ตอนที่ 4 : ลอกบอก : ย ก ที่ ส อ ง
LOVE again
BREAK again
- ยกที่สอง -
“ป้าครับ?!! ผมจองห้องเดี่ยวไปนี่นาแล้วทำไมถึงได้มีไอ้เหี้ยนี่อยู่ในห้องนี้ด้วย!!”
ยองแจพูดกับป้าเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ซึ่งก็รวมถึงเป็นเจ้าของร้านไก่ทอดข้างล่างที่แดฮยอนทำงานด้วยนี่ล่ะ ไม่วายจะชี้มือมายังแดฮยอนเพื่อเป็นการย้ำอีกด้วยว่าไอ้เหี้ยที่ว่าไม่ใช่ใครอื่นแน่นอน
“คำก็เหี้ย สองคำก็เหี้ย สวัสดีครับมึง กูขอบอกอะไรอย่างหนึ่งก่อน กูอยู่ห้องนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่งครับ มึงนั่นล่ะ...มาทีหลัง” แดฮยอนที่สวมเสื้อผ้าเสร็จแล้วยืนพิงโต๊ะยักไหล่เถียงกลับ
“ใครคุยกับมึง หุบปากไป”
“เอาปากมึงมาปิดสิ” ยักคิ้วปิดท้ายอีกต่างหาก
“พ่อมึงตาย”
“ไอ้ห่านี่ทำไมต้องเล่นถึงพ่อกูด้วย” งานนี้ผุดลุกขึ้นยืนเลยครับ
“พอจ้ะพอ.....” ป้าผู้ยืนไร้บทบาทมาเกือบสิบนาทีส่งเสียงค้าน “หยุดเถียงกันแล้วฟังฉันพูดก่อนนะ”
“เฮอะ!/ฮึ่ย!!” กอดอกสะบัดหน้าไปคนละทาง
“ความจริงห้องที่ยองแจจองไว้เนี่ยเป็นห้องเดี่ยวก็จริง แต่ว่าพอดีนักศึกษาเขามีเหตุไม่จบตามระยะเวลาที่กำหนดก็เลยจะต้องเช่าห้องอยู่ต่อน่ะ แถมห้องอื่นๆก็ยังไม่มีวี่แววจะคืนสัญญาเลยด้วย ก็เหลือห้องนี้ห้องเดียวนะที่ว่าง ฉันก็เลยจำต้องให้เธอมาอยู่ที่ห้องนี้ไปก่อน”
“ผมไม่อยากอยู่ร่วมห้องกับไอ้เหี้ยนี่!” ยองแจเดือด
แดฮยอนเบะปาก “พูดอย่างกับว่ากูอยากเจอมึงนักล่ะ วันนี้วันซวยแท้ๆ”
“ถ้าหาห้องใหม่ให้ผมไม่ได้ผมก็จะไปหาที่อื่นเช่า” ยิ่งเห็นท่าทีกวนโทสะของอีกฝ่ายยิ่งทำให้ยองแจเดือดดาลขึ้นไปอีก
“ไปเถิด...” ทำท่าผายมือประกอบอีกต่างหาก
“ถ้าทำแบบนั้น...” คุณป้าพญามารเผยรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก “เงินมัดจำค่าหอสองล้านวอน...จะไม่ได้คืนนะจ๊ะ”
“ห๊ะ?!!!” ยองแจถึงกับหน้าซีด ถ้าเขาไปอยู่หออื่นก็ต้องจ่ายค่ามัดจำอีกรอบ เงินเยอะแบบนั้นเขาไม่มีสำรองจ่ายหรอก
“ตามที่ได้ยินเลยจ้ะ ฉันว่าทางที่ดีแค่อดทนอยู่ห้องนี้ไปก่อนไม่นานหรอก ดีกว่าจะต้องสูญเงินฟรีๆนะจ๊ะ...”
ยองแจกัดฟันแน่นพอๆกับที่กำมือ
วันนี้ไม่ใช่วันดีของเขาแล้วล่ะ เพิ่งจะเข้าโซลมาจากอึยจองบูแท้ๆ ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอคนที่ครั้งหนึ่งเคยบอกตัวเองว่าจะไม่พาชีวิตโคจรมาเจอมันอีก
ไอ้สารเลวจองแดฮยอน
นี่ถึงขั้นต้องมาทนอยู่ร่วมห้องเดียวกัน เขาจะอดใจไม่แอบลอบฆ่ามันตอนหลับได้มั้ยเนี่ย
“เอาไงดี ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก....” แดฮยอนยั่วโมโหอีกฝ่ายขึ้นไปอีก
บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกยังไงที่ได้เจอกันอีกครั้ง อ้อ....แต่ที่แน่ๆแค้นชิบหาย ไข่เกือบแตกแม่งถีบมาได้ ทำเอาเขาหน้าเขียวลุกไม่ขึ้นอยู่กว่าสิบนาที
หนุ่มผิวเข้มจากปูซานยืนกอดอกลอบมองอีกฝ่ายที่ขมวดคิ้วแน่นเป็นระยะๆ ยองแจที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้เปลี่ยนไปจากครั้งสุดท้ายที่เจอกันไม่มากนัก เหมือนจะผอมลงแม้จะแค่นิดเดียวก็ตามเถอะ แก้มที่เคยล้อมรอบหน้ากลมๆนั่นก็ตอบลงไปจนสังเกตได้เหมือนกัน
นี่ไปอัพเกรดตัวเองจากโรงพยาบาลไหนมารึเปล่าเนี่ย
ยกมือขึ้นเกาคางราวกับว่าไม่สนใจ แต่ความจริงแล้วก็โกหกตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
ตอนคบกันก็ว่าน่ารักแล้วนะ แต่นี่...
ดูน่าเข้าไปรักกว่าตอนนั้นซะอีกว่ะ..
“ก็ได้!!!” หลังจากคำนวณความเกลียดชังกับความไม่มีเงินแล้ว...ยองแจจำต้องเลือกเช่าอยู่ที่นี่ไปโดยปริยาย “แล้วผมต้องทนอยู่กับไอ้เหี้ยนี่ไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย”
“แค่เทอมเดียวจ้ะ” คุณป้าตอบรับทันที แหงล่ะ...ใครจะอยากเสียลูกค้าไป “ทันทีที่นักศึกษาห้องนั้นย้ายออก เธอก็ย้ายเข้าไปอยู่ได้ทันที หนึ่งเทอมแค่สามเดือนเอง เวลาผ่านไปไวจะตาย...”
แดฮยอนยิ้มมุมปากเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันนะ ถึงได้รู้สึกดีใจ
ที่ยองแจตอบตกลง...
“ถ้าอย่างนั้นก็คุยกันต่อเลยนะจ๊ะ ฉันทิ้งร้านมานานแล้ว...” คุณป้ามหาภัยทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วหลบฉากออกไปอย่างรวดเร็ว
เหลือแดฮยอนและยองแจฟาดฟันสายตากันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใครถ้ามีสายฟ้าฟาดเปรี๊ยะๆกลางอากาศได้ก็คงทำไปแล้วล่ะ
“ยินดีต้อนรับนะ...หึหึ” แดฮยอนยังคงรักษาความยียวนได้ไม่เลิก
“ไอ้เหี้ย...” ยองแจเค้นเสียงลอดไรฟัน
ชายหนุ่มปูซานจิ๊ปาก “คำก็เหี้ย สองคำก็เหี้ย...” ยกมือขึ้นโบกไปมากลางอากาศ “เหี้ยตัวนี้ก็เคยได้มึงเป็นเมียอยู่ตั้งหลายทีนี่หว่า”
“ไอ้สัตว์!!” ยองแจโผเข้ามากระชากคอเสื้อแดฮยอนเอาไว้อย่างแรงด้วยความโมโห “มึงยังกล้ามีหน้ามาพูดถึงเรื่องนี้อีกหรอ?!!”
แดฮยอนก็ตกใจเหมือนกันเมื่อได้เห็นสายตาของอีกคนใกล้ๆ ท่ามกลางความเกลียดชังนั้น...มันมีความเจ็บปวดอยู่
“ปล่อยได้แล้ว เดี๋ยวเสื้อกูยับ ต้องไปทำงานอีก...” แดฮยอนแกะมือยองแจจากคอเสื้อตัวเองได้อย่างง่ายดาย
ถึงสูงเท่ากัน...แต่เรื่องของพลังน่ะ คนละชั้นมาแต่ไหนแต่ไร
“มึงไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นล่ะ!!” ยองแจชี้ไปรอบห้อง “กูไม่ทนอยู่ในห้องโสโครกแบบนี้หรอกนะ มึงเก็บของๆมึงเดี๋ยวนี้เลย!!!!”
“จะถึงเวลาเข้ากะงานของกูแล้ว นอนไม่ได้มึงก็นอนพื้นไป” แดฮยอนยักไหล่ แล้วเดินสวนไปแต่ก็ไม่วายถูกยองแจกระชากแขนไว้ได้
“ไหนจะฝุ่น ไหนจะขยะ ถ้วยชามที่มึงแดกแล้วอีก กูทนไม่ได้หรอก! ถ้ามึงไม่เก็บก็อย่าหวังจะได้ไปไหนเลย!!”
“คิดว่าห้ามกูได้งั้นสิ...” แดฮยอนหยั่งเชิง
ยองแจส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความชิงชังกลับมาตอบ “กูก็ไม่ยอมให้ภูมิแพ้กำเริบตายเหมือนกัน”
แดฮยอนชะงักในใจไปเล็กน้อย จริงสิ...ไอ้หมูอ้วนตรงหน้าเขานี่มันเป็นโรคคุณหนูมาแต่ไหนแต่ไรนี่หว่า
แพ้แม่งได้ทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้ อากาศเปลี่ยนนิดหน่อยก็จามเกือบตาย อยู่ในที่มีฝุ่นก็ตาแดงไอแล้วไออีก...
ให้ตายเถอะ...ช่วยไม่ได้สินะ
“มึงมันน่ารำคาญ โผล่เข้ามาแย่งห้องกูแท้ๆ ยังจะมาทำเรื่องมาก” แดฮยอนชักสีหน้า “ไปแบกของมึงมาสิ ไปขอเครื่องนอนจากป้ามาด้วยล่ะ ไสหัวไปไกลๆตอนกูเก็บห้องด้วย เซ็งชิบหาย กูไปทำงานไม่ทันละเนี่ย” บ่นรวดชุดเดียว
“มึงเก็บให้หมดเลยนะ...” ยองแจมองอีกฝ่ายอย่างหวาดระแวงแต่ก็ยอมหลับฉากลงไปชั้นล่างเพื่อไปขนของๆตัวเองอยู่ดี
แดฮยอนถอนหายใจ เดินหาถุงดำมากางรอบห้อง เริ่มเก็บเศษขยะ กระป๋องเบียร์ สารพัดของที่กองสุมกันเอาไว้ลงถุงให้หมด ของระเกะระกะก็ทั้งหยิบทั้งเตะให้เข้าที่ จนกระทั่งเดินตรงมาที่เตียงของตัวเอง
“เวรเอ๊ย...เกือบลืม...” แดฮยอนรีบคว้าตุ๊กตามินนี่เม้าส์ที่จมกองฝุ่นใกล้เตียงชั้นล่างไปโยนใส่ตู้เสื้อผ้าทันที “ดีนะแม่งยังไม่เห็น”
เก็บเตียงตัวเองให้เรียบร้อยก็วิ่งไปกวาดห้องให้พอหมดฝุ่นและถูอย่างลวกๆแต่อาศัยความเร็วไม่นานก็เห็นว่าห้องที่เคยสกปรกซะยิ่งกว่ารูหนูดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น
ยองแจขนของกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งตอนที่แดฮยอนล้างจานที่ใช้แล้วเสร็จ ซึ่งก็ถือเป็นงานสุดท้ายของเขาแล้วล่ะ
หนุ่มแก้มยุ้ยจากอึยจองบูกวาดสายตามองรอบๆห้องแล้วก็ทึ่งที่แดฮยอนสามารถจัดการงานกองยักษ์ได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
“เสร็จเรื่องแล้วใช่มั้ย งั้นมึงก็หลบได้ละ เสียเวลางานกูจริงๆ ถ้าโดนหักเงินกูจะมาเก็บกับมึง”
“เดี๋ยว...” ยองแจหยุดอีกฝ่ายเอาไว้อีกครั้ง
“อะไรอีก” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรำคาญ
“กูจะนอนเตียงข้างล่าง...”
“ได้ไง!!” แดฮยอนร้องเสียงหลง “เตียงบนแม่งจมฝุ่นขนาดนั้น กูนอนข้างล่างของกูมาทุกวันเหอะ มึงมาทีหลังไม่มีสิทธิ์เลือก”
“กูกลัวความสูง....”
แดฮยอนถอนหายใจหนักๆ เขาลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย “เรื่องของมึงดิ”
“กูจะนอนข้างล่าง...” ยองแจจ้องกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“เตียงกู มึงมาทีหลัง ไม่พอใจมึงก็ไปหาที่อื่นอยู่เลยไป”
“กูจะนอนข้างล่าง!!!” ยองแจกำหมัดแน่น
เสี้ยววินาทีเดียวนั้นแดฮยอนก็รู้สึกเหมือนกับว่าได้ย้อนเวลากลับไปสมัยม.ปลาย ตอนที่ยังคบอยู่กับคนตรงหน้า
ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด
เวลาขัดใจแล้วจะงอแงเอาให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ
ใบหน้าที่เหมือนเด็กโดยไม่รู้ตัว
หางตารื้นๆน้ำใสๆนั่น...น็อกเอาท์เขาได้ไม่เปลี่ยนเลย
นี่ขนาดว่าเลิกกันไปนานแล้วนะ ยูยองแจ มึงนี่เก่งในเรื่องการเอาชนะความรู้สึกกูจริงๆ
“ไอ้เวรเอ๊ย..” แดฮยอนสบถ “เรื่องของมึงเหอะถ้างั้น ไอ้เรื่องมาก กูไปทำงานล่ะ...” แดฮยอนเดินสวนอีกฝ่ายมาที่ประตู แต่ก็ไม่วายที่จะทิ้งท้ายเอาไว้ “อ่อ...ถ้ามึงคิดจะล็อกกลอนห้องขังกูนอนข้างนอกล่ะก็ กูจะเอาให้ป้าเขาไล่มึงออกไปหาที่อื่นเช่าเลยล่ะไอ้ไขมันพอกตัว”
“กูไม่ได้อ้วนนะ ไอ้เหี้ย!!!!!” ยองแจคว้าหมอนในมือปาไล่หลังแดฮยอนทันทีแต่ก็ไม่ทันเพราะอีกฝ่ายปิดประตูห้องได้เฉียดฉิว
“มึงนะมึง.....” ยองแจกำมือแน่น “มันต้องเป็นสามเดือนนรกแน่ๆ..”
“แฮ่ก...แฮ่ก....” แดฮยอนวิ่งเข้าร้านสะดวกซื้อ U25 แล้วพุ่งไปเปลี่ยนชุดที่หลังร้านทันที วันนี้เขาสายไปเกือบครึ่งชั่วโมง ผู้จัดการจะฆ่ามั้ยเนี่ย
“อย่าฟ่าวหลาย อย่าฟ่าวหลาย มึงสิขาดใจตายก่อนบักมืด...” เสียงหนึ่งดังขึ้นพลางลูบหลังเขาเบาๆเมื่อเขาวิ่งออกมาจากหลังร้านและประจำที่เคาท์เตอร์แล้ว
“อ้ายซอกจิน เอื้อยฮโยซองบ่เข้าร้านบ่วันนี้...” แดฮยอนถามหาผู้จัดการสาวขาโหดประจำสาขา “ข่อยขอโทษล้ายหลายเด้อ พอดีมีเฮื่องนิดหน่อยที่หอ”
“บ่เป็นหยังๆ ฮโยซองเผิ่นไปประชุมอิหยังนี่ล่ะ วันนี้บ่เข้า มื่ออื่นก็ก็บ่เข้านำ เผิ่นโทรมาบอกอ้ายก่อนมึงสิมาได้จั๊กสิบนาทีนี่ล่ะ..”
“ป๊าด...ข่อยโซกดีคักๆเด๊ล่ะ...” ถอนหายใจโล่งไปเฮือกใหญ่
พี่ซอกจินคือพนักงานประจำร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ แถมยังมาจากปูซานเหมือนกับเขาอีกต่างหาก ตอนที่เขามาสมัครงานพาร์ทไทม์ก็ได้คนตรงหน้านี้นี่ล่ะช่วยพูดกับผู้จัดการร้านอย่างฮโยซองให้
เขาทำอยู่หลายกะหลายเวลาอยู่นะ เงินอาจจะไม่ได้ดีมาก แต่ก็ถือว่าเป็นเงินสำรองไว้เผื่ออยากจะใช้อะไรได้เลยล่ะ
“มึงมีเฮื่องอิหยังคือมาสายจังซี่” ซอกจินคิดเงินให้ลูกค้าแล้วหันมาถามแดฮยอนที่กำลังเติมของเข้าชั้นอยู่
“มีคนย้ายเข้ามาอยู่ห้องเดียวกับข่อย ข่อยบ่ฮู้มาก่อนก็เลยต้องเก็บห้องให้มันอยู่นำ...”
“จังซั่นเบาะ...” จินพยักหน้ารับ “แล้วมึงเป็นอิหยังคือเฮ็ดหน้าปานไปพ่อเมียเก่ามาโลด...”
“อ้าย...มึงลาออกไปเป็นหมอดูคือสิรุ่งเว้ย....” แดฮยอนเผลอกำถุงขนมซะแน่น
“อีหลีบ่...” ซอกจินทำหน้าตกใจ “พรหมลิขิตอึดเวียกบ่น้อสู...”
“พรหมลิขิตซำได๋ล่ะ...เผิ่นเอิ้นเจ้ากรรมนายเวรซัดๆ ข่อยล่ะสูนล้ายหลาย บ่ฮู้สิอยู่กับมันรอดได้ถึงสามวันอยู่บ่...”
“มันบ่เป็นหยังขนาดนั้นหรอกม้าง ก็คึดซะว่าอยู่ร่วมกับคนที่มึงบ่ฮู้จัก มึงก็บ่ได้ฮักมันแล้วก็คงบ่เป็นหยังดอก...”
แดฮยอนชะงักมือไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกมา
“อย่าปากเด๊ล่ะว่ามึงยังฮักอยู่...” ซอกจินมองอีกฝ่ายอย่างวิเคราะห์
“บ่แมนดอก...” แดฮยอนส่ายหัว “ข่อยบ่ได้ฮักมันแล่ว...”
ซอกจินขมวดคิ้ว “จังซั่นคือมึงต้องเฮ็ดหน้าเศร้านำ...” เคาะเคาท์เตอร์เป็นจังหวะ “หน้ามึงยามนี้บ่ได้บอกกูเลยว่ามึงบ่ฮู้สึกอิหยัง...”
“อิหยังของอ้ายเนี่ย...อ้ายซอกจิน คือมากดดันข่อยแท่”
“กูบ่ได้กดดัน กูแค่บ่มักคนที่ตั๋วได้กระทั่งหัวใจของตัวเอง” ซอกจินทำหน้าจริงจัง “กูบ่ฮู้ดอกว่ามันเกิดอิหยังระหว่างมึงกับเมียเก่ามึง แต่ว่า...ถ้ามึงยังฮักมันอยู่แล้วแกล้งทำเป็นบ่ได้ฮัก...”
“....”
“มึงคือสิดูถูกโอกาสของพรหมลิขิตเกินไปแล้วเด้อบักแดฮยอน”
“....”
“มึงคิดว่าโลกนี้สิมีไผได้ฮับโอกาสในเรื่องความฮักหลายๆเทือบ่” จินถอนหายใจ “การปัดหัวใจตัวเองถิ่มนั่นน่ะ...มีแต่พวกโง่เง่าเท่านั้นเด๊จึงสิเฮ็ด”
แดฮยอนถอนหายใจหนักๆ “ข่อยก็บ่ฮู้ว่ะอ้าย...”
“อิหยังล่ะเทือนี่”
“บ่ฮู้ว่ายังฮักอยู่บ่...แต่ว่าแค่ได้พ่อหน้ามันแล้ว ข่อยก็คึดถึงแต่เฮื่องเก่าๆระหว่างข่อยกับมัน ถึงสิฮู้ว่ากลับไปเป็นจังเก่าบ่ได้แล้ว แต่ข่อยก็ยัง...เฮ้อ บ่ฮู้ว่ะอ้าย ข่อยบ่ฮู้ว่าสิเว่าอิหยังต่อ”
“มึงปึกขนาดเด๊ล่ะบักอันนี่..” ซอกจินส่ายหัว “แค่มึงมีความคิดว่าอยากสิกลับไปเป็นอย่างเดิมกับมันแค่วิเดียว มันก็แปลว่ามึงยังฮักมันอยู่แล่ว บักมืด..”
แดฮยอนชะงักมือที่กำลังทำงานทันที เหมือนโดนหมัดฮุคเสยเข้าที่คางอย่างจัง
“อ้ายบอกมึงแล้วเด้อ มึงตั๋วหัวใจตัวเองบ่ได้ดอก”
“แอ๊ด.....”
แดฮยอนไขประตูห้องตัวเองพลางถอนหายใจ
“เออ ก็ยังดีที่มันไม่ล็อกห้อง..” เปิดไฟห้องให้สว่างขึ้นมองนาฬิกาที่แขวนผนังอยู่ก็เห็นว่าเป็นเวลาตีสองกว่าแล้ว
รูมเมทคนใหม่ของเขาก็หลับสนิทอยู่บนเตียงแล้วด้วย
“เห่ยที่สุด...” แดฮยอนส่ายหัว มองผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หมอนข้าง ผ้านวม ทุกอย่างเป็นลายมิกกี้เม้าส์หมดเลย ยังไม่รวมสารพัดตุ๊กตามิกกี้ที่ถล่มรอบเตียงนั่นด้วย
“เห็นแล้วขนลุก” สะบัดน้ำเสียงใส่คนที่นอนตะแคงข้างหลับไม่รู้เรื่อง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนชุดนอน
“ใครจะไปทนนอนที่เตียงชั้นสองได้วะ นอนพื้นไปก่อนละกันคืนนี้ พรุ่งนี้ค่อยคิดเรื่องทำความสะอาด” บ่นกับตัวเองสักพักก็เบิกตากว้าง “ชิบหายแล้ว เริ่มรับน้องพรุ่งนี้นี่หว่า!!”
ลืมสนิทไปเลยนะเนี่ยว่าปีสามอย่างเขาต้องไปช่วยดูแลเรื่องรับน้องด้วย มัวแต่เร่งทำงานทุกวัน แถมงานนี้ยังโดดไม่ได้อีกต่างหาก
“พวกรุ่นพี่เอากูตายแหง ถ้าไม่ไปว้ากน้องให้” ขยี้ผมตัวเองแรงๆแล้วกวาดเอาหมอนและผ้าห่มของตัวเองมากองที่พื้นห้อง
เหลือบสายตามองคนที่นอนตะแคงหันมาทางฝั่งเขาแล้วก็อดไปนั่งยองๆมองหน้าอีกฝ่ายใกล้ๆไม่ได้
แพขนตายาว จมูกกลมๆที่เจ้าตัวมักบ่นว่าไม่ชอบ แก้มย้วยๆที่เขาเคยดึงแกล้งอยู่บ่อยๆ ริมฝีปากที่เคยพร่ำบ่นเขาทุกวัน
ทำไมเขาไม่เคยลืมรายละเอียดพวกนี้ได้เลย
มันก็น่าประหลาดใจอยู่เหมือนกัน
“เลิกกันไปจะสามปีแล้วนี่เนอะ มึงกับกูเนี่ย” แดฮยอนมองใบหน้ายามหลับของอีกฝ่ายแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
ก่อนที่จะต้องเป็นฝ่ายตะลึงอีกครั้งเมื่อยองแจขยับตัวผลักผ้าห่มลงจนเขาได้เห็นตุ๊กตาที่อีกฝ่ายนอนกอดอยู่
มิกกี้เม้าส์ตัวที่คู่กันกับมินนี่เม้าส์ที่เขาจับยัดใส่ตู้เสื้อผ้าไปเมื่อตอนเย็น
“ยังเก็บไว้เหมือนกันหรอกหรอเนี่ย...” เสียงทุ้มหัวเราะกับตัวเองเบาๆ
ก่อนที่แก้วป่องๆอันแสนเย้ายวนนั้นจะล่อลวงให้เขาต้องยื่นหน้าไปกดจมูกลงเบาๆ
“กูเปล่าพิศวาสมึงนะ ไอ้หมูตอน...”
บ่นพึมพำกับตัวเองพลางขยับกลับไปนอนบนพื้น
“ก็แค่อยากรู้...ว่าแก้มมึงยังหอมเหมือนเดิมมั้ยก็เท่านั้นเอง”
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
มีใครปากแข็งไปกว่านี้อีกมั้น มีใครให้มากกว่านี้รึเปล่า ฮ่าๆ
อย่าลืมกดโหวตและคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
แท็ก #ลอกบอก บนทวิตเตอร์ค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ถ้าถึงขนาดคนรอบข้างแกยังรู้สึกได้ มันไม่ธรรมดาแล้วละ อย่าปฎิเสธตัวเองเลยดอน
ขอปรบมือให้ยัยหนูยองแจ ไม่มีคำด่าดอนคำไหนที่ตรงเท่ากับที่ยัยหนูด่า
ว่าแต่เค้าได้เสียกันแล้วจริงๆเหรอคะ แต่ยัยหนูไม่ปฏิเสธแสดงว่าจริง วร๊ายยยยเขิน
สงสัยอีกอย่างนึง ตอนที่ดอนบอกจะเอาปากปิดปากนี่คือ คุณป้าไม่ตกใจอะไรเลย ถ้าเป็นเรา เราจะฟินนะ คุณป้าดูเฉย สตรองมากค่ะ
อมยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มเศร้าอ่ะ ไม่เข้าใจตัวเอง T_T
อารมณ์ว่าแบบเห้ย
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคิดถึงกันอยู่ ก็ยังเก็บของกันไว้อยู่ ก็ยังจำเรื่องของอีกคนได้
ไม่รู้จะพูดไงดี
ปล.ละแกไปลักแก้มเค้าทำไม วันหลังลองที่ปากดู #เดี๋ยวๆ
ก็แปลว่ายังรักอยุ่นั่นแหละ แอบหอมแก้มน้องแจอิ๊กอร๊ายๆๆ
เด๋วโดนเตะไข่อีกหรอก แถมยังไปว่า
ุุ555