คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : PART--> 3 (100%)
PART 3
เจ้าชายอสูรคนอันตรายหมายเลข 2
"หวัดดีฉันชื่อเซียมซีนะยินดีที่ได้รู้จัก ^___^"
"อื้มจ๊ะ ^_^**"
ยัยเด็กแว่นเอ่ยทักทายฉันด้วยรอยยิ้มกว้างเต็มใบหน้าทันทีที่ฉันหย่อนก้นงามๆลงนั่งเก้าอี้ตัวข้างๆเธอด้วยท่าทางหวั่นๆส่วนฉันได้แต่ยิ้มแหยๆให้เธอเป็นการทักทายตอบแค่นั้นเอง
"เธอชื่ออะไรหรอ -O-"
"ต้นหอม -..-"
"ว้าวชื่อน่ารักจังฉันเซียมซีนะ ^__^"
"อื้มรู้แล้วเธอพึ่งบอกฉันไปเมื่อกี้นี้เอง =O=^^"
"อ้าวหรอโทษทีนะแฮะๆ ^o^"
"นี่เธอไม่กลัวโดนมาร์คัสฆ่าเอาหรอที่มายุ่งกับฉันแบบนี้นะ"
ฉันถามเซียมซีออกไปด้วยสีหน้ายุ่งๆ เมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้เอาแต่จ้อถามฉันไม่หยุด อัธยาศัยดีเกินไปไหม?? เซียมซีที่กำลังหัวเราะแฮะๆให้ฉันถึงกับหยุดหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินคำถามของฉันที่ถามเธอด้วยความกังวลเพราะว่ากลัวเธอจะต้องมีปัญหากับมาร์คัสโทษฐานที่เข้ามายุ่งกับฉันคนที่ถูกเขาหมายหัวเอาไว้แบบนี้ แต่คำตอบที่ได้ทำเอาฉันถึงกับเหวอจนอ้าปากค้าง
"ไม่อ่ะมาร์คัสเขาไม่ทำอะไรฉันอยู่แล้วเพราะว่าเราสองคนนะเป็นญาติสนิทกัน เน๊อะมาร์คัส ^_______^"
"หุบปากแล้วอยู่เฉยๆไปเลยเซียมซีถ้าไม่อยากเจอดี -*-"
"อ่ะๆก็ได้ก็ได้ไม่ถามแล้วก็ได้ -O-"
“นี่ๆต้นหอมเธอย้ายมาจากไหนเหรอ แล้วโรงเรียนเก่าเธอเป็นยังไงบ้าง บลาๆๆ”
ให้ตายเถอะคำตอบนี้ของเซียมซีทำเอาฉันอยากเอาหัวเขกโต๊ะตายมันตรงนี้เลย ให้ตายเถอะคำตอบนี้ของเซียมซีทำเอาฉันอยากเอาหัวเขกโต๊ะตายมันตรงนี้เลย
พระเจ้าเกลียดฉันใช่ไหมค่ะ ถึงได้ทำแบบนี้ ส่งฉันมาอยู่กับยมทูตอย่างมาร์คัสยังไม่พอ ยังส่งญาติเขามานั่งอยู่ข้างๆฉันอีก นี่กะจะให้ชีวิตฉันมันดราม่าไปถึงไหน
ตลอดทั้งคาบเรียนเซียมซีเอาแต่ถามโน่นถามนี่ฉันไม่ยอมหยุดซักที ไม่รู้ว่าเธอไปอัดอั้นตันใจมาจากไหนยัยแว่นนี่ถึงได้คุยเก่งเป็นบ้าถามจ้อไม่ยอมหยุดเล่นเอาฉันถึงกับเหนื่อยตอบคำถามของเธอไปเลยทีเดียว ส่วนมาร์คัสที่นั่งอยู่ด้านหลังฉันนะเหรอ หมอนั่นก็เอาแต่จ้องมองเราสองคนที่กำลังคุยกันด้วยแววตาเย็นชาเล่นเอาฉันถึงกับขนลุกนั่งไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียวนะซิ ขนลุกเป็นบ้า
"นี่ต้นหอมเธอไปทำอะไรกับมาร์คัสไว้หรอหมอนั่นถึงได้หมายหัวไว้แบบนี้นะ -O-"
"อะอะเอ่อคือเรื่องนั้น"
ทันทีที่ถึงช่วงพักเที่ยงเมื่อเห็นว่ามาร์คัสเดินออกไปจากห้องเรียนตั้งแต่ชั่วโมงแรกของการเรียนแล้ว เซียมซีก็รีบจู่โจมถามฉันด้วยคำถามที่ทำให้ฉันอึ้งจนพูดอะไรไม่ถูก
"ว่าไงละเธอไปทำอะไรไว้หรอต้นหอมบอกหน่อยซิฉันอยากรู้"
"กะ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ฉะฉะฉันดันไปเจอเขากำลังมีเรื่องกับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งตรงหน้าโรงเรียนเมื่อเช้านี้ก็เท่านั้น"
"อื้มงั้นหรอกหรอเนี่ยมิน่าละ"
"ก็เพราะงี้ไงละเขาถึงได้หมายหัวฉันไว้แบบนี้"
“แต่ปกติเขาไม่เคยประกาศหมายหัวใครแบบนี้นะ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นเขาทำแบบนี้”
“ก็เพราะแบบนี้ไงละฉันถึงได้ซวยแบบนี้ไง”
"เอาน่าๆไม่ต้องทำหน้าแบกโลกแบบนั้นซิมันไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกน่าอย่าลืมซิว่าตอนนี้เธอเป็นเพื่อนฉันแล้วหมอนั่นไม่กล้าวุ่นวายกับเธอมากหรอกน่า”
เอ๋ เพื่อนเหรอ นี่ฉันไปเป็นเพื่อนกับเธอตอนไหนเนี่ย เราเพิ่งรู้จักแล้วก็คุยกันได้ไม่ถึงสองชั่วโมงเองนะ แล้วจู่ๆเธอก็มาบอกว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้ว อะไรของผู้หญิงคนนี้กันเนี่ย ฉันได้แต่มองหน้าเซียมซีด้วยท่าทางแบบงงๆ สรุปฉันไปตกลงเป็นเพื่อนกับเธอตอนไหน ใครก็ได้บอกฉันที
“เธอก็พูดได้ซิ ก็เธอเป็นญาติเขานี่นา ส่วนฉันนะ ดันเป็นเป้าที่โดนเขาหมายหัวไว้จะไม่ให้ฉันกลัวได้ไงละ”
“เถอะน่าอย่าไปเครียดเลย เอาเป็นว่าตอนนี้เราไปกินข้าวกันก่อนเถอะฉันหิวแล้ว"
"ตะแต่ว่าฉัน"
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดตอบตกลงหรือปฏิเสธอะไรออกไปก็โดนเธอลากแขนไปยังโรงอาหารท่ามกลางสายตาของเหล่านักเรียนในห้องที่กำลังมองมาที่ฉันกับเธอเป็นตาเดียวซะแล้ว แบบนี้ชีวิตฉันมันก็ยิ่งพินาศไปกว่าเดิมซะซิ
แต่ว่าอย่างน้อยการได้มากินข้าวเที่ยงกับเซียมซีก็ทำให้ฉันได้รู้อะไรหลายๆอย่างเหมือนกัน นั่นเพราะเธอจะคอยบอกรายละเอียดกับฉันว่าในโรงเรียนนี้เป็นยังไงกฎของที่นี่มีอะไรบ้าง และที่สำคัญคือรายละเอียดของมาร์คัส ผู้ชายหน้าหล่อแต่ดูลึกลับและน่ากลัวคนนั้น เซียมซีบอกกับฉันว่าเธอกับมาร์คัสเป็นญาติสนิทกันและบ้านของพวกเขาก็อยู่ใกล้ๆกันด้วยเพราะฉะนั้นเธอจึงไม่กลัวมาร์คัสซักเท่าไหร่และที่เธอเข้ามาตีสนิทกับฉันโดยไม่กลัวมาร์คัสนั้นนั่นก็เพราะเธอบอกว่าเธอรู้สึกถูกชะตากับฉันเป็นพิเศษและอีกอย่างก็คือด้วยเหตุที่ว่าฉันเป็นผู้หญิงคนแรกในโรงเรียนที่มาร์คัสหมายหัวด้วยตัวเองเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของที่นี่ตั้งแต่ที่มาร์คัสเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้เลยก็ว่าได้เลยยิ่งทำให้เธออยากรู้จักฉันมากขึ้น
"ก็อย่างที่เธอเห็นโรงเรียนนี้มีตัวอันตรายอยู่ทั้งหมดสองคนที่กุมอำนาจของโรงเรียนไว้ทั้งหมด นั่นคือคนแรก มาร์คัสผู้ชายที่พึ่งหมายหัวเธอไว้เมื่อเช้าและถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีเอามากๆก็ตาม แต่ว่าคนอย่างหมอนั่นดันมีจุดอ่อนแปลกๆตรงที่เขาแพ้แสงแดด ทุกครั้งที่โดนแดดแรงๆผิวเขาจะไหม้เป็นรอยแดง ดังนั้นเขาจึงต้องใส่เสื้อแขนยาวตลอดเวลาที่สำคัญเขามักจะปรากฏตัวมาพร้อมกับอีกาฝูงใหญ่อยู่เสมอ ทุกคนก็เลยขนานนามเขาว่า แวมไพร์ยังไงละ”
มาร์คัส เทพบุตรแวมไพร์ช่างเป็นชื่อที่เหมาะกับเขาอะไรแบบนี้ผู้ชายที่หน้าตาและนิสัยต่างกันอย่างสุดขั้ว!!! ฉันได้แต่บ่นชื่อมาร์คัสออกมาเบาๆในใจขณะที่กำลังฟังเซียมซีเล่าประวัติคร่าวๆเกี่ยวกับ ซานตามาเรีย โรงเรียนที่ฉันพึ่งย้ายเข้ามาแห่งนี้
"ส่วนตัวอันตรายอีกคนนั้นชื่อว่าไนนท์ฉันว่าเธอคงจะเคยเห็นหน้าเขามาแล้วละเพราะทั้งโรงเรียนนี้มีเพียงไนนท์คนเดียวเท่านั้นที่กล้าต่อกรกับมาร์คัส ไนนท์เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีรูปร่างแสนจะเพอร์เฟกส์ประดุจเจ้าชายในสายตาเหล่าสาวๆและถึงแม้จะมีหน้าตาที่หล่อโฮกก็เหอะนะแต่ว่านิสัยของเขากลับสวนทางกับหน้าตาอย่างสิ้นเชิงเพราะเขาร้ายซะยิ่งกว่าปีศาจซะอีกดังนั้นคนทั้งโรงเรียนจึงตั้งฉายาให้เขาว่า เจ้าชายอสูร ไนนท์ยังมีเพื่อนสนิทที่เป็นเสมือนมือขวาและมือซ้ายของเขาอีกสองคนชื่อมิวส์นิค และ เอลฟ์ และที่สำคัญเธอคงไม่อยากจะเชื่อแน่ๆว่าเมื่อก่อน ไนนท์กับมาร์คัสนะเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน"
“เพื่อนสนิท”
ฉันทวนคำพูดประโยคสุดท้ายของเซียมซีเสียงดังลั่นเพราะยังไม่เชื่อหูตัวเองว่า ไนนท์กับมาคัส สองคนที่ตีกันแทบเป็นแทบตายเมื่อเช้าจะเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน แล้วอะไรละ อะไรที่ทำให้เพื่อนสนิทสองคนที่รักกันมากอย่างพวกเขาผิดใจและกลายเป็นศัตรูกันได้ถึงขนาดนี้
“ใช่แล้วเพื่อนสนิท แต่ว่าเมื่อสองปีก่อน ตอนที่สองคนนั่นเริ่มอยู่เกรดสิบใหม่ๆ เหมือนจะมีเรื่องอะไรซักอย่างเกิดขึ้นแล้วเรื่องนั้นก็ทำให้ทั้งสองคนเกลียดและเข้าหน้ากันไม่ติดมาจนถึงทุกวันนี้”
ฉันได้แต่พยักหน้าฟังเซียมซีเล่าเรื่องเกี่ยวกับไนนท์และมาร์คัสด้วยสีหน้าแปลกใจและทำใจไปพร้อมๆกัน นี่ตกลงว่าฉันย้ายโรงเรียนมาถูกหรือผิดกันแน่นะ ทำไมมันถึงได้ซวยแบบนี้โดนตัวอันตรายของโรงเรียนหมายหัวไว้ทั้งสองคนเลยแบบนี้ แถมทั้งสองคนยังมีเบื้องหลังการแตกหักที่ดูลึกลับนั่นอีก แล้วแบบนี้ชีวิตแกจะมีความสุขไหมต้นหอม
ทันทีที่ฉันกับเซียมซีก้าวเท้าเข้าสู่โรงอาหารพวกเด็กนักเรียนที่อยู่ภายในโรงอาหาร แม่ค้า ภารโรง ไม้เว้นแม้แต่แม่บ้านต่างพากันหันมามองฉันกับเซียมซีเป็นตาเดียวนี่แสดงว่าข่าวเรื่องที่มาคัสหมายหัวฉันไว้ดังไปทั่วโรงเรียนแล้วหรอเนี่ยอะไรมันจะเร็วซะขนาดนี้
"เอาน่าต้นหอมเรื่องมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอกน่าไม่เห็นต้องทำหน้าอมทุกข์แบบนั้นเลย -O-"
เซียมซีหันมาพูดกับฉันด้วยท่าทางเป็นห่วงก่อนจะเอื้อมมือมาตบที่หลังฉันเบาๆเพื่อให้ฉันรู้สึกสบายใจมากขึ้นกว่าเดิม ขอบใจนะเซียมซี แต่ว่ามันไม่ได้ช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลย
"เธอก็พูดได้ซิเซียมซีก็เธอเป็นญาติของมาร์คัสนี่นา อีกอย่างเธอไม่ได้โดนเขาหมายหัวไว้แบบฉันนี่ถึงจะได้ไม่ต้องกลัว"
"มันก็ใช่เรื่องนั้นนะ แต่ว่าเธอรู้ไหมครั้งแรกที่ฉันได้ยินมาร์คัสตะโกนลั่นกลางห้องเรียนเรื่องเธอนะฉันถึงกับตกใจมากเลยรู้ไหม"
"แหงละไม่ตกใจซิแปลกขนาดมิสซิสแอนยังอึ้งเลย"
"ก็จะไม่ให้ฉันตกใจได้ไงนี่มันเป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้ยินมาร์คัสเขาหมายหัวผู้หญิงด้วยตัวเขาเองนะ"
"พูดแบบนี้จะให้ฉันขอบคุณหมอนั่นใช่ไหมที่เขายอมหมายหัวฉันด้วยตัวเองนะ"
"ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นซักหน่อยเธอก็ ดูซิทำหน้าจะเป็นจะตายอีกแล้วเนี่ยต้นหอม"
เซียมซีเอ็ดฉันเสียงดังทันทีที่เห็นว่าฉันยังคงมีสีหน้าอมทุกข์จะเป็นจะตายไม่หยุดก็แล้วเธอจะไม่ให้ฉันเป็นทุกข์ได้ไงเล่นโดนมาร์คัสหมายหัวไว้แบบนี้แถมยังโดนคนทั้งโรงเรียนเขม่นอีก
"เอาน่าๆมาคัสเขาไม่ทำอะไรรุนแรงอย่างที่เธอคิดหรอกต้นหอมหมอนั่นนะแมนพอเชื่อฉันซิ"
" *O* "
ฉันค่อยๆมีสีหน้าแช่มชื้นขึ้นมาบ้างเมื่อได้ยินคำพูดของเซียมซีเมื่อครู่แต่ว่าฉันก็รู้สึกสบายใจได้ไม่ถึงห้าวินาทีก็ต้องกลับมาทำหน้าแบกโลกไว้เหมือนเดิมอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดของเซียมซีที่พูดตามมา
" เอ๊ะหรือว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดรึเปล่าเนี่ย แต่ก็ช่างเหอะน่าอย่างน้อยก็แค่โดนหมอนั่นตามรังควาญกับลงไม้ลงมือนิดๆหน่อยๆแค่นั้นเองไม่เท่าไหร่หรอก -O-"
"ห่ะนี่เธอยังจะกล้าบอกให้ฉันสบายใจอยู่อีกหรอเซียมซีไอ้ที่เธอบอกฉันมานะมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลยนะ =O=*"
"เอาน่าแต่เธอก็ยังสบายใจได้เรื่องที่เธอจะไม่โดนเด็กคนอื่นในโรงเรียนแกล้งนี่นาเพราะคนพวกนั้นนะกลัวมาร์คัสจะตายไป -..-"
ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเซียมซีก่อนจะเดินก้มหน้าเข้าโรงอาหารเพื่อไปซื้อข้าวแต่ขณะที่ฉันกับเซียมซีกำลังเดินซื้อข้าวอยู่ในโรงอาหาร จู่ๆก็มีเด็กสาวท่าทางจัดจ้านสองคนเดินเข้ามาพูดกับฉันและเซียมซีด้วยท่าทางเหยียดๆ
"นี่เซียมซีเธอคิดยังไงถึงได้มากินข้าวกับยัยเอ๋อรองเท้าแตะที่โดนมาร์คัสหมายหัวไว้เนี่ย"
"นั่นซิหรือว่าเธอไม่กลัวมาร์คัสหรอเซียมซีที่มายุ่งกับเหยื่อของเขาแบบนี้แล้วดูยัยนี่แต่งตัวเข้าซิบ้านน้อกบ้านนอกใส่มาเรียนได้ยังไงกันเสื้อผ้าแบบนี้"
ฉันได้แต่มองทั้งสองคนที่กำลังจิกปากด่าฉันอย่างเมามันส์ด้วยสายตาอึ้งๆก่อนจะก้มมองสภาพการแต่งกายของตัวเองรวมทั้งรองเท้าที่ฉันใส่อยู่ด้วย แล้วคิดว่าฉันอยากใส่ชุดวอร์มกับรองเท้าแตะลายไอ้มดแดงนี่มาเรียนรึไง ถ้าไม่เพราะเสื้อผ้าชุดเดิมของฉันเปื้อผุ่นกับโคลนตอนที่หกล้มเมื่อเช้านี่ละก็ฉันคงไม่ใส่เสื้อผ้าชุดนี้มาแน่ๆ ได้แต่ก่นด่ายัยสองคนที่อยู่ตรงหน้าในใจอย่างไม่สบอารมณ์ขณะที่กำลังก้มลงมองดูรองเท้าตัวเองอีกครั้ง แล้วลายไอ้มดแดงแล้วมันมีปัญหานักรึไงเนี่ยไม่เข้าใจเลย
"ขอบคุณที่เป็นห่วงนะวิเวียน ครีโอแต่ฉันว่าไม่ต้องก็ได้เก็บความหวังดีของพวกเธอไว้เถอะ อ้อแล้วก็อย่างนะการที่ฉันจะไปไหนมาไหนกับใครไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นเหยื่อของมาร์คัสหรือไม่นะ มันก็เรื่องของฉันพวกเธอไม่ต้องมาเป็นห่วงฉันก็ได้ และที่สำคัญคือถ้าคิดจะจับเขาละก็หัดใช้ความสามารถของตัวเองหน่อยแล้วก็ไม่ต้องมาลากเอาฉันเข้าไปเกี่ยวด้วยมันวุ่นวายเข้าใจไหม"
"O{}O"--->ครีโอ
"O[]O"--->วิเวียน
"O_O!!!"-->ฉัน
ฉันได้แต่มองหน้าเซียมซีแบบอึ้งๆเพราะคำพูดของเธอส่วนวิเวียนกับครีโอสองสาวคู่หูก็ได้แต่ทำหน้าเหวอด้วยความตกใจไม่แพ้กันก่อนจะรีบเดิน(อันที่จริงน่าจะเรียกว่าวิ่งซะมากกว่าเพราะมันเร็วมาก)ออกไปจากโรงอาหารด้วยความเร็วอย่างอับอายและเสียหน้า เซียมซีนี่สุดยอดไปเลยฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กแว่นท่าทางใสๆอย่างเธอจะพูดจาได้เจ็บแสบขนาดนี้ คนเราเนี่ยมองกันแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆด้วยเห็นทีฉันต้องเปลี่ยนทัศนคติในการมองคนใหม่ซะแล้วซิเนี่ย -_-^^^
ความคิดเห็น