ตอนที่ 12 : CHAPTER 11
CHAPTER 11
สองร่างที่พากันยืนอยู่ภายในห้องเรียนอันแสนสงบที่ตอนนี้ไม่มีนักศักษาคนใดเลยแม้แต่น้อย เพราะด้วยอาจจะเป็นตอนเย็นใกล้มืดค่ำแล้ว แถมตอนนี้ยังเป็นเวลาที่ฝนตกหนักอีกด้วย ดวงตาของแบคฮยอนหันไปมองยังร่างผอมเพรียวของเพื่อนสนิทตัวเองก่อนจะเอามือแตะที่ข้อศอกของเธอเบาๆ ซอฮยอนหันหน้ามาพร้อมกับยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ แต่แววตาของเธอกลับสั่นระริกราวกับกลัวอะไรบางอย่าง
“แบคฮยอน เมื่อไรฝนจะหยุดตกล่ะ?”
“ไม่รู้สิ” เขาตอบสั้นๆก่อนจะยื่นมืออีกข้างออกไปขีดเขียนหน้าต่างที่มีไอบางๆเกาะอยู่ ซอฮยอนมองตามก่อนจะอ่านคำที่แบคฮยอนเขียน
Red Umbrella
“หมายถึง ร่มสีแดง ฆาตรกรร่มสีแดงเหรอ?” แบคฮยอนพยักหน้าก่อนจะหันมามองซอฮยอนด้วย
แววตาจดจ้อง
“กลัวหรือเปล่า?”
“ก็กลัวเหมือนกัน ฆาตรกรใจร้ายแบบนั้น เราไม่อยากเจอเลยจริงๆ” ซอฮยอนบอกด้วยน้ำเสียงจริง
จัง ดวงตากลมโตไร้เดียงสาสะท้อนภาพสายฝนที่ยังคงตกหนักอยู่แบบนั้น ตอนนี้ในใจของซอฮยอนกำลังรู้สึกกลัว กลัวอะไรบางอย่าง กลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดในอนาคต ปากบางบ่นพึมพำเบาๆ โดยที่แบคฮยอนได้แต่มองอาการนั้นด้วยความสงสาร สงสารที่เพื่อนของตัวเองกำลังจะเจอเรื่องร้ายๆ ไม่ภายในวันนี้ไม่ก็
วันข้างหน้า
“แบคฮยอน”
“หืม?”
“แบคฮยอนจะปกป้องฉันใช่มั๊ย?” เสียงฟ้าร้องกับฝนตกไม่ได้ทำให้ซอฮยอนผละสายตาออกมาเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงมองอยู่แบบนั้นด้วยสายตาที่หวาดกลัวไหนจะคำพูดที่ดูกลัวนั่นอีกล่ะ
“จะปกป้องเราจากเรื่องร้ายๆใช่มั๊ย?”
“อืม…เราจะปกป้องซอเอง ไม่ว่าซอจะเจอเรื่องร้ายแค่ไหน แต่เราก็จะไม่ทิ้งซอ เพราะว่าซอเป็นเพื่อนของเรา” แบคฮยอนบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับเอามือมากุมมือของซอฮยอนไว้ทั้งสองข้าง ตาของเขาหันมาสบกับตาของซอฮยอนพอดีก่อนที่ซอฮยอนจะโผเข้ากอดเขา อย่างต้องการที่พึ่ง มือหนาของแบคฮยอนค่อยๆลูบหัวเพื่อนอย่างปลอบประโลม หากว่าใครที่ไม่รู้จักความสัมพันธ์ของพวกเขาดีก็จะคิดว่าเขากับซอฮยอนนั้นรักกัน แต่หากที่จริงแล้วไม่ใช่ เขาแค่รู้สึกเหมือนซอฮยอนเป็นน้องสาวที่พร้อมโดนปกป้องและดูแล หากว่าผู้หญิงอย่างซอฮยอนเจอเรื่องร้ายที่ไม่อาจคาดคิด เขาก็คงคิดว่ามันโหดร้ายเกินไปสำหรับเด็กที่ไร้เดียงสาอย่างซอฮยอน
“เราเชื่อใจแบคฮยอนนะ”
เนิ่นนากกว่าฝนจะหยุดตก ยังดีที่ตอนนี้ฝนมันเริ่มพรำๆ แบคฮยอนเลยได้แต่จูงมือเพื่อนที่กลัวฝนนั้นค่อยๆเดินไปตามทางเดินระเบียงของมหาวิทยาลัย ลมหนาวพัดมาทีไร ก็รู้สึกเหมือนร่างกายจะชาวาบมากเท่านั้น แบคฮยอนเองก็รู้สึกได้ว่าร่างตัวเองกำลังสั่นเทาเพราะความหนาวจากลมและอายฝนที่ชื้นเปียกอยู่ เสียงรองเท้าที่แตะลงบนพื้นน้ำของแบคฮยอนทำให้ซอฮยอนสะดุ้งก่อนจะหยุดนิ่ง แบคฮยอนหันมามองเพื่อนอย่างตกใจก่อนจะเห็นว่าซอฮยอนกำลังมองไปที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของทางเดิน เขาเลยหันมามองตามทันที ก่อนจะเห็นร่างของใครบางคน
ซูโฮ เพื่อนพี่แทยอนคนนี้มาทำอะไรที่นี่ ในเวลานี้?
แบคฮยอนค่อยๆกระชับมือของซอฮยอนแน่น พร้อมกับเลื่อนตัวของซอฮยอนให้ไปหลบที่ด้านหลังของเขาแทน แบคอยอนเชยตามองอีกฝ่ายที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ๆเขากับซอฮยอนอย่างช้าๆ พร้อมกับรอยยิ้มอย่างเทพบุตรนั่นที่อีกฝ่ายชอบยิ้มเป็นประจำ ยิ่งเท้าที่เดินเข้ามาใกล้เท่าไร ซอฮยอนก็ยิ่งรู้สึกสั่น จนเพื่อนอย่างแบคฮยอนที่เป็นห่วงต้องคอยปลอบเบาๆ
“ไม่เป็นไรนะซอ พี่ซูโฮ เขาไม่ทำอะไรเราหรอก”
“อะ…อื้ม”
ซอฮยอนพยักหน้าตามก่อนจะมองร่างของซูโฮที่เดินเข้ามาเรื่อยๆในที่สุดก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของเด็กทั้งสองคน ซูโฮยิ้มก่อนจะเอ่ยปากถามแบคฮยอนทันทีและไม่ลืมที่จะเอ่ยถามซอฮยอนเช่นกัน
“แบคฮยอน ยังไม่กลับอีกเหรอ? ซอฮยอนด้วย”
“คือพวกเราติดฝนอยู่ เลยยังไม่กลับบ้านกัน” แบคฮยอนตอบก่อนจะจ้องตาของซูโฮอย่างจับผิดแล้วเอ่ยถามกลับ
“แล้วพี่ซูโฮล่ะครับ มาทำอะไร….ที่นี่” ประโยคหลังสุดเอ่ยเบาๆ ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นรอยยิ้มของซูโฮ ที่มันแสดงออกถึงความน่ากลัวมาก ขนาดแบคฮยอนที่ไม่ค่อยกลัวอะไร แต่เขากลับรู้สึกกลัวกับรอยยิ้มจริงใจนี้ แบคฮยอนหลบตา พยายามไม่มองหน้าของบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป้นเพื่อนสนิทของแทยอน เพราะกลัวว่าถ้าหากมองไป เขาจะทำอะไรไม่ถูก
“พอดี มาติดต่อรับงานเอกสารจากอาจารย์ที่นี่น่ะ”
“ใกล้มืดค่ำแบบนี้น่ะเหรอครับ?” ไม่ใช่ว่าแบคฮยอนสอดรู้มากไป แต่จะมีใครกล้ามารับงานในเวลาแบบนี้ หรือไม่มันก็อาจจะเป็นงานที่สำคัญมาก
“สอดรู้จริงๆเลยนะ แบคฮยอน” ทั้งแบคฮยอนและซอฮยอนต่างก็เงียบเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปากของซูโฮ ร่างที่เล็กพอๆกันกับแบคฮยอนหัวเราะออกมาอย่างขำๆ แต่เด็กทั้งสองที่ยืนนิ่งนั้นกลับไม่รู้สึกขำด้วยสักนิด ต่างกัน ทั้งสองกลับรู้สึกกลัว กลัวไปหมด กลัวกับท่าทางของผู้ชายคนนี้ ทั้งรอยยิ้ม คำพูด เสียงหัวเราะ หรือแม้แต่สายตา
แบคฮยอนเปลี่ยนจากกระชับเป็นจับมือของซอฮยอนแน่น จนรู้สึกถึงเหงื่อของที่ไหลเปียกชื้นบนมือ ไม่มั่นใจว่ามันเป็นของใครกันแน่ระหว่างแบคฮยอนกับซอฮยอน ทั้งที่อากาศออกจะหนาวสั่นไปด้วยซ้ำ แต่แบคฮยอนและซอฮยอนกลับรู้สึกว่าอุณหภูมิในกายเริ่มจะไม่ปกติ
“สอดรู้จนได้เรื่อง”
“อย่าว่าแบคฮยอนนะ!” ซอฮยอนพูดขึ้นมาเสียงดัง ก่อนที่ทั้งหมดจะกลายเป็นความเงียบ มีเพียงแค่เสียงฝนที่กำลังซา ฟ้าที่กำลังร้องและเสียงลมหายใจของทั้งสามคนเท่านั้น ซูโฮกดยิ้มก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาทำลายบรรยากาศเงียบๆแบบนี้
“ยอมพูดกับพี่จนได้แล้วสินะ…ซอ” ซูโฮค่อยก้าวเท้าเข้ามา แต่แบคฮยอนกลับพาซอฮยอนถอยหนี เขาจะไม่ยอมให้ซูโฮเข้าใกล้ซอฮยอนเด็ดขาดไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เขาจะไม่ยอม!
“ถอยไปซะครับ พี่ก็รู้ว่าซอกำลังกลัวพี่”
“ฮ่าๆ กลัวเหรอ? คนอย่างพี่นี่เหรอน่ากลัว?” ซูโฮพูดพร้อมกับหัวเราะก่อนจะเอ่ยถามเด็กทั้งสองอีกครั้ง แต่คราวนี้สายตากลับเบนไปจ้องหน้าซอฮยอนที่กำลังตัวสั่นเทาอย่างน่าสงสาร
“พี่น่ากลัวจริงๆน่ะเหรอ?”
“ผมบอกว่าให้ถอยไปยังไงล่ะครับ!” แบคอยอนกดเสียงต่ำ เมื่อซูโฮไม่ยอมถอยไปหรือทำตามที่เขาบอกแม้แต่น้อย และตอนนี้อีกคนก็ยังคงนิ่ง ยืนจ้องหน้าเพื่อนของเขาอยู่แบบนั้น
“บอกมาก่อนสิครับซอ พี่น่ากลัวอย่างนั้นเชียวเหรอ?” เอ่ยยิ้มๆแต่กลับเป็นยิ้มสมเพชที่มอบให้เธอ ซอฮยอนหลุบตาต่ำเมื่อโดนจ้องหนักๆ ไม่ไหว ซอฮยอนกำลังรู้สึกกลัวจนจะเป็นบ้า ตอนนี้อยากจะหนีผู้ชายคนนี้ไปให้ไกล ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ต้องเจอ เพราะเขาน่ากลัวเกินไป เกินกว่าที่ซอฮยอนคนนี้จะรับได้
“………..”
“จะบอกอะไรให้นะครับ ว่าคนที่น่ากลัวไม่ใช่แค่พี่หรอก มีทั้งจงอิน เลย์ ยูริ
ยุนอา และคนสุดท้าย ที่ไม่นานจะคิดว่าเขาเป็นคนที่น่ากลัวที่สุด” ซอฮยอนและแบคอยอนเผลอกลั้นหายใจไปสักระยะหนึ่งเมื่อซูโฮเว้นวรรค พวกเขาไม่อยากได้ยินจริงๆว่าคนสุดท้ายนั่นคือใคร สองฝ่ามือที่จับกันแน่นนั้นเริ่มสั่น จนซูโฮที่สังเกตมานานแอบกดยิ้มที่มุมปากของตัวเอง
“ผู้กองลู่หาน”
“จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอซอ?” หึหึ
ซอฮยอนนั่งคิดแล้วคิดอีกอยู่บนเตียงของผู้ป่วยในโรงพยายาบาล เมื่อนึกถึงคำสุดท้ายที่ซูโฮได้ทิ้งไว้ให้ก่อนจะเดินหนีเธอกับแบคฮยอนไป และตอนนั้นเธอกับแบคฮยอนก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น หากว่าจำไม่ผิด เหมือนจะเคยได้ยินใครสักคนเอ่ยเรื่องของผู้กองคนนี้กับพี่สาวของเธอ ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน แต่ซอฮยอนยังไม่อยากยอมรับเท่าไรนัก เพราะอาจจะคิดว่าผู้กองคนนี้แค่คนที่พี่สาวเธอเคยทำงานด้วยเท่านั้นเอง แต่ว่าคำพูดของพี่ซูโฮนั่นกลับทำให้เธอคิดมาก และรู้สักห่วงพี่สาวตัวเอง
“ระวังหมอนั่นให้ดีแล้วกัน ไม่แน่คนที่น่ากลัวที่สุดอาจจะเป็นคนที่กำลังจะเข้ามาอยู่ใกล้ๆตัว”
ไม่ ซอฮยอนไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ไม่อยากให้แทยอนเกิดอันตราย และถ้าหากว่าคำพูดของซูโฮเป็นอย่างที่ว่าจริงๆ ซอฮยอนควรจะเตือนพี่สาวของตัวเองสักหน่อย ยังไม่ทันที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาพี่สาว เสียงอุ้มของพี่หมอเซฮุนของเธอก็ดังขึ้นมา
“ว่าไงครับซอ…หายปวดหัวหรือยัง?” ซอฮยอนเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อคมที่ไม่ว่าเมื่อไรก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วและแรงอยู่ตลอด ซอฮยอนมองหน้าของคนที่รักสักพักก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำ
เสียงใส
“หายแล้วค่ะ แต่รู้สึกสั่นและกลัวนิดหน่อย” หลังจากที่กลับมาถึงบ้าน เธอก็รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง จนแบคอยอนต้องรีบขับรถมาส่งที่โรงพยาบาลแต่ก่อนที่ซอฮยอนจะได้เข้ารับการตรวจ แบคอยอนก็ต้องกลับบ้านก่อนเพราะที่บ้านเรียกตัวกะทันหัน วันนี้ซอฮยอนเลยต้องได้นอนโรงพยาบาลคนเดียว แต่ยังดีที่เซฮุนเข้าเวร เลยทำให้ซอฮยอนมีคนเฝ้าในคืนนี้
“โดนฝนหรือเปล่า?”
“ไม่ค่ะ”
“งั้นก็โชคดีหน่อย เพราะถ้าโดนฝนรู้ใช่มั๊ยว่าเราจะมีอาการยังไง และนั่นคงจะร้ายแรงมากถ้าหาก
แทยอนรู้เรื่องนี้ พี่เรานี่ก็นะ น้องสาวป่วย ตัวเองดันไปทำงานอยู่ได้ ไม่คิดจะรับผิดชอบน้องสาวผู้น่ารักเลย” เซฮุนเอ่ยหยอกล้อก่อนจะโน้มหน้าเข้ามากใกล้จนจมูกโด่งของทั้งสองชนกัน ซอฮยอนมองเขินๆก่อนจะเบือนหน้าหนี
“เป็นพี่ พี่ไม่ยอมทิ้งน้องสาวน่ารักๆอย่างซอไว้เด็ดขาด” ใจของซอฮยอนเต้นแรงตึกตักๆเมื่อเซฮุนเลื่อนริมปากนั้นมาจูบบนปากบางๆของเธอเบาๆ
“และคืนนี้พี่จะอยู่เป็นเพื่อนซอเอง…นะครับ”
“พะ…พี่หมอ”
TBC.
---------------------------------------------------------------------
ไม่ค่อยมีใครตายเลยเนาะเดี๋ยวนี้ แต่ไม่ต้องห่วงนะ
ตอนหน้าจะพาโหดแล้ว จะเริ่มฆ่าตัวละครตัวที่สอง >0<
ฮ่าๆ สำหรับใครที่รอฮุนซออยู่ ตอนนี้ก็รอรับเลยนะจ๊ะ
เดี๋ยวบิวจะทยอยส่ง คือแปะเมลล์กันเยอะมาก ดีใจเว่อร์
ปิดให้แปะเมลล์แล้วนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ทันไหมคะถ้าจะขอฉากคัท a_antmy@hotmail.com
แต่รีดเดอร์คนนี้อยากอ่านมากๆ ค่ะ ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป
pooongpangR@gmail.com
ขอบคุณอย่างสุดซึ้งค่ะ
ฮุนนี่ไม่เว้นเเม้กระทั้งซอ
แบคนี่ถึงแกจะเตี้ยแต่แกก็โคตรหล่อเลยตอนนี้555555(ป่าวแซะะ)
อิเน่นี่ก็ได้ทั้งพี่ทั้งน้องเลยอ่ะแล้วอย่างงี้นุ้งซอจิเป็นอย่างไรต่อไป
ไม่แน่ลู่หานอาจเป็นฆาตกรก็ได้
ม่ายน้ะ
ได้ทั้งแททั้งซอเลยนะ! อิจฉาอ่ะ
ใครคือคนร้ายยยย
ฮุนนายมันร้ายมาก กินทั้งพี่ทั้งน้องเลย