ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กามเทพ สั่งรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 530
      1
      5 พ.ย. 54

    กามเทพสั่งรัก

    โดย...ณิชภัคร

    บทนำ

            “นี่นามบัตรคุณใช่มั้ย?”

            หนุ่มแว่นหน้าขรึมเงยหน้าจากรถยนต์โฟลวิลคันหรูที่จดๆจ้องๆอยู่นาน

    รถที่การัณย์เพื่อนหนุ่มนักธุรกิจของเขาบอกว่าสมรรถนะคุ้มค่ากับราคาชวนบ้าเลือดของมัน หากเขาจะยอมจ่าย

    แต่ก็จนแล้วจนรอด กว่าจะหาเวลามาเยี่ยมชมได้ ก็เป็นนาทีสุดท้ายและวันสุดท้ายของงานมอเตอร์โชว์ ค่ายรถต่างๆเริ่มจะเคลียร์พื้นที่เก็บข้าวของเตรียมตัวปิดบูทกันแล้ว แถมคนแนะนำเป็นดิบดีอย่างการัณย์ก็ดันติดดินเนอร์กับว่าที่พ่อตาแม่ยาย และเพิ่งโทรศัพท์มาบอกเมื่อครู่นี้เองว่า มาเป็นเพื่อนเขาไม่ได้ เปรม ปรัชญานันท์จึงจำต้องเดินดุ่มๆเข้ามาดูรถหรูราคาแพงเพียงลำพัง

    สาวสวยในชุดแซกรัดรูปสีดำสลับทองอวดหุ่นสุดเซ็กซี่ตรงหน้า คือพริตตี้ของรถแบรนด์หรูนี้

    เรือนร่างสวยไม่มีที่ติท่ามกลางแสงไฟสว่างชัดกระจ่างตาตรงหน้าทำเอาเลือดกำเดาเขาแทบพุ่งกระฉูด ทั้งที่เขาไม่ใช่ผู้ชายหื่นเสียหน่อย แต่ความงามของเธอ...บอกได้คำเดียวเท่านั้นว่า นางฟ้าชัดๆ

    ดวงตากลมโตสุกสกาวเหมือนดาวเหนือในคืนเดือนแรมส่งประกายวับๆจับจ้องที่ใบหน้าเขา ทำเอาเปรมถึงกับพูดอะไรไม่ออก จนเผลอจ้องหน้าเธออยู่นานอย่างตกตะลึง

    เธอจ้องเขาตาวับๆประหลาดใจ คาดไม่ถึงเช่นกัน ไม่คิดว่าคนยื่นข้อเสนอน่ากระอักกระอ่วนให้ จะยังหนุ่มฟ้อขนาดนี้ คิดว่าจะมีแต่ป๋าแก่ๆเสียอีกที่ชอบเลี้ยงอีหนู และดวงตาที่ล้นความหื่นชัดเจน ก็ทำเอา หวานตายิ่งเลือดขึ้นหน้าเป็นเท่า จึงถลึงตาเข้าใส่ กลีบปากอิ่มเม้มแน่นอย่างข่มอารมณ์

    ขณะที่คนอื่นๆกำลังชุลมุนอยู่กับการเช็กสินค้า เก็บข้าวของอุปกรณ์ต่างๆเพื่อเคลียร์บูท ไม่มีใครมาสนใจเธอและเขา อย่างนี้ใครเล่าจะปกป้องเธอได้ นอกจากตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้น

    แม้จะชาชินกับการถูกจ้องมองจากสายตาของผู้ชายหลายร้อยคู่ ด้วยอาชีพ พริตตี้ของเธอนั้น นอกจากต้องพรีเซ้นต์สินค้าที่ขายแล้ว ยังต้องพรีเซ้นต์ความสวยและเซ็กซี่ของตัวเอง เพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคือผู้ชายเป็นส่วนใหญ่

    แต่เชื่อสิว่า...เธอยินดีนำเสนอความสวยและเซ็กซี่ของรูปร่างหน้าตาเพียงแค่เป็นอาหารตาให้พวกเขาแทะโลมเท่านั้น แต่ไม่เคยคิดจะก้าวกระโดดข้ามทางลัดโดยการขายบริการลักษณะอื่นที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีตัวเองเด็ดขาด

    แต่แววตาตื่นๆเจือหื่นนิดๆของผู้ชายตรงหน้า กลับทำให้เธอรู้สึกวูบวาบอย่างประหลาด

    “ว่าไงคะ...นี่นามบัตรของคุณใช่รึเปล่า?”

    “อ๋อ...อ่า...เอ่อ...เอ่อ...” เปรมเกิดติดอ่างขึ้นมากะทันหัน ความสวยของผู้หญิงตรงหน้า ทำเอาทนายปากกล้าอย่างเขาถึงกับพูดจาติดขัดไม่คล่องแคล่วเช่นเวลาว่าความหรือท่องข้อกฏหมายที่เคยโดนเพื่อนๆกระเซ้าว่าราวกับพหูสูตร

    ดวงตาคู่กลมโตสวยซึ้งนั่นดึงความเป็นตัวของตัวเองของเขาจนลดฮวบ ทำได้เพียงยิ้มขัดเขิน

    “เอ่อ...ครับ”

    “เผียะ” สิ้นคำตอบ เสียงตวัดฝ่ามือเข้าที่ข้างแก้มช่างดังฟังชัดถนัดถนี่นัก

    ใบหน้าคร้ามหันไปตามแรงส่งที่ไม่ออมแรงแม้แต่นิดเดียว ก่อนจะหันกลับมามองเธอช้าๆอย่างงุนงง

    “งานของฉันคือพริตตี้...ขายสินค้า...ไม่ได้ขายตัว...” คนพูดหายใจหอบแรงด้วยความโมโห “ฉันเสียใจแทนแม่ของคุณจริงๆ ที่มีลูกชายดูถูกเพศแม่ของตัวเองอย่างนี้” เสียงแหวแว๊ดเข้าใส่นั่นไม่เบาเลย

    ดวงตาหลังแว่นเลนส์ใสกะพริบปริบๆ อย่างงุนงงกับคำพูดของเธอ พร้อมทั้งแววตาคู่สวยที่ตอนนี้ฉายแววดุดันเคียดแค้นชิงชังโดยที่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ถูกจ้องมองอย่างนั้น

    ทรวงอกในชุดรัดรูปจนเห็นร่องอกกระเพื่อมขึ้นลงถี่ๆ เมื่อต้องระงับอารมณ์คุกรุ่นของตัวเองไว้เป็นสามารถ

    “และถ้าคุณมีเงินเหลือกินเหลือใช้นักล่ะก็ เอาไปทำบุญเลี้ยงเด็กกำพร้าบ้างนะ เผื่อจะได้บุญ และช่วยยกระดับจิตใจกับสมองให้คิดอะไรสูงกว่าสะดือ” หล่อนว่าพร้อมกับขว้างกระดาษแผ่นเล็กในมือใส่เขา แล้วสะบัดหน้าพรืดเดินกระแทกเท้าจากไปด้วยใบหน้าก่ำแดงอย่างโมโห ในขณะที่เปรมยังกะพริบตาปริบๆอยู่เช่นเดิม เหมือนยังไม่ตื่นจากฝัน

    ก็จู่ๆ ถูกสาวสวยที่ปิ๊งตั้งแต่แรกเห็น ตบเข้าเต็มฉาด แถมยังด่าเป็นสลุตไม่หยุดหายใจ เป็นใครจะไม่อึ้ง เหตุผลก็ไม่บอกซักคำว่าทำไมเขาจึงสมควรได้รับโทษทัณฑ์เช่นนี้

    คนมีตาชั่งเป็นเครื่องหมายนำหน้าวิชาชีพและดำเนินชีวิต ไม่เคยยอมปล่อยให้ใครละเมิดสิทธิ์ได้ง่ายๆ ตอนนี้ทำได้เพียงยืนลูบข้างแก้มชาของตัวเองเบาๆอย่างงุนงงสงสัยไม่หาย และไม่คิดจะตามไปเอาเรื่องแม่สาวก้นสวยที่สะบัดก้นงอนๆนั่นหนีทันทีที่ด่าเขาเสร็จ ราวกับต้องการทะนุถนอมรอยสัมผัสนี้ไว้ให้เนิ่นนาน

     

    ร่างสวยที่ปึงปังกลับมาปะหน้ากับคนที่นำนามบัตรมาให้

    “เห็นมั้ยปูเป้ ไอ้ผู้ชายหื่นกามความคิดชั่วอย่างนั้น มันต้องเจอของจริง” ท่อนแขนเรียวชี้นิ้วสวยดั่งลำเทียนไปหน้าบูท

    “โดนตบสั่งสอนไปที ด่าพอให้หูชา...ก็ไม่กล้าหือแล้ว สมน้ำหน้า ทีหลังจะได้จำไว้ ไม่กล้ามาดูถูกเพศแม่อีก” คนว่ายังหายใจหอบแรงด้วยอารมณ์โกรธไม่หาย...เพราะหวานตาเกลียดนักกับผู้ชายที่ดูถูก เอารัดเอาเปรียบ หรือทำร้ายผู้หญิง ด้วยปมหลังฝังใจจากครอบครัวบ้านแตกแยกเพราะพ่อขี้เมา ทำร้ายแม่ จนหนีทิ้งเธอไป

    ปู้เป้พนักงานขายทำหน้าเลิ่กลั่ก มองไปที่หน้าบูท

    “พี่หวานพูดถึงใครคะ?”

    “ก็ไอ้คนที่มันเอานามบัตรฝากปูเป้มาให้พี่ไง...หนอย...อยากอุปถัมภ์ทุนการศึกษาและค่าอาหารกลางวัน แต่จะมากินกันตอนกลางคืน เห็นผู้หญิงเป็นที่ตอบสนองอารมณ์หื่น ไอ้ผู้ชายพวกนี้มันน่าแช่งให้เสื่อมสมรรถภาพเสียให้หมด”

    คนฟังการสนทนาแต่ข้างเดียวยิ้มแหยๆ “ไม่ใช่คนนั้นค่ะพี่หวาน...อีตาเสี่ยอ้วนนั่นปูเป้ตอกหน้าหงายกลับไปตั้งนานแล้ว ที่เอานามบัตรไปให้พี่หวานเมื่อกี้ แค่อยากให้ขำๆ เพราะเห็นนั่งหน้าเครียดอยู่” ปูเป้เฉลยเสียงอ่อย

    “อะไรนะ?” เสียงอุทานจากกลีบปากอิ่มนั่นไม่เบาเลยทีเดียว

    ก็ใครจะไปรู้ จู่ๆปูเป้ก็เอานามบัตรใบนั้นมายื่นให้เธอ พร้อมกับพูดขำๆว่า ลูกค้าสนใจซื้อรถแถมตุ๊กตาหน้ารถด้วย เลยฝากนามบัตรใบนี้มาให้พี่หวาน บอกสนใจอุปถัมภ์ทุนการศึกษาและค่าอาหารกลางวัน แต่จะมากินตอนกลางคืนเสร็จแล้วยัยปูเป้ก็หัวเราะคิกคักจากไป ใครจะคิดว่านั่นแค่หยอกเล่นๆ เพราะเธอดันหน้ามืดเลือดขึ้นหน้าตามไปเอาเรื่อง...และดันเอาเรื่องผิดคนเสียด้วย

    โอ๊ย! ใครจะไปรู้ล่ะ...แล้วอีตาซื่อบื้อนั่น ดันยอมรับตัวเองเป็นเจ้าของนามบัตรทำไมกัน

    “แค่ล้อเล่นเหรอปูเป้”

    คนถูกถามพยักหน้าจ๋อยๆ หวานตาเบิกตาโตแทบเป็นลม

    “ตายล่ะชั๊น...หมอนั่นยังยืนอยู่หน้าบูทอยู่มั้ย?”

    ปูเป้ชะโงกหน้าไปดูให้ ก่อนจะพยักหน้าอ่อยๆ “ยังยืนอยู่ค่ะ...อ้าว เอ๊ะ...กำลังจะเดินออกไปแล้วค่ะ” น้ำเสียงตื่นเต้นรีบบอก หวังว่าหวานตาจะรีบไปแก้ความเข้าใจผิดและขอโทษเขาเสีย

    แต่จำเลยอย่างหวานตากำลังกลืนน้ำลายแก้คอฝืดอย่างยากลำบาก หน้าเสียทีเดียว

    “พี่หวานไม่ตามไปขอโทษเขาเหรอคะ?” ปูเป้ถามร้อนรน เมื่อคนตรงหน้ายังยืนนิ่งเป็นรูปปั้น

    ดวงตาคู่สวยกลอกไปมา ตอบเสียงอ่อย “พี่ไม่รู้จะพูดยังไง...ทำหน้าไม่ถูกหรอก...เขาไม่เอาเรื่องก็ดีแล้วล่ะ” แอบถอนใจโล่งอกที่เขาไม่คิดจะตามมาเอาเรื่องเธอ ไม่อย่างนั้นมีหวังเจ้าของสินค้าอาจจะยกเลิกจ้างงานในครั้งต่อไป แถมยังถูกขึ้นแบล็กลิสต์ไปถึงโมเดลลิ่งด้วย

     “เขาคงจะงงน่าดูนะคะ จู่ๆโดนทั้งตบทั้งด่า อย่างนั้น”

    คนลงมือได้แต่ยิ้มแหย ทำตาปริบๆ พยายามเปลี่ยนยิ้มเจื่อนจืดนั่นให้กลายเป็นยิ้มใสซื่ออย่างคนไม่มีความผิดติดตัวแต่ก็ทำได้ยากเย็นนัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×