ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 :: NEVER MIND! ซิงเกิลแป๊บดิ

    ลำดับตอนที่ #5 : CHAP-4 = Puppy Love with a Game Fighter.

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.16K
      9
      3 พ.ย. 58

    B E R L I N ❀


    NEVER MIND! ซิงเกิ้ลแป๊บดิ

    CHAPTER 4 = Puppy Love with a Game Fighter.





                นับจากเหตุการณ์ระทึกในคอนโดวันนั้นจนถึงตอนนี้ก็ผ่านเป็นอาทิตย์แล้ว แถมตัวเขาเองก็ยังทำงานร่วมกับมาร์คได้อย่างราบรื่นราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นด้วยเถอะ

                แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม มุมมองความคิดที่เขามีต่ออีกฝ่ายก็ดูท่าจะเปลี่ยนไปด้วย สามสี่วันให้หลังมานี่เขาใช้เวลาพินิจน์พิเคราะห์อีกฝ่ายนานขึ้น แต่ก็ไม่เคยพบเห็นท่าทางแปลกๆอะไร นอกจากจะเป็นคนซื่อๆทื่อๆพูดอะไรตามที่ตนคิด ตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อม

                สรุปวันนั้นผีบ้าเข้าสิงรึยังไงกันนะ?

                แบมแบมจับต้องยกมือขึ้นมาลูบริมฝีปากของตัวเองอยู่บ่อยครั้ง

                บ้าเอ้ย! เลิกคิดได้แล้วน่า!!

     

                “นี่คุณ...” มาร์คกระแอม “คุณ...” เมื่อเห็นว่ายังไม่มีเสียงตอบรับเขาจึงเอ่ยดังขึ้น “คุณแบมแบม!

                “คะ...ครับ!!” แบมแบมสะดุ้งเหมือนฟองอากาศที่ถูกเจาะแตก “ว่าไงนะครับ”

                “เหม่ออะไรของคุณครับ” มาร์คมอง “เราคุยงานกับลูกค้าเสร็จแล้ว ผมถามคุณว่าเราจะกลับบริษัทเลยมั้ยครับ”

                “อะ..อ่อ...” แบมแบมพยักหน้า

                วันนี้เขาเอาแบบงานมาเสนอกับลูกค้าตามสถานที่นัดก็คือภัตตาคารชื่อดังแห่งหนึ่งประจำย่านซัมซอง ใช้เวลาคุยและสรุปแบบที่ต้องแก้กันทั้งหมดเกือบสามชั่วโมง ในที่สุดก็หมดภารกิจของวันนี้จนได้

                “สรุปจะเอายังไงครับ” มาร์คถามย้ำอีกรอบ

                “เสร็จงานแล้วถ้านายอยากจะกลับเลยก็ได้” แบมแบมตอบเสียงเรียบๆ

                มาร์คย่นคิ้ว “แล้วคุณล่ะครับ จะไปไหน”

                “ผมอยากจะเดินเล่นที่พิพิธภัณฑ์ซัมซองนี่ต่ออีกหน่อยน่ะ วันนี้มีงานเปิดตัวเกมใหม่ คุณกลับไปก่อนเถอะ”

                “ผมไม่ยักรู้ว่าคุณสนใจเรื่องเกมด้วย” มาร์คเดิมตามแบมแบมมาจนถึงพิพิธภัณฑ์และตึกอาคารทำงานขนาดใหญ่ของโลกไอทีที่เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของประเทศนี้และอาจจะรายหลักของโลกด้วยก็ได้

             SAMSUNG

                “ปกติผมก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ แค่วันนี้มันพิเศษน่ะ...”

                “พิเศษ?” มาร์คทวนคำขณะเดินขึ้นบันไดลิฟต์ตามแบมแบมไปติดๆ

                แบมแบมมาหยุดอยู่ที่ฮอลหนึ่งซึ่งมีการเปิดตัวเกมออนไลน์ใหม่ๆจำนวนมาก มีผู้คนเดินคลาคร่ำไปหมด

                แบมแบมหยิบใบปลิวโฆษณาโปรโมตหนึ่งขึ้นมาแล้วยื่นให้มาร์คดู “ผมได้รับการ์ดเชิญจากผู้ออกแบบและสร้างเกมนี้ขึ้นมาน่ะ”

                มาร์คก้มมองคำโปรยบนใบปลิวนั้น “เกม The Maze of Snake นี่มันก็เกมบันไดงูทั่วไปนี่ครับ”

                ดีไซเนอร์หนุ่มขำเล็กน้อย “ก็คงงั้นมั้งครับ”

                “คุณมีเพื่อนเป็นนักสร้างเกมด้วยหรอครับเนี่ย” มาร์คพยักหน้าอย่างสนใจ

                แบมแบมยิ้มจางๆ “จะว่าเพื่อนก็ไม่เชิงหรอกครับ” มองไปยังบู๊ทที่วันนี้ดูจะได้รับความสนใจเยอะที่สุด เพราะมีการปล่อยพรีวิวให้ทดลองเล่นฟรีล่วงหน้ามาเกือบหนึ่งเดือนแล้วล่ะ “แฟนเก่าผมเป็นคนคิดค้นเกมนี้ขึ้นมาเองล่ะครับ”

                มาร์คเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามทวน “คุณพูดว่าอะไรนะครับเมื่อกี้ ผมได้ยินไม่ถนัด”

                อีกคนจึงหันมาพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “รักครั้งแรกของผมเป็นคนสร้างเกมนี้ขึ้นมา”

                “อ่อ...” ผู้ช่วยหนุ่มพยักหน้า

                “เรื่องมันก็นานมาแล้วล่ะ ตั้งแต่สมัยผมเพิ่งย้ายมาเรียนที่เกาหลีนี่ได้ใหม่ๆ ก็แนวความรักลูกหมานั่นล่ะครับ คิดอะไรง่ายๆ ตกหลุมรักง่ายๆ ขึ้นชื่อว่าเกี่ยวกับความรัก อะไรมันก็ดูจะหอมหวานไปซะหมด” เบะปากสมเพชตัวเองเบาๆ

                มาร์คพยักหน้ารับฟังไม่พูดอะไร ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดออกมา โดยที่ตอนนี้พวกเขาสองคนกำลังยืนพิงระเบียงชั้นของงานปล่อยให้ผู้คนเดินสวนตนไปมา

                “ตอนคบกันเดือนแรกๆมันก็ดีไปหมดอย่างที่ผมบอกนั่นล่ะคุณ ข้อดีมันยิ่งใหญ่ซะจนกลบข้อเสียรูโหว่ของเขาได้จนหมด จะแย่ยังไงก็รัก จะเลวยังไงก็ทน...พอมาคิดๆดูตอนนี้แล้วผมแม่งโคตรขำตัวเองตอนนั้นเลย ทำอะไรบ้าๆตั้งหลายอย่างไปได้ยังไงกันนะ”

                “ผมว่าบางทีที่เราทำไปตอนนั้นก็เพราะว่าอยากให้เรามีความทรงจำให้พูดถึงวันนี้ก็ได้นะครับ”

                “คุณนี่ชอบพูดคำพูดหล่อๆจริงๆเลยนะ” แบมแบมอดหันมาแขวะอย่างหมั่นไส้ไม่ได้

                แต่เมื่อเห็นสายตาแห่งความเป็นห่วงที่มองกลับมาแล้วเขาก็ทนรั้นอะไรต่อไม่ได้ ได้แต่ยิ้มออกมาจางๆ

                “มันก็เป็นความรักลูกหมาที่ผมไม่อยากให้หมาตัวนั้นโตขึ้นเลยจริงๆนั่นล่ะ”

                “...” มาร์คเงยหน้ามองเพดานพิพิธภัณฑ์ไปเรื่อย

                “พอเราโตขึ้น เส้นทางเราก็แยกแตกออกจากกันไปเรื่อยๆ สิบปีที่ไม่ได้ติดต่อกันเลย พอผมได้รับการ์ดเชิญเมื่อเดือนก่อนคุณรู้มั้ยว่าผมทำอะไรไม่ถูกเลย”

                “รักแรกมันฝังใจคนเราทุกคนทั้งนั้นล่ะครับ”

                “นั่นสินะ...” แบมแบมถอนหายใจ “เพราะเป็นรักครั้งแรก”

     




               

                มีคนเคยบอกว่ารักครั้งแรกน่ะไม่ว่าจะดีหรือร้ายมันมักจะเป็นความรักที่ติดค้างอยู่ในความทรงจำของเรามากที่สุด

                ผมเองก็ไม่คิดจะเถียงทฤษฎีของเรื่องนี้ซะด้วยสิ

                ความรักของเด็กๆน่ะ มันทั้งสดใส บริสุทธิ์

                จะหยิบจะจับ จะทำอะไรมันก็ดูสวยงามไปหมด

                แต่ก็แค่เฉพาะตอนแรกๆก็เท่านั้นล่ะนะ

     

                หลังจากนั้นสิ...คือของจริง

     

    “ฮัลโหล ยูคยอม เตงอยู่ไหนแล้ว...” แบมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์อย่างโมโหใส่แฟนหนุ่มที่คบกันมาได้แล้วครึ่งปี

                “เค้ากำลังไปนะ..แบมแบม เตงรอเค้าแป๊บนะ...”

                “นี่สามรอบแล้วนะที่เตงพูดแบบนี้ เตงอยู่ไหนกันแน่บอกมาเดี๋ยวนี้ยูคยอม!

                “อยู่บนรถใต้ดิน....”

                “คิมยูคยอม!!!

                “ยอมแล้วเตง เค้ายอมแล้ว เค้าอยู่บ้าน”

                “อยู่บ้านงั้นหรอ?!!! เตงนัดว่าวันนี้จะมาดูหนังกับเค้าตั้งแต่สิบโมง นี่มันเที่ยงแล้วนะยูคยอม ถ้าเตงจะไม่มาทำไมเตงถึงไม่บอกเค้าแต่แรกล่ะ ให้เราทำไมมันเสียเวลานะ!!

                “กะ...ก็....ก็เค้ากลัวเตงโกรธเค้าไง เค้าลืมไปว่าวันนี้ตูนซีรี่ย์สกูบี้ดูจะออกตอนใหม่ล่าสุดตอนบ่ายสองนี้ เค้ารอมาตั้งหลายเดือนแล้วก็ไม่อยากพลาด.....”

                “การ์ตูนอีกแล้วหรอ!! “ แบมแบมขึ้นเสียง “นี่เตงผิดนัดเค้าเพราะไอ้เรื่องการ์ตูนครั้งนี้เป็นครั้งที่ยี่สิบเจ็ดแล้วนะ!

                “กะ...ก็....”

                แบมแบมเสยผมหน้าที่ก่อนหน้านี้บรรจงจัดทรงมาอย่างดีจนตอนนี้มันยุ่งพันกันไปหมด

                “เค้าไม่เคยว่าเลยนะเรื่องที่ตัวจะบ้าการ์ตูนแค่ไหน จะเป็นโอตาคุโรคจิตอะไรก็ตามเถอะ เพราะว่าเค้ารักเตง เค้ารับได้ แต่เตงทำแบบนี้เค้ารู้สึกแย่จริงๆว่ะ”

                “เดี๋ยวสิแบมแบม อย่าโกรธเค้าเลยนะ เค้ารักเตงมากๆเลยเตงก็รู้ เตงเป็นแฟนคนแรกของเค้าเลยนะ...”

                “เตงก็เป็นรักครั้งแรกของเค้าเหมือนกันนั่นล่ะ...”

                แบมแบมพยายามสงบสติอารมณ์ให้เย็นยิ่งขึ้นพอๆกับที่ยูคยอมพยายามหาหนทางมาง้อแฟนตนเองเช่นกัน

                “เตง การ์ตูนมันฉายแค่ชั่วโมงเดียวเอง งั้นตอนนี้เตงไปเดินดูไรรอเค้าก่อนนะ จบแล้วเค้าจะรีบไปหาเตงเลย”

                “ไม่เอาแล้ว เค้าจะกลับบ้าน” แบมแบมพูดเสียงเซ็งๆ

                “ไม่เอาสิ รอเค้านะเตง คนดีของเค้านะๆ วันนี้เค้ายังไม่ได้จุ๊บๆเตงเลย เค้าคิดทึ้งคิดถึงเตงนะ”

                “บ้า!” แบมแบมเอ็ดทั้งๆที่หน้าแดงเถือก “พูดอะไรเนี่ย เค้าเขินนะ”

                “เดี๋ยวเค้าจะทำให้เตงเขินกว่านี้อีก รอเค้านะคนดี แค่แปบเดียวเอง”

                แบมแบมพยักหน้าแม้จะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีทางได้เห็นก็ตาม “โอเค เดี๋ยวเค้าเดินดูร้านเสื้อแถวนี้รอก็ได้ รีบมานะ”

                “รับทราบครับผม!!

     



                แล้วเรื่องมันก็มักจะลงเอยอยู่แบบนั้นเสมอมา เกิดขึ้นซ้ำไป จบลงซ้ำมา วนเวียนอยู่เกือบปีครึ่ง

                ระยะเวลาสิบแปดเดือนที่แบมแบมพยายามประครองความสัมพันธ์ของตนให้ได้ตลอดรอดฝั่งของคนรักกันมาจนได้ แม้จะเป็นไปอย่างลุ่มๆดอนๆก็ตามเถอะ

                คิมยูคยอมคือเพื่อนที่นั่งโต๊ะข้างๆของเขาในคลาสเรียนตั้งแต่เทอมแรกที่เขาย้ายมาเรียนที่เกาหลีใต้นี้ คนที่คอยช่วยเหลือเขาทุกอย่าง

                รอยยิ้มกว้างนั้นสอนให้เขาได้รู้จักกับความรักเป็นครั้งแรก

                และก็ค้นพบตัวเองว่าเขาชอบเพศเดียวกัน...

                ใช้เวลาในการเรียนรู้กันเกือบปีกว่าที่พวกเขาจะรู้ว่าต่างฝ่ายต่างก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกันจนตกลงคบกัน ขยับฐานะจากเพื่อนสนิทมาเป็นคนรักกันในที่สุด

     


                แต่ข้อเสียอันร้ายแรงอย่างหนึ่งของคิมยูคยอมก็คือ

                เขา! เป็น! ทาส! การ์ตูน! มาก! ไป!

     


                เรียกได้ว่าทาสขั้นสูงสุด ติ่งติดอันดับแฟนพันธุ์แท้ แล้วก็ไม่ได้มีชอบเรื่องอะไรเป็นหลักเป็นแหล่งนะ ขอให้ขึ้นชื่อว่าการ์ตูนเถอะชอบหมดล่ะ จะมาในรูปแบบไหนก็พร้อมจะซัพพอร์ตเต็มที่

                ในห้องก็มีแต่โปสเตอร์การ์ตูน ฟิกเกอร์การ์ตูน ของสะสมนู่นนี่นั่นจนแทบจะไม่มีที่แทรกให้เดินเลยเถอะ

                พอมาช่วงหลังๆจึงเริ่มขยายฐานความชอบไปยังเกมออนไลน์ทางคอมพิวเตอร์ด้วย ทำเอาเขาปวดหัวหนักขึ้นกว่าเดิมอีกล่ะ

                จากตอนแรกที่ยังพอจะมีเวลาให้เขาบ้าง กลายเป็นว่าไปทุ่มเทและหมกมุ่นให้ไอ้เกมออนไลน์นั่นจนไม่เหลือเวลาให้เขาเลย

                เขาเคยถามหลายครั้งแล้วว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรกับคอมพิวเตอร์ยังไง แถมยังขีดๆเขียนๆอะไรลงกระดาษโดยที่ไม่ยอมให้เขาดูอีก

                แบบนี้มีใครบ้างล่ะที่จะไม่รู้สึกตะขิดตะขวงในใจ

                ความสัมพันธ์ในรักครั้งแรกของเขาค่อยๆดำเนินไปภายใต้รูปแบบที่เหมือนแก้วที่ค่อยๆเกิดรอยร้าวขึ้นสีละนิดๆ จนกระทั่งระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆในที่สุด

     



                วันครบรอบคบกันครบปีครึ่งของเขากับยูคยอมจัดขึ้นพร้อมกับเค้กอันเล็กๆโง่ๆอันหนึ่งในหอพักอันกว้างขวางของยูคยอมเอง

                พ่อแม่ของเจ้าตัวเป็นนักธุรกิจจึงมีเหตให้ต้องไปต่างประเทศอยู่บ่อยๆ บางครั้งยูคยอมก็ไปด้วย แต่ส่วนมากจะชอบอยู่บ้านนอนดูการ์ตูน ครองโทรทัศน์คนเดียว

                แต่วันนี้มันพิเศษกว่านั้น...

                หลังจากจัดการกินเค้กดันจนหมดแล้ว ยูคยอมก็ชวนแบมแบมมานอนเล่นบนเตียงของตนพร้อมกับเปิดแอร์ฉ่ำๆให้สบายใจ

                แต่อาจจะสบายมากไปจนตอนนี้บนเนื้อตัวทั้งสองคนไร้ซึ่งเสื้อผ้ามาปกปิดเสียแล้ว ฝ่ามือของยูคยอมลูบไล้ร่างกายที่เปล่าเปลือยของแบมแบม

                ด้านหนุ่มน้อยจากเมืองไทยก็สั่นเทาตัวความตื่นเต้นปนกลัว แต่จะเรียกว่าสั่นสู้ด้วยก็ไม่แปลก เพราะคบกันมาปีครึ่งพวกเขาไม่เคยทำอะไรกันมากไปกว่ากอดจูบ อาจจะมีลูบคลำบ้างตามโอกาสพิเศษ

                แต่ไอ้ถึงขึ้นแก้ผ้าซุกไซร้กันแบบนี้ล่ะ เพิ่งจะครั้งแรกเลยนะ!!

                “แบมแบม เตงไม่ต้องกลัวนะ เค้าทดลองเล่นในเกมมาหลายท่าแล้ว รับรองว่าเค้าจะไม่ทำให้เตงเจ็บแน่ๆ...”

                เจ้าของชื่อเม้มปากแน่นพยักหน้าเบาๆ ขยับตัวชันขาขึ้นตามแรงนำของอีกฝ่าย จ้องมองคนที่ตัวหนากว่าตนไม่กระพริบ “เตง...”

                ยูคยอมโน้มตัวไปประกบจูบปากกับแบมแบมพลางใช้ลิ้นปรนเปรอชักนำอารมณ์ร่วมจนกระทั่งร่างกายส่วนร่างเริ่มเปียกแฉะถูไถกันไปมา

                “เตง...” ยูคยอมเรียก “เค้าไม่ไหวแล้ว ให้เค้าเถอะนะ ยอมเค้าเถอะนะ คราวนี้อย่าปฏิเสธเค้าอีกเลยนะ...” เว้าวอนด้วยสีหน้าน่าสงสาร

                นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่พวกเขาพยายามจะมีอะไรกัน แต่ทุกครั้งแบมแบมก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่าไม่พร้อมมาตลอด จนกระทั่งวันนี้มาถึง

                ใบหน้าเล็กๆพยักหน้าน้อยๆเชิงว่าอนุญาต

                ด้วยความรัก ความใสซื่อ ความไร้เดียงสา ของเด็กชายหัดริรักทั้งสองคน

                จังหวะการร่วมรักอันเก้ๆกังๆ ท่าทีกางขาที่ไม่ได้องศามานักของแบมๆ ทิศทางการประคองบั้นเอวอันไม่สมดุลของยูคยอม ทำให้มันเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นนัก

                แต่ท่อนลำที่โป่งคับถุงยางสีชมพูนั้นก็ส่อท่าทีว่าทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ยูคยอมจับขาข้างหนึ่งของแบมแบมพาดบนบ่าของตน ส่วนแขนอีกข้างก็กดต้นขาอีกข้างของแบมแบมเอาไว้แน่น “เป็นเมียเค้าเถอะนะเตง เป็นแค่แฟนมันไม่พอแล้ว”

                แบมแบมหน้าเถือกให้กับประโยคนั้น ขยับสะโพกที่ตั้งอยู่บนหมอนให้มัน มือสองข้างก็จิกผ้าปูที่นอนแน่น หอบหายใจด้วยความต้องการ

                โลชั่นหรือเจลอะไรไม่ได้ช่วยให้การสอดใส่ในครั้งแรกทุเลาความเจ็บไปได้นัก แบมแบมส่งเสียงร้องดังไปทั่วห้องนอนกว้างของยูคยอม พร้อมกับเสียงคำรามในลำคอของยูคยอมที่โดนตอดรัดอย่างหนักเช่นกัน

                “เตง เค้าเจ็บ เค้าไม่ไหวแล้ว...” แบมแบมส่ายหน้าไปมาเมื่อยูคยอมถอนตัวเข้าออก กระแทกในร่างของตน

                “เตง เค้าก็เจ็บ เตงอย่ารัดเค้าแน่นแบบนี้สิ มันเสียวมากเลยเตง...” พูดย้ำอยู่แบบนั้นแล้วจึงขยับร่างโยกขึ้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ

                แบมแบมรู้สึกเหมือนตนโดนเหวี่ยงขึ้นลงรอบแล้วรอบเล่า จากความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความสุขสันต์ เสียงครางหวานระทวยดังลอยละล่องรอบๆห้องนี้

     


                มันไม่ได้เกิดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากที่ก้าวข้ามเส้นความสัมพันธ์มาได้ก้าวหนึ่งแล้ว มันย่อมหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ แบมแบมแทบจะมาขลุกและกินนอนอยู่ที่บ้านของยูคยอม ไปเรียนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน อาบน้ำพร้อมกัน และมีเซ็กส์ด้วยกันบ่อยครั้งเท่าที่จะทำได้

                เหมือนเด็กที่เพิ่งได้ลองของเล่นใหม่ มันช่างน่าหลงใหล แค่ทดลองถุงอย่างรูปแบบใหม่ๆกลิ่นต่างๆยังดูน่าตื่นเต้นสำหรับพวกเขาทั้งสองคนเลย

     


                จนกระทั่งปัญหาผัวเมียวัยเด็กของพวกเขาเกิดขึ้นจนได้

     


                “เตง! มีคนมาบอกเค้าว่าวันนี้ไอ้กอนอูมันมาจีบเตงหรอ” ยูคยอมเปิดฉากทันทีที่แบมแบมกลับมาถึงห้องนอนของตน

                “เขาก็ไม่ได้มาจีบเค้าหรอกนะ แค่เอาของมาให้” แบมแบมตอบเสียงอ่อยๆ

                “นั่นล่ะที่เรียกว่าจีบ เตงไปรับของมันมาด้วยใช่มั้ย ทำไมเตงทำกับเค้าแบบนี้ล่ะ จะนอกใจเค้าหรอ”

                “นอกใจอะไรบ้าแล้ว เค้ามีแต่เตงนะยูคยอม”

                “หลังๆนี่มีคนมาจีบเตงเยอะเกินไปแล้วนะแบมแบม เค้าไม่ชอบเลย เตงเป็นเมียเค้านะ มีแค่เค้าก็พอแล้ว ไม่ต้องไปยุ่งกับคนอื่นอีก”

                “นั่นก็เพื่อนเค้าทั้งนั้นเลยนะเตง เตงจะไม่ให้เค้ามีเพื่อนบ้างเลยหรอ” แบมแบมพยายามอธิบาย

                “มีผัวอย่างเค้าทั้งคนแล้ว เตงจะมีเพื่อนทำไม เพื่อนทำให้เตงมีความสุขได้เท่าเค้ามั้ย มันเอาเตงเหมือนที่เค้าเอาทุกคืนรึเปล่าล่ะ”

                “ยูคยอม! ถ้าเตงไม่มีเหตุผลแบบนี้เค้าจะไม่คุยกับเตงแล้วนะ เค้าจะกลับไปนอนบ้านเค้าเอง”

                “เค้าไม่ให้กลับ!” ยูคยอมคว้าแขนแบมแบมเอาไว้แน่น “เค้าเป็นผัวเตงนะ เตงต้องเชื่อฟังที่เค้าพูดสิ”

                “เราเป็นคนรักกันก็จริงนะยูคยอม เค้าก็รักเตงมากด้วย แต่เตงจะมาใช้ไอ้ดุ้นนั่นขังเค้าไว้กับเตงตลอดเวลาไม่ได้หรอกนะ”

                ฝ่ายร่างที่สูงกว่ามองแบมแบมด้วยความเสียใจระคนโกรธ “ทำไมล่ะ หรือเพราะเตงเบื่อเค้าแล้ว เค้าเอาไม่มันส์เท่าเก่าแล้วใช่มั้ยล่ะ เตงไปเอากับคนอื่นมาแล้วใช่มั้ย”

                แบมแบมอยากจะขยี้มึ้งผมตัวเองให้หลุดติดมือมาสักกำ “ทำไมเตงงี่เง่าแบบนี้วะ เลิกทำตัวเด็กสักทีได้มั้ย นี่มันชีวิตจริงนะยูคยอม ไม่เหมือนไอ้การ์ตูนที่เตงชอบดูเป็นประจำนะ”

                “มันการ์ตูนยังไงล่ะที่เค้าทำ ไอ้ความรักที่เค้ามีให้เตงเนี่ย มันไม่สมจริงเลยรึไง!” ยูคยอมคว้าโมเดลอุลตร้าแมนหัวเตียงมาปาลงพื้นจนมันกระเด็นหลุดกันเป็นเสี่ยงๆ

                ฟิกเกอร์ลิมิเต็ดอีดิชั่นที่แบมแบมซื้อให้เป็นของขวัญเมื่อปีที่แล้ว

                แบมแบมมองซากพลาสติกที่กองอยู่ที่พื้นแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเป็นทาง ไม่คิดว่าการทะเลาะกันเล็กๆน้อยๆตลอดมา มันจะมาระเบิดเอาทีเดียวในวันนี้

                ยูคยอมเองก็ร้องไห้เช่นกัน “เค้าไม่ไหวแล้วอะเตง...”

                อีกคนสูดเสียงสะอื้น “มันถึงวันนี้แล้วหรอเตง...”

                ชายหนุ่มร่างสูงกว่าพยักหน้า “เค้าว่าเราสองคนปรับตัวเข้าหากันยังไงมันก็ไม่ใช่ เค้ารักเตงมากนะ แต่วันนี้เค้ารู้แล้วว่ารักอย่างเดียวมันไม่พอว่ะ”

                “....” แบมแบมเงียบเพราะไม่รู้จะหาทางออกยังไง

                “ดูอย่างไอ้ฟิกเกอร์ตัวนี้สิ เค้ารักมันมากกว่าของสะสมทุกตัวด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นตัวที่เตงซื้อให้เค้า แต่สุดท้ายเค้าก็ยังทำลายมันลงกับมือ”

                “....”

                “ความรักของเราก็เป็นแบบนี้เหมือนกันนั่นล่ะ”

                “พอเถอะ....” แบมแบมยกมือห้าม

                แต่ยูคยอมกลับอยากจะพูดต่อ “เตงเป็นเมียคนแรกของเค้า เค้าจะไม่ลืมเลย และเค้าคงจะไม่มีวันรักใครได้เท่าที่เค้ารักเตงแล้วด้วย”

                “หยุดพูดเถอะ มันไม่มีค่าอะไรแล้วในตอนนี้”

                “แบมแบม....”

     

     


                “จะมาพูดว่ารักทำไมนักหนาตอนที่เลิกกันไปแล้ววะ”

     






     - - - - - -

    #ผู้ชายของแบม on twitter : )



    มีใครเทใจให้คุณแฟนเก่าคนแรกบ้างมั้ยเอ่ย

    แบ่งปันความรู้สึกกันได้ที่กล่องคอมเม้นท์ หรือ แท็ก #ผู้ชายของแบม นะคะ :D


    สวนจีน.

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×