คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : คู่หมั่นปรากฏ...แต่ผมไม่เชื่อ
"ผมว่าพี่อย่ามามัวเสียใจอยู่เลย เรามาช่วยกันส่งความห่วงใยไปให้พี่หวานกันดีกว่า"แชมป์เดินเข้ามาหาท๊อป ตามด้วยเคน และจรัส
แล้วทั้งหมดก็ร่วมส่งความห่วงใยไปให้หวาน ด้วยความหวังอันริบหรี่
สักพัก เสียงประตูห้องไอซียูก็ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี "ให้ฉันช่วยด้วยคนสิ"พิงค์เดินเข้ามาหาเคน และเข้าร่วมวงด้วย
เวลาผ่านไปอีก2ชั่วโมง หวานก็ไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นเลย ทุกคนเริ่มท้อใจ และเริ่มทยอยกันกลับบ้าน เหลือไว้แต่ท๊อป และเคน ซึ่งเคนก็ดูท่าจะไม่ไหวเหมือนกัน
"ฉันกลับก่อนนะเว่ย ง่วงมากเลยอะ เดี๋ยวขับรถกลับบ้านไม่ไหว"
"อืม จันทร์เจอกัน"
"อือ แกก็ควรพักผ่อนบ้างเหมือนกันนะ เดี๋ยวจะเป็นไรไปอีกคน"
"เออ รู้แล้วนะน่า"
"รู้แล้วก็ดี ฉันไปล่ะ บาย"
"บาย"
"ในห้องนี้มีเพียงแค่สองเรา แต่เหมือนกับมีแค่เงาและตัวฉัน
เพราะตัวเธอนั้นนอนแน่นิ่งงัน เมื่อไหร่กันเธอนั้นจะฟื้นขึ้นมา"
ทางด้านงานศพของพ่อน้ำหวานนั้น เต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย และความอาลัยอาวรณ์ แม่ของน้ำหวานนั้นแทบจะ
เป็นลม ดีที่ครีม กับซันคอยประคองไว้
"ทำไมพี่หวานยังไม่มาอีกนะ นี่งานก็เลิกไปตั้งหลายชั่วโมงและ...เฮ้อ จะมีไรเกิดขึ้นกับพี่หวานหรือเปล่า
เนี่ย"ครีมชักกังวล
"คงไม่มีไรหรอกครับพี่ อาจจะยังทำโครงงานอยู่กับเพื่อนก็ได้"ซันพยายามคิดในแง่ดี แล้วบอกพี่สาว
"แล้วทำไมพี่โทรไป แล้วพี่หวานถึงไม่รับล่ะ อย่างนี้มันน่าเป็นห่วงนะ"
"บางทีอาจจะยุ่งอยู่ก็ได้มั้งครับ พี่ครีมอย่าคิดมากเลย เดี๋ยวแก่นะ แบบเนี้ย"ซันทำหน้าเหมือนหญิงชรา แล้วยื่น
หน้าไปใกล้ๆครีม เพื่อให้ครีมมีอารมณ์ขัน แต่ดูเหมือนว่าครีม ไม่ค่อยอยากจะเล่นด้วยซักเท่าไหร่
"พี่ไม่มีอารมณ์มาเล่นด้วยหรอกนะ พี่สาวเราหายไปทั้งคนนะซัน"ครีมหันไปดุน้อง
ซันจ๋อยทันที ไม่กล้าเล่นต่อ
"ครีม ติดต่อพี่หวานได้ยังลูก"เพชรรัตน์หันมาถามครีม
ครีมส่ายหัว แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ครีมสังหรณ์ใจไม่ดีเลยค่ะ แม่"
"สังหรณ์ใจยังไงเหรอลูก"
"...ไม่มีไรหรอกแม่ ครีมอาจคิดมากไปก็ได้"ครีมทำท่าจะบอก แต่ก็เงียบไป
"ผมว่ากลับบ้านกันเถอะครับ บางทีพี่หวานอาจจะไปรออยู่ที่บ้านแล้วก็ได้"
"จริงด้วยสิ พี่หวานอาจจะไปรออยู่ที่บ้านก็ได้ แม่คะ เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ"
"จ้ะ"
เมื่อทั้งหมดกลับมาถึงบ้าน ก็เจอหวานยืนรออยู่หน้าบ้าน ทั้งหมดดีใจมาก รีบวิ่งเข้าไปหาทันที
"พี่หวานหายไปไหนมาทั้งวัน รู้มั้ยว่าครีมเป็นห่วงพี่แค่ไหน งานศพพ่อก็ไม่ยอมไป มือถือก็ไม่รับอีก"
"พี่ขอโทษนะ ที่ทำให้ครีมเป็นห่วง แต่ต่อไปนี้ ครีมคงไม่ต้องเป็นห่วงพี่อีกแล้วล่ะ"
"พี่หวานหมายความว่าไงคะ"
"เดี๋ยวก็รู้เองแหละ"
"แม่ว่าเข้าบ้านกันก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกัน"
"อยู่ข้างนอกนี่แหละแม่ เพราะเดี๋ยวหนูก็ต้องไปแล้ว"
"อ้าว จะไปไหนอีกล่ะลูก"
หวานยิ้มๆ แล้วก้มลงกราบเท้าเพชรรัตน์ "ลาก่อนนะคะ แม่ ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้หนูได้เกิดมาเป็นลูกแม่อีกครั้งนะคะ"
เพชรรัตน์ทั้งงง ทั้งอึ้ง รวมทั้งครีมกับซันด้วย
"ครีม ซัน มาให้พี่กอดหน่อยเร็ว"หวานลุกขึ้น แล้วเดินไปหาน้องชาย กับน้องสาว
หวานกอดน้องทั้งสองไว้ ด้วยความรัก ก่อนจะเลือนหายไป
"พี่หวาน พี่หวานหายไปอะ พี่หวาน"ครีมตะเกียกตะกายคว้าอากาศ ด้วยความงง
ครีมยืนอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก ซันกับแม่ก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน สุดท้าย ครีมจึงตัดสินใจโทรไปหาท๊อป
"ฮัลโหล พี่ท๊อป ตอนนี้พี่ท๊อปอยู่กับพี่หวานหรือเปล่าคะ"
ท๊อปอึ้งๆ ไม่รู้จะบอกยังไงดี
"เอ่อ จ้ะ พี่อยู่กับพี่หวาน"
"งั้นขอคุยกับพี่หวานได้ไหมคะ"
"อือ...ครีม...มาหาพี่ที่รพ....หน่อยได้ไหม"
"ได้ค่ะ ได้ ครีมจะรีบไปเดี๋ยวเนี้ย งั้นแค่นี้นะคะ"
"จ้ะ"
เมื่อครีมวางสายจากท๊อปแล้ว ครีมก็รีบบอกซันกับแม่ แล้วรีบไปรพ.ทันที
เมื่อมาถึงรพ. ครีมก็เจอท๊อปยืนอยู่หน้าโรงพยาบาล ด้วยสีหน้าเสราสลด
"พี่ท๊อป เป็นอะไรคะ หน้าตาไม่ดีเลย"
"หวัดดีครับ คุณน้า...พี่ไม่ได้เป็นไรหรอก แต่คนที่เป็นน่ะ"ท๊อปนิ่งเงียบไป แล้วชักหน้าหนี
ครีมรู้สึกว่าท๊อปมีพิรุธ จึงรีบคาดคั้น "ใครเป็นไรคะพี่ท๊อป บอกมาเดี๋ยวนี้นะคะ"
"ครีม ตามพี่มานี่มา"ว่าแล้ว ท๊อปก็เดินนำลิ่วไป
ครีม แม่ และซันรีบเดินตามท๊อปไปอย่างรวดเร็ว แล้วท๊อปก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องไอซียู
"เชิญครับคุณน้า"ท๊อปเปิดประตูห้องไอซียู แล้วบอกให้ครีมเดินเข้าไป
เมื่อทั้งหมดเดินเข้ามาช้างใน ก็ต้องตะลึงกับภาพที่เห็น ครีมรีบถลาไปกอดพี่สาวทันที
"พี่หวาน ทำไมพี่เป็นแบบนี้ ใครทำไรพี่อะ พี่หวาน พี่หวานตื่นขึ้นมาพูดกันซิ พี่หวาน"ครีมร้องไห้โฮ เมื่อนึกถึงตอนที่เจอหวานอยู่หน้าบ้าน
"หวานลูกแม่ หวานเป็นไรไปอะลูก ทำไมหวานนอนแน่นิ่งอย่างนี้ล่ะ หวาน หวานตื่นมาคุยกับแม่ซิลูก หวาน"แม่โผเข้าไปกอดลูกสาว น้ำตาไหลพราก
"พี่ท๊อป ครีมอยากบอกอะไรให้พี่รู้ไว้อย่างนึงอะ"ครีมเงยหน้าขึ้นมามองท๊อป ที่ตอนนี้ได้แต่ยืนนิ่ง ไม่ปริปากบอกอะไรเลย
"บอกไรเหรอครีม"
"ก่อนที่ครีมจะมาโรงพยาบาลน่ะ ครีมเจอพี่หวานยืนอยู่หน้าบ้านด้วยล่ะ พี่หวานเค้ามาบอกลาครีม กับแม่ แล้วก็ซันน่ะ"
"ครีมว่าไรนะ บอกลาเหรอ?"ท๊อปไม่เชื่อหูตัวเหรอ จึงถามให้แน่ใจอีกครั้ง
ครีมพยักหน้า แทนคำตอบ "แล้วนี่พี่หวานเป็นอะไรอ่ะ ทำไมถึงนอนแน่นิ่งเหมือนเจ้าหญิงนิทราอย่างเนี้ย"
ท๊อปเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟัง ซึ่งทุกคนก็พอจะเข้าใจ ว่าหวานจะมีชีวิตอยู่ได้ ถ้ามีเครื่องช่วยหายใจ แต่ถ้าเมื่อใด หมอถอดเครื่องช่วยหายใจออก เมื่อนั้น ชีพจรของหวาน ก็จะหยุดเต้นทันที
แม่ของหวานตัดสินใจจะหอบเสื้อผ้ามาเฝ้าหวานที่รพ. แต่ท๊อปรับอาสาที่จะเฝ้าเอง โดยจะผลัดเวรกับน้องชาย
"แต่เธอต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอ"
"ก็ถ้าวันไหนผมมีเรียนคาบเช้า ผมก็จะให้คุณน้าอยู่เฝ้าหวานแทนผมไปก่อน แต่ถ้าวันไหนผมมีเรียนคาบบ่าย ผมก็จะให้คุณน้ามาเฝ้าแทนผมในช่วงบ่ายไงครับ"
"อืม ก็ดี"
เมื่อตกลงกันเรียบร้อย แม่ของหวานก็ ครีม และซัน ก็พากันกลับบ้าน จึงเหลือท๊อปอยู่คนเดียว
ท๊อปคิดหนัก และกลุ้มใจ กับเรื่องที่ครีมเล่า เค้าพยายามคิดว่า วิญญาณของหวานอาจไปเที่ยวเฉยๆเดี่ยวก็กลับมาเข้าร่าง...บางทีมันอาจเป็นการคิดที่ออกจะบ้าๆบอๆ แต่มันก็ทำให้ท๊อป มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยทีเดียว
รุ่งขึ้น พยาบาลต้องเป็นคนปลุกท๊อปให้ตื่น เพราะเมื่อคืนท๊อปเฝ้าหวานทั้งคืน พึ่งจะมาหลับตอนตี2
"คุณคะ ตื่นได้แล้วค่ะ คุณคะ"
ท๊อปตื่นขึ้นมา ด้วยอาการสลึมลือ
"กรุณาออกไปรอข้างนอกด้วยนะคะ เดี่ยวดิฉันต้องเช็ดตัวให้คนไข้แล้วค่ะ"
"ครับๆ"ท๊อปจำใจต้องเดินออกไป เมื่อเดินออกไปนอกห้อง ก็เจอชายคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าห้องไอซียู ชายผู้นั้น ก็คือพีทนั่นเอง
"นายเป็นใครอะ รู้จักกับหวานเหรอ"พีทเดินเข้ามาหาท๊อป อย่างไม่พอใจ
"แล้วคุณอะ เป็นใคร มาด้อมๆมองๆอะไรแถวนี้"
"นี่ ชั้นถามนายก่อนนะ ยังมาย้อนอีก เดี๋ยวปั๊ด"พีทจะเสยหมัดไปที่คางของท๊อป แต่ก็ต้องระงับอารมณ์ไว้
"ตกลงนายเป็นใครกันแน่ จะบอกได้หรือยัง"
"ผมเป็นเพื่อนของหวาน แล้วคุณล่ะ"
พีทยิ้มอย่างผู้มีชัย "ชั้นเป็นแฟนของหวาน และอีกหน่อย เราก็จะแต่งงานกันด้วย"
ท๊อปผงะ กับคำว่าแฟน ทำไมหวานไม่เคยบอกกับเค้าเลยล่ะ แล้วทำไมต้องปกปิดกันด้วย "ผมไม่เชื่อ หวานน่ะ เค้าเป็นคนเปิดเผย มีอะไรเค้าก็บอกเพื่อนๆหมด แต่เรื่องเนี้ย เค้าไม่เคยบอกใครเลย คุณน่ะ กุเรื่องเองหรือเปล่า"
"นี่ เด็กน้อย ชั้นจะกุเรื่องเองทำไม เรื่องนี้ มันไม่ได้เป็นเรื่องที่ใครจะมาโกหกกันง่ายๆนะ และอีกอย่าง เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล การที่เค้าจะมีแฟน แล้วไม่บอกนายกับเพื่อนๆของนายน่ะ มันก็เป็นเรื่องธรรมดา"
"ผมไม่เชื่อ จนกว่าผมจะได้ยินจากปากของหวานเอง"
พีทยิ้มอย่างเยาะเย้ย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงกวนสุดๆ "เอ...ได้ข่าวว่า น้องหวานเนี่ย เค้าเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วอย่างงี้ จะถามจากใครดีล่ะ อืม วิญญาณมั้ย เดี๋ยวชั้นอัญเชิญมาให้ 55555"
ท๊อปกำหมัดแน่น ด้วยความโกรธแทนเพื่อน
"โห พูดแค่เนี้ย หน้าแดงก่ำเลย ถ้าทางจะไม่ใช่แค่เพื่อนแล้วมั้ง แต่ชั้นว่าหน้าอย่างแกอะ น้องหวานเค้าคงไม่เอาหรอก เพราะมันคนละพวกกัน น้องหวานเค้าเป็นผี ส่วนแกมันเป็นคน 55555"
"เออนี่ ฉันเก่งเรื่องสายสืบนะ แกมีไรให้ฉันสืบ ก็บอกได้นะ"
"ผมไม่มีไรให้คุณช่วยทั้งนั้นน่ะ"ท๊อปยังคงกำมือแน่นด้วยความโกรธ ที่ตอนนี้เพิ่มเป็นทวีคูณ
"อ้าว ไม่มีไรให้ช่วยเหรอ นึกว่าจะให้ช่วยไปสืบ ว่าน้องหวานพอเกิดใหม่ แล้วไปอยู่ที่ไหน55555"
ท๊อปเสยหมัดไปที่หน้าของพีทเต็มๆ "หยุดพูดหมาๆได้และ และก็กลับไปเลยนะ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ ไม่งั้น อย่าหาว่าฉันไม่เตือน"
"แกจำหมัดนี้ไว้ให้ดีนะ สักวัน แกจะเจ็บกว่าหมัดนี้100เท่า"พีทยิ้มเหี้ยม อย่างมีแผน
เมื่อพีทไปแล้ว ท๊อปก็ยืนพิงประตูห้องไอซียู อย่างกังวลใจ...สักพัก พยาบาลก็ออกมาจากห้อง ท๊อปจึงรีบเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขาก็ต้องผงะ เมื่อเจอผู้ชายคนหนึ่ง ยืนอยู่ข้างๆเตียงของหวาน ซึ่งไม่รู้ ว่าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ท๊อปรีบออกไปถามพยาบาล ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เข้ามาได้อย่างไร ซึ่งพยาบาลคนที่เช็ดตัวให้หวาน เธอก็งุนงง เพราะตอนที่เธออยู่ในห้อง ยังไม่เห็นมีใครเข้ามาเลย
ท๊อปงงสุดๆ เขายืนยันกับพยาบาลว่าเขาเห็นจริงๆ และพาพยาบาลเข้าไปดูข้างใน แต่ปรากฏว่าผู้ชายคนนั้น หายไปแล้ว
"อ้าว! เมื่อกี๊ยังอยู่อยู่เลย...จริงๆนะครับ คุณพยาบาล"
พยาบาลส่ายหัว และพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "ดิฉันไม่มีเวลามาเล่นตลกหรอกนะคะ ขอตัวล่ะค่ะ"เธอเดินออกไป ด้วยความหงุดหงิด ที่โดนเด็กอายุต่ำกว่าหลอกเอาได้
ท๊อปบีบหน้าผากตัวเอง หรือว่าเขาจะคิดไปเองนะ ไม่สิ ผู้ชายคนนั้นน่ะ มันไม่เหมือนกับความคิดเลยสักนิด มันเหมือนกับความจริงมากกว่า...เออ ช่างมันเหอะ บางที เราอาจจะตาฝาดไปก็ได้...ท๊อปสลัดหัว ด้วยความมึนงง แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ ที่อยู่ข้างๆเตียงคนไข้
ทางด้านพีท เขาขับรถไปที่ร้าน coffee shop ที่แม่ของหวานทำงานอยู่ เพื่อที่จะไปตอกไข่ใส่สีเรื่องที่ถูกต่อยมา ให้แม่ของหวานฟัง
"อ้าว! คุณพีท เป็นไงมาไงคะเนี่ย ถึงมาที่ร้านของป้าได้"เพชรรัตน์เดินยิ้มหน้าบานเข้ามาหา
"โห คุณป้า อย่าเรียกผมว่าคุณเลยครับ เพราะอีกหน่อย เราก็จะเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว"
"ไม่ได้หรอก ครอบครัวคุณน่ะ ช่วยเหลือป้าไว้ตั้งเยอะแยะ นี่ถ้าตอนนั้นไม่เกิดเหตุการณ์บ้าๆขึ้นน่ะ คุณลุง กับป้า คงไม่ต้องบังคับคุณพีท กับคุณพอล ให้แต่งงานกับลูกสาวป้าหรอก"
"บังคับที่ไหนกันล่ะครับ ผมน่ะ ทั้งเต็มใจ และยินดี ที่จะแต่งกับน้องหวานนะครับ"
"ได้ยินคุณพีทพูดอย่างนั้น ก็สบายใจหน่อย...เอ๊ะ หน้าคุณพีทไปโดนอะไรมาน่ะ เขียวเชียว"
พีทคลำที่หน้าเบาๆ ด้วยความเจ็บแค้น แล้วค่อยๆหันมายิ้มให้กับคุณป้า "คือไปฟัดกับหมามานิดหน่อยนะครับป้า ไม่มีไรหรอกครับ"
"ฟัดกับหมา? หมายถึงใครเหรอ"
"ผมไม่อยากบอกอะครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมไปใส่ร้ายเขา"
"บอกมาเถอะน่า นะ"
พีทแกล้งทำเป็นถอนหายใจ แล้วเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง "ก็วันนี้ผมไปเยี่ยมน้องหวานที่รพ.มา แต่ยังไม่ทันได้เยี่ยม ก็เจอไอ้เพื่อนน้องหวาน ที่ชื่อท๊อป มาขวางไว้ซะก่อน มันถามว่าผมอะเป็นใคร ผมก็เลยบอกมันว่า ผมน่ะ เป็นคู่หมั่นน้องหวาน รู้มั้ยครับคุณป้า ว่าหน้ามันตอนนั้นน่ะ จ๋อยไปเลย แต่มันก็ยังไม่ยอมให้ผมเข้าไปเยี่ยมน้องหวาน มันบอกว่าหน้าอย่างผมไว้ใจไม่ได้ แล้วมันก็ยังบอกอีก ถ้าจะคิดเข้าไปแอ้มน้องหวานขณะที่เขาไม่รู้สึกตัวน่ะ อย่าฝันไปเลย เพราะมันต้องได้แอ้มก่อน รู้มั้ยครับคุณป้า ว่าผมโกรธมากเลยนะครับ แต่ผมก็พยายามระงับอารมณ์ไว้ แต่พอมันพูดว่า...เฮ้อ อย่าให้ผมพุดต่อดีครับ มันกระดากปาก"
"เล่าต่อเถอะจ้ะ นะ ป้าขอร้อง"
"ก็ได้ครับ ถ้าคุณป้าต้องการ...มันบอกว่า น้องหวานนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราแบบเนี้ย ก็ดีเหมือนกัน มันจะได้จัดการเป็นเมียมันซะเลย ผู้ชายที่ไหนจะได้ไม่ต้องมายุ่งแฟนมันอีก เท่านั้นแหละครับคุณป้า ผมเลยอัดมันไปหมัดนึง มันก็เลยอัดผมกลับมา ก็เป็นอย่างที่คุณป้าเห็นนี่แหละครับ"
เพชรรัตน์มีท่าทีไม่ค่อยอยากเชื่อ ในสิ่งที่พีทเล่าซักเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าของพีท ก็ต้องทำใจให้เชื่อ "จริงเหรอจ๊ะ คุรพีท"
"ก็จริงน่ะซิครับ ป้า ผมจะไปดกหกป้าทำไม"
เพชรรัตน์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ไม่คิดเลยว่าท๊อปจะเป็นคนแบบนี้"
"คุณป้ารู้จักไอ้ท๊อปด้วยเหรอครับ"
"จ้ะ สนิทกันมากด้วย สนิทจนถือได้ว่าท๊อปเนี่ย เป็นลูกชายแม่อีกคนนึงเลยล่ะ"
"อย่างงี้ก็ยิ้งน่ากลัวนะครับ คุณป้า เพราะโอกาสที่มันจะลวนลามน้องหวานเนี่ย มีมาก ผมว่า คุณป้าควรจะกันทั้งสองคนออกจากกันจะดีกว่านะครับ"
เพชรรัตน์มีท่าทีหนักใจ เพราะลูกสาวของตน กับท๊อป ก็เป็นเพื่อนกันมานาน ท่าอยู่ๆตนไปบอกกับท๊อปว่า ให้เลิกคบกัน มันก็ดูจะใจร้ายเกินไป
"ผมรู้นะครับ ว่าคุณป้าสงสารมัน แต่ผมว่าคนแบบนี้ คุณป้าไม่ควรจะไปสงสารหรอกนะครับ คิดชั่วๆได้ แม้กระทั่งเพื่อนสนิทตัวเอง"
"เอาไว้ป้าค่อยคิดดูอีกทีก็แล้วกันนะ ขอบใจคุณพีทมากนะ ที่อุตห์ส่ามาบอกป้า ถ้ายังไงวันนี้คุณพีทก็กลับไปก่อนก็แล้วกันนะ ลูกค้ามาเต็มร้านแล้ว"
"ก็ได้ครับคุณป้า แต่อย่าลืมที่ผมเตือนคุณป้าไว้นะครับ สวัสดีครับ"
"จ้ะ หวัดดีจ้ะ"เมื่อพีทไปแล้ว เพชรรัตน์ก็มีสีหน้าหนักใจ อย่างเห็นได้ชัด เธอรีบสั่งให้เด็กเสริฟทุกคนไปพลิกป้ายหน้าร้าน ว่าปิดบริการ และให้ปิดร้านได้เลย เมื่อแขกกลับหมดแล้ว แล้วเธอจะให้ค่าแรงเพิ่มเป็น2เท่า
เมื่อแขกไปหมดแล้ว เธอก็รีบไปโรงพยาบาลทันที เมื่อไปถึงห้องไอซียู เธอก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอเห็น
ท๊อปกำลังจะห่มผ้าให้ลูกสาวตน แต่กลับเข้าใจผิด คิดว่าจะลวนลาม เธอจึงตะโกนลั่น
"ท๊อป! เธอจะทำไรน่ะ"
"คุณน้า! ไหนบอกจะมาเย็นๆไงครับ"
"ถ้าฉันมาเย็นๆ ฉันก็จะอดดูของเด็ดน่ะสิ"
"ของเด็ด? อะไรครับคุณน้า"
"ก็เมื่อกี๊เธอจะทำอะไรล่ะ"
"อ๋อ ผมก็แค่จะห่มผ้าให้หวานน่ะครับ ไม่มีไรหรอกครับ"
"โกหก เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเธอกำลังจะลวนลามลูกสาวฉัน อย่าปฏิเสธนะ ว่ามันไม่จริงน่ะ"
"จะให้ผมไม่ปฏิเสธ ในสิ่งที่มันไม่เป็นจริงน่ะ คงจะไม่ได้แล้วล่ะครับ ผมขอยืนยันเลยนะครับ ว่าเมื่อกี๊ผมแค่ห่มผ้าให้หวานเฉยๆ แต่ถ้าคุณน้ายังไม่เชื่อ ผมก็จะเรียกยาม ให้เขาเอาเทปบันทึกภาพ จากกล้องวรจรปิดห้องนี้ มาให้คุณน้าดู คุณน้าจะได้เชื่อผมซักที"ท๊อปทำท่าจะเดินออกจากห้อง แม่ของน้ำหวานรีบปราม
"เอาล่ะๆ เชื่อก็ได้ แล้วนี่วันนี้เธอไม่ไปเรียนเหรอ"
ท๊อปรู้สึกแปลกๆ ที่คุณแม่ของหวานพูดกับเขาแปลกไป
"วันนี้วันเสาร์นะครับ คุณน้า"
"เออ ใช่ น้าลืมไป เอ๊ะ หน้าเธอไปโดนไรมาน่ะ"แม่น้ำหวานแกล้งถาม ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว
ท๊อปคลำที่หน้า "อ๋อ พอดีหกล้มนิดหน่อยนะครับ ไม่เป็นไรมากหรอกครับ"
"หกล้มเหรอ น้าว่าไม่ใช่มั้ง"
ท๊อปได้แต่ยิ้มแหยๆ
"ไปโดนไรมา เล่าให้น้าฟังสิ มา มานั่งนี่มา"
"ก็บอกแล้วไงครับ ว่าหกล้ม ไม่มีไรหรอกครับ"
"เล่ามา"
ท๊อปจำใจต้องเล่าเรื่องทั้งหมด ซึ่งมันไม่ตรงกับที่พีทเล่าให้แม่น้ำหวานฟังเลย
"ที่เธอเล่ามา เป็นเรื่องจริงนะ"
ท๊อปพยักหน้า
แม่น้ำหวานครุ่นคิดหนัก ว่าใครโกหกใครกันแน่
ทางด้านซัน เขาได้นัดเพื่อนไปเที่ยวในวันนี้ ซึ่งความจริง เขาต้องการเคลียร์ปัญหากับอาร์มมากกว่า
"นี่ใครยังไม่มาบ้างอะ"ซันหันมาถามเชอร์รี่ กับซี
"ก็ไอ้อาร์ม แล้วก็ไอ้นุ่นน่ะ"ซีบอก พลางชะเง้อมองหาเพื่อน
"นั่นไง มาแล้ว มาพร้อมกันเลย"
ทั้งสองเดินตรงมาหาเพื่อนๆ
"มาช้าจังเลยยัยนุ่น"เชอร์รี่เข้าไปทักเพื่อน
"คือรถมันติดนิดนิดหน่อยน่ะ แต่มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มานะ"
"รถติด หรือว่ากำลังคิดอยู่นาน ว่าจะมาดีหรือไม่มาดี"ซันพูดลอยๆ นุ่นหันมาจ้องเขาอย่างไม่พอใจ
"ใจเย็นน่า นุ่น ไอ้ซันมันก็แค่พูดเล่นน่ะ"รี่บอกเพื่อน แล้วหันมาทำตาดุใส่ซัน
"ไปกันได้หรือยังเนี่ย เดี๋ยวก็ไปเอาตั๊วหนังไม่ทันหรอก"ซันพูดอย่างหงุดหงิด จนเพื่อนทุกคนงง ว่าเขาเป็นอะไร
เมื่อทั้งหมดอยู่ในโรงหนัง ซันก็แอบส่งกระดาษแผ่นเล็กๆ ซึ่งมีข้อความว่า "หลังหนังจบ เจอกันที่หน้าลานโบว์" ไปให้อาร์ม เพื่อนัดเคลียร์ปัญหา
หน้าลานโบว์
"มึงนัดกูมาทำไมวะ"อาร์มถาม อย่างไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นัก
"กูก็อยากมาเคลียร์กับมึงน่ะสิ นี่ ไอ้อาร์ม มึงเป็นอะไรของมึงวะ ตั้งแต่เมื่อวันเกิดนุ่นและ อยู่ๆมึงก็กลับไปก่อน โดยไม่บอกใคร เมื่อวานก็เหมือนกัน กูคุยด้วย มึงก็ไม่คุย แถมมึงยังหลบหน้านุ่นเขาอีก"
"กูก็เป็นของกูแบบเนี้ย ไม่ได้เป็นไรสักหน่อย"
"นี่ไอ้อาร์ม ถ้าขืนมึงยังตอบกวนตีนกูอยู่อีกนะ หมัดกูได้สัมผัสหน้ามึงแน่"
"ก็เอาดิ มึงอยากทำไรกูก็เชิญเลย ยังไงกูก็ไม่ใช่เพื่อนมึงอยู่แล้วนี่"
"ทำไมมึงพูดอย่างนี้วะ ไอ้อาร์ม"
"ก็หัดคิดทบทวนดูเองสิ ว่าตัวเองทำไรไว้ แล้วจะรู้ ว่าเพื่อนกันน่ะ เค้าทำกันแบบนี้เหรอ!"อาร์มตะคอก แล้วเดินจากไป ปล่อยให้ซันยืนคิดอยู่คนเดียวตรงนั้น
อาร์มเดินผ่านพวกสาวๆ ที่แอบยืนฟังเขากับซันคุยกัน เขามองผ่านเชอร์รี่ เลยไปถึงนุ่น พลัน เท้าเขาก็หยุดลง
"ชอโทษนะ ที่ฉันทำเฉยเมยกับแกอะ แต่แกไม่ต้องคิดมากนะ ฉันไม่โกรธไรแกหรอก แต่ถ้าแกอยากรู้ว่าทำไม แกก็ไปถามไอ้ซันมันเองแล้วกัน"ว่าแล้วเขาก็เดินต่อไป
"ฉันต่างหากที่ทำเฉยเมยกับแก ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ ไม่ใช่แก ไอ้อาร์ม"นุ่นคิดอยู่ในใจคนเดียว เธอไม่อยากเสียเพื่อนดีๆอย่างอาร์มไป แต่...เธอไม่กล้าสู้หน้าเขา
ระหว่างที่อาร์มกำลังจะข้ามถนน ไปยังที่จอดรถ จู่ๆก็มีมอเตอร์ไซคันหนึ่ง วิ่งตรงมาหยุดที่เขายืน แล้วยกปืนขึ้นยิง อาร์มตกใจมาก แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว กระสุนเฉียดหน้าอกเขาไปนิดเดียว เขาล้มลงกับพื้น เลือดท่วมตัว แล้ว
มอเตอร์ไซคันนั้นก็รับขับหนีไป
คนที่อยู่แถวนั้น พากันกรี๊ด ด้วยความตกใจ แล้วไม่นานก็เกิดกลุ่มไทมุงขึ้น ไม่มีใครคิดที่จะพาคนเจ็บไปรพ. ด้วยเหตุผลเดียวกันว่า "ถ้าเกิดเขาตายระหว่างที่เรากำลังจะพาไปรพ.น่ะ วิญญาณเขาก็จะผูกพันอยู่กับเรา พูดง่ายๆก็คือกลัวผีนั่นเอง" ซันกับรี่ ที่กำลังพากันเดินออกมานั้น ไม่ได้สนใจกับกลุ่มไทมุง ต่างพากันเดินตรงไปที่รถ แต่เมื่อซันได้ยินหญิงวัยกลางคนพูดกับลูกสาวตัวเองว่า "เฮ้อ ไม่น่าเลย ยังเด็กอยู่แท้ๆ นี่ดูถ้าน่าจะอยู่แค่ม.ต้นนะเนี่ย ทำไมต้องมาเกิดเรื่องร้ายๆกับตัวเองด้วยก็ไม่รู้"ซันก็รีบแหวกฝูงชนเข้าไปดูผู้บาดเจ็บ แล้วเขาก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก
"ไอ้อาร์ม!"เขาประคองร่างเพื่อนไว้ แล้วรีบอุ้มอาร์มฝ่าฝูงชนออกไป
"เชอร์รี่"ซันเรียกรี่ด้วยเสียงอันแผ่วเบา
รี่หันกลับมามองชายหนุ่มตรงหน้า แล้วก็ต้องตกใจอีกคน "นี่มันอาร์มนี่ ทำไมอาร์มเป็นอย่างเงี้ย"
"ฉันก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเรารีบพาอาร์มไปหาหมอเถอะ"ซันขับรถมาหานุ่นที่ชั้น2 เพราะเธอจอดคนละชั้นกับซัน ส่วนรี่เธอนั่งแท๊กซี่มา
"นุ่น เดี๋ยวขับรถตามเรามานะ"ซันเปิดกระจกบอก แล้วเขยิบรถไปข้างหน้านิดนึง เพื่อให้นุ่นถอยรถออก
นุ่นขับรถตามซันมาอย่างว่าง่าย ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไร
"เชอร์รี่ โทรบอกให้ไอ้ซีขับรถไปรอฉันหน้าห่างเดี๋ยวนี้เลย"
"ได้ๆๆ"เชอร์รี่จัดการทำตามที่สั่ง
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล หมอก็รีบพาอาร์มเข้าห้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน นุ่นที่พึ่งรู้เรื่อง เธอรีบโผเข้ากอดเพื่อนรัก พลางน้ำตาไหลพราก
"เกิดอะไรขึ้นกับอาร์มอะรี่ ทำไมอาร์มถึงเป็นแบบนี้"นุ่นถามเสียงสั่น ซึ่งรี่ก็ให้คำตอบไม่ได้เช่นกัน
"ฉันก็ไม่รู้ พอฉันออกมาจากห้างพร้อมไอ้ซัน ไอ้อาร์มมันก็กลายเป็นอย่างงี้เป็นแล้ว"
ในขณะที่นุ่นกำลังเสียใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของตัวเองอยู่นั้น ซันก็เดินไปเดินมา จนซีมึนหัว
"หยุดเดินซักทีได้ไหมวะไอ้ซัน นุ่นด้วย หยุดร้องไห้ได้แล้ว เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเสียใจ หรือมากระวนกระวายใจกันนะ ในระหว่างที่อาร์มมันอยู่ในห้องผ่าตัดเนี่ย เรามาช่วยกันคิดไม่ดีกว่าเหรอ ว่าทำไมไอ้อาร์มมันถึงเป็นอย่างนี้ มันถูกรถชน หรือถูกยิง"
ซันหยุดเดินทันที หันกลับมามองซีอย่างเห็นด้วย "ถ้าเป็นฉันนะ ฉันว่าไอ้อาร์มมันถูกยิงมากกว่า มันสลบอยู่ข้างถนน ไม่มีทางที่รถจะพุ่งเข้าริมถนนหรอก"
"ฉันว่าเพื่อความปลอดภัยของไอ้อาร์มนะ เราไปแจ้งตำรวจกันดีกว่า"ซีเสนอความคิด
"นี่ไอ้ซี แกอย่าลืมนะว่าไอ้อาร์มมันเป็นลูกเจ้าพ่อมาเฟียร์ ถ้าขืนแจ้งตำรวจ มันก็จะกลายเป็นข่าวดังใหญ่โต และถ้ามันรู้ถึงหูพ่อเค้าที่ฝรั่งเศสล่ะก็"รี่ทำท่าโดนปาดคอให้ซีด้วย
"โธ่เอ๊ย! เรื่องแค่นี้ก็ต้องทำเป็นกลัว เราก็แค่บอกตำรวจ แต่ปิดนักข่าวเท่านั้นเอง มันก็ไม่มีอะไรแล้ว ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีพวกสอดแนมเท่านั้นแหละ"
"คิดง่ายนี่เนอะ"ซันไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดซีสักเท่าไหร่ แต่ก็ช่างมันเหอะ เอาไงเอากัน
ทั้งหมดพากันมาแจ้งตำรวจ ซึ่งสารวัต ภนพนันท์ เป็นคนรับเรื่องนี้
ทางด้านคนร้ายที่ลอบยิงอาร์มนั้น มีอยู่ด้วยกัน2คน คือ ไอ้กาจ และสิงค์ กาจและสิงค์เป็นลูกน้องเสี่ยไตรภูมิ
ซึ่งเป็นคู่แค้นทางธุรกิจกับมาเฟียร์ อาร์ท มาเคิล หรือ ไชยทรัพย์ วราสารวงวาน ซึ่งทำธุรกิจส่งรองเท้าออกนอก แต่ไม่ได้ส่งธรรมดา ได้ยัดยาอี และยาบ้าลงไปในรองเท้าด้วย แต่ดูเหมือนว่ารองเท้าของเสี่ยไตรภูมิจะด้อยราคากว่าคู่แข่ง เพราะยาไม่ค่อยครบตามจำนวนที่เคยบอกไป
ถึงอาร์ทจะมีรายได้ดี แต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนรับเงินเอง ต้องผ่านมือของ "เพชร"ลูกน้องคนสนิทก่อน เพราะอาร์ทมอบโรงงานให้เพชรดูแล ส่วนตัวเขาเอง ต้องไปทำธุรกิจอยู่ที่ฝรั่งเศส ครอบครัวของอาร์ม จึงดูไม่ค่อยอบอุ่น เพราะเขาต้องอยู่กับนม "สาย" ป้าที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กๆ กับ ลุง "ทัย" คนขับรถ ที่พ่อเขาจ้างให้มาขับรถให้อาร์ม ส่วนแม่ของเขาก็แยกทางกับพ่อ ตั้งแต่อาร์มอายุ7ขวบ เพราะอึดอัด ที่ต้องถูกตำรวจจับตามมอง และทนไม่ได้ ที่จะต้องเป็นศัตรูกับคนนู้นคนนี้ จนกระทั่งวันหนึ่ง เสี่ยที่ชัยภูมิ ได้เข้ามาเจรจากับเพชรที่โรงงานของอาร์ท โดยบอกให้ส่งของคืนนี้ กาจที่ถูกส่งมาสอดแนมได้ยินเข้า จึงไปบอกกับเจ้านายของตน เจ้านายของตนแค้นมาก เพราะเสี่ยคนนี้เคยเป็นลูกค้าที่ซื้อของตนประจำ และเป็นลูกค้า ที่กำลังจะร่วมหุ้นเปิดธุรกิจบังหน้าด้วยกันเร็วๆนี้ด้วย เสี่ยไตรภูมิจึงตรงไปที่โรงงานของอาร์ท และสั่งห้าม ไม่ให้ส่งของคืนนี้ ไม่อย่างนั้น มาเฟียร์อาร์ทตาย เพชรทำไรไม่ถูก เลยโทรไปหาเจ้านายของตน แต่อาร์ทไม่กลัว เขาบอกว่า เป็นแค่คำขู่ ให้ส่งของได้เลย เมื่อเพชรไม่ตามที่เสี่ยไตรภูมิบอก เสี่ยไตรเลยแค้นจัด ส่งลูกน้องไปจัดการกับลูกชายมาเฟียร์อาร์ท หวังที่จะให้กระสุนทะลุอก แต่อาร์มโชคดี ที่กระสุนเฉียดหน้าอก เลยไม่เป็นไรมาก
กาจน์กับสิงมารีบมารายงานให้เจ้านายตนทราบ
"กระสุนเฉียดหน้าอกมันครับเสี่ย ถ้าทางจะไม่เป็นไรมาก"กาจน์บอก
"นี่พวกมึงทำงานกันอย่างไงเนี่ย ฉันบอกว่าให้ทะลุอกๆ ทำไมถึงเฉียดไปได้ หะ"
ทั้งสองก้มหน้า ยอมรับผิด
"ไปเลย จะไปไหนก็ไปเลย ไป"
ทั้งสองรีบวิ่งไปทันที เสี่ยไตรภูมิยิ่งนึกก็ยิ่งแค้น "มึงจะตามจองล้างจองผลาญกูไปถึงไหนกันวะ ไอ้อาร์ท"
เมื่อหลายปีก่อน
"เฮ้ย! ไอ้อาร์ท ฉันมีไรมาอวดโว่ย"ไตรบอกอย่างอารมดี
"อะไรวะ"
"เดี่ยวแปปนะ"ไตรเดินหายไปสักพัก ก็กลับมา พร้อมสาวสวย
"โห โคตรสวยเลยว่ะ ใครวะเนี่ย"
"แฟนกูเองแหละ ไง อึ้งเลยอะดิ"
"มึงหาเก่งนี่หว่า ว่างๆหาให้กูบ้างนะ"
"ได้ไงเพื่อน ของอย่างเงี้ยต้องหาเอง"
"เออ แล้วกูจะหาให้ได้สวยกว่ามึง คอยดู"
"เออ จะคอย"ไตรหัวเราะ แล้วดูนาฬิกา
"เฮ้ย! นี่มันจะสี่ทุ่มแล้วนี่หว่า ไอ้อาร์ท กูกลับก่อนนะโว่ย"
"จะรีบไปไหนอะ"
"ไปส่งแฟนกูอะดิ ไปแล้วนะ บาย"
วันต่อมา ที่มหาวิทยาลัย
"ทำไมมานั่งคนเดียวล่ะครับ ไอ้ไตรไปไหน"อาร์ทเดินมาหาแฟนของไตร ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียว
"พี่ไตรไปซื้อน้ำค่ะ เดี๋ยวมา"
อาร์ทยิ้มๆ แล้วมองหน้าเธอ ด้วยความหลงใหล จนแฟนของไตรหน้าแดงก่ำ
"น้ำมาแล้วคร๊าบ"เสียงไตรดังขึ้น ทำให้อาร์ทสะดุ้ง
"อ้าวไอ้อาร์ท ไหงมานั่งอยู่นี่ได้อะ"
"ก็เห็นแฟนมึงนั่งอยู่คนเดียว กลัวจะเหงา เลยมานั่งเป็นเพื่อน"
"แค่นั้นจริงนะ"
"เออ กูไม่แอ้มแฟนมึงหรอก"
"งั้นก็ดีและ"
"กูไปดีกว่า ไม่อยากเป็นabc"
ที่บ้านของไตร
"เดี๋ยวนั่งติวข้อสอบกันไปก่อนนะ กูขอไปเอาหนังสือข้างบนห้องก่อน"ไตรบอก แล้วเดินไป
อาร์ทดีใจมาก ที่ไตรไม่อยู่ มือของเขาค่อยไปแตะมือของแฟนเพื่อน "มือคุณเย็นจังนะครับ"
แฟนของไตรหน้าแดง ด้วยความเขิน
"ถ้าเย็นนี้ผมจะชวนไปทานข้าว คุณจะไปได้ไหมครับ"
แฟนของไตรชักมือกลับ "ได้ค่ะ เพราะเย็นนี้ไม่มีธุระที่ไหน"
"ผมดีใจจังเลยครับ ที่คุณยอมไปทานข้าวกับผม"
แฟนชองไตรยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
"มาแล้วคร๊าบ"ไตรรีบวิ่งมาหา ทั้งสองเลยตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ ทำเหมือนว่าไม่มีไรเกิดขึ้น
"ขยันจังนะครับ คุณเนี่ย"
"นี่ไอ้ไตร ชมแต่แฟน แล้วกูนะ"
"กูไม่ชมมึงหรอก หน้าอย่างมึงน่ะเหรอ จะอ่านหนังสือจริง มีอะไรแอบไว้หนังสือหรือเปล่า"
"ไม่มี จะบ้าเหรอ"
แล้วทำไมต้องยกหนังสือปิดหน้าด้วย โต๊ะมีให้วางก็ไม่วาง"
อาร์ทก็พี่งรู้ว่าหนังสือเกือบจะชนหน้าของเขาอยู่แล้ว เขารีบวางหนังสือไว้บนโต๊ะ แล้วยิ้มแหยๆให้เพื่อน
คืนนั้น แฟนของไตรปฏิเสธที่จะไปกินข้าวกับไตร เธอโกหกว่า แม่ไม่สบายมาก ต้องรีบกลับไปดูแล
"งั้นวันนั้นถ้าพี่ว่างๆ พี่จะไปเยี่ยมแม่น้องกวางนะจ๊ะ"ไตรบอกกับกวาง หรือแฟนของเขานั่นเอง
"ค่ะ กวางไปก่อนนะคะ"
"จ้ะ"
"กูก็ขอตัวกลับด้วยนะเว่ย เผอิญว่าวันนี้พ่อไม่ให้กลับเกินหกโมง"
"เออๆ งั้นพรุ่งนี้เจอกัน บาย"
"บาย"
เมื่อพ้นบ้านของไตรแล้ว ทั้งสองก็ไปกินข้าวกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
"อร่อยไหมครับ"
"อร่อยค่ะ"
"เดี๋ยวกินเสร็จ ผมจะพาคุณไปสนุกด้วยกันต่อ"
"ไปผับเหรอคะ"
"ไม่ใช่ครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวคุณก็รู้เอง"
เมื่อกินข้าวกันเสร็จแล้ว อาร์ทก็พากวางมาที่โรงแรมดังแห่งหนึ่ง
"คุณพามาที่นี่ทำไม"
"มาสนุกด้วยกันไงครับ น้อง มีห้องว่างมั้ย"อาร์ทหันไปถามเคาร์เตอร์
"นี่ค่ะ"พนักงานยื่นกุญแจให้
และในคืนนั้น ทั้งสองก็ได้เสียกันในที่สุด
รุ่งขึ้น กวางไม่กล้าที่จะสู้หน้าไตร อาร์ทก็เหมือนกัน ทั้งสองพยายามหลบหน้าเขาตลอด จนไตรรู้สึกสัย จึงไปดังรอดักเขาที่ตึกเรียน
"วันนี้มึงเป็นไรวะไอ้อาร์ท"
"ไม่ได้เป็นไรนี่ ปกติดี"
"แล้วทำไมต้องหลบหน้ากูด้วย"
"กูไม่ได้หลบ แต่วันนี้กูท้องเสียนิดหน่อย เนี่ย ปวดอีกและ กูขอตัวก่อนนะ"
อาร์ทจะวิ่งไป แต่ไตรจับตัวเขาไว้ "บอกมา ว่ามึง กับน้องกวางเป็นอะไรกันแน่ ทำไมต้องทำตัวลับๆล่อๆ"
อาร์ทอึกอัก กวางเลยตัดสินใจ ลากไตรออกมาคุยในที่เงียบ
"กวางมีไรอยากจะบอกค่ะ"
"บอกมาเลยกวาง พี่น่ะอยากรู้จะตายอยู่และ ว่ากวางกับไอ้อาร์ทเป็นอะไรกัน ทำไมต้องหลบหน้าพี่ด้วย"
"กวางขอเลิกกับพี่ค่ะ"
ไตรอึ้ง พูดไม่ออก "ไม่จริงใช่มั้ยกวาง พี่หูฝาดไปใช่มั้ย"
"ไม่ได้หูฝาดหรอกค่ะ พี่ได้ยินถูกและ และกวางก็อยากบอกให้พี่รู้ไว้อย่างนึง ว่ากวาง กับอาร์ท เราเป็นแฟนกันแล้ว กวางขอตัวนะคะ"ว่าแล้ว เธอก็เดินจากไป
ไตรรู้สึกเสียใจมาก ที่เพื่อนตัวเองทำกับตัวเองอย่างนี้ เขาเลยขอตัดความเป็นเพื่อนกับอาร์ทตั้งแต่วันนี้เป็นต้อนไป และจากนั้นทั้งสองก็เป็นศัตรูกันจนถึงวันนี้
เสี่ยไตรภูมิยิ่งนึกถึงอดีต ก็ยิ่งแค้นใจ เค้าเลยรีบสั่งให้กาจไปสืบดู ว่าไอ้อาร์มมันอยู่รพ.ไหน แล้วจะไปจัดการกับอาร์มถึงรพ.
อาร์มจะรอดพ้น ความแค้นที่เสี่ยไตรมีต่อพ่อตัวเองได้ไหม แล้วเขาจะทำอย่างไร ถ้าเสี่ยไตรเดินทางมาถึงรพ.เพื่อมาจัดการกับเค้า!
ความคิดเห็น