ตอนที่ 29 : {Accidentally}=[24]-[ละครเวที มื้อเที่ยง]
อะ...อาจารย์ฮีชอล... เสียงทุ้มเรียกร่างบางที่สวยจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผู้ชายเอาไว้
อ้าว...อาจารย์ฮันเกิง ฮีชอลหันมายิ้มให้
มา...มาทำอะไรที่ฝ่ายมหาลัยหรอครับ ฮันเกิงถามกลับ เพราะรู้ดีว่าร่างบางรับผิดชอบฝั่งมัธยม
แวะมาส่งคะแนนเด็กๆที่จะต่อเข้ามหาลัยมาให้อาจารย์ที่นี่ล่ะ แล้วอาจารย์ฮันเกิงล่ะ เที่ยงขนาดนี้แล้วยังไม่ไปกินข้าวอีกหรอ
เอ่อ ยังครับ...อาจารย์ฮีชอลล่ะ...
ฮะฮะ.... แทนที่จะตอบฮีชอลกลับหัวเราะออกมาซะแทน
คือ?... ฮันเกิงทำท่างงอย่างไม่เข้าใจ
เกิง...นายนี่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะ ฮีชอลยิ้มสวยโชว์ฟันขาว
เอ่อ หมายถึง?
เรารู้จักกันมาตั้งแต่นายเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาจากจีนแล้วนี่นา สมัยนั้นนายเป็นยังไง ในตอนนี้นายก็ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ
ฮะฮะ ผมมันก็เป็นไอ้เอ๋ออยู่เสมอล่ะครับ ฮันเกิงขยับแว่นเล็กน้อย
สมเพชกับสภาพของตัวเอง
เปล่าๆ ชั้นหมายถึง...ความใสซื่อของนายน่ะ ฮีชอลโบกมือไปมา
ใสซื่อ?
ผ่านมาสิบปี ชั้นว่าภาษาเกาหลีของนายน่าจะดีขึ้นนะ หรือว่ามันยังเหมือนเดิมอยู่ คุณลุงเกิงของเหล่านักศึกษา ร่างบางอดจะล้อไม่ได้
ผม...คือผม.... ฮันเกิงล่ะอยากตบปากตัวเองซะจริง
อุตส่าห์ได้มีโอกาสคุยกับคนที่ตัวเองแอบชอบมาตั้งนาน ดันมาติดอ่างไม่เลิก
พยายามหน่อยสิวะ ไอ้เกิง!
นี่น่ะดอกฟ้าที่แกเฝ้ามองมาตลอดเลยนะเว้ย!
หืม? อะไรหรอ? ฮีชอลยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ
ปะ...เปล่าครับ! ไม่ครับ ไม่ ฮันเกิงผงะถอยหลังอย่างรวดเร็ว
โธ่ ชั้นไม่ใช่ผีนะเกิง
ก็ใช่ล่ะสิ ผีที่ไหนจะสวยขนาดนี้
ขอโทษนะ...ฮีชอล ฮันเกิงรีบพูด
แหม เป็นบุญจังเลยนะ ได้ยินนายเรียกชื่อชั้นเนี่ย
ฮะฮะ... ฮันเกิงหัวเราะออกมาบ้าง
นายหัวเราะเยาะชั้นหรอ?! ฮีชอลหันมาทำตาเขียว
อืม...น่ารักดี ฮันเกิงเผลอพูดตามที่ตัวเองคิดออกไป
แหม ชั้นควรจะเขินดีมั้ยเนี่ย? แต่ฮีชอลกลับไม่ได้รู้สึกถึงอะไรเลย ที่ฮันเกิงพยายามจะสื่อออกไป
แล้วสอนตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ? ฮันเกิงพยายามหาเรื่องมาชวนร่างบางคุย
แม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เค้าก็ยังอยากจะให้มันเป็นช่วงเวลาดีๆ
แอบรักเค้ามาเป็นสิบปี...ได้คุยกันแค่ไม่กี่นาที
มันก็คุ้มแล้วล่ะ
อีกฝั่งของมหาลัย
เฮ้ย มึง...มึงโทรบอกคนที่ไร่แล้วใช่มั้ยว่าเราจะไปกัน ฮยอคแจหันไปถามซีวอน ขณะที่กำลังจะเดินไปกินข้าวด้วยกัน
เออ กูจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องกลัว ซีวอนพูด
งืมๆ มึง...มึงไม่โกรธกูใช่ป้ะ?
โกรธเรื่อง?
ที่จะไปไร่องุ่นน่ะ ฮยอคแจถามย้ำอีกครั้ง
โกรธทำไมล่ะ มึงไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ ซีวอนกอดคอร่างบางแล้วเดินเคียงคู่กันไป
อื้มมม...มึงน่ารักที่สุดในโลกเลยล่ะซีวอน ฮยอคแจยิ้มร่า
แต่กูว่ากูน่ารักน้อยกว่ามึงนะ ฮ่าๆๆๆๆ
ไม่เอาน่ารัก กูอยากหล่อ อยากหล่อ! ฮยอคแจทำหน้ามุ่ย
เออ ไอ้หล่อๆ ไอ้หล่อ ซีวอนพูดไปตลอดทาง
นี่เธอ... กลับมีเสียงใหม่ทักทั้งสองคนขึ้นมา
เอ่อ...ครับ ซีวอนจึงต้องปล่อยมือจากคอของฮยอคแจ และพูดกับคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า
ตึกคณะบริหารไปทางไหนหรอ?
ครับ? อ่อ คณะของผมเองครับ อยู่ทางฝั่งโน้นครับ ซีวอนอธิบายพน้อมกับชี้มือประกอบ
อ่อ...แล้วเรียนอยู่ปีอะไรล่ะ
ปีหนึ่งครับ แล้วคุณคือ?
ชั้นชื่อเจย์ คิม เพิ่งจบปริญญาโทมาจากอังกฤษ จะมาเป็นอาจารย์สอนที่คณะบริหารของปีหนึ่งน่ะ นายก็คงจะได้เรียนกับชั้นนั่นล่ะ ผู้มาใหม่แนะนำตัวเสร็จสรรพ
อ่อครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ซีวอนโค้งหัวคำนับ
ไปทางโน้นใช่มั้ย? ขอบใจมากนะ เจย์ คิมบอกอีกครั้ง
ครับ....
อ่อ...แฟนนายน่ารักดีนะ เจย์ คิม ยิ้มก่อนจะเดินออกไปจริงๆ
อะ...อาจารย์ครับ! ไม่ใช่นะครับ...คือว่า... ฮยอคแจตะโกนบอกไล่หลังไป
ฮ่าๆๆ ไม่ทันแล้วล่ะ ซีวอนหัวเราะชอบใจ ก่อนจะคว้าคอเพื่อนสนิทตรงไปกินข้าวกันสักที
เจย์เดินตามทางที่ซีวอนบอกเรื่อยๆ ก่อนจะนึกถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ตัวเองเลือกที่จะมาสอนที่ยอนเซนี้
ทั้งๆที่ความจริงทางออกฟอร์ดก็ได้เสนอข้อตกลงมากมาย ให้เค้าสอนอยู่ที่นั่น
แต่ที่สุดแล้ว เค้าก็ยังดึงดันที่จะกลับมาที่เกาหลีนี่แทน
ฮะฮะ...นายยังจำเรื่องนั้นได้ด้วยหรอเกิง น้ำเสียงอันคุ้นหู ดังออกมาจากในสวนของมหาวิทยาลัย
ทำให้เจย์ต้องหยุดฝีเท้าเอาไว้ และก้าวอย่างช้าๆไปฟังที่ต้นเสียง
เจอกันจนได้สินะ...
คิม ฮีชอล
แล้วนั่น!
ไอ้เอ๋อนั่นยังอยู่ใกล้ๆฮีชอลอีกเหรอ!
ได้สิ แล้วนายจำตอนที่รุ่นเราหาเสียงเลือกประธานนักเรียนได้มั้ย? ฮะฮะ ตอนนั้นน่ะวุ่นวายมากเลยเนอะ ฮันเกิงยิ้มไปเล่าไป
ฮะฮะ นั่นสินะ แทบจะเกิดจลาจลเลยล่ะ
ไม่ได้เจอกันนานนะ เจย์เดินเข้าไปแล้วพูดขึ้นมากลางวง
เจย์! ฮีชอลหันไปมองอย่างไม่เชื่อสายตา
ว่าไง ฮีชอล...และนาย ฮันเกิง
นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงน่ะ ไหนว่าไปอังกฤษไง ตอนจบมหาลัยที่นี่น่ะ ฮีชอลถาม
ชั้นจบแล้วล่ะ ปริญญาโทน่ะ กลับมาสอนที่ม.ยอนเซนี่ล่ะ
ว้าว ไม่น่าเชื่อเนอะ เราสามคนจบจากมัธยมเดียวกัน ต่อมหาลัยก็ได้ที่เดียวกัน พอจะทำงานก็ได้มาสอนที่เดียวกันอีก อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้เนี่ย! ฮีชอลหัวเราะราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากมาย
ฮะฮะ...ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือจงใจก็ไม่รู้นะ เจย์จงใจหันไปสบตากับฮันเกิง
นายยังเหมือนเดิมนี่ ฮันเกิง เจย์ถาม
อะ..อะไรล่ะ ที่ต้องเปลี่ยน ฮันเกิงถามกลับ
หึ...เหมือนนายจะยังไม่ค่อยรู้ตัวนะ ว่าอะไร...ที่มันเหมาะหรือไม่เหมาะ
เจย์จงใจใช้คำเปรียบเทียบที่ฮันเกิงจะเข้าใจได้ทันที
นายพูดถึงอะไรหรอ เจย์? ฮีชอลถาม
อ่อ เปล่านี่ ชั้นก็แค่ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของเพื่อนฝูงที่...ชอบอะไรเหมือนๆกัน ไม่ได้เลยรึไง?
ชั้นก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนี่นา
ฮะฮะ นายกินข้าวรึยังฮีชอล เจย์หันไปถามร่างบาง
ยังเลยล่ะ มัวแต่คุยกับเกิงซะเพลิน
งั้นไปกินกับชั้นนะ เดี๋ยวชั้นเลี้ยงเอง
อืม ไปด้วยกันนะเกิง ฮีชอลหันไปบอก
ไม่ได้หรอก พอดีว่าชั้นได้บัตรจากร้านอาหารใกล้ๆที่นี่มา และมันเข้าได้แค่...สองคน เจย์เน้นย้ำที่ท้ายเสียง
ฮันเกิงจึงต้องยิ้มรับสภาพตัวเอง
นายไปเถอะฮีชอล ชั้นจะมีสอนต่อน่ะ กินให้อร่อยนะ
เอางั้นหรอ? ฮีชอลยังเป็นห่วงอยู่
อืม ไปเถอะ ฮันเกิงจึงต้องย้ำอีกครั้ง
งั้นเราก็ไปกันเถอะนะ เจย์คิมพูด และร่างบางก็เป็นฝ่ายเดินนำหน้าไป
ไว้เจอกันนะ เกิง
อืม... ฮันเกิงรับคำ
แต่ก่อนไป เจย์ก็ยังหันมาทางฮันเกิง และทำปากเป็นคำว่า
ไอ้ขี้แพ้
อาจารย์ประจำคณะศิลป์ได้แต่ยืนมองทั้งสองคนเดินเดินออกไปจนลับตา
แล้วหัวเราะเบาๆ
เฮ้อ ทำไมต้องแพ้อยู่เรื่อยมาวะ
ฮันเกิงเงยหน้ามองฟ้า แล้วตัดพ้อเบาๆ
เค้ารู้จักับฮีชอลก็เกินสิบปีมาแล้วล่ะมั้ง เกิดขึ้นตอนที่เค้าสามารถสอบชิงทุนจากเมืองจีนบ้านเกิด มาเรียนที่เกาหลีได้สามปี นั่นคือมัธยมปลายทั้งหมด
และในสถานที่แห่งนั้น ซึ่งเป็นรร.ชายล้วน
ทำให้เค้าได้รู้จักกับคิม ฮีชอล นางฟ้าของโงเรียนนั้น คนที่ใครๆต่างก็หมายปอง แต่เจ้าตัวกลับไม่เคยยอมมอบหัวใจให้กับใคร
เค้าในตอนนั้นหรือตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างกันสักนิด ตอนนั้นอาจจะเฉิ่มเอ๋อมากกว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ
เลยจะโดนล้อด้วยการเรียกว่าไอ้เจ๊กอยู่เป็นประจำ
คิม ฮีชอลในตอนนั้นหรือตอนนี้ก็สวยไม่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาเลยจริงๆ ใบหน้าขาวสวย ผิวเนียนราวกับน้ำนม
ไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครต่างก็พากันหลงรัก
และเจย์ คิมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
เจย์เป็นคนที่นับได้ว่าสมบูรณ์แบบมาก ถ้าไม่ติดที่เรื่องนิสัยแล้วล่ะก็ หมอนั่นจัดว่าเพอเฟ็คต์เลยล่ะ บ้านก็ฐานะดี ชาติตระกูลดีมาตลอด เรียนก็เก่ง เล่นกีฬาก็เยี่ยม
และที่สำคัญ หมอนั่นยังได้เป็นประธานนักเรียนในรุ่นของเค้าด้วย
ใครๆต่างก็รู้ว่าเจย์นั้นชอบฮีชอลมากแค่ไหน ทำให้ไม่มีใครกล้าต่อกรกับเค้าอย่างเปิดเผยมากนัก
แต่สุดท้ายแล้ว ฮีชอลก็ยังไม่ตอบรับที่จะเป็นแฟนกับใครทั้งนั้น
ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้งโรงเรียนสงสัยมากๆว่าเป็นเพราะอะไร มีข้อสงสัยต่างๆมากมาย
ทั้งว่าเจ้าตัวไม่สนใจเรื่องความรัก
ฮีชอลไม่อยากคบกันคนโรงเรียนเดียวกัน
หรือแม้แต่ที่ว่า
คิม ฮีชอลมีคนที่ชอบแล้ว
ผ่านมาสิบกว่าปีนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถไขข้อข้องใจนี้ให้เค้าได้เลย
หรือนายจะมีใครในใจแล้วจริงๆนะ ฮีชอล ฮันเกิงยิ้มอย่างเศร้าๆ ก่อนจะเดินออกไปจากสวน
สุดๆเลยว่ะ...อาหารเที่ยงวันนี้ ทงเฮพูดขึ้นก่อนเป็นคนแรก
พวกเค้าสามคนมานั่งกินข้าวเที่ยงกันตรงนี้ ก่อนที่อาจารย์ทั้งสามคนจะเดินมาแล้วล่ะ
แค่ได้เห็นอาจารย์ฮีชอลคนสวยกับลุงเกิงสุดเฉิ่มรู้จักกันก็ว่าน่าแปลกใจแล้ว ยังจะมีคนที่สามเดินเข้ามาร่วมวงอีก
ยังกับได้ดูละครเวทีเลย!
นั่นสิ...ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ โลกมันกลมจริงๆ ซองมินพูดตามมาเป็นคนที่สอง
น่าสงสารลุงแกเนอะ เดินคอตกไปเลย จองโมที่เพิ่งเคี้ยวอาหารเสร็จออกความเห็นบ้าง
เออ แต่เทียบกันแล้ว ตาอาจารย์ที่ชื่อเจย์อะไรนั่น ก็ดูจะเหนือกว่าลุงของเราหลายขุมเลยนะ ทั้งสภาพและความเป็นไปได้ ทงเฮทำท่าคิด
เฮ้ย! เราต้องเข้าข้างลุงเกิงของเราสิ ซองมินเตือนเพื่อน
นั่มันก็ใช่ แต่แกก็ดูลุงเกิงตอนนี้สิ จะเอาอะไรไปสู้เค้า... จองโมมองถึงความเป็นจริง
ถ้าอย่างนั้น...... ทงเฮพูดขึ้นมา
ก่อนที่สามเกลอจะหันมามองหน้ากัน
เราต้องจับลุงเกิงแปลงโฉม!!!!
แต่ทว่า...จะสู้กับคนอย่างหมอนั่น...ไม่ง่ายเลยนะ จองโมพูดเบาๆ
หมอนั่น....? ซองมินหันมาถาม
คนอย่างเจย์น่ะ เค้าไม่เคยยอมแพ้ใครนะ
นายรู้จักหรอ? ทงเฮถาม
ตอนเด็กๆ ตอนชั้นซักสิบขวบได้มั้ง หมอนั่นเคยย้ายมาอยู่ข้างบ้านชั้น ตอนที่พ่อแม่ของเค้าจะย้ายไปอยู่อังกฤษน่ะ เหลือแต่หมอนี่กับพี่ชายไว้
งั้นนายก็รู้จักกับเค้ามากเลยสิ สนิทกันมั้ย? ซองมินถาม
ไม่หรอก มาอยู่ไม่ถึงครึ่งปี เค้าก็ย้ายออกไปอยู่คอนโดกันทั้งคู่แล้ว จองโมบอก
แต่มันก็น่าจะได้คุยกันบ้างสิ นายไม่เคยคุยกันรึไง
ไม่เคยกับผีสิ!~ หมอนั่นมันคือซาตานชัดๆ จองโมพูดอย่างใส่อารมณ์
ฮู้ว สงสัยงานนี้จะสนิทกันจริง ทงเฮอดจะร้องออกมาไม่ได้
ทำไมหรอ? ซองมินยังติดใจอยู่
ไอ้หมอนั่นนะ แกล้งชั้นสารพัดวิธี ทุกครั้งที่มีโอกาสเลยล่ะ คือแต่ก่อนชั้นยังตัวเล็กกว่ามันใช่มั้ยล่ะ ชั้นแค่สิบขวบ หมอนั่นก็สิบเก้าแล้ว ยิ่งมันเป็นลูกคนเล็กด้วยนะ หืม...แกล้งชั้นเยี่ยงตัวอะไรเลย จองโมพูดอย่างเคียดแค้น
โอ๊ะ โอ...น่าสงสารจริงๆเพื่อน ทงเฮตบบ่าเป็นการปลอบใจ
งั้น...ถ้านายเจอกับเค้าอีกครั้ง... ซองมินทำท่าคิด
ไม่มีทาง! นายไม่รู้หรอกว่าชั้นดีใจแค่ไหน ตอนที่แม่บอกว่ามันย้ายออกไปแล้วน่ะ แค่พี่ชายชั้นเป็นเพื่อนสนิทกับมันก็หลอนพอแล้วล่ะ
เยี่ยม! งั้นนายก็ต้องคอยกันเค้าไว้นะ ไม่ให้ไปยุ่งกับอาจารย์ฮีชอล ลุงเกิงของเราจะได้มีโอกาสทำคะแนน ซองมินรวบรัดประโยค
O_o!!! จองโมเบิกตากว้าง
เออ ใช่! ชั้นเห็นด้วยกับซองมินนะ ทงเฮเห็นดีเห็นงามไปด้วย
พวกแกไม่เข้าใจที่ชั้นพูดเลยรึไงวะ! ชั้นเกลียดมัน! จองโมพูดด้วยท่าทางจริงจัง
เพื่อลุงเกิงนะเว้ย ทนๆไปหน่อยดิ ไม่ชอบแกก็หาทางแกล้งเค้าคืนไง ถือว่าเป็นการแก้แค้นวัยเด็กไปเลย ทงเฮพยายามหว่านล้อม
ชั้นมีสิทธิปฏิเสธมั้ยวะ? จองโมล่ะเครียด
ไม่มี!!!! << เสียงทงเฮและซองมิน
ชีวิตกรู๊!!! T^T
******************************************
HAPPY ANNIVERSARY~SORRY SORRY
13elieve in you
Dragon Guy
Bear OPPA
Snow White MAN
AND aLL of YOU
SUPER 13 SUPER E.L.F.
Super JUNIOR
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ทำเพื่อลุงนะจองโม นางฟ้าต้องคู่กับอาแปะ
ให้เจ๊จัดการเลยยย เจ๊เจ๊ต้องเลือกลุงเกิงน้าาา
คิดซะว่า ทำเพื่อลุงเกิง
ฮ่าฮ่า สงสารบุงเกิงจังเยย
สู้ๆน้า คิมฮีเป็นของ....ฮันเกิง
555555
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สู้เพื่อลุงเกิงนะ
T^T
55555555 ^O^
แต่เพื่อลุงเกิง สู้เค้านะ
จองโมสู้ๆนะ ทรมานนิดๆหน่อยๆเพื่อช่วยลุงเกิง
พยายามเข้านะลุงเกิง เราขอช่วยลุงเกิงสอยเจ๊ซินมาให้ได้
จับจองโมไปหาคิม เจย์ 555+
รีบๆแปลงโฉมลุงเกิงเร็วๆล่ะ
สู้สู้!!
เย้ๆๆๆ
จับป๋าแปลงโฉมมม
เอาให้เตะตาเจ๊ไปเล้ยย
พี่เจย์คู่กับจองโมป่ะเนี่ย
สู้ๆเค้าจะลุง เอาชนะเจย์ให้ได้
แล้วจะได้คิมฮีชอลมาครอบครอง
สู้ๆค่ะ ป๋าเกิง
ฮ่าๆๆๆ
ลุงเกิงเราจะเปลี่ยนแปลงได้มั๊ยน๊ออออออ
จริงๆลุงเค้าหล่อเฟี้ยวฟ้าวเลยนะ
ไม่ได้หน้าตาทรยศอายุอย่างที่ทงเฮว่าซะหน่อย = =
แล้วตกลงเจ๊เค้ามีปมฝังใจอะไรรึ-*-
จะมาเเย่งคิมฮีไปจากลุงเกิงหรอ ?? ?
ฮึ่ย ~~ !! ! ฝันไปเถอะ ย่ะ
จองโมจัดการเลยลูก สู้ ๆๆ ๆ ๆ