ลำดับตอนที่ #22
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : คนสำคัญของผม...ไม่มีทางหลุดมือไปได้หรอก(END)
ที่อิตาลี ณ ปราสาทวองโกเล่
“หายไป
?”
“ค่ะ
ฉันไม่พบศพ หรือแม้แต่ร่องรอยของเดวี่เลยค่ะ ท่านลุงโนโน่”
หญิงสาวชุดสีนวลกระโปรงยาวโค้งอย่างอ่อนน้อมต่อผู้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สูงสุดแห่งวองโกเล่พร้อมกับรายงานทุกเรื่องให้เขาได้ทราบ
ผ่านไปได้สัปดาห์กว่าแล้วที่เหตุการณ์การเผาฐานลับของเอสทราเนโอ้ ทุกๆคนในหน่วยเงาและสาขาย่อยอื่นๆได้แยกย้ายกันไปตามหาร่องรอยของอดีตหัวหน้าหน่วยเงา
มิฮาเอล ดี.เดวิลล่า
“คิดว่าเป็นไปได้มั้ยที่จะหนีออกจากกลุ่มโดยวางแผนไว้ก่อน
”ชายแก่เอ่ยถามแฝดคนน้องของคุนาซึเบาๆ
“ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นแหล่ะค่ะ
เพราะไม่ว่ายังไง
”
ไม่ว่ายังไง เดวี่ก็ไม่เคยสัตย์จริงแก่ใครทั้งนั้น
ที่ญี่ปุ่น เมืองนามิโมริ
“ยังหาไม่เจออีกหรอ
คุนาซึจังน่ะ”
เสียงของร่างเล็กขี้แหยพูดขึ้นเบาๆกับเด็กน้อยที่เดินบนกำแพงด้วยความกังวล สภาพก็มีแต่ผ้าพันแผลเต็มแขนและใบหน้าจนดูเกะกะสำหรับหลายๆคน
“ยัยนั่นเป็นไปได้ว่าจะหนี
แต่เพราะอะไร ฉันก็ไม่รู้”
“
งั้นหรอ”สึนะพึมพำ “ฉันไปเยี่ยมโคลมหน่อยดีกว่า
”
“ดีมาก
แบบนี้ค่อยสมควรเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียหน่อย”
ฉันไม่อยากเป็นเฟ้ย=_=!!
โกคุโย
“โคลม
”
“อ๊ะ
!บอสคะ หายดีแล้วหรอคะ?”เธอเดินเข้ามาถามเล็กน้อย
“ฉันน่ะหรอ
เหอะๆ ปวดตามแผลมากเลยล่ะ=__=”เขายืนยิ้มแห้งๆให้ “ว่าแต่เธอกับมุคุโร่ล่ะ
?”
“ท่านมุคุโร่
ดูเหมือนว่าเมื่อวานจะมีคนเอายาแก้พิษไปให้แล้วล่ะค่ะ แต่ก็ต้องคอยให้เลือดตลอดเวลา”โคลมทำสีหน้าเป็นกังวลต่อเรื่องที่ได้พูดไปเมื่อครู่ด้วยความเป็นห่วง
“ยาแก้พิษ
?นอกจากเอสทราเนโอ้แล้วทำไม”
โครม!!!
“เฮ้ย
!!!มีจดหมายมาแน่ะ ยัยบอดบ๊อง!!”เคนเดินเข้ามาพร้อมกับจิคุสะที่ถือซองจดหมายสีขาวโพลนไว้ในมือ จ่าหน้าซองถึงโคลมโดยตรงด้วยตัวเขียนภาษาอังกฤษ
หญิงสาวเรือนผมสีม่วงเข้มรับมันมาอ่านด้วยอาการงุนงง นอกจากท่านมุคุโร่ที่ติดต่อกันทางจิต พวกเคนและพวกบอสก็ไม่น่าจะมีใครรู้จักเธอแล้วนี่นา
?
To
Chrome Dokuro
คิดว่าคงจะแปลกใจกับลายมือของฉันนะ จ่าหน้าซองเป็นภาษาอังกฤษแบบนั้นกลัวโง่ๆแบบพวกเธอจะอ่านไม่ออก หึๆ
ช่างเถอะ
อาการของมุคุโร่ที่อยู่ในคุกน้ำจะเริ่มดีตามลำดับ ไม่ต้องไปกังวลกับหมอนั่นมากก็ได้นะ ยังไงๆคนบ้าแบบนั้นก็หนังเหนียวเป็นปกติอยู่แล้วล่ะ
เพียงแค่ขึ้นต้นจดหมายก็เหมือนกับถูกหลอกด่าไปหลายคำ=__= แต่ก็นับว่าเป็นข่าวที่ดีทำให้โคลมโล่งใจไปได้หลายเปราะอยู่เหมือนกัน ก่อนที่จะเริ่มอ่านจดหมายต่อ
ที่ปราสาทวองโกเล่รู้สึกว่าจะวุ่นวายเรื่องของคนหายอยู่นะ
หึๆ
อีกไม่นานก็คงจะได้เวลารับสมบัติที่สืบทอดกันมาในวองโกเล่แล้วด้วย
‘บาป’นั่นน่ะ เป็นเหมือนต้นเหตุที่ทำให้วองโกเล่ต้องรับแต่ความสาหัสมาตลอดชั่วอายุคน
เอาไว้เมื่อถึงเวลานั้น
ฉันจะไปปรากฏตัวดูความองอาจของพวกนายก็แล้วกันนะ
Mihael D.Kunazu
เพียงแค่ลายปากกาที่ท้ายจดหมายก็ทำให้สึนะอึ้งค้างไปเลย ส่วนรีบอร์นก็เดินไปขอจดหมายของโคลมมาอ่านดูให้แน่ใจ
“ลายมือน่ะของคุนาซึจริง
แต่ข้อความข้างในดูเหมือนจะเป็นคนละคนกันเลย”
“เอ๋
?”
“นายจำไม่ได้เรอะ
ปกติยัยปีศาจนั่นเรียกโคลมว่ายังไง”
เจ้าหนุ่มเตี้ยนิ่งคิดถึงคุนาซึด้วยความข้องใจ กว่าจะนึกได้ก็กินเวลาไปตั้ง3นาที
“อ๋อ! ‘นูน่า-จัง’สินะ!”
“นานมากกว่าจะนึกออกนะเจ้าห่วยสึนะ
”
ก็ตูไม่ใช่ญาติกับคุนาซึนี่หว่า
!!=A=!!!
“ยังไงซะ
เราก็รู้ว่าเจ้าหล่อนยังอยู่ แค่นั้นก็เหลือแหล่”
คุกน้ำ ในหุบเขาลับ
“ขอคุยด้วยแค่แปบเดียวก็พอ
”
มนุษย์ผ้าพันแผลคลุมทับด้วยเสื้อหนังสีดำขลับเดินเข้ามาที่ส่วนลึกของคุกนรก แท็งก์น้ำที่มืดมิดและมีแต่สายห้อยระโยงรยางค์เต็มร่างด้านในไปหมด
(คึหึหึ
ไม่นึกว่าจะยอมถ่อสังขารมาคุยกับคนป่วยในคุกน้ำนี่นะครับ)
“ที่ว่าถ่อสังขารนี่ด่าฉันแก่ทางอ้อมใช่มั้ย=_=**”เขากอดอกด้วยความเคือง
(แล้วแต่จะคิดนะครับ
ผมแค่พูดทักไปงั้นๆ
)อีกฝ่ายยังคงเอ่ยแกมหัวเราะไปเรื่อย (แล้ว
มีธุระอะไรหรอครับ?)
“พอจะจับสัมผัสของเด็กนั่นได้หรือเปล่า
”
(อืม~
)มุคุโร่ทำเสียงในลำคอราวกับกำลังคิดอยู่ (ถ้าเป็นร่างของเด็กคนนั้นก็หาเจออยู่นะครับ
แต่วิญญาณเหมือนกับเหลือเพียงเสี้ยวเดียว)
“อ่อ
เข้าใจล่ะ”วินดีเช่พยักหน้าก่อนที่จะทำท่าเดินออกไป
(คุณทำเหมือนรู้เลยนะ
วิญญาณของเด็กคนนั้นทำไมถึงเหลือเพียงแค่นั้นครับ?)
ประโยคคำถามนั้นทำให้อีกฝ่ายชะงักเท้าหันมามองอย่างงงๆ “หมายความว่ายังไง?”
(หมายความอย่างที่พูดนั่นแหล่ะครับ
)
“
.เดี๋ยวนายก็รู้
คำสาปของตระกูลมิฮาเอลน่ะ”พูดจบเขาก็เดินหนีออกไปแบบไม่คิดจะหันมาสนใจชายหนุ่มเรือนผมสีไพลินคนนี้อีก
คำสาปของตระกูลมิฮาเอล คึหึหึ
ความลับเยอะเป็นที่หนึ่งจริงๆนะครับ คุนาซึ
“สายธารกรรโชกไม่ไหลย้อนกลับ หากได้จับก็จักถลำลึกลงไป
ดั่งเปลวไฟที่เผาผลาญเจ้า”
เสียงทำนองเสนาะดังขึ้นอยู่เนื่องๆในที่แห่งหนึ่ง ร่างสีขาวซีดพันผ้าพันแผลที่แขนและใบหน้าซีกซ้าย
รอยยิ้มที่เรียวปากกระตุกยิ้มอย่างอารมณ์ดี เรือนผมสีแดงเพลิงไม่มีเจือปนยาวถึงกลางหลังและดวงเนตรสีม่วงข้างขวา หญิงสาวคนนี้กำลังนั่งอยู่บนเตียงสีขาวเอาแขนวางที่ขอบหน้าต่างมองออกไปข้างนอก
แกรก
ๆ
“แล้วเจ้าจะเข้าใจในไม่ช้า กับคำสาปแห่งตระกูลมิฮาเอลนี้
”
เสียงสาวหวานเข้มหัวเราะร่วนอย่างพออกพอใจ ใบหน้าเนียนขาวปิดซีกซ้ายหันมามองหุ่นไม้ข้างกายเล็กน้อยก่อนที่จะลุกลงจากเตียงคนป่วย
หวังว่าจะได้เจอกันในเร็วๆนี้นะ เดชิโม่
ฮึๆๆ
::ผ่านไปไม่นาน วันสืบทอดตำแหน่ง::
“ฮึๆๆ
หมดเวลาแล้วสำหรับวองโกเล่ ตั้งแต่นี้ไป ชิมอน
จะเป็นผู้นำเหล่ามาเฟียแทนพวกนายเอง”
“งั้นฉันก็ขอตัวผู้หญิงคนนี้ไปก็แล้วกัน ฮึๆๆ
”ชายหนุ่มแปลกหน้าใส่แว่นตาเผยอยิ้มพร้อมกับอุ้มร่างผอมบางของโคลมเดินออกไปกับพวกที่เรียกตนเองว่า ‘ชิมอน แฟมิลี่’
“นู นัน นอ มู เย ปอ ~มี จยอ”
เสียงอันแผ่วเบาร้องขึ้นเป็นทำนอง ดวงเนตรคู่คมจับจ้องมองไปยังกลุ่มคนที่กำลังเดินไปตามทางคดเคี้ยวเบื้องล่างโดยมีท่าทีที่ไม่ทุกข์ร้อนเท่าใดนัก
“แม่สาวน่ารักคนนั้น
เหมือนกันเลยนะ”
คนรักที่ไม่สามารถเสียไปได้ ของนายน่ะ
เดม่อน สเปด
“นายคิดว่าจะช่วยเธอคนสำคัญทันหรือเปล่า
?”
กึก
!
“ทันสิครับ
ไม่ว่าใคร ก็จะไม่มีวันได้ตัวเธอไปจากผมแน่นอน”เสียงทุ้มต่ำน่าสดับฟังดังอยู่เนื่องๆจากด้านหลัง เรือนผมสีไพลินเป็นสง่าถูกแสงแดดอ่อนตกกระทบเป็นเงาดูดี ใบหน้าคมเข้มและดวงตาสองสีดูเป็นเอกลักษณ์นั่น
“
ฮิ
ๆๆๆ
ฮ่าๆๆๆ”เธอคนนั้นหัวเราะร่วน “นายนี่อารมณ์ขันดีเป็นบ้าเลยนะ
”
“
?”อีกฝ่ายตีหน้างุนงง
“ถ้ายังว่างมาตอบคำถามฉันล่ะก็ ไปช่วยแม่นั่นให้ได้สิวะ
!”สายตาอาฆาตคมกริบสีม่วงเขม่นใส่ด้วยอารมณ์คุกรุ่นเกินกว่าจะเรียกได้ว่าธรรมดา “ถ้าขืนแกยังทำเหมือนเมื่อ400กว่าปีก่อนอีกล่ะก็
ฉันสาบานได้เลยว่าจะเอาเลือดนายมาล้างเท้าของฉัน
ผิวหนังของนายจะถูกถลกออกมาใช้ทำเป็นที่เช็ดเท้าของชิมอนให้”
ฟึ่บ
!
แล้วเธอก็หายไปเงียบๆ
โดยปล่อยคำขู่ทิ้งท้ายอีกฝ่ายเอาไว้เป็นของฝาก
มุคุโร่เผยอยิ้มที่ริมฝีปากเล็กน้อยพร้อมกับค่อยๆปล่อยให้ร่างกายหายไปตามสายลมที่พัดโบกผ่านร่างกายของเขาไป ทันทีที่ร่างสูงเหลือบไปเห็นวองโกเล่รุ่นที่10ลุกขึ้นมาอย่างสะบักสะบอมก็ถอนหายใจเฮือกยาว
คนๆนั้นไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ
ชนะผมได้ยังไงกันนะ
แล้วเมื่อ400กว่าปีก่อน
ที่ผู้หญิงคนนั้นพูดคืออะไรนะ
คึหึหึ
ผมคงต้องรีบช่วยโคลมก่อนแล้วค่อยมาจัดการเรื่องพวกนี้กระมัง
END
******************************
ฉับ!!!
ขออนุญาตตัดจบ เนื่องจากไม่มีเวลาอัพเท่าที่ควรแล้ว
(อันที่จริงว่างฮะ แต่อยากแต่งเรื่องใหม่ผสมกับนิยายมันผุดมาเรื่อยๆจนเขียนไม่ทัน ฮา)
สำหรับเรื่องต่อไปขอสาวเรื่องไปหารุ่นที่1 จีอ๊อตโต้ เดอร์ วองโกเล่ พรีโม่ เลยนะขอรับ!
(ติดคำว่าขอรับมาจากไหนฟะ??)
ของฝากฟิคเรื่องต่อๆไปด้วยนะคร้าบ~~>[]<~~!(ขอบคุณหลายๆท่านที่มาอ่านแล้ว‘เม้นต์’ นะครับ)
D.Kunazu<อัจฉริยะ_ซาดิสม์>
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น