ตอนที่ 37 : THE PAIN [28]=คนบ้า&เทวดานำทาง
ที่นี่ที่ไหน? เค้ากำลังอยู่ที่ไหน....
ฮยอคแจหมุนไปรอบๆตัวเอง ทำไม....ทำไมมีแต่ความมืดไปหมด หันไปทางไหนก็เจอแต่สีดำ มองไม่เห็นอะไรเลย....
ที่ไหน....ที่ไหนกัน.... ร่างบางเริ่มร้องไห้ ยกมือขึ้นมากอดตัวเองเอาไว้
ดวงตาหวานพยายามเบิกกว้างออก เพื่อมองว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ที่ไหนกันแน่ มองไม่เห็นอะไร ไม่มีอะไรที่ปรากฏออกมาเลย
หวืด....วืด.......
เสียงลมที่พัดไปมา ยิ่มสร้างความเงียบงันและความน่ากลัวมากขึ้น ทั้งๆที่มีเสียงลมแบบนั้น แต่กลับไม่มีความเย็นของลมมาปะทะตัวของเค้าเลย
เกิดอะไรขึ้น? เค้ากำลังอยู่ที่ไหนกันแน่...?
ฮยอคแจ...นายน่ะมันโง่! เสียงของคนที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้น ทำเอาฮยอคแจหันขวับทันที
ซีวอน...... ริมฝีปากบางเอื้อนเอ่ยชื่อของอีกฝ่ายออกมาอย่างยากบลำบาก
นายมาช่วยชั้นแล้วใช่มั้ย?
นายมันตัวน่ารังเกียจ ชั้นขยะแขยงนาย....สมเพชนาย
ไม่! หยุดพูดนะ!!! ฮยอคแจเลื่อนมือที่กอดตัวเองมาปิดหูทั้งสองข้างเอาไว้
ชั้นเกลียดนาย! ชั้นไม่เคยรักนาย....นายมันพวกวิปริต!!!! เสียงนั้นยังคงดังวนเวียนหลอกหลอนเค้าอยู่เสมอ
คำว่า ไม่รัก
ม่ายยยยย!!!!! ฮยอคแจกรีดร้องทำน้ำตาจนสุดเสียง
ก่อนจะสะดุ้งขึ้นมา....บนเตียงนอนของตัวเอง
ไม่...ไม่...ไม่เป็นไรฮยอคแจ...ไม่เป็นไร..... อยอคแจหอบจนตัวโยน แต่ก็ยังไม่วายปลอบใจตัวเองให้สงบลง
สองมือยกขึ้นมาลูบหน้าของตัวเอง ก็พบว่ามันชุ่มไปด้วยเหงื่อมากมาย
อีกแล้ว....เค้าฝันร้ายอีกแล้ว
ถึงแม้ว่าจะมาอยู่ที่เวียนนานี่ได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว แต่ไม่เคยมีเลยสักวันที่เค้าจะสามารถหลับได้อย่างสนิท
เปิดตาลงก็เห็นซีวอน หลับตาลงก็ได้ยินแต่เสียงของซีวอน
เค้า...ไม่รู้จริงๆว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร
คงต้องขอบคุณพ่อแม่ของเค้าจริงๆ ที่จัดการทุกๆอย่างไว้ให้เค้าหมดเลย ทั้งที่พัก เรื่องการเดินทาง รวมทั้งมีคนคอยมาอำนวยความสะอาดให้ทั้งทั้งหมด
ครอบครัวอาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่เค้าบอกตัวเองว่าจะต้องเข้มแข็งให้เร็วที่สุดให้ได้
สายตาหวานหยิบนาฬิกาข้อมือที่วางอยู่บนเตียงข้างๆตัวเองมาดู ก็พบว่ายังเช้าอยู่มาก เพียงหกโมงนิดๆเท่านั้น
แต่ครั้นจะให้นอนลงต่อนั้น เค้าก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับได้อีกแล้ว
ร่างบางจึงคว้ามือถือ กระเป๋าเงินลุกจากเตียงคว้าเอาเสื้อโค้ทมาสวมแล้วเดินออกจากคอนโดไป
การได้ออกมาเดินสูดอากาศยามเช้าที่ยังไม่มีผู้คนมากนักแบบนี้ บางทีมันก็ทำให้หัวสมองปลอดโปร่งเหมือนกันนะ
วันนี้อากาศก็ค่อนข้างจะเย็นสบายด้วย ได้ออกมาจากคอนโดห้องสี่เหลี่ยมบ้าง มันก็ดีเหมือนกันนะ
ฮยอคแจมองตามถนนที่ทอดยาวอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแล้วก้บอกกับตัวเองเบาๆ ว่าชีวิตของเค้าเองมันก็ยังอีกยาวไกล อย่าเพิ่งตายนะฮยอคแจ...อย่าเพิ่งเอาชีวิตไปจบกับความรัก
เมื่อรู้สึกว่าท้องเริ่มจะหิวเล็กน้อย ประจวบเหมาะกับเห็นร้านกาแฟที่เพิ่งจะตั้งร้าน ร่างบางจึงรีบตรงเข้าไปทันที
ขอ...กาแฟร้อนแก้วนึงครับ ร่างบางทักทายอย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ที่มาคู่กับโต๊ะตัวเล็กๆของทางร้าน
ด้วยความที่กรุงเวียนนานั้นเป้นเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่นอยู่ไม่น้อย
ทำให้ยอดการท่องเที่ยงของประเทศนี้ไม่เป็นรอง ประเทศอื่นๆในยุโรปเลยล่ะ
ฮยอคแจค่อยๆละเลียดดื่มกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมช้าๆ ดื่มด่ำกับช่วงเวลาสุขเล็กๆน้อยๆที่นานทีจะแวะมาเยือนตัวของเค้า
ดูท่าว่าท้องฟ้าจะสว่างขึ้นมากแล้ว เพราะว่ามีคนเริ่มทยอยกันมาซื้อกาแฟแล้วล่ะ ลูกค้าที่มาต่อจากเค้าก็คือผู้ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง
เค้าทำท่าเหมือนจะมองหาที่นั่ง...แต่แล้ว...
มือหนานั่นกลับยื่นมาคว้ากระเป๋าเงินของร่างบางแล้ววิ่งทันที!!!
เฮ้ย!!! ฮยอคแจร้องอย่างตกใจ ก่อนที่สติทั้งหมดจะกลับมารวมกันพร้อมกับสั่งร่างกายของตัวเองให้ออกวิ่งตาม
นี่! หยุดเดี่ยวนี้นะ... ฮยอคแจวิ่งไปตะโกนออกมาเป้นภาษาเกาหลีผสมกับอังกฤษ
ตุ้บ!!!!
ก่อนที่ร่างบางจะสะดุดขาตัวเองล้มลงไปกับพื้น ก่อนจะเงยหน้ามองตามชายคนนั้นไปอย่างเจ็บใจ
ไหนบอกว่าประเทศนี้อาชญากรรมน้อยยังไงล่ะ?!
แต่ร่างบางก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห้นว่าชายคนนั้นล้มลงกับพื้น แถมยังดูท่าน่าจะเจ็บกว่าเค้าซะอีก เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
พยายามมองอีกทีก็พบว่ามีผู้ชายอีกคนหนึ่งเข้ามาปล่อยหมัดใส่หัวขโมยคนนั้น จนในที่สุดก็มีเจ้าหน้าที่อีกสองคนเข้ามาห้ามเค้าเอาไว้ก่อน
ร่างบางรีบลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วเดินไปดูเหตุการณที่เกิดขึ้น
คุณไม่เป็นไรนะ? อีกฝ่ายถามเค้าเป็นภาษาเกาหลี
คุณพูดเกาหลีได้? ฮยอคแจขมวดคิ้ว
ผมเป็นคนเกาหลีแท้ครับ...ผมเห็นคุณตะโกนเป็นภาษาเกาหลีก็เลยคืดว่าคุณน่าจะเป็นคนชาติเดียวกับผม อีกฝ่ายยิ้มน้อยๆ
อะ...เอ่อ...นั่น.... ฮยอคแจชี้ไปยังกระเป๋าเงินของตัวเอง
อ่อ นี่ครับ ชายหนุ่มร่างสูงรีบยื่นมันคืนแก่เจ้าของตัวจริง
ขอบคุณมากครับ.... ฮยอคแจก้มหัวเล็กน้อย
คุณไม่เป็นไรนะ...ผมเห็นคุณล้มด้วย
เอ่อไม่ครับ....
อ่า...ใช่สิ ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย...
ฮยอคแจหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้ใจ จนอีกคนเริ่มรู้สึกเก้อต้องเก็บมือลง
ลี ฮยอคแจ.....คุณล่ะ? ร่างบางถามตามมารยาท
ผมชื่อคิม ฮยองจุนครับ
ฮยอนจุง? ฮยอคแจคิดว่าชื่อเดียวกับเพื่อนสนิทของตัวเอง
ไม่ใช่ๆ ฮยองจุน......เอางี้ๆ คุณเรียกผมว่าจุนเฉยๆก็ได้
ยินดีที่ได้รู้จัก...... ฮยอคแจเริ่มยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นบุคคลที่วางใจได้
อื้ม...เช่นกันครับ ฮยองจุนพยักหน้ารับ
เอ่อ ถ้าคุณไม่รีบ...ยังไงก็ให้ผมเลี้ยงอาหารเช้าเป็นการตอบแทนได้มั้ย? ฮยอคแจถาม
ร่างสูงจึงยิ้มรับเบาๆ
ด้วยความยินดีเลยครับ ผมกำลังหิวพอดีเลย...ผมรู้จักร้านอาหารพื้นเมืองอร่อยๆอยู่ร้านหนึ่ง สนใจมั้ย?
ฮยอคแจไม่ตอบ ทำเพียงพยักหน้าแล้วยิ้มเบาๆ การเดินทางของสองเพื่อนใหม่จึงเริ่มขึ้น
อะไรกันนะ? นี่คุณเดินทางมาประเทศนี้คนเดียวงั้นหรอ? ฮยองจุนถามอย่างแปลกใจ ในขณะที่กำลังรออาหารมาเสิร์ฟอยู่
ทำไมล่ะ? มันน่าแปลกใจขนาดนั้นเลยหรอ?
ก็...คุณแลดู...เอ่อ ขอโทษนะ บอบบาง....
อืม ก็คงงั้นล่ะ ฮยอคแจยอมรับ
ขอโทษนะ...ผมถามอะไรได้มั้ย? ฮยองจุนดูเกรงใจ
ว่ามาสิ....
ที่คุณมาที่นี่...เพราะอกหักใช่มั้ย?
เหมือนว่าโดนไม้หน้าสามฟาดเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรง ประโยคเดียวทำเอาฮยอคแจถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว
ทำไม....ถึงคิดอย่างนั้นล่ะครับ หน้าหวานๆยังพยายามทำสีหน้าให้ดูเป็นเรื่องล้อเล่น
ก็...ตอนที่ผมมาที่นี่ครั้งแรก ผมก็มีท่าทางเหมือนคุณนี่ล่ะ ฮยองจุนยกกาแฟขึ้นจิบ แล้วยิ้มให้อีกฝ่าย
ครั้งแรก?
ผมอยู่ที่นี่มาหกปีแล้วล่ะครับ ผมมา...เพื่อหนีความเจ็บปวด ฮยองจุนมีสีหน้าที่หมองลงเล็กน้อย
เหมือนผมเลย ฮยอคแจยอมรับในที่สุด
อยากระบายมั้ย? คุณมาอยู่ที่นี่คนเดียว คงจะอึดอัดมากเลยล่ะสิ ถ้าไม่ถือว่าผมเป็นคนแปลกหน้า จะลองระบายอะไรมาก็ได้นะ...ผมไม่รู้จะเอาเรื่องของคุณไปบอกต่อทำไมหรอก
ฮยอคแจคนถ้วยซุปเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มต้นเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้คนที่เพิ่งเจอได้ฟัง
น่าแปลกนะ ทั้งๆที่เพิ่งได้เจอกันไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่เค้ากลับรู้สึกว่าเราสองคนมีอะไรที่คล้ายกันมากๆ
ได้รู้จักเพียงชื่อของกันและกัน ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าอีกคนที่ตนเองกำลังคุยด้วยนั้นเป้นใคร แต่ตอนนี้การมีใครสักคนที่ก้าวเข้ามารับรู้ความเจ็บปวดภายในใจตอนนี้ของเค้า
จุนดูเป็นคนที่เค้าวางใจมากๆ อาจจะเป็นเพราะบุคคลลิกที่พร้อมไปด้วยความสุภาพ อบอุ่น และมั่นคงก็ได้
ทำให้เค้ารู้สึกเหมือนมีทั้งเพื่อน และพี่ชาย
และถึงแม้ว่าเค้าจะเล่าเรื่องที่ร้ายแรงขนาดไหน เรื่องที่เค้าทำตัวราวกับน่ารังเกียจอีกฝ่ายก็ยังคงทำเพียงรับฟังพร้อมพยักหน้าให้กำลังใจแก่เค้า ปราศจากสายตารังเกียจ
หรือแม้จะรู้ว่าเค้าชอบเพศเดียวกันจุนก็ยังคงมีสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไป ไม่เหมือนกับ....ใครอีกคน
เรื่องแล้วเรื่องเล่าที่หลุดออกมาจากปากของร่างบางทำให้ฮยองจุนรู้สึกสงสารอีกฝ่ายไม่น้อย
ถึงแม้ว่าฮยอคแจจะเป็นผู้ชายยังไง ดูจากรูปร่างแล้วก็เรียกได้ว่าบอบบางยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก แต่กลับต้องมาเจอเรื่องราวที่หนักหนาขนาดนี้
บางที...เรื่องของเค้าอาจจะดูเล็กไปถนัดตาเลยก็ได้
ผม...ถึงได้หนีมาที่นี่.... ฮยอคแจกล่าวปิดท้ายเมื่อเล่าทั้งหมดจนจบ
ฮยองจุนบีบมือให้กำลังใจอีกฝ่ายเล็กน้อย
คุณเข้มแข็งมากแล้วล่ะครับ ชายหนุ่มเอ่ยอย่างจริงใจ แต่ร่างบางกลับสั่นหน้าเพื่อเป็นการปฏิเสธ
ไม่หรอกครับ ผมยังไม่เคยเข้มแข็งขึ้นได้สักนิด ทุกๆวันนี้ผมยังคงคิดถึงเค้า รักเค้า...ไม่เคยเปลี่ยน....
แต่ถ้าคุณไม่เข้มแข็งขึ้น ผมว่า...คุณคงไม่กล้าเดินจากเค้ามาหรอกนะ เพราะการเดินจากคนที่เรารักมากมาเนี่ย มันคงจะเป็นความรู้สึกที่ทรมานสุดยอดเลยล่ะ
หึ....ไม่ใช่หรอก เค้าต่างหากล่ะ ที่เดินหันหลังทิ้งผมไป ความรู้สึกที่เห็นคนที่เรารักที่สุด ค่อยๆหันหลังเดินแล้วทิ้งเราให้จมอยู่กับกองน้ำตา...ความรู้สึกนั้น ผมไม่เคยลืมได้เลยสักครั้ง
ฮยองจุนมองคนตรงหน้าแล้วก็พบว่าในแววตาคู่นั้น...เต็มไปด้วยความรู้สึกที่สับสน วูบหนึ่งก็เต็มไปด้วยความเข้มแข็ง แต่อีกครู่ต่อมาก็กลายเป็นความหวาดหวั่น คล้ายกับคนที่พร้อมจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
แต่คุณก็ยังสามารถมาที่นี่ได้คนเดียว ก็ถือว่าเก่งแล้วล่ะครับ
ผมไม่อยากจะอยู่ในที่ๆชีวิตผมยังคงมีเค้าวนเวียนอยู่รอบตัว ไม่อยากจะกลายเป็นคนบ้าทำอะไรก็มองเห็นแต่เงาของเค้า ไม่อยากจะฝันเลื่อนลอยไปวันๆกับลม....
ฮยอคแจพยายามกลืนน้ำตาที่ไหลมากองรวมกันให้มันไหลย้อนกลับไป อย่าได้ไหลออกมาอีกเลยนะน้ำตา...อย่าให้มันไหลออกมาแล้วคนๆนั้นไม่รู้จักคุณค่าของมันเลยสักนิด
ต่อให้ร้องไห้จนตาย...ยังไงเค้าก็คงจะไม่หันกลับมาอีกแล้ว
เมื่อไหร่จะรู้จักเข้มแข็งสักที...นะหัวใจ รีบรักตัวแกเองให้เป็น
ก่อนที่ร่างกายมันจะเหนื่อยแม้กระทั่งจะหายใจ
ผมว่าเราเลิกพูดเรื่องเศร้าๆกันเถอะ....ว่าแต่คุณพักอยู่ที่ไหนล่ะ? ฮยองจุนถาม
เอ่อ...ที่................. ร่างบางลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยอมบอก
อ้าว...พักที่เดียวกับผมเลยนี่นา...แต่คนละชั้น.... ฮยองจุนพูดด้วยความดีใจ
งั้นหรอครับ....
เอางี้ดีกว่า ถ้าวันนี้คุณไม่มีโปรแกรมจะไปที่ไหน...ให้ผมอาสาคุณเที่ยวเมืองนี้มั้ย?
จะดีหรอครับ? ผมว่ามันจจะเป็นการรบกวนคุณเปล่าๆ ร่างบางออกตัวอย่างเกรงใจ
พูดอย่างนั้นได้ยังไงล่ะครับ ผมว่างนะ ก็ดีกว่าการปล่อยคุณกลับไปนั่งไม่สบายใจในห้องสี่เหลี่ยมแล้วกันนะ ไปเถอะ....
ก็...ได้ครับ ฮยอคแจพยักหน้าในที่สุด
อย่างน้อยๆการมีเพื่อนใหม่ที่พูดจาภาษาเดียวกัน มีอะไรคล้ายๆกันในเมืองที่สงบและใหญ่แบบนี้ มันก็คงจะดีกว่าการปล่อยตัวเองให้ฟุ้งซ่านนั้นล่ะ
ไปหาอะไรทำซะหน่อย...เผื่อว่ามันอาจจะลบภาพของใครบางคนไปจากใจของเค้า สักช่วงหนึ่งก็ยังดี
ให้เค้าได้มีเวลาทำอะไรเพื่อตัวเองบ้างเถอะ
อีกสองตอนจบ :)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฮยอกลืมแล้วหาคนใหม่ที่รักเราดีกว่า
ฮยอกแจจะต้องเข้มแข็ง
ไม่มีชเวซีวอน..ก็ไม่เห็นจะเป็นไร
เนอะฮยอกแจเนอะ
จุนจ๋า...ฝากฮยอกแจด้วยนะ ><'
ไม่ง้อวอนแล้วก็ได้ เชอะ เชอะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2554 / 07:48
หึหึ ขอให้ฮยอกแจลืมวอนให้ได้ ลืมเร็วๆ
มองจุน มองจุน กร๊ากกกกกก
ต่างคนต่างก็เจอใหม่ แล้วจะทำไงล่ะที่นี้
ฮยอนจุนแกไปหาฮยอนจุงไป - -
อย่ามายุ่งกับฮยอกของวอนนะ
วอน แกมันโง่ -0-
แต่ยังไงก็วอนฮยอกนะ ><
เร็วจังเลย
ชะตากรรมเดียวกันเลยเนอะ
แต่จุนหนีใครมาอ่ะ
อย่าบอกนะว่า ฮยอกแจจะคู่กะฮยองจุน
อีกสองตอนก็จะจบแล้ว
ซีวอนแกจะมาทันมั๊ยเนี่ย ???
อีกสองตอนจบจริงๆหรอ
ไม่อยากให้จบเลย
เรื่องน่าติดตามมากๆ
อีกแค่สองตอนเองเหรอจ๊ะ
ยังไงก็ลุ้นให้วอนฮยอกเข้าใจกานนะจ๊ะ
ขอบคุณไรเตอร์ที่มาอัพให้อ่านค่ะ
ดีใจจังที่ฮยอกมีเพื่อน แกจะได้ไม่ต้องคิดถึงวอนให้มาก
แต่วอนเริ่มมีใจให้แกละนะ จะเป้นไงต่อล่ะเนี่ย
อีกสองตอนจะจบ เร็วจริง ๆ แล้วจะรอนะคะ
ไรเตอร์สู้ ๆค่ะ
จะจบจริงๆๆเหรอ เหมือนวอนยังคิดอะไรไม่ได้เลยนะ
จบจบแระอย่าบอกนะจบบบฮยอกคู่กะจุน
วอนคู่กะยอนฮี==
ไม่ดีม้างงงงงงงงงงงงงงงงง
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
วอนตามฮยอกมาเร็วๆๆๆ!!X3
ไรเตอร์สู้ๆๆจ้า
^^=V
ฮยอกไฟท์ทิ่ง!!