คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Heart Melting 02
Merry Christmas Jark
ผมลุกขึ้นจากที่นอนในยามเช้าที่มีเสียงนกร้องลอดผ่านช่องหน้าต่างห้องนอนของผมเข้ามา ผมตื่นเช้าอย่างนี้เป็นประจำโดยไม่ต้องพึ่งนาฬิกาปลุกเหมือนสมัยตอนเป็นนักเรียนมัธยม พูดถึงเด็กมัธยมแจ็คสันจะมาหาผมวันนี้ไหมนะ เขาต้องมาสิเอาเสื้อกับค่ามาม่ามาคืน ผมเดินบิดขี้เกียจแล้วเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว
หลังจากที่ผมนั่งกินอาหารเช้าที่มีเพียงขนมปังปิ้ง ไข่ดาวและช็อคโกแลตร้อน ผมก็เดินมาเปิดประตูร้านและพลิกป้าย
“OPEN”
ผมจะเปิดร้านในเวลาที่ผมต้องการแต่ถึงอย่างนั้นผมก็มีความเป็นวินัยในอาชีพของตัวเอง เด็กนักเรียนบางคนก็กำลังเดินไปโรงเรียนทั้งๆที่ยังเช้าอยู่แท้ๆไม่รู้จะรีบไปทำอะไรแต่เช้าแต่ส่วนมากคงไปสายกันแน่เลยผมว่านะ ผมเดินเข้าร้านและเช็คและทำความสะอาดพวกหนังสือและของในร้านของผมอย่างทุกเช้า เมื่อเรียบร้อยผมก็เดินกับไปที่โต๊ะภายในร้าน ผมเปิดโน็ตบุ๊คเพื่อนั่งทำงานที่ยังคงไม่เสร็จต่อ ถึงผมจะเปิดร้านหนังสือแต่ผมก็รับงานออกแบบด้วยครับ ผมไปนั่งทำไปเรื่อยๆก็ได้ยินเสียงคุ้นหูของคนที่พึ่งรู้จักกันเมื่อวาน
“มาร์ค!!” ผมเดินไปประตูแล้วเดินออกไปก็เห็นเด็กนั่นยืนหันหลังคุยกับคนในรถยนต์อยู่
“ม๊า นี่ไงมาร์คที่ผมเล่าให้ฟัง น่ารักปะ ?” แจ็คสันเอนตัวออกเพื่อให้คนในรถเห็นตัวผม ผมยกมือไหว้คนที่แจ็คสันเรียกว่า ม๊า เธอยิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“หวัดดีครับ ผมมาร์คครับ”
“จ่ะ น่ารักอย่างที่แจ็คสันบอกเลย” ผมหัวเราะแล้วยกมือขึ้นมาลูบท้ายทอยแก้เขิล
“ม๊าไปได้ละ เดี๋ยวเย็นนี้กากากลับเองนะ”
“รีบๆกลับละ อย่าให้โทรตาม”
“คร้าบบ ม๊า ไปละ” แจ็คสันโบกมือลาคนเป็นแม่และรถก็เคลื่อนตัวออกไป ผมได้แต่ยืนทำหน้างงหน้าร้าน นี่แจ็คสันเล่าอะไรให้แม่ตัวเองฟังบ้างเนี่ยให้ตายสิเด็กคนนี้
“ยืนทำอะไรละครับ เข้าร้านได้แล้ว” ผมหันหน้าไปหาคนที่กำลังเดินเข้าร้านนำหน้าผม
“อะ เอ่อ”
“อะไรของนายเนี่ยแจ็คสัน ทำไมไม่ให้แม่นายไปส่งโรงเรียนเดี๋ยวไปสายขึ้นมาทำไง”
“ก็ปีนรั้วเข้าดิมาร์ค”
“จะบ้ารึไง”
“มาร์คไม่เคยทำเหรอ”
“เออน่า แล้วทำไมไม่ให้แม่นายไปส่งโรงเรียนอะ ?”
“ปกติผมก็เดินมาทุกวันนะ แต่วันนี้แม่ไปทำธุระแต่เช้าเลยติดรถมาลงร้านมาร์คเลย” แจ็คสันเงยหน้าจากการเลือกขนมในร้านและยิ้มเหมือนตัวเองชนะได้ที่ 1 อะไรอย่างนั้น
“แล้วมาทำไม”
“มาร์คไม่คิดถึงผมเหรอ” แจ็คสันมองหน้าผมด้วยสายตาอ้อนๆ
“คิดถึงบ้าอะไร เอาค่ามาม่ามาเลยนะ!” ผมพูดเสียงดังแล้วยื่นมือเพื่อไปรับเงินคนตรงหน้าก็ถูกแจ็คสันจับมือผมไว้
“เอาอย่างอื่นแทนเงินค่ามาม่าได้ปะ ?”
“อะไร” ผมพูดเสียงแข็ง
“หัวใจเราไง” ผมสลัดมือทิ้งแล้วเดินหนีคนบ้าที่ยืนกำลังตบมือหัวเราะกับการได้แกล้งผม ไอ้เด็กคนนี้ หลังจากที่ผมเดินหนีไปนั่งที่โต๊ะทำงานหน้าผมก็ร้อนขึ้นมาเลยเหอะเมื่อคิดถึงมัน ผมนั่งทำงานต่อได้ไม่เกิน 10 นาที
“ทำไรอะมาร์ค”
“ทำงาน”
“งานอะไร”
“ก็งานไงจะถามทำไม อย่ากวนได้ปะ” ผมหันหน้าไปหาคนที่อยู่ด้านหลังจมูกผมก็สัมผัสเข้ากับแก้มของแจ็คสัน ตอนนี้ผมต้องหน้าแดงมากๆแน่เลย ผมผลักแจ็คสันออกห่างแล้วหันหน้ากลับเข้าจอคอมถึงอย่างนั้นผมก็ลืมแล้วว่างานที่ทำต้องทำต่อตรงส่วนไหน
“แล้วนี่จะไปโรงเรียนตอนไหนจะสายแล้วนะ” ผมหันหน้าไปถามคนที่ยืนทำหน้าล้อผมอยู่ด้านหลัง
“อือ”
“อือ อะไรของนาย”
“ก็เดี๋ยวไปไง ทำไมชอบไล่เราจัง”
“ฉันไล่ตอนไหน”
“ก็ไล่อยู่นี่ไล่”
“ก็เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสายไง” ผมขมวดคิ้วเข้าหากันไม่เข้าใจว่าอยู่ๆมาหาเรื่องกันทำไมแต่ผมคงต้องยอมเด็กมันสินะ
“งั้นผมไปแล้ว” พูดเสร็จบุปปับก็เดินหยิบกระเป๋าเปิดประตูออกจากร้านไป อะไรของเขาเนี่ยตอนแรกก็กวนเราแต่อยู่ๆก็มาหงุดหงิดใส่เราสะงั้น ผมไม่เห็นจะเข้าใจเลย ชั่งเหอะผมไม่เห็นต้องมานั่งคิดใส่ใจอะไรเลย
ผมนั่งทำงานต่อจนเวลาเลยเที่ยง ผมบิดขี้เกียจแล้วลุกออกจากโต๊ะทำงานแล้วหยิบกระเป๋าเงินและโทรศัพท์ออกไปกินข้าวเที่ยงร้านแถวนี้ ผมล็อคประตูแล้วเดินไปกินข้าวร้านประจำที่อยู่ห่างจากร้านผมไม่มากนัก แดดกลางวันไม่แรงมากเพราะยังตอนนี้เป็นฤดูหนาว ผมสั่งข้าวอย่างที่สั่งประจำแล้วนั่งตรงโต๊ะที่ยังว่าง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาก็มีการแจ้งเตือนจาก instagram
“wangmandu started following you”
หืม.....แจ็คสันงั้นเหรอไปเอา ig ผมมาจากไหนกันนะผมกดฟอลเด็กนั้นกลับแล้วไลค์รูปล่าสุดที่พึ่งอัพไปเมื่อ 5 นาทีที่แล้วแคปชั่น “รอง้อนะ” ผมใจกระตุกเมื่อคิดว่าเป็นผมรึเปล่านะแต่หมอนั้นจะงอลอะไรผมละ เรื่องเมื่อเช้าน่ะเหรอไม่เห็นมีอะไรให้งอลเลยสักนิดคงไม่ใช่หรอก ผมนั่งเลื่อนดูรูปเก่าในไอจีของแจ็คสันบางอันก็ไลค์บ้างไม่ได้ไลค์ทั้งหมด สงสัยเด็กนั้นคงกำลังกินข้าวเที่ยงถึงมีเวลามาเล่นโทรศัพท์ ผมเลื่องดูรูปไปสักพักอาหารจานเดี่ยวก็มาเสิรฟ์ที่โต๊ะ ผมปิดล็อคหน้าจอแล้ววางมันแล้วกินข้าว
หลังจากที่ผมกินเสร็จผมก็เดินกลับร้านของตัวเอง เสียงเพลงโปรดที่ผมตั้งค่าเป็นเสียงเรียกเข้าดังขึ้น ผมหยิบจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูว่าใครโทรมาก็ต้องยิ้มให้กับคนที่โทรมา
“ว่าไงเรา”
“พี่มาร์คคคค” เสียงอ้อนมาเต็มเลยครับ
“อะไร หืม จะขออะไรพี่อีกละคราวนี้”
“พี่มาร์คเห็นแบมเป็นคนยังไงเนี่ย” น้องชายผมเองครับกำลังส่งเสียงแวดๆในสายเมื่อโดนผมแกล้ง
“ก็ปกติถ้าไม่ขออะไรก็ไม่โทรมานิ”
“แบมคิดถึงพี่มาร์คไม่ได้รึไง”
“เออ คิดถึงเหมือนกัน”
“อย่างนี้สิ แบมค่อยชื่นใจ ...” ปลายสายหัวเราะแล้วเงียบไปแล้วมีเสียงถอนหายใจดังเข้ามาแทน
“พี่มาร์ค คือ อีกสองวันแบมขอไปอยู่ด้วยได้ปะ”
“ทำไมอะ เป็นอะไร”
“ไม่มีไรอะพี่มาร์คแค่คิดถึง”
“แน่นะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรใช่ไหม”
“ไม่มีคร้าบ งั้นอีก 2 วันเจอกันนะพี่มาร์ค”
“โอเค เจอกันเดี๋ยวฉันเก็บห้องรอ ฮ่าๆ”
..”ครับผม รักพี่มาร์คนะ จุ๊บๆ” ผมหัวเราะแล้วกดวางสาย อีก 2 วันสินะ ผมจะไม่เหงาแล้ว แบมหรือแบมแบมไม่ใช่น้องชายผมแท้ๆหรอกครับเป็นรุ่นน้องที่คณะตอนนี้คงอยู่ปี 3 ถ้าจำไม่ผิด
น้องเป็นเด็กน่ารัก ตลกมากๆครับอยู่ด้วยแล้วผมไม่เหงาเลยทำให้เราสนิทกันแล้วผมก็เอ็นดูน้องมากๆแต่มาขอผมอยู่ด้วยนี่เกิดอะไรขึ้นรึเปล่านะ ผมชักเป็นห่วง
ผมเดินมาถึงร้านแล้วไขประตูเปิดเข้าไปในร้านกับไปนั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม จะว่าไปตั้งแต่เช้าลูกค้าผมยังไม่เข้าเลยปกติก็มีเป็นหย่อมๆส่วนมากจะมาหลังเด็กนักเรียนเลิกบางคนเข้ามาก็ชอบเข้ามาเหมือนจีบผมทั้งๆที่ผมเป็นผู้ชาย ผมเลยไม่ตกใจมากหรืออะไรกับแจ็คสันที่ตอนนั้นบอกจะจีบผม แค่คิดผมก็รู้สึกเขิลขึ้นมาแล้วสิ นี่ผมกำลังมีความรักเป็นวัยแรกรุ่นหรือไงกัน ผมตลกกับความคิดของตัวเองก็มีเสียงกระดิ่งที่เป็นสัญญาณว่ามีคนเปิดประตูเข้ามา ผมเงยหน้าจากโต๊ะทำงานก็เห็นเป็นลูกค้าเขาเข้ามาซื้อหนังสือแล้วก็เดินออกไป
ผมเดินไปนั่งหน้าร้านแล้วหยิบพวกอุปกรณ์สำหรับวาดรูปออกมาเวลานี้เป็นเวลาที่เงียบสำหรับระแวกนี้พอสมควรเพราะนักเรียนยังไม่เลิกกัน ผมนั่งวาดรูปจนเริมรู้สึกตัวว่ามีเสียงผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาดังขึ้น ก็เห็นกลุ่มนักเรียน สงสัยคงเลิกเรียนกันแล้วผมก็นั่งทำจนเวลาผ่านไปพอสมควรเลยสิ ผมเก็บงานที่วาดเอาเข้าไปเก็บในบ้านก่อนจะออกมานั่งเฝ้าร้านเพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะเข้าร้านเวลานี้
“เสียงกระดิ่ง” ผมเงยหน้าจากจอคอมก็เห็นลูกค้าสวมชุดนักเรียนตัวสูงๆที่ผมมักจะเห็นเขามาซื้อหนังสือร้านผมเป็นครั้งคราว สงสัยแจ็คสันก็คงเลิกแล้ว ทำไมผมต้องคิดถึงเขาด้วยนะเข้ามามีอิทธิพลกับหัวใจผมตั้งแต่เมื่อไหร่กันเด็กคนนี้ ผมนั่งถอนหายใจเมื่อเวลานี้ในหัวของผมตีวุ่นกันไปหมด
..”พี่ครับหนังสือที่ผมสั่งไว้ มายังอะ” ผมทำหน้าตกใจ
“เห้ย! พี่ลืมติดต่อน้องไป หนังสือที่น้องสั่งมันจะได้อีก 2 วันอะ”
“อ่อ ครับ”
“พี่ขอโทษด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเอาเล่มนี้ไปอ่านรอ” เด็กนั่นยิ้มให้ผมแล้วยื่นหนังสือการ์ตูนให้ผมคิดเงิน
“ขอบใจนะ” ผมเอาหนังสือใส่ถุงแล้วยื่นให้เด็กตัวสูง
“ผมยูคยอมนะพี่ จะเป็นไรมั้ย ถ้าผมอยากรู้จักพี่”
“ได้ดิ เด็กโรงเรียนนายก็รู้จักพี่ทั้งนั้นแหละ ฮ่าๆ พี่จำหน้านายได้นะ”
“จริงเหรอครับแล้วพี่ชื่อไรอะ”
.”อ่อ ลืมบอก ฮ่าๆ พี่ชื่อมาร์ค”
“เคครับพี่มาร์ค ผมไปแล้วนะ” ยูคยอมเด็กตัวสูงเดินออกจากร้านแล้วโบกมือให้ผม ผมโบกมือลากลับก็เห็นแจ็คสันเดินหน้ามู่ทู่สวนกับยูคยอมเข้ามาในร้าน”
“เลิกแล้วรึไง”
“ยังอะ โดดมา” มาถึงนอกจากจะทำหน้าบูดใส่ผมยังกวนตีนผมอีกเด็กคนนี้
“โดดมาแล้วเจ็บไหม”
“เจ็บ...มาก!” เด็กนั้นกระแทกเสียงลงคำสุดท้าย เป็นอะไรของเขาเนี่ย
“ทำแผลให้หน่อยสิมาร์ค”
“ตลกละ แล้วนี่เป็นไรมาทำไมทำหน้าแบบนี้” ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆแจ็คสันที่กำลังนั่งกินขนมในร้านผม
.”พอดีมีบางคนทำให้อารมณ์เสีย”
“เพื่อนเหรอ” ผมถามต่อ
“ไม่อะ คนแถวนี้”
“คนแถวนี้นี่หมายถึงฉันปะ”
“อืม” เด็กนั้นตอบคำถามผมในลำคอ
“ฉันไปทำอะไรให้นาย”
“เปล่า” แจ็คสันเปิดกระเป๋านักเรียนออกมาแล้วยื่นเสื้อที่ยืมผมไปเมื่อวานให้ผม ผมรับไว้ก่อนมองแจ็คสันอย่างไม่เข้าใจ ผมไปทำอะไรให้เขาอารมณ์เสียกัน แจ็คสันหยิบโทรศัพท์ที่กำลังสั่งออกจากกระเป๋ากางเกงนักเรียนแล้วหันหน้ามาบอกผม
“ผมไปแล้วนะ”
“อะ อืม” แจ็คสันลุกออกจากร้านแล้วเปิดประตูออกไป อะไรของเขามาเหวี่ยงใส่ผมแล้วก็จากไป ทำไมผมรู้สึกวันนี้เหงากว่าเมื่อวานนะ
# Merry Christmas นะคะทุกคน
มีความสุขมากๆนะ คอมเม้นเป็นของขวัญวันคริสมาร์สให้เราหน่อยนะ ฮ่าๆ
ขอโทษที่หายไปนานนะ
ความคิดเห็น