ตอนที่ 1 : #LoDaeInCalifornia : Booking Ticket
WELCOME TO CALIFORNIA
เช่นเดียวกับพาร์ทของออบแจนะคะ เราอยากเขียนหน้าอธิบายเรื่องก่อนที่จะไปสู่พาร์ทเนื้อเรื่องเพราะคาดว่าน่าจะทำให้ทุกคนมีความเข้าใจต่อเนื้อเรื่องมากขึ้น เนื่องจากเราเองได้ลองทำอะไรใหม่ๆหลายอย่าง จึงยังไม่มั่นใจนักว่าทุกอย่างจะไปในทิศทางที่ดีหรือแย่
จริงๆโล่แด้เป็นเรื่องที่แทรกขึ้นมาค่ะ แต่ดั้งเดิมเรามีความคิดเพียงแค่จะแต่งออบแจในฟีลที่ชอบอาจจะเป็นเพียงเรื่องสั้น แต่เมื่อเราชอบคาแรคเตอร์ของทั้งจงออบและยองแจมากๆจึงมีการวางพลอตเสริมให้แข็งขึ้น และเมื่อวางให้แดฮยอนเป็นน้องชายร่วมพ่อกับยองแจ จุนฮงเป็นเพื่อนของจงออบ ความคิดจะเขียนเรื่องของสองคนนี้เป็นคู่รองก็ตามมา สุดท้ายก็คิดมุมที่น่าสนใจของสองตัวละครนี้ขึ้นได้ จึงนำพลอตฟิคโล่แด้สองเรื่องที่เคยเตรียมไว้ (คุณหนูและพ่อบ้าน กับแฟนบอยและนายแบบ) มาผสมกันจนออกมาเป็นเรื่องนี้ในที่สุด (สำหรับใครที่อาจจะสงสัยว่าที่เราเคยพูดถึงสองเรื่องนี้หายไปไหน ให้เข้าใจตามนี้กันนะคะ)
ฟีลเรื่องของพาร์ทโล่แด้ค่อนข้างจะต่างจากออบแจอยู่มากค่ะ เรียกได้ว่าคนละขั้วเลยล่ะ ฝั่งนั้นอาจจะเรียกได้ว่าเนิบ แต่ทางนี้คือร้อนแรงตามแสงแดดของแคลิฟอร์เนียเลยค่ะ ฮ่าๆ เส้นเวลาในเรื่องก็ค่อนข้างจะยาวนานกว่าด้วย เพราะมีทั้งพาร์ทอดีตและปัจจุบัน (จะยาวนานราวๆ 5-6 ปี ในขณะที่ออบแจเรื่องจะอยู่ที่ราวๆ 1-3 เดือนเท่านั้น) ดังนั้นครั้งแรกที่จงออบและยองแจพบกัน จะอยู่ในประมาณครึ่งเรื่องของจุนฮงและแดฮยอนแล้วค่ะ หวังว่าทุกคนจะไม่สับสนกับเหตุการณ์ เราจะพยายามเขียนให้มันบาลานซ์กันในช่วงเวลา เพราะเนื่องจากจะมีเหตุให้ทั้งสี่คนได้ออกกันทั้งสองพาร์ทเลยค่ะ ทั้งแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์ค (พาร์ทหลังๆทุกคนจะอยู่ที่นิวยอร์คหมดค่ะ)
และเช่นเดียวกัน พาร์ทของโล่แด้ก็จะยังมีวิธีเดินเรื่องเหมือนกับออบแจทุกประการ หนึ่งตอนมีทั้งส่วนที่จุนฮงเล่าเรื่อง และแดฮยอนเล่าเรื่องเช่นกัน อารมณ์ของสองคนนี้จะเรียกว่าโดดคนละทิศละทางเลยค่ะ จะเป็นยังไงต้องลองติดตามกัน
จริงๆเราค่อนข้างจะหนักใจกับแคลิฟอร์เนียอยู่มากค่ะ การเก็บข้อมูลพื้นที่ทำเราสับสนมากกว่านิวยอร์คมาก ไม่รู้จะจับส่วนไหน เลือกสถานที่ไหนมาเขียนดี ดังนั้นเรื่องนี้จึงอาจจะดูค่อนข้างเขียนได้ช้ากว่าออบแจ เราต้องขอโทษทุกคนจริงๆนะคะ แต่การที่ได้เห็นทุกคนรอคอยจะสนับสนุนฟิคเรื่องนี้ ทำให้เรามีแรงฮึบมากๆเลยค่ะ จะตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด
ความยาวของพาร์ทนี้คงไม่หนีจากออบแจมาก หากเป็นหนังก็ยาวสองชั่วโมงถึงสองชั่วโมงครึ่ง พร้อมเพลงประกอบแต่ละตอนที่เราเลือกแล้วเลือกอีก อยากให้ทุกคนอ่านแล้วเห็นภาพความสวยงามของหาดมาลิบู ความยิ่งใหญ่ของถนนฮอลลีวูด ความร่ำรวยของหมู่บ้านเบเวอรี่ ฮิลล์ รวมทั้งยังมีความงดงามของเหมืองเก่าและเมืองซาฟรานซิสโกด้วย เรามั่นใจว่าทุกคนจะได้เห็นความสัมพันธ์ของโล่แด้ที่ก่อกำเนิดจากเมืองที่ล้ำค่าแห่งนี้แน่ๆค่ะ
หวังว่าเมื่อฟิคเรื่องนี้เริ่มเผยแพร่ออกไป ทุกคนจะให้การสนับสนุนอย่างดีทั้งในคอมเม้นท์เด็กดี (ที่เขียนกันได้ยาวจนเราประทับใจมากจากพาร์ทออบแจ) รวมทั้งสกรีมในแท็กบนทวิตเตอร์ เป็นแรงผลักดันสำคัญให้เราอยากจะเขียนมันตลอดเวลาเลยค่ะ
ด้านล่างนี้จะเป็นการเขียนอธิบายตัวละครคร่าวๆค่ะ เพื่อให้เข้าใจเรื่องมากขึ้น
ชเวจุนฮง รับบท Romeo Choi (โรม) 22, 27 ปี
อาชีพ: นักเต้นบาร์เปลื้องผ้า ดีเจคลับ นายแบบ พนง.ทำความสะอาดสเก็ตบอร์ด/ เซิร์ฟบอร์ด ช่างตัดผม ไลฟ์การ์ด พนง.ขนของย้ายบ้าน
โรมมีชื่อเต็มในเอกสารทางการว่า Romeo Arthur Gonzaga Choi เป็นลูกครึ่งอิตาเลี่ยน - เกาหลี ที่รูปลักษณ์ค่อนข้างมีส่วนผสมที่ชัดเจนระหว่างยุโรปกับเอเชียแต่กลับมีนิสัยเหมือนอเมริกันชน ยอมรับว่าโรมเป็นตัวละครที่ทำให้เราวดหัวที่สุดและถามตัวเองบ่อยครั้งว่าจะเลือกยืนยันในสิ่งที่เราคิดแน่ๆใช่มั้ย เพราะหากเขียนไปผู้อ่านก็คงจะสับสนในตัวผู้ชายคนนี้อยู่ไม่น้อย หากแต่ว่าความลึกลับในสิ่งที่เขาเป็นมันกลับกลายเป็นเสน่ห์ที่เรามองว่ามันทำให้เราอยากเข้าใกล้โรมมากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ
เขาเป็นตัวละครอีกมุมของคนต่างชาติที่ต้องทำงานหนักบนแผ่นดินอเมริกา แต่โรมจะแตกต่างจากเจคตรงที่ว่าเขารู้ดีว่าไอ้การคลั่งความฝันอเมริกาอะไรนั่นล้วนเป็นเพียงความละเมอเพ้อพกของกลุ่มคนที่ไม่อยากยอมรับว่าชีวิตของคนไม่มีวันจะถีบไปจากจุดต่ำต้อยที่ยืนอยู่นั่นได้ เขาเชื่อมั่นในการทำงานหนักเพื่อให้ได้เงิน ไม่รอโชคชะตา ไม่สวดอ้อนวอน และไม่เคยรอคอย ชีวิตของโรมไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต เขาสนใจเพียงว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น ละเขาต้องทำอะไรบ้าง มีเพียงเท่านี้ สิ่งที่ผ่านไปแล้วเขาจะลืม สิ่งที่ยังมาไม่ถึงเขาจะไม่กังวล นั่นทำให้โรมเป็นคนที่ไม่ยึดติดกับอะไรมากนัก ทั้งผู้คนและสถานที่ เขาปล่อยให้ทุกอย่างผ่านเข้ามา เมื่อหมดวาระที่ต้องมีร่วมกันก็ปล่อยมันผ่านไป เพื่อใหม่สิ่งๆใหม่ๆได้เข้ามาแล้ววนลูปในกระบวนการเดิม
แม้จะดูเป็นคนรักอิสระ แต่ด้วยความที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยแม่เพียงคนเดียวทำให้โรมค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่นิดหน่อย ปมที่น่าสงสารที่สุดของโรมอาจจะเป็นประเด็นที่เขามีอาการโอดีปุส (รักแม่เกลียดพ่อ) และประเด็นครอบครัวก็เป็นสิ่งที่เขาเลือกจะเลี่ยงไม่พูดหรือนึกถึงอยู่เสมอ เขาไม่ภูมิใจในสายเลือดอิตาเลียนในกายตัวเอง ไม่อยากจะยอมรับด้วยซ้ำว่าตนเป็นคุณหนูตกอับ เขานึกขอบคุณแม่ทุกครั้งที่เลือกพาเขามายังอเมริกา ขอบคุณที่เลี้ยงเขาขึ้นมาภายใต้แดสงแดดของมาลิบู
โรมเป็นคนที่มีหลายมุมและหลายเฉดสีมาก (ตอบตามตรงเราได้ต้นแบบนิสัยและคาแรคเตอร์มาจาก เฉินป๋อหลินและหวงจิ่งอวี๋ค่ะ ไม่ค่อยใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้เลือกผู้ชายจีนและไต้หวันแบบนี้ ฮ่าๆ) อาจจะมีบางช่วงที่โรมเหมือนจะเฮฮา เข้ากับคนได้ง่าย มีเสน่ห์ขี้เล่นชวนให้ผู้คนเข้ามาใกล้ชิด แต่จริงๆก็ยังมีมุมที่เป็นคนคิดเยอะ ไตร่ตรองความเหมาะสมในการจะทำหรือไม่ทำอะไรสักอย่าง คนเชื่อมั่นในกฎของเหตุและผล หากมันจะกระทบกับตัวเขาหรือคนรอบตัว เขาจะยิ่งคิดหนักขึ้นอีกหลายเท่า มีกฎในการใช้ชีวิตต่อตัวเองค่อนข้างสูง ใช้เหตุผลก่อนแล้วจึงค่อยใช้กำลัง เขาจะไม่ใช่คนที่คอยเดินหลบแบบเจค หากเจรจาด้วยเหตุผลแล้วไม่ประสบความสำเร็จ เขาก็พร้อมจะใช้กำลังเข้ามาจัดการ หากแต่มันจะต้องไม่ใช่การคุกคามผู้อื่น เขาต้องใช้กำลังเพียงเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น
โรมไม่ชอบการพันผูก เป็นคนตรงไปตรงมาต่อความรู้สึกของตัวเอง ชอบคือชอบ หากไม่ชอบก็ไม่คิดจะเสียเวลาไปใส่ใจ เขาไม่ชอบคนขี้โวยวาย หรือชอบทำลายความสงบเงียบในชีวิตของผู้อื่น เนื่องจากมีชีวิตวัยเด็กที่ค่อนข้างจะลำบากอยู่มาก เขาจึงไม่ชอบเด็กเท่าไรนัก โดยเฉพาะเด็กแก่แดด หรือกลุ่มเด็กที่ไม่เห็นคุณค่าของชีวิตโดยเฉพาะในเรื่องของการใช้เงิน หากเจอเด็กที่ใช้เงินไม่เหมาะสมกับอายุแล้วล่ะก็ โรมมักจะหงุดหงิดใจอยู่ทุกครั้ง
จองแดฮยอน รับบท Merlin Jung (เมิร์ล, มูมู่) 15,20 ปี
อาชีพ : นักออกแบบเครื่องประดับ, นักอัญมณีศาสตร์
เมิร์ลเป็นลูกคนสุดท้องในตระกุลของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยความที่เป็นเด็กไม่ได้เกิดตามธรรมชาติและคลอดก่อนกำหนดตอนยังไม่ครบ 7 เดือนดีนักทำให้ออกมาแล้วต้องอยู่ในตู้อบอีกหลายเดือน ดังนั้นเมิิร์ลจึงมีรูปร่างที่ตัวเล็กและบอบบางกว่าทั้งพี่น้องและเพื่อนในวัยเดียวกัน ตอนเด็กที่มักอ่อนแอและเจ็บป่วยง่าย ทำให้ทุกคนรอบข้างช่วยกันดูแลเลี้ยงขึ้นมาอย่างทนุถนอม จนกลายเป็นว่าทุกคนต่างก็หลงเจ้าตัวเล็กของบ้านเสียจนแอบเข้าข่ายตามใจทุกอย่างเกินไปหน่อย
เมิร์ลน่าจะเป็นเพียงคนเดียวในครอบครัวที่หัวขบถต่อทุกอย่างที่คนอื่นเขาปฏิบัติตามกันมา ทั้งทิมและแดนต่างเจริญรอยตามที่ผู้ใหญ่คาดหวังไว้ เข้าเรียนในโรงเรียนผู้ดี จบจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงภายใต้คณะที่จะเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจของครอบครัว แต่เมิร์ลกลับไม่ไปเรียนตามที่พี่ชายของตนเดินนำรอยไปก่อนทั้งแล้วสิ้น ทำในสิ่งที่ตัวเองเลือกและอยากทำ ไม่สนใจเสียงค้านของใครทั้งสิ้น เขาอยากเลือกแลออกแบบชีวิตของตนด้วยมือของตัวเองโดยไม่สนว่าใครจะเห็นด้วยหรือไม่
เมอร์ลินเป็นคนรวยที่รู้ดีว่าตัวเองรวยและแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร และเขาก็ใช้ประโยชน์จากการเกิดมาโชคดีแบบนี้เสียเต็มที่ซะด้วย เขาเข้าใจดีว่าการมีเงินทำให้ชีวิตของตนมีทางเลือกได้มากกว่าคนอื่น ดังนั้นเขาจึงจะต้องเลือกแต่ละทางที่จะเดินให้คุ้มค่ากัับความโชดีนี้ที่สุด แต่หากมันจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเขาสะดวกและง่ายขึ้น เขาก็พร้อมที่จะใช้มันแบบไม่ต้องคิดนานมากนัก
ด้วยความที่ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก และมีพี่ชายที่คอยประคบประหงมถึงสองคน ยังไม่รวมเหล่าบรรดาคนใช้และเพื่อนของพ่อแม่ที่พร้อมจะคอยหนุนหลังอยู่ตลอด ทำให้เมิร์ลเป็นเด็กสุขภาพจิตที่ค่อนข้างดีถึงดีมาก มีรอยยิ้มที่ล้วนทำให้คนที่คิดจะดุหรือตักเตือนต้องยอมแพ้ทุกครั้งไป พูดเก่ง พูดเยอะและพูดมาก อีกทั้งยังหัวเราะเก่งอีกด้วย ไม่ค่อยจะเก็บเรื่องเครียดมาใส่หัว เพราะเชื่อว่าคนเราสามารถเลือกหยิบสิ่งที่จะเก็บไว้ในสมองและหัวใจได้ หากมันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดก็ทำเพียงไม่ต้องหยิบมันก็สิ้นเรื่อง
เป็นบุคคลประเภทที่รักมาก ทุ่มมาก และเวลาเสียใจก็เจ็บค่อนข้างมากอยู่เช่นกัน ด้วยความที่ยังไม่ได้พบเจอกับความโหดร้ายของโลกมากนัก จึงยังคิดตามประสาเด็กว่าอะไรๆก็คงจะง่ายไปเสียหมด ทำให้บ่อยครั้งก็ขาดความยั้งคิดไปบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่าเมิร์ลเป็นคนที่สติปัญญาดีมาก (ครอบครัวนี้ลูกหลานเรียนเก่งระดับหัวกะทิกันทุกคน) เพียงแต่หากไม่สนใจจะเรียนอะไรก็จะทิ้งขว้างไปเลย ทำให้ดูเป็นคนที่ทำอะไรไม่ค่อยสำเร็จนัก
มูมู่เป็นชื่อของแมวที่ทิมรักมาก เมื่อเมิร์ลเกิดมาและเห็นว่าน้องน่ารักมากๆจึงนำชื่อนี้มาเป็นชื่อเล่นให้ด้วยตั้งแต่เด็กและก็ยังมีแต่คนในครอบครัวเท่านั้นที่ยังเรียกชื่อนี้ติดปากมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้เมิร์ลก็ยังเรียกพี่คนรองอย่างยองแจว่าโมโม่เช่กันด้วย แต่เมื่อโตขึ้นยองแจที่รู้สึกกระดากอายจึงขอให้เมิร์ลเลิกเรียกในที่สุด
เมิร์ลสนิทกับทิมมาก เพราะห่างกันถึง 14 ปีทำให้ทิมเหมือนได้เลี้ยงเมิร์ลให้โตขึ้นมากับมือและเมิร์ลก็ค่อนข้างพอใจกับความขี้หวงและเป็นห่วงจากพี่ชายคนโตแบบนี้ด้วย เพราะแดนมักจะเป็นห่วงในเรื่องสำคัญๆเช่นการเรียนและการใช้ชีวิตเสียมากกว่า หากทิมนั้นจะเป็นกังวลกับทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับตน นั่นทำให้เมิร์ลสามารถใช้มันเป็นสิ่งที่ใช้ต่อรองกับทิมได้เสมอมา เมื่ออยากได้อะไร
ความสนิทสนมของเมิร์ลกับทิมนั้นเรียกได้ว่าผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก ใกล้ชิดกันเสียยิ่งกว่าสายเลือดแท้ๆร้อยเปอร์เซ็นเสียอีก และสิ่งที่ทำมาตั้งแต่เด็กก็ยังติดมาจนถึงปัจจุบันที่ถึงแม้เมิร์ลจะมาอายุครบยี่สิบ ก็ยังจูบปาก นั่งตัก อาบน้ำ หรือแก้ผ้านอนบนเตียงกับทิมได้อย่างไม่รู้สึกว่ามันผิดแปลกอะไร หากเขานอนไม่หลับ การได้ปีนขึ้นไปนอนเปลือยเปล่าทับบนตัวของพี่ชายใหญ่ก็ยังเป็นยาแก้เครียดที่ได้ผลอยู่เสมอ หรือยอมรับได้แม้กระทั่งการออดอ้อนขออนุญาตจะทำหรืออยากได้อะไรจากพี่ชายใหญ่ในเรื่องสำคัญๆจะต้องเป็นแบบให้พี่ชายได้กดลั่นชัตเตอร์เก็บไว้หลายคอลเลคชั่นในสภาพที่ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆปกปิดก็ตาม
นอกจากนี้ทุกคืนตอนที่เมิร์ลดื้อจะอยู่แคลิฟอร์เนียคนเดียว ทิมก็ยังสั่งให้เข้านอนพร้อมกับเปิดเว็บแคมข้ามประเทศเพื่อให้ทิมได้เห็นอิริยาบถตอนที่ตนเข้านอนตลอด เนื่องจากช่วงเวลาที่ต่างหากของอเมริกากับอังกฤษ ทิมจึงจะสามารถใช้ชีวิตตอนกลางวันโดยที่เห็นเมิร์ลนอนหลับยามค่ำคืนไปด้วย สิ่งที่ทิมใช้เป็นไม้ตายในการหยุดเมิร์ลได้เสมอคือคำขู่ที่ว่า...
“ถ้ามูมู่ยังดื้อกับพี่แบบนี้ ต่อไปพี่จะไม่ให้มานอนด้วยกันอีกแล้วนะ จะไม่รักแล้วด้วย”
เมื่อเมิร์ลตกหลุมรักกับโรมเข้าอย่างจัง นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขามีความลับกับพี่ชายใหญ่ที่รักมาสุดหัวใจ และมันก็เป็นจุดกำเนิดให้เกิดทุกอย่างตามมา
คิมฮิมชาน รับบท Tyler Kim (ทิม) 34 ปี
อาชีพ: นักธุรกิจ
ปัจจุบันประวัติส่วนตัวยังไม่เป็นเรื่องราวที่เปิดเผยมากนัก ไม่ว่าสื่อสำนักข่าวไหนที่ต้องการจะติดตามสัมภาษณ์ชีวิตส่วนตัวล้วนได้รับการปฏิเสธทั้งสิ้น และก็ยังไม่มีใครหน้าไหนกล้าจะต่อกรกับอิทธิพลของคนในตระกูลนี้มากนักด้วย
อย่างที่กล่าวไปว่าเรื่องนี้ค่อนข้างจะร้อนแรง และเราก็จะพยายามเขียนให้มันสนุกอยู่บนความน่าเบื่อให้ได้ หวังว่าจะถูกใจหลายๆคนบ้างก็จะดีใจมากๆเลยนะคะ ขอให้ติดตามเนื้อเรื่องในตอนตอนๆไปด้วยค่ะ!
#LoDaeInCalifornia
#UpJaeInNewYork
#AmericanDreamTheSeries
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จะตามอ่านและจะเป็นกำลังใจให้ไรท์เสมอค่าาาา
มูมู่แค่ชื่อก็น่ารักแล้วววววว แถมยังมีพี่ทิมดูแลอย่างดี พี่เค้าถนอมขนาดนี้หวังว่าพี่โรมจะไม่ทำให้น้องเสียใจนะ
ติดตามเลยค่ะ^^
ไม่ไหวแล้ว แงงงงงงงงง ลืมทุกอย่างที่เกี่ยวกับพี่โรมหมดเลยค่ะ
ตั้งแต่เจอประโยคที่เกี่ยวกับคอลเลคชันของพี่ทิม แงงงงงง
ยัยมูมู่ ยัยเด็กน้อย ยัยน่ารัก แงงงงงงงงงงงง น่ารักกก
พี่ทิมมมม ฮืออออออออออออออ ไม่ไหวแล้ววววว
คิดดีไม่ได้เล้ยยยยยยยยยยยย ฮืออออออออออออออ
หยุดหนูทีค่ะพี่คะ แงงงงงงง เขาเป็นพี่น้องกันนะ หยุดคิดๆ
แต่นะ คนที่จะคิดไม่ได้มีแค่พวกเราแน่นอนค่ะ
ต้องมีพี่โรมด้วยอีกคน หึหึ /หัวเราะชั่วร้าย
หึงน้องมั้ยล่ะพี่โรม หึงเลย หึง หึงเลยยยยยยยยยย
(เอาจริงก่อนจะยุให้หึงควรรอให้โรมเลิกผลักไสน้องก่อน..)
ไม่ไหวอ่ะ แงงงงงง เดาเรื่องไปไกลเว่อร์ ไม่รู้ว่าโรมทำอะไร
ทำร้ายร่างกาย? หรือจิตใจ? หรือทำร้ายทั้งสองอย่าง?
น้องเมิร์ลของแม่ ฮือ น่ารักขนาดนี้ทำน้องได้ไงอิพี่โรม!
แต่อ่านบรรยายแล้วขำจังค่ะ คนแบบที่โรมไม่ชอบนี่ยัยมูมู่ชัดๆ
555555555555555555 เกลียดแบบไหนได้แบบนั้นนะคะพี่โรม
ชอบการวางโครงเรื่องจัง ทุกอย่างดูมีที่มาที่ไปหมดเลย
แบบ ที่เป็นคนแบบนี้ก็เพราะอย่างงี้ ฮือ ชอบ อดใจรอไม่ไหวล้าวว
เดาว่าช่วงแรกๆของเรื่องนี้น่าจะสดใส แสบซนตามสไตล์ยัยมูมู่
แล้วเดี๋ยวสักพักจะต้องดราม่าน้ำตาคลอ แงงงงง
อิพี่โรมอย่าใจร้ายกับน้องนักเซ่!
พี่ทิมคะรับสมัครพี่เลี้ยงน้องไหมเดี๋ยวเป็นให้
.
.
ชอบแนวเขียนอธิบานตัวละคร เห็นภาพชัดมาก ดร่าม่าจะหนักหนาไหมเรื่องนี้555-_-
ความรู้สึกที่ได้อ่านตั้งแต่บรรทัดแรกจนถึงบรรทัดสุดท้าย..
ทดเห็นถึงความตั้งใจในการรวบรวมข้อมูลของตัวละครสองตัวนี้ของพี่มาก (y)
แล้วก็อยากจะบอกว่า ทดชอบตัวละครที่ชื่อโรมโคตรๆ จริงๆ
พี่เขาดูมีความเป็นผู้ใหญ่ ไม่ยอมให้ใครมาควบคุมและไม่ยอมให้ใครเข้ามาก้าวก่ายในชีวิตตัวเองได้ง่ายๆ
แล้วก็ชอบตรงที่โรมมีความคิดที่ว่า
"เขาเชื่อมั่นในการทำงานหนักเพื่อให้ได้เงิน ไม่รอโชคชะตา ไม่สวดอ้อนวอนและไม่เคยรอคอย
ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต สนเพียงแค่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นและเขาต้องทำอะไรบ้าง
สิ่งที่ผ่านไปแล้ว เขาจะลืม สิ่งที่ยังมาไม่ถึง เขาจะไม่กังวล"
นั่นล่ะ ยิ่งทำให้ตัวละครที่ชื่อโรมดูมีเสน่ห์ขึ้นมาเป็นล้านๆ เท่า
บอกเลยว่าโคตรเท่ (y)
ส่วนน้องเมิร์ล มีบุคลิกที่อ่านตอนแรกก็ดูเป็นเด็กที่ไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากความสดใสของเด็กวัยเริงคนนึง
แต่ทดสะดุดตรง..
"ไม่ค่อยเก็บเรื่องเครียดมาใส่หัว เพราะเชื่อว่า คนเราสามารถเลือกหยิบสิ่งที่จะเก็บไว้ในสมองและหัวใจได้
หากมันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดก็ทำเพียงไม่ต้องหยิบมันมา"
เท่านั้นแหละ ก็รู้สึกได้เลยว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ
และเด็กคนนี้แหละ ที่จะสู้จนสามารถเปลี่ยนโลกของพี่โรมคนไม่สนใจอะไรนอกจากเงิน ให้มีสีสันขึ้นมาได้อย่างแน่นอน
สู้ๆ นะพี่สวนจีนนน ทดเป็นกำลังใจให้ซำเม๋อ จุ้บบบบ♥
///
ลืมบอก โคตรชอบทุกเพลงที่พี่สวนจีนเอามาประกอบฟิคเหลย
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 17 กรกฎาคม 2559 / 11:40
การเขียนการพิมพ์อธิบายคาแรคเตอร์ตัวละคร
อ่านแล้วน่าติดตามมากๆค่ะ
เป็นการใช้คำที่เราชอบมากค่ะ เหมือนทำให้เราหลุดไปอยู่และจินตนาการที่จะอยู่ตรงนั้นๆจริงค่ะ เนื้อเรื่องก็คงร้อนแรงไม่แดด้แดดที่แคลิฟลอเนีย ติดตามค่ะะ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ