ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • Cruel {Baekhyun ft.sehun chanyeol kris kai luhan} 。

    ลำดับตอนที่ #17 : + Cruel + Number Twelve {The end}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.43K
      2
      19 ก.พ. 57






    *เหมือนเดิมค่ะไม่มีคนตายแล้วนะคะ*

    ปกฟิคมาแย้ว เหลือเอาไปแก้นิดหน่อยค่ะ มีที่คั่นแถม
    ถ้ามีคนสนใจ 10 เล่มก็จะได้ 230 บาทเน้อ

    รายละเอียดจะมาแจ้งเป๊ะอีกทีค่ะ

     


     

    Number Twelve

     

              ข้อความเข้า 1 ข้อความ

              From ‘Kris’

              มีปัญหาเรื่องแบคฮยอนกะทันหัน รีบมาที่บ้านพักแบคฮยอนด่วน!

     

                ใบหน้าสวยจ้องมองข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์พลางขมวดคิ้วอย่างงวยงง อะไรกัน ก่อนหน้านี้ไม่นานเพิ่งบอกว่าเรียบร้อยดี? นิ้วเรียวสวยกดโทรออกไปยังเลขหมายของเจ้าของข้อความ แต่กลับได้ยินเสียงตอบรับอัตโนมัติจากหญิงสาวที่แจ้งว่าไม่สามารถติดต่อเลขหมายได้ ลู่หานลองกดโทรออกอีกครั้ง แต่ก็ได้ผลเช่นเดิม

                กายบางเลือกที่จะสาวเท้าไปนั่งลงบนโซฟา กอดอกไขว่ห้างแล้วครุ่นคิด...ทำไมคริสปิดเครื่อง?...เกือบจะไม่สนใจอยู่แล้วเชียวถ้าไม่ติดว่านึกอะไรขึ้นมาได้

     

                ถ้าหากแบคฮยอนหนีไปได้ล่ะ?

              ใช่ไหม?...ที่คริสจะโทรมาบอกคือเรื่องนี้หรือเปล่า?

     

                ฉับพลันที่นึกคิดลู่หานก็ตรงดิ่งไปคว้ากุญแจรถยนต์แล้วเปิดดูแผนที่ที่ถูกส่งมาพร้อมกับข้อความ ซึ่งเป็นสถานที่ที่คริสอยู่ ลู่หานร้อนรนจนไม่ได้บอกเซฮุนที่กำลังหลับด้วยความอ่อนล้าเพราะมีเรื่องรบกวนจิตใจตลอดเวลา ลู่หานกำมือแน่นเมื่อคิดถึงสาเหตุที่คริสส่งข้อความมาแล้วกัลบติดต่อไม่ได้ไปต่างๆ นาๆ

     

                ไม่ได้นะ...

              บยอนแบคฮยอนจะหนีรอดไปไหนไม่ได้!

     

                เพราะจิตใจอันมืดมัวทำให้ลู่หานนึกได้เพียงแค่นี้ เขาก็แค่กลัวว่าแบคฮยอนจะหนีไปได้ กลัว...ว่าแบคฮยอนจะกลับมาเจอกับเซฮุนอีก ลู่หานไม่มีทางยอมให้เป็นแบบนั้นแน่ ลู่หานต้องตามตัวแบคฮยอนและขัดขวางเท่านั้น! เพราะเซฮุนที่ลู่หานได้มาครอบครองนั้นกับทำตัวซังกะตายจนลู่หานเบื่อ

     

              แค่มันตายเซฮุนก็จะกลับมาเป็นของลู่หานทั้งร่างกายและจิตใจใช่ไหม?

     

     

     

              ล้อรถยนต์บดเบียดหาดทรายสีขาวด้านหน้าบ้านพักต่างอากาศหลังหนึ่ง ลู่หานก้าวเท้าลงจากรถเงยหน้ามองบ้านหลังเล็กๆ ที่ถูกแต่งแต้มโดยรอบด้วยดอกไม้สีอ่อนๆ เข้ากับผนังบ้านสีขาวได้อย่างลงตัว

                “เนี่ยน่ะเหรอบ้านพักแบคฮยอน?” ไม่รอให้ความสงสัยคืบคลานเข้ามานาน ขาเรียวก้าวดุ่มๆ เข้าไปในบ้านพักอย่างไม่เกรงกลัวใคร นัยน์ตาที่เคยหวานชื่นถูกเปลี่ยนเป็นสายตาแห่งความชิงชังอิจฉาริษยา ใช้สายตาสอดส่องมองหาคนที่นัดตัวเองมา มือบางจับกระเป๋ากางเกงหวังจะใช้อุปกรณ์สื่อสารติดต่ออีกฝ่ายกลับต้องสบถออกมาด้วยความอารมณ์เสีย

                “โถ่เอ๊ย! ลืมไว้ที่คอนโดเหรอเนี่ย?” นึกโทษสมองตัวเองที่ดันจำแผนที่เส้นทางดีเกินไป เพราะดูแผนที่แค่รอบเดียวก็เดินทางมาถูกแล้ว ถ้าหากเขาเป็นคนขี้ลืมสักที พอจะคว้าโทรศัพท์แล้วหาไม่เจอจะได้รีบกลับไป ลู่หานย่ำเท้าไปยังห้องโถงของบ้านอย่างแผ่วเบา

                “คริส” ร้องเรียกคนที่เรียกตนออกมา

                “คริสอยู่ไหน!” เริ่มส่งเสียงดังอย่างขัดใจเมื่อพบว่าไม่มีใครตอบรับ ไม่ทันไรเสียงตอบรับก็ดังขึ้นมาจากห้องด้านใน มือเรียวยกขึ้นลูบแขนตนเองเพราะเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงอู้อี้ ลู่หานสาวเท้าไปยังห้องต้นตอของเสียง ทันทีที่มือเรียวจับลูกบิดหมุนเปิดออกไปก็ต้องเบิกตากว้าง

                “คริส!!” ภาพของคริสที่กำลังนอนหงายหน้าถูกมัดแขนไว้กับหัวเตียง ที่ต้นแขนด้านหนึ่งมีเลือดไหลออกมาจนเปรอะแขนเสื้อเต็มไปหมด คริสร้องอู้อี้อย่างคนต้องการความช่วยเหลือเพราะเมื่อไม่นานมานี้เขาเอาแต่พร่ำพูดขอโทษแบคฮยอนจนร่างเล็กรำคาญ แล้วนำเอาผ้ามาอุดไว้ แต่ยังไม่ทันที่ลู่หานจะได้ก้าวขาเข้าไปด้านในห้อง โลกของลู่หานก็ดับลงพร้อมกับร่างกายอ่อนปวกเปียก ความเจ็บแล่นลิ่วเข้าสู่ร่างกายตนเองบริเวณท้ายทอย ลู่หานทิ้งตัวลงบนพื้นพลางหลับตาลงอย่างไม่เต็มใจนัก หรือที่เรียกว่า สลบ

               

     

                “พี่ลู่หานครับ ผมปวดหัว” เสียงทุ้มนุ่มลึกเปล่งออกมาอย่างงัวเงียจากอาการปวดหัวที่รุมเร้า อาการของเซฮุนนั้นถือว่าค่อนข้างแย่ เพราะตั้งแต่ทราบข่าวว่าแบคฮยอนลาออกจากมหาวิทยาลัยไปแล้วก็กลายเป็นคนเหม่อลอย หัวใจที่เรียกร้องหาแต่เจ้าของที่แท้จริงปวดหนึบจนเซฮุนล้มป่วย

                “พี่ลู่หาน...” ยังคงส่งเสียงเรียกคนที่เคยเรียกเป็นประจำทุกวันเมื่อตนเองปวดหัว แต่หลังจากที่ทนเรียกไปประมาณสิบนาทีด้วยกันแล้วก็ยังไม่มีการตอบรับจึงทำให้เซฮุนจำใจต้องลุกขึ้นมานั่งนวดขมับเอง ร่างสูงก้าวลงจากเตียงพลางสาวเท้าเดินไปหารุ่นพี่คนสนิทที่เปลี่ยนสถานะเป็นคนรัก

                “พี่ลู่หาน”

                “...”

                “พี่ลู่หาน....พี่ลู่หานครับ” เซฮุนเอ่ยเรียกชื่อคนรักของตนแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่นก็ยังไม่พบ จึงตัดสินใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง คว้าโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมากดเบอร์โทรออกหาคนรักอย่างเป็นห่วง

     

              เพราะพี่ลู่หานไม่เคยหายไปไหนโดยไมได้บอกกล่าว

     

                เสียงเรียกเข้าดังขึ้นจากโทรศัพท์ของลู่หาน เซฮุนลุกขึ้นเดินหาที่มาของเสียงแล้วก็พบว่า โทรศัพท์ของลู่หานนั้นถูกวางไว้อยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น มีหมอนอิงทับอยู่ เซฮุนยู่หน้าน้อยๆ แล้วหยิบมันขึ้นพอ เซฮุนกดแจ้งเตือน 1 สายที่ไม่ได้รับออกจากหน้าจอของเจ้าของเครื่อง ข้อความที่ถูกเปิดอ่านตั้งแต่แรกแล้วยังคงเปิดค้างอยู่เนื่องจากลู่หานคงจะดูแผนที่เสร็จแล้วทำอะไรสักอย่างก่อนหน้านี้จนลืมเองเอาไว้

     

              ข้อความเข้า 1 ข้อความ

              From ‘Kris’

              มีปัญหาเรื่องแบคฮยอนกะทันหัน รีบมาที่บ้านพักแบคฮยอนด่วน!

     

                แบคฮยอนอย่างนั้นเหรอ? คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ แผนที่ที่แนบมาเซฮุนรู้จักดีว่านั่นคือบ้านพักของแบคฮยอนจริงๆ เซฮุนทวนอ่านเนื้อหาในข้อความอีกรอบก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นไปล้างหน้าและรีบเดินทางไปยังบ้านพักของแบคฮยอน

     

              ขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นเลยนะ...

              ไม่รู้หรอกว่าในข้อความบอกแบบนั้นจะหมายความว่าอย่างไร

                แต่สำหรับเซฮุน...บยอนแบคฮยอนยังคง สำคัญที่สุด

     

     

     

                “อ่า...” ขยับกายเล็กน้อยไล่ความเมื่อยล้า ความรู้สึกอึดอัดรัดแน่นรอบตัวทำให้ลู่หานต้องตื่นจากนิทรา ดวงตาเรียวกระพริบถี่ๆ ปรับโฟกัสมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เขาเห็นเงาคนรางๆ นั่งมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก

                “ตื่นแล้วเหรอครับพี่ลู่หาน” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันพลางนึกคิดในใจว่าเสียงที่ได้ยินนั้นช่างคุ้นเคยเหลือเกิน สะบัดศรีษะไล่ความมึนงงออกไป เบะหน้าเพราะความเจ็บปวดนิดหน่อยเพราะถูกตีท้ายทอย

                “นะ นาย!” นัยน์ตาคู่งามเบิกกว้างเมื่อมองเห็นบุคคลที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดแจ้ง เด็กน้อยหน้าตาใสซื่อที่แสนอ่อนแอจนน่าหมั่นไส้กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอื้ตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน

     

              ทำไมแบคฮยอนมาอยู่ที่นี่!?

     

                “ทำไมแก...อ๊ะ!” แผดเสียงลั่นอย่างที่ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเป็น แล้วขยับตัวหวังจะเดินเข้าไปกระชากร่างเล็กๆ ตรงหน้าแล้วทำลายความงดงามนั้นด้วยมือของตัวเอง แต่ลู่หานอาจจะไม่ได้สังเกต ว่าร่างกายที่เคยเป็นอิสระของตนเองนั้น ถูกพันธนาการด้วยเชือกเส้นหนาที่มัดร่างกายตนเข้ากับเก้าอี้อย่างหนาแน่น

                “ทะ ทำไม...” ลู่หานมองร่างกายตัวเองอย่างงวยงงว่าทำไมร่างกายของเขาถึงได้อยู่ในสภาพแบบนี้

                “งงอะไรเหรอครับ พี่จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?” แบคฮยอนยกยิ้มพลางเอ่ยวาจากระตุ้นความทรงจำของลู่หานให้กลับมา รุ่นพี่หน้าหวานสะบัดศรีษะอีกครั้งก่อนจะเรียบเรียงเหตุการณ์ในสมอง

                “อ๊ะ...คริสอยู่ไหน! นายทำอะไรคริส!” เมื่อความทรงจำสุดท้ายหวนกลับมาคือภาพของเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นคนร่วมมือในแผนการถูกมัดมืออยู่กับเตียงและร่างกายเต็มไปด้วยเลือด

                “แกฆ่าคริส!

                “!!!” เหมือนหัวใจถูกแทงด้วยเข็มปลายแหลม แบคฮยอนเกลียดคำนี้ตั้งแต่เขาพลั้งมือทำร้ายชานยอล แบคฮยอนเกลียดเลือดและความตาย ที่สำคัญเขาไม่ได้ ฆ่า คริส!

                “ฉันไม่ได้ฆ่าพี่คริส!

                “แกฆ่า! ฉันเห็น ฉันเห็นเลือดเต็มตัวคริสไปหมด แกฆ่าคริส ไอ้ฆาตกร!” ลู่หานยังคงตะเบงเสียงยั่วเย้าเข้าไปให้แบคฮยอนโกรธ แบคฮยอนส่ายหน้ายกมือปิดหู ท่าทางนั้นทำให้ลู่หานรู้จุดอ่อนของแบคฮยอน มุมปากบางแสยะยิ้มอย่างมีชัยชนะ ถึงจะถูกมัดแต่ก็ยังเล่นงานแบคฮยอนได้

                “ไม่ฉันไม่ได้ฆ่า มันเป็นแค่อุบัติเหตุ แต่พี่คริสไม่ได้ตาย!” แบคฮยอนเอาแต่ส่ายหน้าแสดงความอ่อนแอให้เห็น ลู่หานยิ้มเยาะในใจแล้วพูดจี้จุดแบคฮยอนอย่างสนุกสนาน

                “แกฆ่าเขา แบคฮยอนฆ่าคนตาย ช่วยด้วย! แบคฮยอนเป็นฆาตกรโรคจิต!

                “ฉันบอกว่าฉันไม่ได้ฆ่า แกนั่นแหละที่จะถูกฆ่าหุบปากไปซะไอ้งั่ง!

                “โอ๊ยยยย!” ความหวาดกลัวและความอ่อนแอรุมเร้าให้แบคฮยอนตัดสินใจหยุดคำพูดของลู่หาน ด้วยความขาดสติแบคฮยอนง้างมือขึ้นและตวัดลงปากลู่หานไปเต็มๆ

                “ฮึก...ผมบอกให้พี่หยุดพูด...” เมื่อลู่หานเงียบไปเพราะความเจ็บปวดแบคฮยอนก็ถอยหลังแล้วนั่งลงเช่นเดิม มือเรียวยกขึ้นปิดใบหน้าที่ตอนนี้เต็มไปด้วยหยดน้ำตา ลู่หานไม่รู้หรอกว่าแบคฮยอนร้องไห้ทำไม ลู่หานไม่มีทางรู้เลยว่าที่แบคฮยอนร้องไห้นั้นเพราะลู่หานทำให้แบคฮยอน...

     

              ...คิดถึงชานยอล...

     

                “ฮ่าๆ นายมันอ่อนแอแบคฮยอน ฉันพูดแค่นี้ก็ร้องไห้แล้วเหรอ สภาพอย่างนายจะมีปัญญาไปฆ่าใครได้? หรือจะให้ไอ้เพื่อนสนิทที่อยากได้นายเป็นเมียจนตัวสั่นมาช่วยล่ะ หื้ม? เรียกมันมาสิ ชื่ออะไรนะ? ชานยอล? ปาร์คชานยอล?”

                “ฮึก...หยุดพูด! ผมบอกให้หยุดพูดไง ฮือ...” จากที่โดนจี้จุดอ้อมๆ กลายมาเป็นการพูดแทงตรงๆ แบคฮยอนทรุดตัวลงน้ำตานองหน้า เพราะว่าไม่มียังไงล่ะ ไม่มีชานยอลที่คอยช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างเขาอีกต่อไปแล้ว แบคฮยอนถึงได้เสียใจมากมายขนาดนี้ หากชานยอลยังอยู่เรื่องมันคงไม่ลามมาถึงขนาดนี้ แบคฮยอนคงมีคนคอยปลอบใจ และแบคฮยอนคงจะเริ่มต้นใหม่...กับชานยอลไปแล้ว

     

              ...ขอโทษนะชานยอล...

     

                “ฮะๆ...เพราะอ่อนแอและเจ้าน้ำตาแบบนี้ไงล่ะถึงได้ง่ายเวลาจัดการ”

                “ฮึก...พะ พี่หมายความว่าไง?”

                “หึๆ...จะบอกอะไรให้เอาบุญนะแบคฮยอน ฉันเป็นคนวางแผนทุกอย่าง ฉันกล่อมให้คริสร่วมมือกับฉัน ที่บ้านพักของคริส ฉันจัดฉากเล่มเกมบ้าๆ นั่น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่านายโดนคริสลวนลาม วางยานอนหลับทุกคน และโป๊ะเชะ...ฉันได้คลิปมาสมใจอยาก และวันที่ฉันเรียกเซฮุนกลับมาฉันก็รั้งเขาด้วยคลิปของนายกับคริส ฉันตัดต่อมันเองกับมือและมอมเหล้าเขา ทำให้เขาเป็นของฉันแล้วตบท้ายด้วยส่งรูปภาพของนายกับคริสฉันให้ชานยอล”

                “พะ พี่...” แบคฮยอนเบิกตากว้างทันทีที่ได้รู้ความจริง ร่างเล็กอาจจะเตรียมใจไว้อยู่แล้วส่วนหนึ่งแต่เขาไม่คิดว่าลู่หานจะทำมากมายถึงเพียงนี้...

                “ฉันเฝ้ามองเซฮุนมานาน ฉันตกหลุมรักเซฮุนตั้งแต่ตอนรับน้อง เขากำลังจะรักฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะนายก้าวเข้าเขาคงเป็นของฉันไปแล้ว!

                “ผะ ผมไม่รู้...”

                “ก็นายมันโง่ไงล่ะแบคฮยอน! ถ้านายฉลาดคงไม่ต้องมาโดนแย่งผัวไปแบบนี้หรอก ฮ่าๆๆ” ลู่หานหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อเห็นว่าแบคฮยอนทรุดลงไปกับพื้น

                “อ้อ...แล้วที่คริสยอมร่วมมือก็เพราะว่าฉันบอกว่าถ้าฉันได้เซฮุนมาสมใจอยากแล้ว ฉันจะแบ่งให้หมอนั่นหลังจากที่ฉันเบื่อ และระหว่างรอฉันเบื่อก็ให้คริสเล่นกับนายฆ่าเวลาไปก่อนยังไงล่ะ”

                “พี่ลู่หาน!

                “จะว่าไปแล้วคริสก็โง่เหมือนกันนะ...หมอนั่นคิดเหรอว่าฉันจะยอมยกเซฮุนให้ง่ายๆ คริสเองก็โง่ไม่ต่างจากนายนั่นแหละ ก็แค่เพียงหมากในกระดานตัวนึงของฉันเอง”

                “จะ ใจร้าย...” แววตาเยาะเย้ยถูกส่งมาจากลู่หานอย่างไม่สำนึกความผิดที่ตัวเองทำ แบคฮยอนกำมือแน่นเพราะความโกรธ ยันตัวขึ้นแล้วยกถังน้ำมันที่เตรียมไว้สาดใส่ลู่หานด้วยแรงอารมณ์

                “ผมจะเผาพี่!” ลู่หานหัวใจกระตุกวูบตกใจกับสิ่งที่แบคฮยอนเอื้อนเอ่ย แต่ความเย่อหยิ่งในตัวเองกลับสั่งให้เขาพูดท้าทายออกไป

                “เอาสิ เผาเลย ฉันตายไปนายก็เป็นได้แค่ไอ้ฆาตกร เซฮุนยังไงก็ไม่มีวันกลับไปหานายอีก ต่อให้ไม่มีใครรู้ว่านายเป็นคนทำ แต่นายรู้! นายรู้อยู่แก่ใจว่านายเป็นฆาตกรแบคฮยอน!

               

     

                “พี่แบคฮยอน!” เซฮุนตะโกนร้องเรียกหาคนที่ตนรักไม่เคยเปลี่ยนแปลง สาวเท้าวิ่งเข้าไปในบ้านพักด้วยความเป็นห่วงอย่างปิดไม่มิด

     

              ...กลัวเหลือเกินว่าแบคฮยอนจะเป็นอันตราย...

     

                “เฮ้ยพี่คริส!” ทันทีที่เปิดประตูห้องนอนที่แสนคุ้นเคยก็ต้องร้องเสียงหลง รุ่นพี่คนสนิทของเขากำลังพยายามขยับตัวหาทางรอด เซฮูนวิ่งเข้าไปแก้มัดผ้าที่ปากของคริสแล้วแกะเชือกที่มัดมือคริสเอาไว้

                “ซะ เซฮุน...” คริสเปล่งเสียงที่เหนื่อยล้าออกมาอย่างแผ่วเบา

                “พี่ขอโทษนะ...”

                “หื้ม? ใจเย็นๆ นะพี่ ผมกำลังแก้เชือกให้อยู่ แม่งรัดมั่วฉิบ!” เซฮุนสบถอย่างหงุดหงิดพลางวิ่งไปหาของมีคมมาตัดเชือกออกให้ ทันทีที่เชือกข้างซ้ายถูกตัดออกคริสก็ส่งมือห้ามเซฮุนเอาไว้

                “ไป ไปช่วยลู่หานก่อน...”

                “อะไรนะ?”

                “แบคฮยอน...แบคฮยอนบอกว่าจะเอาตัวลู่หานไปเคลียร์ที่โรงรถเก่าหลังบ้านหลังนี้”

                “พะ พี่หมายความว่าไง? เดี๋ยวผมแก้มัดอีกข้างให้พี่ก่อนแล้ว...”

                “รีบไปอย่ามาเสียเวลาตรงนี้ พี่ช่วยตัวเองได้!

                “พี่คริส...ผะ ผมไม่เข้าใจ”

                “ไปถึงที่แล้วนายก็จะรู้เอง รีบไปก่อนที่มันจะสาย...” เซฮุนจ้องหน้าคริสอย่างต้องหารหาคำตอบ เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคริสถึงเลือดออกที่แขน ทำไมคริสถึงบอกว่าให้ไปช่วยลู่หาน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้อความจากคริสที่เป็นนส่งมาหาลู่หาน

                “ไปสิ!” คริสตะโกนปลุกเซฮุนจากภวังค์จนเซฮุนต้องรีบวิ่งไปตามทางที่คริสบอก คนตัวสูงที่นอนทนความเจ็บปวดจากบาดแผลเอื้อมมือข้างที่ถูกแก้มัดแล้วหยิบโทรศัพท์ของตนที่แบคฮยอนทิ้งไว้ กดหมายเลขไม่กี่หลักแล้วโทรออก

                “คุณตำรวจเหรอครับ...”

     

     

             

              “เอาสิ เผาเลย ฉันตายไปนายก็เป็นได้แค่ไอ้ฆาตกร เซฮุนยังไงก็ไม่มีวันกลับไปหานายอีก ต่อให้ไม่มีใครรู้ว่านายเป็นคนทำ แต่นายรู้! นายรู้อยู่แก่ใจว่านายเป็นฆาตกรแบคฮยอน!

     

              แบคฮยอนยืนตัวสั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใช่ แบคฮยอนไม่กล้า...เพียงแค่ชานยอลคนเดียวก็มากเกินพอแล้ว ไหนจะจงอินและรุ่นน้องอีกสามคนที่เขาไม่ได้ตั้งใจทำร้ายใคร มันเป็นเพียงอุบัติเหตุแต่นั่นก็พรากลมหายใจคนอื่นเช่นเดียวกัน

               

                แบคฮยอนตั้งใจแค่จะมาขู่ให้ลู่หานพูดความจริงตามที่แบคฮยอนคาดเดาไว้ว่าเรื่องที่บ้านพักคริส ลู่หานมีส่วนเกี่ยวข้อง แบคฮยอนไม่ได้คาดคิดและเตรียมใจเอาไว้ว่าความเป็นจริงจะมากกว่านั้น

                “ว่าไง? เผาสิ เอาเลย...ฉันอยากจะตายจนตัวสั่น ฮ่าๆ”

                “พี่มันคนบ้า! ผมไม่คิดเลยว่าเพียงแค่ผู้ชายคนเดียวจะทำให้พี่ยอมทำลายชีวิตผมได้มากขนาดนี้!

                “แล้วไง? ชีวิตนายไม่ใช่ชีวิตฉัน คนที่เจ็บคือนายฉันไม่ได้เจ็บ”

                “พี่ลู่หาน!” แบคฮยอนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลู่หานจะเป็นคนไร้สามัญสำนึกได้ถึงขนาดนี้ แบคฮยอนอยากจะจุดไฟเผาให้ลู่หานได้รับรู้ถึงความเจ็บปวด แต่ใบหน้าชานยอลก็ลอยขึ้นมาในสมองให้เขายับยั้งชั่งใจเสมอ...ราวกับว่าชานยอลกำลังเตือนสติ...และแบคฮยอนจะไม่ทำ

                แบคฮยอนตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ที่เขากดอัดเสียงไว้แต่แรกแล้วเดินหนีออกไป เขาตั้งใจว่าจะนัดเจอเซฮุนให้มาฟังความจริงแล้วค่อยกลับมาปล่อยตัวลู่หาน ความตั้งใจแรกที่จะไปอยู่กับพ่อแม่นั้นยังคงอยู่ ขอเพียงแค่ให้เซฮุนได้รู้ความจริงเท่านั้นว่าเขาไม่ได้ทรยศก่อนจากไปก็ยังดี

                ยังไม่ทันจะถึงประตูโรงเก็บรถดี ประตูก็ถูกเปิดออกจากคนด้านนอก แบคฮยอนเอ่ยชื่ออีกฝ่ายระคนตกใจเมื่อไม่คิดว่าเซฮุนจะเข้ามาเจอเขาตอนนี้

                “พี่แบคฮยอน...พี่ลู่หาน!” เสียงแรกเป็นน้ำเสียงของความเป็นห่วง แต่ครู่ต่อมาที่เซฮุนมองเลยไปด้านหลังแล้วพบว่าลู่หานกำลังถูกมัดไว้กับเก้าอี้ เซฮุนมองหน้าแบคฮยอนอย่างไม่เข้าใจ ลู่หานเห็นดังนั้นก็ตะโกนขอความช่วยเหลือ

                “เซฮุนช่วยพี่ด้วย แบคฮยอนจะเผาพี่!” เมื่อได้ยินดังนั้นเซฮุนก็หันกลับมามองแบคฮยอนด้วยความโกรธเกรี้ยว ยกมือขึ้นบีบหัวไหล่มนที่เคยลูบไล้อย่างแผ่วเบา เขาเขย่าและตะคอกแบคฮยอนอย่างไม่มีสติ

                “พี่จะทำอะไร พี่บ้าไปแล้วเหรอ!

                “ซะ เซฮุน...”

                “พี่ทำแบบนี้กับพี่ลู่หานทำไม พี่โกรธใช่ไหมที่ผมคบกับเขา!

                “!!!

                “พี่มันโรคจิต! พี่นอกใจผมแล้วยังจะมาทำร้ายคนอื่นอีก!

                “ฮึก...ไม่ใช่นะ...”

                “ผม เกลียด พี่!” เน้นย้ำทีละคำหวังว่าจะบาดลึกเข้าไปในใจคนฟังได้ เซฮุนผลักไหล่ร่างบอบบางออกไปจนล้ม ถึงเซฮุนจะใจเสียนิดๆ ที่ทำแบคฮยอนเจ็บ...แต่เขาจะไม่ทำให้แบคฮยอนเห็นว่าเขายังรักและเป็นห่วงแบคฮยอนอยู่เสมอมา เซฮุนกัดฟันทำเป็นไม่สนใจแล้วรีบเดินไปช่วยเหลือลู่หาน

                “เซฮุนเคยรักพี่ไหม? ฮึก...” เปล่งเสียงออกมาบางเบาแต่คนฟังกลับได้ยินชัดเจน เซฮุนชะงักขาที่กำลังจะก้าวเดินต่อแล้วหันกลับมามองคนรัก

                “เซฮุนไม่เคยรักพี่เลยใช่ไหม...”

                “ผมรักพี่ แต่พี่ทรยศผมก่อน”

                “ถ้าเซฮุนรักพี่แล้วทำไมถึงไม่เคยฟังอะไรจากพี่ก่อนเลย”

                “...”      

                “เซฮุนบอกว่ารัก แต่เซฮุนเชื่อคนอื่น! ไม่เคยถามหาเหตุผลจากพี่เลย...เซฮุนรู้ไหมว่าพี่เจ็บปวดมากขนาดไหน...ฮึก...”

                “พี่แบคฮยอน...” เซฮุนหยุดนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ แบคฮยอนอาศัยจังหวะนี้กดเปิดเสียงที่เขาอัดไว้ก่อนหน้านี้ให้คนรักฟัง

     

                       “หึๆ...จะบอกอะไรให้เอาบุญนะแบคฮยอน ฉันเป็นคนวางแผนทุกอย่าง ฉันกล่อมให้คริสร่วมมือกับฉัน ที่บ้านพักของคริส ฉันจัดฉากเล่มเกมบ้าๆ นั่น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่านายโดนคริสลวนลาม วางยานอนหลับทุกคน และโป๊ะเชะ...ฉันได้คลิปมาสมใจอยาก และวันที่ฉันเรียกเซฮุนกลับมาฉันก็รั้งเขาด้วยคลิปของนายกับคริส ฉันตัดต่อมันเองกับมือและมอมเหล้าเขา ทำให้เขาเป็นของฉันแล้วตบท้ายด้วยส่งรูปภาพของนายกับคริสฉันให้ชานยอล”

     

                “ซะ...เซฮุน...” ลู่หานที่นั่งอยู่ร้องเรียกเซฮุนเสียงหลง เขาไม่คิดว่าจะถูกอัดเสียงเอาไว้

     

              “ฉันเฝ้ามองเซฮุนมานาน ฉันตกหลุมรักเซฮุนตั้งแต่ตอนรับน้อง เขากำลังจะรักฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะนายก้าวเข้าเขาคงเป็นของฉันไปแล้ว!

              “ผะ ผมไม่รู้...”

              “ก็นายมันโง่ไงล่ะแบคฮยอน! ถ้านายฉลาดคงไม่ต้องมาโดนแย่งผัวไปแบบนี้หรอก ฮ่าๆๆ”

     

                “อย่าไปฟังนะเซฮุน!” ลู่หานพยายามร้องเรียกเซฮุนเพื่อดึงความสนใจ

     

              “อ้อ...แล้วที่คริสยอมร่วมมือก็เพราะว่าฉันบอกว่าถ้าฉันได้เซฮุนมาสมใจอยากแล้ว ฉันจะแบ่งให้หมอนั่นหลังจากที่ฉันเบื่อ และระหว่างรอฉันเบื่อก็ให้คริสเล่นกับนายฆ่าเวลาไปก่อนยังไงล่ะ”

              “พี่ลู่หาน!

              “จะว่าไปแล้วคริสก็โง่เหมือนกันนะ...หมอนั่นคิดเหรอว่าฉันจะยอมยกเซฮุนให้ง่ายๆ คริสเองก็โง่ไม่ต่างจากนายนั่นแหละ ก็แค่เพียงหมากในกระดานตัวนึงของฉันเอง”

     

                “พะ พี่ลู่หาน...” เซฮุนค่อยๆ หันกลับมามองลู่หานอย่างช้าๆ ความผิดหวังถูกส่งออกทางสายตาของเซฮุนอย่างเห็นได้ชัด

     

              ผิดหวัง...ที่รุ่นพี่ที่รักและเคารพทำร้ายเขา

              ผิดหวัง...ที่คนที่คิดว่ารักเขาจริงกลับเอาแค่ความต้องการตนเองเป็นที่ตั้ง

               

                “เซฮุน...” แบคฮยอนเรียกหาเซฮุนอย่างแผ่วเบา แบคฮยอนไม่หวังจะให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ขอแค่เซฮุนไม่เกลียดเขาเพราะความเข้าใจผิดก็เพียงพอ

                “พี่แบคฮยอน...ผมขอโทษ” เซฮุนวิ่งกลับไปคว้าตัวแบคฮยอนไว้ในอ้อมกอด ขอเพียงได้ส่งผ่านความรู้สึกรักและคำขอโทษผ่านอ้อมกอดนี้เท่านั้น แบคฮยอนร้องไห้ปลดปล่อยน้ำตาแห่งความสุข

     

              ...เซฮุนไม่ได้เกลียดเขาจริงๆ ด้วย...

               

                “ผมขอโทษที่ไม่เคยฟังพี่เลย ผมขอโทษ...เพราะผม...ผมทำให้พี่ต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ แบบนี้...อภัยให้ผมได้ไหม...เรา...เรา...”

                “ไม่นะเซฮุนจะพูดอะไร!” ลู่หานตะโกนออกมาหวังในใจว่าจะไมใช่ประโยคที่เขาคิไว้

                “เรากลับมา...”

                “ไม่นะ!

              “เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมครับ ผมขอโทษ แต่ผมรักพี่เพียงคนเดียวไม่เคยเปลี่ยนแปลง...”

                “ม่ายยยย!” ลู่หานหวีดร้องอย่างบ้าคลั่งเมื่อคำว่ารักออกมาจากปากของเซฮุน เขาอยู่ไกลเกินกว่าจะขัดขวางสองคนนั้นได้ ลู่หานขยับกายดีดดิ้นอย่างฉุนเฉียว เขาโกรธและอยากจะเข้าไปบีบคอแบคฮยอน จิกมือเข้าลำคอขาวที่เซฮุนกำลังซบ อยากจะฆ่าแบคฮยอนให้ตายด้วยสองมือของเขาเอง คิดได้ดังนั้นก็ออกแรงดิ้นหวังให้หลุดออกจากเชือกที่รัดแน่นจนเก้าอี้เคลื่อนที่เข้าไปมา ลู่หานไม่รู้ว่าตัวเขานั้นขยับเข้าใกล้สิ่งใดอยู่จนลู่หานล้มลงพร้อมเก้าอี้

     

                แต่ก่อนที่เก้าอี้และตัวคนจะล้มลงโดนพื้น ศรีษะของลู่หานกระแทกเข้ากับขอบโต๊ะไม้ที่มีตะเกียงน้ำมันวางอยู่ ด้วยแรงและน้ำหนักตัวของลู่หานที่มีอยู่กระแทกเข้าไปแรงมากจนส่งผลใหตะเกียงน้ำมันพลิกคว่ำล้มลงมายังฝั่งตัวของลู่หานที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำมัน

     

              พรึ่บ!

     

                “อ๊ากกกกกกกก!” เปลวไฟลุกโชนแผดเผาเรือนร่างคนที่ใครๆ ต่างก็ชื่นชมว่างดงามทันทีทันใด ลู่หานกรีดร้องอย่างทรมาณ เขาร้อน...ร้อนเหมือนกำลังอยู่ในนรกและถูกซาตานชั่วร้ายสุมไฟอยู่

                เซฮุนเห็นดังนั้นก็ผละออกจากแบคฮยอนพยายามตั้งสติแล้ววิ่งไปหาผ้าชุบน้ำมาช่วยดับไฟ เครื่องตรวจจับควันส่งเสียงร้องแล้วพ่นน้ำออกมาทันที เซฮุนวิ่งกลับมาพร้อมพรมเช็ดเท้าที่วางผึ่งอยู่ข้างๆ โรงรถแล้วชุบน้ำจากก๊อกที่มีอยู่หน้าโรงเก็บรถก่อนจะวิ่งเข้าไปหาลู่หาน ใช้ผ้าตบๆ ลงไปบนร่างกายของรุ่นพี่ที่เคารพ ยังดีที่มีน้ำจากเครื่องตรวจจับควันช่วยลดเปลวไฟลงไปได้บ้าง

                “เกิดอะไรขึ้นครับคุณ!” ตำรวจสองสามนายวิ่งมายังโรงเก็บรถแล้วเอ่ยถามแบคฮยอนที่นั่งนิ่งอยู่หน้าประตู ดวงตาเรียวสวยฉ่ำไปด้วยน้ำตาแต่กลับไม่มีเสียงสะอื้น ตอบคำถามด้วยน้ำเสียงเหม่อลอย

              “ชะ ช่วยพี่ลู่หานด้วย...ผมไม่ได้ฆ่าเขานะ...”

     

     

     

                ความเย็นเฉียบของอุณหภูมิในห้องสืบสวนไม่ได้ทำให้คนที่ถูกถามนั้นหวั่นเกรงแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้เขาเห็นแบคฮยอนถูกเข้ามานั่งในห้องนี้ ร่างบางที่น่าทะนุถนอมของเขาห่อไหล่ แต่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกจากปากอิ่มเลยแม้แต่น้อยนอกจากคำว่า ผมไม่ได้ตั้งใจ แบคฮยอนไม่ยอมปริปากคำอื่นเลย เซฮุนตอบคำถามตามที่ตนเองได้รับรู้ และเป็นพยานยืนยันที่สำคัญให้ว่าแบคฮยอนไม่ได้เป็นคนฆาลู่หาน เพียงแต่แค่จับมัดราดน้ำมันเพื่อข่มขู่เท่านั้น

                นายตำรวจสืบสวนสอบถามเขาอีกไม่กี่คำถามก็จบลง เขาแจ้งเรื่องคดีทั้งหมดที่เชื่อมโยงมาทางแบคฮยอน เซฮุนเพิ่งรู้ชานยอล จงอินและเพื่อนรุ่นน้องของแบคฮยอนอีกสามคนเสียชีวิตมาพักหนึ่งแล้ว

                “เราตรวจหารอยนิ้วมือของคนร้ายบนโคมไฟที่เปื้อนเลือดในห้องคุณชานยอล เราพบว่าเป็นรอยนิ้วมือของคุณแบคฮยอน ที่ก๊อกน้ำก็มีรอยนิ้วมือ เราสันนิษฐานว่าคุณแบคฮยอนอาจจะมีปากเสียงกับคุณชานยอลก่อนที่คุณแบคฮยอนจะลงมือฆ่า เพราะเราพบรูปภาพอนาจารของคุณแบคฮยอนกับคุณคริสอยู่บนเตียง” เซฮุนหยิบรูปที่ยับยู่ยี่อยู่ในหอพลาสติก เสียงของลู่หานที่อยู่ในโทรศัพท์แบคฮยอนก็ดังขึ้นมา รูปภาพที่มาจากแผนของลู่หาน

     

              ...พี่คงจะทะเลาะกับคนโมโหร้ายอย่างชานยอลแล้วพลั้งมือทำร้ายเขาสินะครับ...

     

                “ส่วนที่ห้องพักคุณจงอินทุกคนมีรอยนิ้วมือของคุณแบคฮยอนเช่นกัน แต่ผู้ชายตัวเล็กๆ เพียงคนเดียวไม่น่าฆ่าคนทีเดียวได้มากถึงสี่คน จากลักษณะการตายของแต่ละคนแล้วเราคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจนเกิดเรื่องไม่คาดคิดเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามทางกองพิสูจน์หลักฐานจะตรวจสอบอย่างละเอียดให้แน่ชัดอีกทีครับ”

                “ครับ”

                “เอ่อ...และโทรศัพท์มือถือที่ตกอยู่แถวๆ นั้นในห้องคุณจงอิน เราตวรจเช็คแล้วพบคลิปวิดีโอของคุณแบคฮยอนกับคุณชานยอลกำลังร่วมเพศกันอยู่ แต่ดูเหมือนคุณแบคฮยอนจะไม่เต็มใจเท่าไร...ผมคิดว่าอาจจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณแบคฮยอนตัดสินใจลงมือฆ่าคุณชานยอลก็ได้ ส่วนคุณจงอินมีคลิปได้อย่างไร นั่นเป็นสิ่งที่น่าคิด พวกเราจะหาคำตอบอีกครั้งครับ”

                “!!!” เซฮุนนิ่งอึ้งเมื่อได้ยินคำพูดจากตำรวจ เขาไม่คิดว่าเบคฮยอนจะต้องผ่านเรื่องราวร้ายๆ มากมายขนาดนี้ เขารู้ดีว่าชานยอลเป็นคนอารมณ์ร้อนและแบคฮยอนก็ยอมชานยอลทุกอย่าง แค่คิดว่าคนตัวเล็กๆ จิตใจอ่อนโยนอย่างแบคฮยอนจะต้องเจอเรื่องราวร้ายๆ แบบนี้เซฮุนก็สงสารจับใจ

     

              ...เขาไม่นึกรังเกียจคนที่เขารักเลยสักนิด...

     

                “...เนื่องจากคุณแบคฮยอนวันนี้ไม่ยอมให้การใดๆ เลย ประกอบกับท่าทางนิ่งๆ และเหม่อลอยตลอดเวลาทางเราสงสัยว่าคุณแบคฮยอนมีอาการทางจิต จิตแพทย์ที่เราเรียกมาลงความเห็นว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูง แต่เราจำเป็นต้องขอทราบจากคนใกล้ชิดเพื่อให้แน่ชัดต่อรูปคดีว่าคุณแบคฮยอนป่วยทางจิตจริงๆ หรือไม่ แล้วเขาป่วยมาก่อนหน้านี้หรือว่าแค่ช็อคจากเรื่องไฟไหม้แล้วถึงป่วย...”

                “...”

                “คุณเซฮุนได้โปรดตอบมาตามความจริงเถอะนะครับ...”

     

     

     

                “เซฮุน...” ร่างบางที่นั่งรออยู่ด้านนอกจ้องตากับเซฮุนด้วยสายตาที่หวาดกลัว อยากจะเข้าไปกอด อยากจะเข้าไปหาความอบอุ่น

     

              แต่กลัวเหลือเกิน...

              กลัวเซฮุนจะเกลียด...

              กลัวเซฮุนจะทิ้งกันไป...

             

              เขาไม่กล้าเข้าใกล้เซฮุนเลย...

     

                “อยากกอดผมไหม? ไม่ต้องกลัวนะ ผมรักพี่เหมือนเดิม...” สิ้นประโยคแบคฮยอนก็ถลาตัวเข้าสู่อ้อมกอดที่โหยหามานาน แบคฮยอนกอดรัดเซฮุนแน่นราวกับว่าไม่อยากแบ่งปันให้ใคร มือหนาส่งมาลูบผมนุ่มอย่างเบามือ มอบความอบอุ่นให้อย่างที่เคยทำมาก่อน

                “เซฮุน...ฮึก...”

                “ไม่ต้องร้อง ไม่ต้องกลัวนะครับ...มันจบแล้ว...”

                “ฮึก...ซะ เซฮุน...” แบคฮยอนซะอื้นไห้เรียกชื่อเซฮุนซ้ำไปซ้ำมา นอกเหนือจากคำว่า ผมไม่ได้ทำ แล้วก็คงเป็นชื่อของ เซฮุน นั่นแหละที่ตำรวจทุกนายได้ยิน แต่สำหรับเซฮุน...เขารู้ดีว่าแบคฮยอนพูดได้มากกว่านั้น เพียงแต่คนรักของเขาเลือกที่จะพูดกับเขาเพียงแค่คนเดียว...

                “ไปอยู่กับผมนะที่รัก...ให้ผมได้เป็นคนดูแลพี่ตลอดไปนะ...”

                “...ฮึก...”

                “ผมจะไม่ทิ้งพี่ไปไหนอีกแล้ว...คนดีของผม” มอบจุมพิตที่แสนอ่อนโยนลงบนกลุ่มผมหอมของคนตัวเล็ก โอบกอดด้วยความรักเต็มเปี่ยมที่ไม่เคยจางหายไปแม้แต่น้อย ตระกองกอดพาคนรักเดินไปขึ้นรถอย่างห่วงใย ขับรถยนต์คันหรูพาแบคฮยอนกลับไปยังคอนโดของตน ง

                เซฮุนเจอคยองซูยืนอยู่หน้าห้องจึงตัดสินใจฝากฝังคยองซูให้ดูแลแบคฮยอนไว้ครู่หนึ่ง เขาไม่รู้ว่าแบคฮยอนกับคยองซูสนิทกันมากแค่ไหน เซฮุนรู้แค่ว่าเขาต้องเข้ามาเก็บของที่จำเป็นของแบคฮยอนออกมาจากคอนโดที่แบคฮยอนเป็นเจ้าของร่วมกับชานยอล...แล้วพาคนตัวเล็กไปสร้างชีวิตใหม่ให้ไกลจากเกาหลีเสียที...

     

     

     

              “คุณเซฮุนได้โปรดตอบมาตามความจริงเถอะนะครับ...”

              .

              .

              .

              .

              “ครับ...พี่แบคฮยอนป่วยมาก่อนที่จะเกิดเรื่องพวกนี้นานแล้วครับ...”

     

    The end.

     

    ---------------------------------------------------------------------------------

    หมาน้อยขอเห่า! : ทำไมเซฮุนตอบตำรวจแบบนั้นล่ะ? ใช่เหรอ?

    ตอนจบ 17 หน้าโอเคไหมครับ? นั่งเขียนวันนี้ตั้งแต่เที่ยงเลยนะ เขียนเสร็จสามทุ่มพอดี ฮา~

    มีอุปสรรคที่เขียนไปกินน้ำไป แล้วก็เข้าห้องน้ำทุกๆ ชั่วโมงเพราะว่าป่วยนั่นเอง

    หลังจากที่วันที่ 3 วันเกิดของตัวเองแล้วงานยุ่งมาก หักโหมเขียนฟิคไป 4 หน้าแล้วน็อค

    ผลก็คือวันที่ 4 ป่วยกลับมาบ้านนอนซม วันที่ 5 นี้ก็ดีขึ้นมาหน่อย

    ระหว่างแปลงไฟล์งานที่ต้องตัดต่อส่งอ.วันศุกร์ก็เลยลุกขึ้นมานั่งปั่นฟิคซะเลย

     

    Cruel จบแล้วนะคะ แต่ยังมีบทส่งท้ายของตัวละครแต่คนอยู่

    มันคือตอนพิเศษนั่นแหละ แล้วก็มีตอนพิเศษอีก 2 ตอนที่เคยแจ้งไว้

    แล้วก็คิดว่าจะเขียนเรื่องราวของคยองเข้าไปด้วยอีกหน่อย

    เรื่องรวมเล่มน่าจะพร้อมลงอีก 1-3 วันนี้นะคะ งานเยอะมากรู้สึกเหมือนร่างกายจะพัง

    โรงพิมพ์จะเก็บเงินค่าเตรียมพิมพ์เพิ่งอีก 500 บาทถ้าไม่ถึง 20 เล่ม

    ถ้าไม่ถึง 10 เล่มคงไม่ได้รวมเล่มแหละ เพราะหมาน้อยสู้ไม่ไหว

     

    ตอนพิเศษจะลงในเว็บส่วนเรื่องของคยองขอลงแค่ในหนังสือนะคะ

    เพราะมีไม่เยอะน่าจะ 3-5 หน้า A4 (หรือเปล่า?) ก็เลยขอไม่ลงได้ไหม? จะโดนด่าหรือเปล่า?

     

    ขอคอมเม้นท์ทิ้งท้ายได้ไหมคะ ไหนๆ ฟิคก็จบแล้ว อยากทราบความรู้สึกของคนอ่านจริงๆค่ะ

    *กราบ*

     

    #ficcruel

     

    G Minor!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×