ตอนที่ 14 : CHAPTER 13
CHAPTER 13
ลู่หานหันมาตามเสียงของแทยอนก่อนจะส่องไฟจากโทรศัพท์ดูเช่นกัน แต่ภาพของศีรษะคนที่เขาเห็นกลับไม่ทำให้ลู่หานรู้สึกสยองแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้แทยอนคงจะช๊อคไปแล้ว เสียดายที่หนึ่งในบุคคลน่าสงสัยอย่างเลย์ตายไปซะก่อน แสดงว่าไอ้ฆาตกรนี่มันต้องการจัดการกลุ่มเพื่อนของซันนี่และแทยอนแน่ๆ และไม่แน่สักวันคงเป็นแทยอนที่จะกลายเป็นศพแบบนี้
เขาไม่รู้หรอกว่าเรื่องราวมันเกี่ยวโยงยังไงกับความสัมพันธ์ของบุคคลกลุ่มนี้ แต่หากว่ามันกำลังทำความเดือดร้อนให้กับทุกคนเขาเองก็คงต้องจัดการกับมัน แม้หลักฐานจะยังไม่มีอะไรเลยก็ตาม
“เฮ้! คุณไหวมั๊ย?”
“คุณลู่หาน เลย์ เพื่อนของฉัน ทำไมต้องเป็นเลย์ เลย์ผิดอะไร!” แทยอนหันหน้ามาทางผู้กองหนุ่มก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาของเธอเริ่มไหลมาเป็นสายจนลู่หานต้องบอกว่าให้ใจเย็นๆก่อน
“เพื่อนคุณคนนี้ คงต้องไปรู้อะไรมาสักอย่างแน่ๆ”
“รู้เหรอ? คนดีแบบเลย์ต้องโดนฆ่าเพียงแค่รู้เรื่องอะไรมาแบบนั้นน่ะเหรอ!”
“ฟังดีๆนะแทยอน ฆาตกรน่ะ ถ้ามันขึ้นชื่อว่าเป็นฆาตกรแล้ว คนดีแค่ไหนมันก็ฆ่าได้หมดทั้งนั้นแหละ หรือไม่สักวันคนนั้นก็ต้องเป็นใครสักคนที่เกี่ยวข้องกับพวกคุณ ไม่แน่อาจจะเป็นผมก็ได้” ลู่หานพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง แต่แทยอนก็ส่ายหน้าไม่ยอมเข้าใจแม้แต่น้อย
ลู่หานเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร ถ้าแทยอนยังไม่เข้าใจอะไรอยู่แบบนี้ คนที่เคยอวดเก่งกับเขาหายไปไหนกัน ทำไมเหลือแต่ คิม แทยอน ผู้หวาดกลัวไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ก่อนเข้ามานั้นแล้ว
เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าแทยอนรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ คงจะเสียใจที่เห็นเพื่อนตัวเองต้องมาตายในสภาพแบบนี้ และศพเองก็พึ่งจะโดนฆ่าไปไม่ถึงชั่วโมง
เดี๋ยวนะ!....ไม่ถึงชั่วโมง!
ลู่หานปรี่เท้าเข้ามาใกล้ๆกับศีรษะที่ตั้งอยู่ที่พื้นก่อนจะหยิบขึ้นมาสำรวจโดยที่แทยอนนั้นหันหน้า
หนีเพราะไม่อยากเห็นอะไรที่สยดสยองและศีรษะนั่นก็เป็นของเพื่อนเธอด้วย แทยอนยังไม่อยากรับรู้ว่า
เพื่อนที่ดีที่สุดได้หมดลมหายใจแล้ว ทั้งๆที่สงสัยว่าลู่หานกำลังทำอะไรแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยถาม เพราะใจนึง
ก็กลัว อีกใจก็ไม่กล้า
แต่ในแวบหนึ่งแทยอนได้ยินเสียงมีดที่กรีดไปตามกระจก เกิดเป็นเสียงที่แสบแก้วหู จนเธอต้องยกมือขึ้นมาปิดและเมื่อหันไปมองลู่หานที่กำลังตรวจสอบสภาพศพอยู่ ก็อดแปลกใจทำไมเสียงดังขนาดนี้ เขาถึงไม่รู้สึกอะไรเลย ดังนั้นเธอเลยกลั้นใจถามพร้อมกับน้ำตา โดยที่ลู่หานไม่หันมาหาเธอแม้แต่น้อย
“คุณ…คุณได้ยินเสียงอะไรมั๊ย?”
“ไม่นิ”
น่าแปลก เขาไม่ได้ยิน อะไรกันเสียงมันดังจนแสบแก้วหูมากเลยนะ เขาไม่ได้ยินเลยหรอกเหรอ! หรือว่าเซ้นส์ของแทยอนกำลังเตือนอีกแล้ว ไม่นะ! ถ้าเป็นแบบนั้นแสดงว่าฆาตกรมันยังอยู่แถวๆนี้น่ะสิ
“คุณลู่หาน ฉันไม่แน่ใจว่าคนร้ายมันยังอยู่แถวนี้หรือเปล่า แต่ว่าคุณระวังตัวด้วยก็ดีนะ” แทยอนเตือนเขาด้วยความเป็นห่วง ยิ่งลู่หานหาหลักฐานมากเท่าไร อันตรายยิ่งคืบคลานเข้ามาใกล้เท่านั้น ตอนนี้
น้ำตาของแทยอนหยุดไหลแล้ว มันหายไปพร้อมกับความเป็นห่วงลู่หานที่แทรกเข้ามาในความรู้สึกของ
เธอทีละนิดๆ
ลู่หานพยักหน้าก่อนจะเอามือที่สวมถุงยางสัมผัสรอยกรีดของมีดตามตัวของศพไปมาพร้อมกับพลิกดูส่วนหัวไปด้วย ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่ามีดที่คนร้ายใช้ค่ะในแต่ละครั้งมันเป็นมีดเดียวกัน มันไม่ใช่มีดที่ตกอยู่ในแต่ละครั้งที่คนตาย และถ้าเดาไม่ผิดมีดที่ไอ้ฆาตกรร่มสีแดงมันใช้ มันต้องอยู่กับตัวมันนั่นแหละ เพียงแต่ตอนนี้มันเป็นการสร้างสถานการณ์ของมันเท่านั้น หากแต่เขาสงสัยทำไมมันต้องใช้ร่มสีแดง ร่มสีแดงมันเอาไว้ใช้ทำอะไรกันแน่นะ?
“ผมเจอข้อมูลสำคัญแล้วล่ะ เราไปตามหาศพของคุณเรียวอุคกัน ส่วนศพเพื่อนคุณ ผมจะโทรหาเจ้าหน้าทีให้มาเก็บไปตรวจสอบรอยอื่นๆ ไม่ต้องห่วงนะ เพื่อนของคุณจะต้องไม่ตายฟรี ผมจะต้องหาตัวไอ้ฆาตกรให้เจอ” ลู่หานบอกเสียงจริงจังพร้อมกับโทรศัพท์บอกลูกน้องในกรมของตน แทยอนพยักหน้าแล้วเดินตามหาที่น่าจะมีส่วนที่เหลือของเรียวอุคซ่อนอยู่
และไม่นานเมื่อเขาเปิดประตูที่เป็นกลไกของบริษัทที่ซ่อนอยู่หลังศพของเลย์เขาก็เจอกับหลักฐาน
ที่ต้องการ นั่นคือส่วนลำตัวของเรียวอุค แทยอนยกมือขึ้นปิดจมูกทำท่าคล้ายจะอ้วกออกมา เพราะกลิ่น
เหม็นเน่าของศพที่เน่ามาหลายวัน แถมสภาพยังเละเทะเกินกว่าจะทนดูได้ ฆาตกรมันใจร้ายที่ฆ่าคนโดยวิธีโหดร้ายเช่นนี้
ลู่หานเดินเข้าไปพร้อมกับส่องไฟไปด้วย ก่อนจะส่ายหน้าเมื่อเห็นส่งที่ต้องการแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นบางสิ่งบางอย่างอยู่ในกำมือของเรียวอุค และแปลกที่มือของศพที่ตายแล้วมันน่าจะคลายเส้น แต่ตอนนี้มันยังกำสิ่งนั้นไว้ไม่มีปล่อย
“อะไรน่ะคุณลู่หาน?” ลู่หานไม่ตอบเพียงแต่แกะเอาสิ่งนั้นออกมาก่อนจะชูให้แทยอนดู เธอมองมันอย่างสงสัยก่อนจะถามเขาอีกครั้ง
“กระดุม มาตกอยู่ในมือของศพพี่เรียวอุคได้ไงกัน”
“คุณเคยเห็นมันที่ไหนบ้างหรือเปล่า?” ลู่หานถามกลับพลางยื่นมันมาให้เธอดูใกล้ๆ แทยอนส่ายหน้า
“ฉันคิดว่าคุ้นแต่มันนึกไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว” ลู่หานถอนหายใจก่อนจะทำท่าเก็บเข้าถุงที่เตรียมไว้สำหรับเก็บหลักฐาน พร้อมกับแทยอนที่ทำท่านึกอะไรบางอย่าง เมื่อเธอสงสัยเธอจึงเดินเข้าไปใกล้ๆกับศพของเรียวอุคถึงแม้ว่ามันจะเหม็นเน่าจนรู้สึกอยากอาเจียนก็ตามแต่บางอย่างที่ติดค้างอยู่ในกลับทำให้แทยอนเลือกที่จะเดินไปดูใกล้ๆ มีอะไรหลายอย่างที่มันเชื่อมโยงกับกลุ่มคนรอบตัวของเธอโดยบังเอิญ ไม่ว่าจะดาบนั่นหรือแม้แต่กระดุมเมื่อกี๊ที่แทยอนพยายามนึก
“ผมว่ามีอะไรหลายอย่างให้สงสัยคนรอบตัวคุณนะ ไม่ว่าจะเพื่อนคุณ คนรู้จักคุณ หรือแม้แต่บรรดาน้องๆคุณ”
“ฉันก็คิดเหมือนกัน แต่ไม่มีทางที่ซอจะทำอะไรแบบนี้ได้แน่ๆซันนี่ก็เหมือนกัน ยูริก็ด้วย” ลู่หาน
เลิกคิ้วเมื่อได้ยินชื่อคนสุดท้าย อ่า คนชื่อยูริ เด็กผู้หญิงคนนี้ดูมีท่าทีแปลก รวมถึงไอ้ประโยคที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว
“อ่อ ผมอยากจะถามอะไรนิดนึงหน่อยนะคนสวย”
“ถามมาสิ ถ้าฉันตอบได้ฉันก็จะตอบ” ลู่หานยิ้มเมื่อเห็นว่าร่างเล็กกลับมาเป็นคนเดิมที่ต่อล้อต่อเถียงกับเขา และไม่ค่อยยอมเขา
“เด็กผู้หญิงที่ชื่อยูรินี่เป็นอะไรกับพวกคุณเหรอ?” แทยอนขมวดคิ้ว ทำไมลู่หานถึงได้ถามแบบนี้ แต่เพราะไม่คิดอะไรเธอจึงตอบไปตามที่รู้
“ยูริเป็นน้องสาวต่างแม่ของยัยซัน อืม เพราะคุณลุงมีภรรยาสองคน คนแรกก็คือแม่ยัยซันนั่นแหละ และคนที่สองก็คือแม่ของยูริที่ตามมาทีหลัง ฉันเองก็รู้จักกับยูริมาตั้งแต่เด็กนะ คุณถามทำไมเหรอ?”
“ช่วยเล่าเรื่องราวของเด็กคนนี้ให้ผมฟังหน่อยสิ คร่าวๆก็ได้” แทยอนละสายตาจากศพของเรียวอุคและหันมามองหน้าลู่หานอย่างจริงจัง แต่ผู้กองหน้าหวานก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรซ้ำยังนิ่งตั้งใจฟัง แทยอนคิดว่าไม่เสียหายเท่าไรที่เล่าประวัติคร่าวๆของน้องสาวที่รู้จักของตนจึงเริ่มทำการเล่าทันที
“ถ้าคุณอยากฟังฉันก็จะเล่า”
“ยูริเป็นเด็กน่ารักมาก ตั้งแต่เด็กก็เป็นเด็กดีมาตลอด ชอบช่วยเหลือคนอื่นแถมยังมีความสุขมากที่ได้เกิดมาเป็นน้องยัยซันแม้จะคนละแม่ก็ตาม ฉันเองก็พาน้องสาวของฉันไปเล่นด้วยอยู่บ่อยๆ จนสนิทกัน แต่พอพวกเราโตขึ้นมาอีกหน่อย แม่ของยูริก็จากไป ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะว่าท่านจากไปเพราะอะไร แต่ได้ยินคุณลุงจองวุคพูดบ่อยๆว่าท่านเป็นโรคอะไรร้ายแรงนี่แหละ เพราะฉันยังเด็กอยู่ ฉันเลยไม่ค่อยสนใจเท่าไร แต่แปลกนะ ที่พอยูริเสียแม่ไป เด็กนั่นกลับไม่ร้องไห้สักแอะ แถมยังยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก แต่พอ
ที่ขึ้นชั้นม.ต้นปี 2 อยู่ๆยูริก็บอกกับฉันและยัยซันว่าจะไปเรียนต่อที่อเมริกา พอถามว่าเพราะอะไรถึงไปเรียนต่อ ก็ไม่ยอมบอก และอีกอย่างคุณลุงจองวุคก็อนุญาตด้วย พวกเราเลยไม่ได้เจอยูริอีก จนกระทั่งปีนี้แหละ
ที่ยูริกลับมา” แทยอนเล่าพร้อมกับสงสัยคำพูดสุดท้ายของตัวเอง
“กลับมาพร้อมกับเรื่องนี้ใช่มั๊ยล่ะ?” ลู่หานถามอย่างรู้ทันความคิดของแทยอน ซึ่งเธอก็พยักหน้า แต่แล้วก็ต้องส่ายหน้าให้ ปฏิเสธว่าไม่ว่ายังไงเด็กน่ารักอย่างยูริก็ไม่มีวันเป็นฆาตกรโดยเด็ดขาด
“แต่ยังไงยูริก็ไม่ได้ฆ่าหรอก เชื่อฉันสิ”
“แล้ว คิมจงอินล่ะ?”
“คุณ
“ใช่แล้วคนสวย เล่าเรื่องของคนนี้ให้ฉันฟังหน่อยสิ”
“หมอนี่อาจจะร้ายไปบ้าง แต่เชื่อเหอะ ไคไม่มีวันฆ่าคนหรอก” แทยอนส่ายหน้าให้ แต่ลู่หานกลับไม่ยอมแพ้เขายังคงถามเรื่องคนอื่นๆต่อไป
“แล้วหมอเซฮุนล่ะ?”
“คุณรู้จักพี่หมอด้วยเหรอ?” แทยอนเบิกตากว้าง เท่าที่จำได้ว่าเซฮุนและลู่หานพึ่งจะเจอหน้ากันครั้งเดียวเท่านั้นนะ เมื่อวานที่เธอไปกรมตำรวจพร้อมกับซันนี่ อย่าบอกนะว่าเขาสงสัยเซฮุนน่ะ!
“เรียกซะสนิทสนมเชียวนะ”
“คุณอยากรู้เรื่องไป ก็ไม่มีความหมายหรอก เพราะพี่เซฮุนเป็นคนดี…ถึงแม้เขาจะเคยเลวมาก่อนก็ตาม” แทยอนพูดประโยคสุดท้ายเบาๆก่อนจะยิ้มเศร้าเมื่อนึกถึงความหลังของเธอกับเซฮุน แต่เพราะเสียงที่เบาเกินไปทำให้ลู่หานไม่ได้ยิน
“ปกป้องกันจังนะครับคนสวย คนนี้ผมแตะต้องไม่ได้เลยหรือไง รีบออกตัวรับแทนจริงๆ” ลู่หานพูดอย่างเหยาะหยัย แต่ภายในใจกลับเดือดดาลเมื่อเห็นว่าแทยอนจะไม่ยอมเล่าเรื่องราวของเซฮุนให้เขาได้รู้ ทำเหมือนว่าเขากำลังก้าวก่ายไปเรื่องส่วนตัวของอีกคน ทำตัวเหมือนผู้หญิงที่ปกป้องแฟนตัวเอง
“เปล่าสักหน่อย ฉันก็แค่เชื่อว่าพี่เซฮุนไม่ได้ทำ”
“ผมก็แค่อยากรู้เรื่องราวของหมอเซฮุนเท่านั้นเอง ก็ได้ ผมสืบเองก็ได้ครับคนสวย” แทยอนเบะปากใส่เขาก่อนจะเบือนหน้าหนีไปมองศพเรียวอุคต่อ จะว่าไปพอนึกถึงกระดุม ก็มีแค่สองคนเท่านั้นนะที่ใส่เสื้อที่มีกระดุมแบบนี้ ถ้าไม่นับเลย์ที่ตายไปแล้ว นั่นก็คือ ไค และ ซูโฮ!
ลู่หานที่ยังคงโมโหเซฮุนอยู่ภายในใจแม้ว่าเจ้าตัวจะยังไม่ทำอะไรให้ เลยไม่ได้สังเกตว่ามีอะไรบางอย่างซุ่มอยู่ในความมืดทางด้านหลังของเขา เพราะความโมโหทำให้เขาคว้าร่างของแทยอนขึ้นมาจูบอย่างร้อนแรง ไม่สนว่าร่างเล็กจะทุบไหล่เขาจนเจ็บสักเพียงใด เพียงแค่นึกถึงว่าแทยอนอาจจะเคยตกเป็นของหมอนี่มาก่อนเขา อาจจะเป็นคนแรกของแทยอน ก็เหมือนมีใครเอาอะไรมาสุมที่อก จนมันปวดร้อนทุรนทุรายไปหมด และหากจะทำให้เขาหายจากอาการบ้าๆนี่ก็คือ
การสัมผัสร่างกายของแทยอน
ลู่หานสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานอย่างชำนาญ พยายามกักรั้งเอวบางของแทยอนไว้กับตัว พร้อมกับแทยอนที่เริ่มดิ้น ลิ้นของเขาพยายามเกี่ยวกับลิ้นของแทยอน เพื่อแลกเปลี่ยนความหวานของกันและกัน จนในที่สุดแทยอนก็ยอมหยุดดิ้นก่อนจะยืนให้เขาหาเศษหาเลยกับปากของเธออย่างพอใจ
ใช่ว่าแทยอนจะรู้สึกไม่ดี แต่หากเมื่อไรที่เธอจูบกับลู่หาน เหมือนร่างกายของเธอมันอยากจะต้องการเขาขึ้นมา ไม่ปฏิเสธเลยว่าการโดนลู่หานสัมผัสร่างกาย มันเป็นอะไรที่รู้สึกดีที่สุด ถึงแม้จะรุนแรงและเร่าร้อนในบางเวลาก็เถอะ
แทยอนแทบจะล้มไปกับพื้นดีที่มีมือของลู่หานประคองไว้ได้ทัน ทั้งสองยืนจูบกันอยู่เป็นเวลานาน พร้อมกับร่างกายที่เริ่มเบียดเสียดเข้าหากันจนแทบจะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกัน แทยอนกำลังจะหลับตาพริ้มเพราะความเคลิ้มจากจูบของลู่หานก็เห็นบางอย่างแว๊บๆเข้าสักก่อน ก่อนที่เธอจะบอกให้เขาระวังตัว
“คุณลู่หาน ระวัง!”
ลู่หานที่ได้สติพอดีจึงพาแทยอนก้มลงหมอบกับพื้น พร้อมกับมีดที่ปามาจากด้านหลังของเขา มันพุ่งเข้าเสียบกับผนังจนฝังลึกท่ามกลางความตกใจของแทยอนที่มองตามทิศทางของมีดนั้น เธอคิดว่าไม่น่าเชื่อว่าจะมีมีดที่มีปลายแหลมคมและแข็งแรงมากขนาดปักเข้ากับผนังห้องได้
แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร ลู่หานก็ปล่อยแทยอนออกก่อนจะลุกขึ้นแล้วพยายามวิ่งตามจับคนที่ลอบทำร้ายเขา และแทยอนเองจึงต้องวิ่งตามอย่างช่วยไม่ได้ ลู่หานวิ่งตามเงานั้นก่อนจะหยุดลงที่หน้าตึกบริษัทกลางสายฝนที่กำลังตกหนัก
เมื่อพบว่าไม่เห็นร่างของคนร้ายที่วิ่งหนีแล้ว เขาก็ขยี้ผมของตัวเองอย่างหัวเสีย พลางคิดในใจว่าหากเมื่อไรที่ได้เจอกันตัวต่อตัว เขาจะไม่ยอมปล่อยมันไปแน่ๆ แต่ที่เขาโมโหหนักกว่านั้นคือ มันขัดจังหวะเวลาของเขากับแทยอน กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มแล้วเชียว
“โธ่เว้ย!”
TBC.
-----------------------------------------------------
ตอนนี้ไม่มีอะไรจริงๆ แต่พี่ลู่อย่างหื่นอ่ะ -..-
มีใครสงสัยใครบ้างเนี่ย? บิวใบ้ตั้งเยอะเลยนะตอนนี้
ขอบคุณมากนะคะทุกคนที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้
แม้ว่ายังเหลืออีกนานกว่าจะจบ บิวจะพยายามนะคะ >0<
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

กำลังใจ กำลังใจ กำลังใจ ร้อยล้านครั้งเลยค่ะ
slowly เองค่ะ
แทเสร็จลู่ไปนานแย้วว
ขนาดอยู่ใกล้ๆ ศพยังมีอารมณ์นะครัช 55555555
5555 เกือบเจอคนร้ายละ