปี อัพจบลงเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด ^^ รักทุกคน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หลังจากที่ใช้ชีวิตทบทวนตัวเองถึง 3 ปี หวังว่าวอนจะเชื่อในความรักมากขึ้น
และรักษาความรักของตัวเองกับฮยอกไว้ ^_^
ขอบคุณไรเตอร์มากเลย ผ่านมาตั้งหลายเดือนยังมาลงให้ T^T น้ำตานองหน้า
มีความสุข
ฮยอกแจกะซีวอน ก็ได้กลับมารักกันใหม่อีกครั้ง
หวังว่าครั้งนี้ ซีวอนคงเลิกนิสัยแบบเดิม ๆ ได้แล้วนะคะ
ดีใจังค่ะ จบแบบ Happy Ending คิดว่าต้องแยกกันซะอีก