ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The First Story.รู้ไว้ซะ ข้านี่แหละราชา!

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 ข้าจะเป็นอัศวิน!?

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 56



    บทที่1 ข้าจะเป็นอัศวิน!?
     

                    เทลเดินมาถึงหน้าป้อมปราการอัศวินพร้อมกับชูเข็มกลัดตราประจำตัวอัศวินให้ทหารยามดู แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่เปิดให้เข้าไปและส่งสายตาไปหาคนผมขาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง


    “เขาเป็นญาติข้าน่ะ เขาต้องการมาสมัครทดสอบเป็นอัศวิน”


    ทหารยามมองหน้ากัน สักพักก็เปิดประตูให้เทลและการ์เน็ตเข้าไปเพราะบ้านเมืองเดือดร้อนจากสงครามและสัตว์อสูร ยิ่งไม่ควรปฏิเสธผู้หวังดีที่ต้องการมาเป็นอัศวิน


    เทลเดินนำเข้าไปภายในป้อมปราการอัศวิน ตัวป้อมเป็นผนังและพื้นหินที่ถูกขัดจนมันเรียบ เสาตามระเบียงถูกสลักเป็นลวดลายงดงาม เทลเดินเลี้ยวไปตามทางพลางนึกย้อนถึงบทสนทนาที่คุยกับราชาปิศาจ
     

    ..... “เจ้าคือราชาปิศาจ!!”เทลตะโกนดังลั่น ถึงแม้จะคิดว่าคนตรงหน้าล้อเล่นแต่สัญลักษณ์บนหลังมือซ้ายก็เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างชัดเจน เทลหน้าซีด


    “ทำไมมีแต่คนคิดว่าข้าเป็นหญิงอยู่เรื่อย”การ์เน็ตพึมพำแล้วก็หันไปมองเทลที่นั่งหน้าซีดเป็นไก่ต้มอยู่บนเก้าอี้ “ถ้าเจ้ากล้าบอกใครเรื่องนี้ ตาย!


    “ทำไมคนที่เป็นราชาปิศาจถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”เทลที่หายช็อกลงไปบ้างกลั้นใจถาม


    “เฮอะ เจ้าคิดว่าราชาปิศาจจะต้องนั่งมุดหัวอยู่ในวังคอยบงการสัตว์อสูรให้ออกมาอาละวาดฆ่าคนตายรึไง ข้าก็อยากมาเที่ยวบ้างนะ”


    ทันทีที่ได้คำตอบเทลถึงกับค้าง ราชาปิศาจเนี่ยนะอยากออกมาเที่ยวสู้ให้คนตรงหน้าไปวิ่งรอบตลาดแล้วตะโกนว่าข้าเป็นผู้หญิงเขายังจะเชื่อมากกว่านี้เลย รูปร่างอรชร ใบหน้าหวานกับเรือนผมสีขาวอมม่วง ดวงตาสีแดงสดสวยงามบวกกับเสียงหวานๆนั่นถ้าไม่สังเกตุดีๆก็ต้องคิดว่าเป็นผู้หญิง


    “คิดอะไรไม่กลัวตายเลยนะ”การ์เน็ตส่งสายตาอาฆาตมาหาเทล


    “เจ้าอ่านความคิดข้า”


    “อย่ามาเปลี่ยนประเด็น คิดอะไรไม่กลัวตายเลยนะ”


    “ถ้าเจ้าจะฆ่าข้าจริงๆเจ้าไม่ลงมือไปนานแล้วรึไง”เทลตอบเพราะงี้ไงเขาถึงได้กล้าคิด


    การ์เน็ตส่ายหัวไปมาสองสามที “ข้าจะฆ่าเจ้าก็เพราะเจ้าคิดอะไรแบบนั้นนั่นแหละ”การ์เน็ตเปลี่ยนมานั่งกอดอกแล้วหันไปมองสายฝนข้างนอก เทลไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่นั่งจ้องอีกฝ่ายไปเรื่อยๆเป็นไปได้สูงว่าอีกฝ่ายจะไม่ฆ่าเขาและเขาก็ไม่กล้าพอที่จะไปท้าราชาปิศาจสู้ด้วยมีแต่ตายกับตาย ถ้าฝนหยุดเมื่อไหร่เขาจะรีบเผ่นออกไปจากที่นี่เลย


    “ป้อมปราการอัศวินเป็นยังไงบ้าง”


    “วุ่นวายเพราะสัตว์อสูรของเจ้านั่นแหละ”เทลตอบคำถามการ์เน็ตที่อยู่ๆก็ถามขึ้นมา


    “มีใครตายบ้าง กี่คน”


    “....”


    เทลเงียบไปจนกระทั่งการ์เน็ตหันมามอง


    “ไม่ต้องตอบก็ได้”การ์เน็ตยิ้มเย็น ลุกขึ้นมาจับมือของเทลแล้วก้มหน้าเข้ามาใกล้ “เอาล่ะเทล ข้าชักอยากเป็นอัศวินแล้วสิ อีกสองวันจะมีการทดสอบคัดเลือกใช่ไหม?”


    เทลสะดุ้ง รู้สึกร้อนๆที่ข้อมือ การ์เน็ตยิ้มอีกครั้งแล้วปล่อยมือ เทลก้มไปมองรอบข้อมือปรากฏรอยสักรูปงูดำพันโดยรอบ เทลหน้าซีดเผือด


    “พันธนาการอสรพิษดำ เจ้าคงรู้ดี”การ์เน็ตพูดยิ้มๆ เทลไม่ยิ้มด้วยพันธนาการอสรพิษดำเป็นพันธนาการเฉพาะของราชาปิศาจ เขาจะยังไม่ตายแต่จะตกเป็นทาสรับใช้ของราชาปิศาจไปชั่วชีวิต อย่างนี้สู้ฆ่าเขาให้ตายตอนนี้เลยดีกว่า


    “คิดไปถึงไหนพอข้าเบื่อเดี๋ยวข้าก็เขี่ยเจ้าทิ้งเองนั่นแหละ ข้าทำไว้เป็นหลักประกันชั้นหนึ่งไม่ให้เจ้าหนีต่างหาก”


    “เจ้าคิดอะไรอยู่”


    “คิดว่าข้าควรพักการเดินทางแล้วไปเป็นอัศวินแทนโดยใช้เจ้าเป็นทางผ่าน”


    “ไม่!!”เทลตะโกน จากนั้นก็ลงไปนอนดิ้นอยู่กับพื้น


    “เจ็บไหม?”การ์เน็ตยิ้ม “เรื่องจริงข้าจะเชือดเจ้าเลยก็ได้นะแต่แบบนี้มันสนุกกว่า”


    ....ซาดิสม์รึไงไอ้หมอนี่....เทลกำแขนที่ชาเพราะพิษงูไว้ ต่อให้เจ็บให้ทรมานแค่ไหนก็ไม่ตาย


    “ดูเจ้าไม่กลัวข้าเลยนะ ทุกทีพอข้าประกาศว่าข้าคือราชาปิศาจเจ้าพวกที่ข้าเจอมันก็แหกปากร้องลั่นซะอย่างกับโลกจะแตกอยู่รอมร่อ”


    “แล้วเจ้าก็เลยเชือดทิ้งงั้นสิ”


    “อืม”


    “ข้าเป็นอัศวินแต่กับต้องมารับใช้ราชาปิศาจมันช่างขัดกับกฎอัศวินจริงๆ ยังไงข้าก็ไม่ทำ” เทลกำข้อมือแน่น เริ่มรู้สึกร้อนๆขึ้นมาอีกแล้ว หากต่อต้านพันธนาการจะออกฤทธิ์สินะ


    “ข้าเป็นถึงราชาปิศาจเชียวนะ เพียงข้าดีดนิ้วน้องสาวของเจ้าตายภายใน3วิแน่”การ์เน็ตหัวเราะ.........



    ด้วยประการนี้เขาต้องทำตามอีกฝ่ายไปโดยปริยาย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้ได้อย่างไรว่าทั้งครอบครัวของเขาเหลือเพียงน้องสาวคนเดียว เขาไม่คิดจะอ่านความคิดของราชาปิศาจถึงแม้จะทำได้ก็ตาม เทลเปิดประตูเข้าไปในห้องของหัวหน้าอัศวิน เสียงแหบๆชวนปวดหัวดังขึ้นมา


    “อ้าว!ไอ้หนูเทลกลับมาแล้วเหรอ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?ได้ของไหมแล้วนั่นใคร?”หัวหน้าอัศวินรูปร่างท้วมอายุราวๆ50กว่าลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาหาเทล


    “ทีละคำถามครับลุง”เทลพูด ลุงหัวหน้าอัศวินมนตราคนนี้ชื่อแกรนด์ เป็นญาติห่างๆกับพ่อของเทลและเป็นคนที่ชวนเทลเข้ามาเป็นอัศวิน เป็นคนเก่งแต่ไม่สมประกอบสักเท่าไหร่ “ผมไปซื้อมาให้แล้วครับลุง”เทลล้วงเอากล่องกระดาษใบเล็กในกระเป๋าออกมายื่นให้ลุงหัวหน้าอัศวิน


    “เจ้าปลอดภัยดีสินะ”แกรนด์ถามด้วยความเป็นห่วง ในเมื่อเจ้าหนุ่มคนนี้ค่อนข้างเป็นตัวดึงดูดหายนะขนานแท้ถึงขนาดทำคนอื่นเกือบตายมาแล้วหลายคน “เป็นครั้งแรกที่เจ้าไม่โชคร้ายเลยนะ”


    ....เปล่าครับลุง ผมโชคร้ายไปแล้วเต็มๆเลยต่างหากล่ะ....


    “ช่างมันก่อนเถอะครับลุง ผมพาญาติมาสมัครเป็นอัศวินครับ”


    “ญาติเรอะ ข้าไม่เห็นจำได้ว่าเจ้ามีญาติเหลืออีกแถมเป็นผู้หญิง”แกรนด์มองการ์เน็ตตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า


    “ข้าเป็นผู้ชาย”การ์เน็ตพูด


    “ลุงครับเขาเป็นผู้ชาย”


    “งั้นเหรอ ยังไงก็เหมือนหญิงน่าจะไปเป็นแม่ครัวมากกว่าอัศวิน ชื่ออะไรล่ะ”


    “การ์เน็ต”


    “เออ เอาเป็นว่าข้าจะทำเรื่องให้ ในเมื่อมาสมัครกับข้าเจ้าก็ต้องเข้าทดสอบเป็นอัศวินมนตราห้ามบ่นล่ะกัน อยู่กับเจ้าเทลมากๆระวังจะโชคร้ายล่ะ อีกสองวันเจอกัน”แกรนด์พูดพร้อมโบกมือไล่ให้ทั้งสองออกไปข้างนอก
     

     

                    หลังจากนั้นการ์เน็ตก็ให้เทลอธิบายอะไรหลายๆอย่างระหว่างเดินไปส่งการ์เน็ตในเมือง


    “ดูนายจะไม่โกรธเลยนะที่ถูกหาว่าเป็นผู้หญิง”เทลพูด


    “ข้าชินแล้วน่ะสิ”การ์เน็ตยักไหล่ “ว่าแต่เจ้าเถอะดวงซวยขนาดจัดยังจะมาเป็นอัศวิน น่าสงสารคนอื่นจริงๆ”การ์เน็ตบ่น เขาเพิ่งมารู้ก็ตอนที่เดินออกมาจากป้อมปราการอัศวินได้ไม่นานก็มีพวกวิ่งราวขโมยของ ไอ้หมอนี่ก็รีบวิ่งไปช่วยโดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง พอจับขโมยได้แล้วแต่ติดที่พอดีตรงนั้นมีแอ่งน้ำมันก็เลยลื่นเข้าให้ เจ้าขโมยนั่นเลยวิ่งหนีไปแล้วเจ้าหัวขโมยผู้โชคร้ายนั่นก็ตกท่อระบายน้ำขาหัก... จากนั้นเขาก็ได้เห็นหายนะเล็กๆหลายๆอย่างที่เกิดกับหมอนี่และคนรอบตัว ซึ่งนับว่าโชคดีที่มันรอดมาได้ยันปัจจุบันไม่ตายก็บุญโขแล้ว สรุปเขาดันไปยุ่งกับตัวหายนะรึเปล่าหว่า?


    “ก็ข้า ไม่รุ้จะทำอะไร เรียนเวทย์มาก็ไม่รู้จะใช้อะไรพอลุงนั่นมาชวนก็เลยเป็นๆไปน่ะ”เทลตอบแบบผ่านๆ


    “พูดจริงหรือโกหกกันล่ะนั่น”การ์เน็ตมองจ้องเขาไปในดวงตาสีน้ำตาลของเทล


    “ก็ไม่รู้สิ”เทลตอบแววตาลนั้นไหลวูบเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม


    “งั้นก็เจ้ามาส่งข้าแค่นี้แหละ อีกสองวันค่อยเจอกัน”


    “อืม ไปให้พ้นๆเลยไป”เทลตอบอย่างไม่เกรงกลัวว่าคนตรงหน้าจะฆ่าปาดคอเขากลางเมืองเลย


    “ที่เจ้ายังไม่กลัวข้า เพราะว่าข้ายังทำตัวเป็นมิตรอยู่นะเทล”การ์เน็ตพูดจบก็หายวับไปจากตรงนั้น


    “เปล่า เพราะข้ารู้จักคนที่สามารถต่อกรและฆ่าเจ้าได้อยู่ต่างหาก”เทลพูดเสียงแผ่ว

     

    +++++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×