ตอนที่ 65 : COME BACK-[20]=เครื่องช่วยหายใจ
งานศพของมินโฮถูกจัดขึ้นเล็กๆ ภายในโซล ซ฿งมีผู้มาร่วมงานเพียงบุคคลที่ไปทะเลด้วยกันเท่านั้น
ซึ่งฮยอคแจเองก็พอจะเข้าใจว่าเป็นเพราะชเว จินโมคือบุคคลที่มีอีกหลายอย่างที่ไม่สามารถจะเปิดเผยออกมาได้
วันนี้คือวันแรกที่จะต้องตั้งศพไว้เพื่อเคารพ ก่อนจะทำไปบรรจุในสุสานต่อไป บรรยากาศในวันนี้เต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย
ชางมินที่นั่งอยู่หน้ารูปของมินโฮที่ยิ้มละไมอย่างนุ่มนวล ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมองเพียงแต่วันนี้เจ้าตัวไม่ได้ร้องไห้อีกแล้ว
มีเพียงซีวอนเท่านั้น ที่ยังคงยอมรับความจริงนี้ไม่ได้ ร่างสูงร้องไห้มาตลอด แม้แต่ตอนนี้ที่นั่งอยู่หน้าศพของมินโฮ ซีวอนเองก็ยังคงมีน้ำตา
ฮยอคแจกุมหัวใจตัวเองที่กำลังปวดร้าวไปพร้อมๆกับร่างสูง เค้าไม่เคยเห็นซีวอนอ่อนแอได้มากถึงขนาดนี้มาก่อน
คุณจินโม เข้าไปแตะไหล่ซีวอนเพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ฮยอคแจสังเกตเห็นคุณยองเอ แอบไปร้องไห้กับคุณจีอูเงียบๆด้วยล่ะ นึกแล้วก็น่าสงสารมากๆจริงๆ
ฮยอคแจแตะไปที่แก้มของตนเองก็พบว่าตนเองนั้นกำลังร้องไห้อยู่!
ชั้นอยากโอบกอดนายไว้จังเลยซีวอน ชั้นไม่อยากเห็นนายเป็นแบบนี้เลย ยิ่งเห็นนายเสียใจ มันก็ราวกับว่าเป็นชั้นเองที่เสียใจมากกว่านายเป็นร้อยเท่า
อย่าร้องอีกเลย...ชั้นเคยเกลียดที่นายเคยร้ายกาจสารพัด แต่ในตอนนี้ชั้นกลับเกลียดช่วงเวลาที่นายทรมานแบบนี้มากกว่า
อย่าร้องอีกเลย...อย่าเลยนะ
ฮยอคแจตัดสินใจในที่สุด เดินเข้าไปคุกเข่าลงข้างๆของร่างสูง ก่อนจะโอบอีกฝ่ายเข้ามาไว้ในอ้อมแขน
“ไม่ร้องนะ...มินโฮไปสบายแล้ว” พูดไปพร้อมกับลูบหลังเพื่อปลอบประโลมอีกฝ่ายไปด้วย
“ฮึก! โฮฮ!!!” ซีวอนคว้าฮยอคแจเข้ามากอดเอาไว้ราวกับต้องการจะหาที่พึ่ง
“ใจเย็นๆน...นายต้องทำใจยอมรับมัน...เชื่อสิ ว่ามินโฮก็ไม่ต้องการเห็นนายเป็นแบบนี้”
“ชั้นทรมาณจังเลยฮยอคแจ...” ซีวอนพูดราวกับเพ้อ
“ไม่เป็นไร ชั้นอยู่ตรงนี้แล้วนะ...ไม่เป็นไร”
อ้อมกอดที่ส่งต่อความอบอุ่นมาให้แก่กันนั้น ซ๊วอนรีบคว้ามันไว้ เหมือนกับคนที่จมน้ำลอยคออยู่กลางทะเลให้จะหมดลมหายใจ
แม้จะเห็นท่อนไม้อันน้อยนิด แต่ความหวังที่จะเอาชีวิตรอดมันก็ทำให้ตัดสินใจคว้ามันเอาไว้
ความจริงการเห็นร่างอันไร้ลมหายใจของมินโฮ ทำให้เค้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปอีกด้วยซ้ำ แต่การมีฮยอคแจทำให้เค้ารู้ว่าวันพรุ่งนี้ยังสำคัญอีกแค่ไหน
เพราะนายนะฮยอคแจ...นายทำให้ชั้นอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
อยู่เพื่อบอกกับนายเรื่อยไป บอกคำสำคัญคำนั้น...
...ชั้นรักนาย...
“พ่อเรียกผมมามีอะไร....เอ่อ....สวัสดีครับ” ฮยอคแจที่เปิดประตูห้องทำงานของผู้เป็นพ่อเข้ามาเพราะถูกเรียกอย่างด่วน แต่เมื่อเปิดประตูกลับพบว่าคนที่กลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของพ่อเค้านั้นกลับเป็น
ชเว จินโม ท่านผู้นำพรรคฝ่ายค้านที่กำลังลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในเร็วๆนี้ และที่สำคัญ ยังเป็นพ่อแท้ๆของซีวอนอีกด้วย
”เอ่อ ชั้นต้องขอโทษเธอด้วยนะที่มาทั้งๆที่ไม่ได้นัดอะไรก่อนแบบนี้น่ะ” จินโมลุกขึ้นต้อนรับผู้มาใหม่
“ครับ ไม่เป็นไรครับ” ฮยอคแจพูดอย่างเกรงๆ หันไปหาพ่อเพื่อขอความช่วยเหลือ
“ถ้าอย่างนั้น เชิญคุยกันตามสบายนะครับ ผม.....”
“ไม่เป็นไรครับ คุณจะอยู่ร่วมฟังด้วยก็ได้ ยังไงคุณก็มีสิทธิ์รับรู้” จินโมหันไปกล่าว ก่อนจะเริ่มพูดประเด็นทันที เมื่อฮยอคแจนั่งลงข้างๆตัวเอง
“ที่ชั้นมาในวันนี้ ก็เพื่ออยากจะพูดเรื่องสำคัญเกี่ยวกับซีวอน ลูกชายของชั้นเอง” จินโมใช้วิธีพูดแบบนักการเมืองมากประสบการณ์
“ครับ” ฮยอคแจตอบรับ
“ชั้นอยากจะถามว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอทั้งสองคนคืออะไร”
“ผม.....” จะให้ตอบได้อย่างไรล่ะในเมื่อเค้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคำตอบมันควรจะออกมาในทิศทางไหน
“ไม่เป็นไร ตอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไร งั้นชั้นขอเปลี่ยนคำถามใหม่ เธอรักลูกชายของชั้นรึเปล่า?”
คำถามนี้ยิ่งทำให้ร่างบางลำบากใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อหันไปมองพ่อของตนเองแล้วก็ทำท่าจะร้องไห้ออกมา
“ตอบไปเถอะลูก พ่ออยากให้ลูกตอบมาตามความจริงนะ” ลี บยองฮุนพยักหน้าให้กำลังใจลูกชายคนโต
ฮยอคแจสูดลมหายใจลึกๆก่อนจะพยักหน้ารับในที่สุด
“ครับ.”
“ชั้นเชื่อว่ามินโฮคงจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอรู้แล้วสินะ ถ้าอย่างนั้นชั้นคงไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมมาก แค่อยากจะให้เธอช่วยดูแลลูกชายของชั้นหน่อย เพราะนอกจากชางมิน และมินโฮแล้ว ชั้นไม่เคยเห็นเค้าห่วงใยใครอีกเลย มีเพียงเธอเท่านั้นที่ก้าวเข้ามาแล้วทำให้ชั้นแปลกใจ” จินโมร่ายยาวเพื่อจบการสนทนานี้เสียที
“ดูแล?”
“ตอนนี้ซีวอนแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว เค้าทำใจรับกับการจากไปของมินโฮไม่ได้ นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเค้าเคยสูญเสียคนที่เรียกว่าแม่มาทั้งชีวิตอย่างลี นารา ภรรยาเก่าของชั้นเอง เมื่อต้องมาเสียมินโฮไปอีกคนเค้าเลยตั้งรับไม่ไหว”
“คุณเป็นพ่อ ทำไมถึง....”
“เธอน่าจะเข้าใจนะว่า เรื่องราวระหว่างชั้นกับซีวอน เหมือนแก้วที่ร้าวมานานแล้ว และมันค่อยๆร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ ชั้นในฐานะพ่อก็ทำได้เพียงเฝ้ามองและให้ความช่วยเหลือเค้าอยู่ห่างๆเท่านั้นล่ะ”
ฮยอคแจก้มหน้าลงเพื่อให้ความคิด
“ชั้นไม่ได้อยากจะรวบรัดอะไรมากมายหรอกนะ เพราะจากการที่ได้พูดคุยกับพ่อของเธอเมื่อครู่นี้ก็ทำให้ชั้นได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง ความผิดของลูกชายชั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย แต่ชั้นอยากให้เธอเชื่อว่านั่นเกิดจากการที่เค้าต้องเจอกับเรื่องร้ายๆมาแทบจะตลอดทั้งชีวิต”
จินโมยิ้มให้อีกฝ่ายเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ผมมีธุระที่จะพูดเพียงเท่านี้ล่ะ ขอโทษที่มารบกวนด้วยนะครับ” จินโมหันไปเอ่ยลาบยองฮุน ก่อนจะยิ้มให้ฮยอคแจเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้องไป พร้อมคนติดตามที่รออยู่ก่อนแล้ว
ฮยอคแจถอนหายใจไล่ความอึดอัดออกไปจากปอด
“จะเอายังไงล่ะลูก” บยองฮุนถามความเห็น
“ผมควรจะทำยังไงดีล่ะครับพ่อ ผมสับสนไปหมดแล้ว” ฮยอคแจเสยผมระบายความกลุ้มใจ
“ก็ค่อยๆถามใจตัวเอง ว่าตอนนี้น่ะรู้สึกกับเค้าแบบไหน ยังพอจะเริ่มต้นใหม่กันได้รึเปล่า?”
“พ่อไม่โกรธผมหรอครับ?”
“ทำไมพ่อจะต้องโกรธลูกด้วยล่ะ?”
“ก็เค้าเคยทำไม่ดีกับผมสารพัด แต่ผมยัง.......พ่อไม่คิดว่าผมโง่หรอครับ” บยองฮุนได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาทันที
“ความรักน่ะไม่ได้ทำให้คนเราโง่หรือตาบอดหรอกนะลูก เพียงแต่ความรักน่ะทำให้เรามองเห็นแต่ในด้านที่เราอยากจะมองเท่านั้น พ่อไม่เคยสนใจเรื่องราวในอดีตหรอกนะ พ่อแคร์ตรงที่ว่า ตอนนี้ทำอย่างไรลูกพ่อถึงจะมีความสุขจริงๆมากกว่า”
“ผมกลัวจริงๆนะครับพ่อ ผมอุตส่าหนีไปไกลถึงต่างประเทศเพื่อทำให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้น พอมาวันนี้จะให้ผมล้มเลิกทุกอย่างง่ายๆ จะให้ผมอ่อนแอเหมือนเดิมหรอครับ” ฮยอคแจทำหน้าเศร้า
“ลูกทำได้ดีแล้วล่ะฮยอคแจ ในสายตาพ่อลูกเข้มแข็งขึ้นมาก ลูกสามารถเดินหันหลังให้เค้าได้ ทั้งๆที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนลูกทำไม่ได้แน่ ลูกรู้จักการอดทนรอ การทำความเข้าใจกับความเสียใจ แล้วนี่ยังจะบอกว่าลูกทำทุกอย่างสูญเปล่าอีกหรอ?”
“แต่ผมให้โอกาส ให้อภัยเค้ามานับครั้งไม่ถ้วนแล้วนะครับ กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเค้าก็ทำลายมันลงจนหมด ผมยังจะต้องทำมันไปอีกกี่ครั้งล่ะครับ?”
“ลูกจะต้องทำไปจนกว่าวันที่ลูกหมดรักเค้านั่นล่ะ...” บยองฮุนสรุป
“ผม.....”
“ถามใจตัวเองเถอะว่ายังรักเค้าอยู่รึเปล่า เพราะถ้าลูกรักเค้าจริง ลูกจะต้องพร้อมที่จะให้อภัยเค้าอยู่เสมอ คิดให้ดีเถอะนะลูก อย่างวิ่งหนีความรู้สึกตัวเองอยู่เลย ก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินไป”
ฮยอคแจคุยกับพ่อต่ออีกสักพักก็เดินหน้าเครียดออกมาจากห้องท่านประธาน เมื่อกดลิฟต์ลงมาชั้นล่างก็เจอเข้ากับมินกิพอดี
“สวัสดีครับ” ฮยอคแจทักก่อนตามมารยาท
“สวัสดีครับคุณฮยอคแจ....” มินกิตอบกลับก่อนจะเรียกอีกฝ่ายเอาไว้
“ครับ?” ฮยอคแจทำหน้างง
“เอ่อ ผมไม่รู้ว่าควรจะบอกคุณมั้ย แต่ผมก็เป็นห่วงเพื่อนผมจริงๆ”
“เกิดอะไร ขึ้นกับเค้าหรอครับ?” ฮยอคแจรีบถามด้วยความเป็ห่วงทันที เพราะหลังจากกลับจากงานศพในวันนั้นเค้าก็ไม่ได้พบเจอร่างสูงอีกเลย
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าหมอนั่นไม่มาทำงานเกือบอาทิตย์ได้แล้ว พอผมไปหาที่คอนโดมันก็เอาแต่นั่งซึม ไม่ยอมพูดยอมากับผมเลย งานมันที่รับปากไว้ก็ถูกย้ายไปให้คนอื่นทำเกือนจะหมดแล้ว ทำเป็นห่วงมันมากๆเลยล่ะครับ เลยอยากให้คุณ เอ่อ.....” มินกิมีสีหน้าลำบากใจ
“ครับ..ผมเข้าใจแล้ว” อยอคแจเป็นฝ่ายตัดบทเสียเอง
“ครับ ขอบคุณมาก” มินกิโค้งหัวเล็กน้อยจากนั้นจึงเดินแยกออกไป
ฮยอคแจเดินออกมาหน้าบริษัทค่ายหนัง มองท้องฟ้าที่ทอประกายสดใส ก็เรียกความกล้าให้กับตัวเองอีกครั้ง
เอาล่ะ! เค้าตัดสินใจด้วยสติทั้งหมดที่มีแล้วล่ะ เค้าควรจะยอมรับสิ่งที่หัวใจมันพูดมาตั้งนานแล้ว
ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน หัวใจของเค้าก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผู้ชายคนนี้จริงๆ
ผู้ชายทื่ชื่อชเว ซีวอน
“ก๊อก...ก๊อก....ก๊อก!” ฮยอคแจเคาะประตูคอนโดของซีวอนที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาเนิ่นนานเป็นปีแล้ว แต่ก็ยังคงจำได้แม่น
ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่เค้าอยู่ที่นี่ ก่อให้เกิดเรื่องราวมากมายที่เค้าไม่มีวันลืมได้เลยล่ะ
เมื่อไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ร่างบางจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปทันที สภาพห้องถูกจัดเอาไว้อย่างเป็นระเบียบจนฮยอคแจยังต้องแปลกใจ เพราะเมื่อก่อนตอนที่เค้ามาเป็นครั้งแรกห้องมันก็ไม่สะอาดเนี้ยบขนาดนี้ หรือว่าร่างสูงจะจัดการจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดเป็นประจำ?
ฮยอคแจขมวดคิ้วก่อนจะเดินตรงเข้าไปเพื่อตามหาเจ้าของห้อง ซึ่งพอเดินไปถึงห้องรับแขกก็ถึงได้พับกับซีวอนที่นั่งนิ่งไม่ไหวติง ต่อการเป็นไปของโลก สายตาของร่างสูงนั้นว่างเปล่า ราวกับคนเสียสติ
ใบหน้าหมองคล้ำ และดวงตาที่แดงก่ำบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าคนตรงหน้านี้พักผ่อนน้อยแค่ไหน
ฮยอคแจใจหล่นวูบทันทีที่เห็นอาการของร่างสูง ซึ่งแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว
สายตาที่เหม่อลอย การหายใจที่แผ่วเบา เอาแต่ถือรูปของมินโฮเอาไว้แนบออก ทำเอาฮยอคแจต้องแอบปาดน้ำตาเบาๆ แล้วเดินเข้าไปหา
“ซีวอน...ชั้นมาหา...” ฮยอคแจแตะไปที่ไหล่ร่างสูงเบาๆ แต่ได้รับการตอบรับเพียงซีวอนหันมามองเล็กน้อยเท่านั้น
“กินอะไรบ้างรึยัง?” ร่างบางถามด้วยความเป็นห่วง ซึ่งอีกฝ่ายก็ส่ายหน้าไปมาเบาๆ
“เฮ้อ กะแล้วเชียว รออยู่นี่ล่ะ จะไปทำมาให้” ฮยอคแจบ่นเล็กน้อย ก่อนจะถือถุงที่แวะซื้อจากซุปเปอร์ตรงเข้าไปยังห้องครัว
แต่เมื่อได้เห็นบางสิ่งในนั้นสองขามันก็แทบจะหมดแรงเลยล่ะ โพสอิท จำนวนหลายใบแปะอยุ่ทั่วบริเวณนั้น ซึ่งส่วนใหญ่มันเป็นคำพูดของเค้าที่มักจะย้ำร่างสูงอยู่บ่อยๆ สมัยที่ยังอยู่ด้วยกัน
ไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะทำถึงขนาดนี้ เมื่อครู่เค้าก็สังเกตที่แปะอยู่บริเวณทีวีและผ่าม่านเช่นกัน ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอมาเห็นแบบนี้ มันยิ่งรู้สึก...เสียใจที่เห็นค่าของอีกฝ่ายช้าไปขนาดนี้
ฮยอคแจรีบทำข้าวต้ม แล้วยกออกไปวางตรงหน้าร่างสูงทันที ก่อนจะกลับมาที่ครัวเพื่อเตรียมน้ำเย็นๆใส่กะละมัง ออกไปเช็ดใบหน้าอีกฝ่ายเผื่อเรียกความสดชื่น
ฮยอคแจบรรจงเคลื่อนผ้าขนหนูสีขาวไปทั่วบริเวณใบหน้าและต้นคอซีวอนอย่างทนุถนอม ก่อนจะเริ่มต้นตักข้าวต้ม เพื่อจ่อปากซีวอน ซึ่งร่างสูงก็รับมันเข้าปากไป
ฮยอคแจป้อนอยู่แบบนั้นไม่นานข้าวต้มชามปานกลางก็หมดลง ร่างบางจึงเตรียมที่จะยกทุกอย่างไปเก็บในครัว
หมับ!!
ซีวอนกอดเอวฮยอคแจเอาไว้ ก่อนจะซุกหน้าลงบนหน้าท้องเนียนของร่างบาง
“นายกลับมาแล้วใช่มั้ย?...” ร่างสูงพูดเสียงสั่น
“อะ..ไร?”
“ฮยอคแจ นายให้โอกาสชั้นแล้วใช่มั้ย?...” ร่างสูงถามย้ำอีกครั้ง
ฮยอคแจยิ้มอย่างอ่อนโยน พร้อมกับลูบหัวร่างสูงไปมาเบาๆ
“อืม...ใช่แล้วล่ะ” ฮยอคแจก้มน้ายอมรับกับการตัดสินใจของตัวเองในครั้งนี้
เค้าเลือกแล้ว...และจะยอมรับผลของมันด้วยไม่ร้องขอความเมตตาจากใครทั้งนั้น
“ขอบคุณ...ขอบคุณจริงๆ” ซีวอนพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
ในที่สุดเค้าก็พบ...เครื่องช่วยหายใจที่ได้มาฉุดชีวิตของเค้าขึ้นมาจากความตายจริงๆ
ขอบคุณทุกสิ่งที่ทำให้นายกลับมานะฮยอคแจ
*****************************************
เฮ้อ...วอนนะวอน ...วอนจริงๆ (คือการเล่นคำใช่มั้ย?) 555
กลับมาอัพหนักๆจัดยาวๆทั้งสองเรื่องนะคะ ^^
บลพ.ใกล้จะอัพจนจบแล้ว แต่เรื่องนี้ยัง แต่พยายามจะอัพให้จบพร้อมๆกัน
เคยคิดว่าเรื่องนี้คงจะเป็นฟิคที่เศร้าที่สุดแล้ว เอาไปเอามาคิดว่าไม่ใช่
เพราะ...มีคนไซโคให้แต่งฟิคอีกครั้ง *O*!! ทุกคนคิดว่ายังไง
หายไปกับวงการนี้เกือบปี เหงามาก (แต่ก็ยุ่งเพราะเรียนหนักมาก)
ตอนนี้เรื่องเรียนเริ่มจะอยู่ตัวล่ะ (คือเรียนแบบลุ่มๆดอนๆ) 555
ตอนนี้ร่างพลอตไว้ให้กับวงน้องใหม่...พวกไม่ใช่มนุษย์!! 555
แต่ก็มีหลายคนบอกว่าอยากจะอ่านฟิควอนฮยอกอีกครั้งนึง ...
ใครคิดว่าไงก็บอกๆกันนะจ๊ะ
อ้อ ปล.ซะหน่อย พอดีมีคนถามเรื่องรีฟิคเรื่องนี้มา ตอนนี้เลยรวมๆว่าจะพิมพ์มาเก็บไว้เองด้วย
ใครสนใจยังไงก็บอกหน่อยนะ เพราะว่าคงทำตามที่คนสนใจละต่อไป
เพราะพอจะเลิกพิมพ์จริงๆ ก็จะมีคนถามมาตลอด ก็เลยคิดว่าจะทำตามยอดคนต้องการนะคร้าบ
เลิฟยูนะเบ่เบ๋ จุงเบยยย << อาร๊ายยยย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฮยอกอภัยให้ผู้ชายคนนี้ซะที
จะได้มีความสุขจิงๆ
ดีใจด้วยนะ~
ปล.ไรท์เตอร์แต่งวอนฮยอกต่อเถอะ
ได้โปรด~
ในที่สุดฮยอกก็ยอมให็โอกาศกับวอนซะที
จะได้มีความสุขกันสักทีนะ
ครั้งนี้ก็ขอให้รักกัน เชื่อใจกันน้าา
(พูดประหนึ่งอวยพรบ่าวสาว777+ เอาน่าอีกไม่นานหรอกเนอะๆ)
พี่สวนจีนหนูสนเรื่องนี้ อยากได้รวมเล่ม พิมพ์เผื่อหนูด้วยน้าา><
ฮยอกแจยอมรับใจตัวเองแล้ว
ต่อไปนี้ซีวอนคงหายเศร้าแล้วเน๊อะ
เรื่องต่อไปก็ขอเป็นวอนฮยอกเหมือนเดิมนะคะ