ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำสารภาพของฆาตกร ภาค3 (The Message)

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 12 ทาง 15%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 191
      1
      1 ส.ค. 56

    ตอนที่ 12 ทาง

    ถึงพี่สัม

          จดหมายฉบับบนี้คงบอกเรื่องราวหลายอย่างที่ผมอยากให้พี่ได้รู้ ผมเสียใจ คงไม่ใช่เวลาที่ผมจะพูดว่าผมไม่ได้ตั้งใจ เพราะผมตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ เพียงแต่ผมจะมีวิธีให้พี่สนใจในตัวผมก็คงจะดีกว่า หลายอย่างในชีวิตของคนเรา ไม่อาจเป็นได้ตามที่เราหวัง และการที่ผมอยากให้พี่สนใจผมก็คงเป็นหนึ่งในนั้น ถ้าเพียงแต่เราจะได้มีโอกาสทำความรู้จักกันก็คงจะดี ผมเหนื่อยเหลือเกินกับความพยายาม จะมีที่ไหนบ้างให้ผมได้พัก

          ด้วยความรัก

    จากคนที่อยู่ใกล้ตัวพี่

     

    “เขากำลังอยากตาย” นั้นคือสิ่งที่สะดุดใจหมอสัมจนต้องพูดออกมาเมื่ออ่านจดหมายจบ  ข้อความไม่กี่บรรทัดบ่งบอกความรู้สึกได้ยิ่งกว่าเสียงร้องไห้

    “ที่จริงผมก็ไม่อยากดูใจร้ายหรอกนะพี่หมอ แต่พูดตรงๆ ถ้าฆาตกรมันตายซะ คนอื่นๆ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะได้ไม่ต้องตายไงพี่”

    สมเจตอดไม่ไหวพูดในสิ่งที่เขารู้สึก สภาพศพที่ถูกทารุณกรรมของเมย์ยังคงหลอกหลอนในความรู้สึกของนักนิติหนุ่ม จนเขาอดคิดไม่ได้ว่าหากคืนนั้น เขาทำตามที่หญิงสาวต้องการ แค่สละเวลากับร่างกายของเขาหนึ่งคืน กับคนแปลกหน้า ตอนนี้เธอก็คงจะยังมีลมหายใจอยู่

    “อย่าโทษตัวเองเลยจุ๊ย จะโทษก็โทษชั้นดีกว่า” เพราะตอนนี้สัมมมาโทษตัวเองเต็มๆ ที่ทำให้ชีวิตคนคนหนึ่งต้องเสียไป “แต่ต่อให้ใครทำผิดขนาดไหน ในฐานะมนุษย์คนนึงฉันก็ไม่อยากเห็นใครตายเหมือนกัน”

    คนที่ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยอย่างสมเจตต้องเบือนหน้าที่แสดงความไม่พอใจไปทางอื่น เขาไม่อาจทำแบบเดียวกับสัมมาได้ เพราะทุกวันเขายังสงสัยเสมอว่าจะมีทางไหมที่เขาจะหยุดการตายของหญิงสาวที่เขาเคยรักได้ และเขาก็คิดว่ารุ่นพี่ก็ต้องคิดแบบนี้นับพันนับหมื่นครั้งเช่นกัน นับตั้งแต่เห็นร่างไร้วิญญาณของกรรณิการ์

    “แล้วมันจะหยุดฆ่าคนอื่นหรือเปล่าวะ” หมวดชาญที่เข้ามาสังเกตการณ์พร้อมด้วยผู้กองธนูถามด้วยความสงสัย ประกอบกับอยากเปลี่ยนเรื่อง แต่แวบนึงเขาอดที่จะนึกแปลกใจไม่ได้ว่าคนในกลุ่มของเขาดูจะโชคร้ายเหลือเกินเรื่องผู้หญิง แล้วเขาก็นึกถึงธัญญ์ชยา เรื่องโชคดีในชีวิตของเขาขึ้นมาได้

    “ที่แกทำหน้าดีใจแบบนั้นไม่ใช้เรื่องฆาตกรแหงๆ เลยใช่ไหมวะไอ้หมวด” สัมมาสังเกตได้ถูกต้อง แต่ชาญเดชไม่ยอมรับแน่นอนในบรรยากาศตึงเครียดแบบนี้ แต่สัมมาก็ไม่ได้ใส่ใจนักเมื่อมีเรื่องสำคัญให้คิด

    “ฆาตกรกำลังช๊อค อาจจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกสะเทือนใจ ดังนั้นช่วงนี้เขาอาจจะหยุดฆ่าคนไปสักพัก ฉันจะพยายามตอบเมล์เขาตลอด มันจะทำให้เขามีอะไรบางอย่างยึดเหนี่ยว”

    “คุณหมอไม่ต้องการให้เขาฆ่าตัวตายใช่ไหมครับ” ยากที่ความรู้สึกของหมอจะพ้นสายตาคนช่างสังเกตอย่างผู้กองธนูไปได้ และเขาก็รู้สึกว่าหมอสัมกำลังแคร์คนที่กำลังทำผิด ด้วยการเปลี่ยนสรรพนามจาก มัน เป็น เขา

    ดูเหมือนว่าสำหรับสัมมาความพยายามที่จะทำให้เป็นที่สนใจของนักฆ่าคนนี้กำลังเห็นผล เพียงแต่วิธีที่เขาใช้มันช่างโหดร้ายกับคนที่เป็นเหยื่อ สามหนุ่มที่เหลือต่างมองหมอหนุ่มด้วยแววตาสงสัย แม้แต่ชาญที่เข้าใจเพื่อนคนนี้มาตลอดก็อดที่จะประหลาดใจไม่ได้ ที่สัมมาเอาความรู้สึกของตนเองไปผูกพันกับฆาตกรโรคจิตที่พร้อมจะฆ่าเจ้าตัวอยู่ตลอดเวลา

    “คนเราทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขไม่ใช่หรือครับ” คำตอบของสัมมาอาจจะดีพอ แต่มันไม่พอสำหรับผู้รักษากฎหมายอย่างชาญเดช

    “ใช่ แต่มันก็ต้องไม่ละเมิดสิทธิของคนอื่นเช่นกัน” แล้วการช่วงชิงชีวิตก็นับเป็นการละเมิดสิทธิที่ร้ายแรงที่สุดในสายตาของร้อยโทหนุ่ม

    “ฉันก็ไม่คิดว่าเขาทำถูก การกระทำของเขามันผิดเห็นๆ” สัมมาสบตาเพื่อน เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกที่เขามีต่อฆาตกร “คนเราทุกคนก็อยากจะรักและเป็นที่รัก แต่เราเลือกที่จะรักใครหรือถูกใครรักไม่ได้”

    “ในที่นี่ก็คือ เราเลือกที่จะให้ใครรักเราไม่ได้เหมือนกันใช่ไหม”

    สัมมาไม่ตอบรับแต่เขารู้ว่าชาญเดชเข้าใจ เพื่อนของเขาใช้เวลาสองปีในการอยู่กับหัวใจที่โดดเดี่ยว ก่อนจะมีใครบางคนมาเติมเต็มหัวใจ ส่วนเขาถูกพรากครึ่งหนึ่งของชีวิตไป และไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเช่นเดิมได้อีกแล้ว ดังนั้นทั้งคู่ย่อมรู้ดีถึงสิ่งที่คนเราไม่มีสิทธิเลือก แม้จะเกลียดสิ่งที่คนเหงาคนหนึ่งเลือกที่จะทำเพื่อระบายความเศร้า แต่หัวใจลึกๆ ของเขาก็อดที่จะยอมรับการกระทำนั้นไม่ได้

    “แต่ผมว่าการทำแบบนี้มันผิดเห็นๆ นะพี่หมอ” สมเจตอดปากเอาไว้ไม่ได้จริงๆ

    “ฉันก็ไม่ได้บอกว่าถูกสักคำ แล้วฉันก็จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยไอ้หมวดกับผู้กองจับคนทำมารับโทษให้ได้”

    หมอสัมบอกพร้อมกับสบตาหนุ่มรุ่นน้องที่ยังคงยึดถือความสูญเสียของตัวเองเป็นอารมณ์เช่นเดียวกับเขา เพียงแต่เขาอยู่สามารถมองผ่านไปความเศร้า ไปยังจุดที่รู้และเข้าใจในอารมณ์ของคนกระทำผิด ซึ่งมันอาจจะเป็นเพราะฝ่ายนั้นพุ่งเป้ามาที่เขาโดยตรงก็ได้  ซึ่งเขาหวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นมากกว่าอีกทาง นั้นคือเขากำลังหวั่นไหวกับความรู้สึกของฆาตกร และมันช่างเป็นทางที่น่ากลัว สัมมาคิดว่าเขาเข้มแข็งพอที่จะไม่เฉไฉไปทางนั้น เพราะเส้นทางของคนมีให้เลือกหลากหลาย แต่บางคนเลือกที่จะเดินไปยังเส้นทางที่ผิดซ้ำๆ แม้จะอ้างได้ว่าหลงทาง หรือทำไปเพราะเหตุผลบางอย่าง แต่ผิดก็คือผิด และหนทางบางเส้นเมื่อไปแล้วก็ไม่อาจจะหวนคืน
    To be continue.

    ขอโทษที่ห่างหายไปนานนะคะ มีช่วงหนึ่งที่คิดว่าเขียนเบนออกไปจากความตั้งใจเดิมไกลมาก
    แต่เมื่อเดือนที่แล้วมานั่งทบทวนดูใหม่ พบว่ามันยังใช่อยู่ จึงรีไรท์บางส่วน แล้วก็ตั้งใจจะเขียนให้จบ
    ส่วนหนึ่งเนื่องมาจาก เล่มแรกกำลังจะวางแผง และได้รับเลือกเป็น Book of the month ด้วย
    http://www.dek-d.com/writer/index-bookofthemonth.php
    จึงอยากเขียนภาคนี้ให้จบสมบูรณ์ แต่ขอบอกก่อนว่าเนื้อหาที่ตั้งใจเอาไว้อาจจะไม่รุนแรง(หรือเปล่า)มากกว่าภาค2 แต่จะบีบหัวใจมากกว่าแน่นอน
    ครั้งนี้สัญญาจะลงเรื่อยๆ จนกว่าจะจบค่ะ ฝากอ่านและติชมด้วยนะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×