ตอนที่ 9 : บทที่ ๖ สายสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาด (ฉบับร่าง 100%)
A/N 100% ใครเป็นแม่ยกนู๋เทียนอ๋าวมีเฮ ค่ะ :P
บทที่ ๖
สายสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาด
เจ้าคือนางพญาบุปผา
เสียงอ่อนเยาว์ทว่าทรงอำนาจเด็ดขาดเอ่ย เย่วเทียนหมิงพาร่างเล็กๆมาหยุดยืนตรงหน้าขบวนของภูติบุปผาแห่งความมืด กิเลนจันทร์แห่งหยินหยิบยื่นโบตั๋นดอกน้อยให้แก่เติงหลงฮวา นางภูติราตรีคุกเข่าถวายบังคมใบหน้าเปื้อนยิ้ม นางชายตาเยาะเย้ยภูติโบตั๋นและภูติบุปผาแห่งแสงสว่าง ภูติบุปผาแห่งความมืดตนอื่นพากันหัวเราะคิกคักสนุกสนาน ยินดีที่เติงหลงฮวาหักหน้าฝ่ายตรงข้าม
โดยปกติแล้วองค์หญิงเติงหลงฮวามิเคยใส่ใจในงานฉลองนางพญาบุปผา ไม่ทราบว่าครานี้นึกสนุกอันใดจึงให้เกียรติมาเยือนได้
ภูติโบตั๋นถามเสียงจริงจังไร้แววหยอกเอิน นางเหลียวมองราชินีกิเลนทั้งสองคล้ายจะขอความเห็นทว่าไม่ได้รับคำตอบอันใด
เรื่องไม่ลงรอยกันของภูติบุปผามิใช่เรื่องใหญ่โตถึงขนาดที่ราชันย์และราชินีกิเลนต้องเป็นกังวล
จันทราฉายแสงเมื่อยามราตรีกาลฉันใด บุปผาแห่งความมืดก็ย่อมเบ่งบานใต้แสงจันทร์ฉันนั้น การได้เข้าเฝ้ากิเลนจันทร์ทั้งยังได้รับเมตตาประทานตำแหน่งนางพญาบุปผา จะมีสิ่งใดน่ายินดีไปกว่านี้อีกหรือ
สิ้นคำของเติงหลงฮวา ภูติบุปผาแห่งแสงสว่างก็กระซิบกระซาบเซ็งแซ่ ธรรมชาติสตรีย่อมคิดหวังให้ตนเป็นผู้ที่งามเลิศที่สุด เมื่อถูกหักหน้าครั้งใหญ่โดยภูติแห่งดอกโคมไฟที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามทั้งยังอยู่ฝ่ายตรงข้ามเช่นนี้แล้ว ริ้วรอยแห่งความไม่พอใจจึงฉายชัดอยู่บนใบหน้างดงามของพวกนาง แม้แต่ภูติโบตั๋นผู้ร่าเริงเป็นนิจก็จนปัญญาจะห้ามปรามความอิจฉาริษยาของผู้อื่นได้ ภูติบุปผาทั้งหลายพากันหันหน้าไปหากิเลนจันทร์แห่งแสงสว่าง ส่งสายตาเว้าวอนขอความเป็นธรรม
เย่วเทียนหมิงรู้สึกลำบากใจเป็นอันมาก ด้วยว่าไม่เคยถูกจับจ้องจากสายตาคาดหวังอ้อนวอนเช่นนี้มาก่อน ด้วยความใจดีเป็นพื้นฐานกิเลนน้อยจึงตัดสินใจ
ถ้างั้น เรายกโบตั๋นให้พวกเจ้าก็แล้วกัน จะได้เป็นนางพญาบุปผากันทุกคนเลย
เทียนหมิงกล่าวสดใสพลางยื่นโบตั๋นบนมือเล็กๆไปทางกลุ่มภูติบุปผา ใบหน้าที่ราวกับเซียนสวรรค์จำแลงเผยรอยยิ้มจริงใจ
เติงหลงฮวาถึงกับหน้าตึง นางพิศมองกิเลนจันทร์แห่งแสงสว่างพลางเก็บซ่อนความมุ่งร้ายแนบเนียน
ฝ่าบาทแห่งความมืดเพคะ จะทรงยอมให้พี่ชายหักหน้าหรืออย่างไร เย่วเทียนหมิงทำเช่นนี้แสดงว่าไม่เห็นการตัดสินใจของฝ่าบาทอยู่ในสายตา
เทียนอ๋าวขมวดคิ้วขัดใจเมื่อได้ยินคำยุแยงที่เป็นดั่งเสียงกระซิบจากปีศาจร้ายของเติงหลงฮวา
ไม่ได้! ข้าเลือกภูติตนนี้แล้วห้ามยกตำแหน่งให้ใคร
กิเลนน้อยแห่งความมืดตะคอกจนพี่ชายสะดุ้งโหยง เทียนอ๋าววิ่งไปหาเทียนหมิงสองมือพยายามยื้อยุดแย่งโบตั๋นในมือพี่ชาย
ส่งมาให้ข้า
อ้า ไม่ได้นะ ภูติดอกไม้ตนอื่นน่าสงสารออก
เทียนหมิงน้อยร้องตกใจกอดดอกโบตั๋นไว้แนบอกพยายามเบี่ยงตัวหลบการยื้อแย่งของน้องชาย
ใช่แล้วเพคะฝ่าบาท อย่ายอมให้แสงสว่างมีอำนาจเหนือพระองค์
เติงหลงฮวายังคงกระซิบเข้าสู่จิตของเทียนอ๋าวอย่างมุ่งร้าย
อนิจจา การสื่อจิตของจ้าวแห่งความมืดเช่นเย่วเทียนอ๋าวกับภูติแห่งความมืดนั้นนับเป็นพรสวรรค์แต่กำเนิดของกิเลนจันทร์ แม้แต่ราชันย์กิเลนเองก็ไม่อาจได้ยิน
ในสายตาของบิดามารดาแล้วนี่นับเป็นครั้งแรกที่สองพี่น้องทะเลาะกัน มู่ตานกุ้ยฮวาทำท่าเหมือนจะเข้าไปปรามทว่าชูเจินอวี้เหวินยกมือห้ามไว้ นางกิเลนวารีมองตาก็รู้ใจกับราชันย์กิเลน
พี่น้องกระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องธรรมดา บางครั้งควรปล่อยให้เด็กๆลองแก้ปัญหาดูก่อน
เอามานะ!
เย่วเทียนอ๋าวร้องหงุดหงิดพร้อมแยกเขี้ยวเล็กๆที่อาจจะดูน่ากลัวในสายตาเย่วเทียนหมิง แต่กลับน่ารักใคร่ในสายตาผู้ชม โดยเฉพาะกับเหล่าบิดามารดาผู้ยิ้มเอ็นดูอย่างใจจืดใจดำ
ไม่!
เทียนหมิงเริ่มร้องเสียงเครือนัยน์ตาสีเงินสุกใสมีหยาดน้ำคลอหน่วย ทว่าไม่ทราบเจ้าตัวเล็กเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนจึงยังสามารถป้องกันการจู่โจมของน้องชายได้ชะงัดนัก
กิเลนจันทร์น้อยผู้น่ารักยามนี้กลายสภาพเป็นลูกม้าพยศสองตัวลงคลุกฝุ่นยื้อแย่งดอกโบตั๋น เทียนอ๋าวกระชากแขนเสื้อของเทียนหมิงแต่ด้วยเรี่ยวแรงที่ดูจะน้อยกว่าส่วนหนึ่งจึงไม่สามารถง้างดอกโบตั๋นออกจากมือพี่ชายได้
เทียนหมิงพลิกตัวพยายามเดินหนีทว่าเทียนอ๋าวกลับโอบสองแขนจากด้านหลังใช้แรงเท่าที่มีเอื้อมคว้าดอกโบตั๋นอีกครั้งหนึ่ง เทียนหมิงจึงโถมแรงทั้งตัวพยายามสะบัดอ้อมกอดอันเกรี้ยวกราดของน้องชายออก
เด็กน้อยสองคนยื้ดยุดกันไปมาหน้าตาผมเผ้าที่เคยเรียบร้อยกลับยุ่งเหยิงราวรังนกพันกัน คนรอบข้างเริ่มมีสีหน้ากังวล
ฤา แสงสว่างกับความมืดจะไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ อายุเพียงแค่นี้แต่กลับทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
เอามา!
ไม่เอา! เย่วเทียนหมิงเริ่มสู้กลับด้วยท่าทางขึงขัง
เทียนอ๋าวใจร้าย! กิเลนจันทร์แห่งแสงสว่างร้อง
เพี๊ยะ!
มือน้อยๆของเย่วเทียนอ๋าวสะบัดกระทบผิวแก้มใสของเย่วเทียนหมิงดังสนั่น เทียนหมิงตกตะลึงจนพูดไม่ออก ใบหน้าเล็กๆค่อยๆปรากฏรอยแดงเป็นปื้นๆทีละน้อย มือหนึ่งยังคงกำดอกโบตั๋นแน่นส่วนมืออีกข้างลูบแก้มตนเองพร้อมจ้องมองน้องชายอย่างไม่เชื่อสายตา
.
แงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ทุกอย่างเงียบลงอึดใจก่อนเย่วเทียนหมิงจะระเบิดเสียงร้องไห้ด้วยความน้อยใจอย่างที่สุด ด้วยไม่คิดเลยว่าเทียนอ๋าวจะทำร้ายตน หยาดน้ำตาสีใสหยดแล้วหยดเล่าทะลักราวกับทำนบพังทลาย
แง้ๆๆๆๆ แงงงงงงงง โฮ
กิเลนน้อยแห่งแสงสว่างแหกปากร้องดังกึกก้องตัดพ้อน้องชายไม่หยุด
เทียนอ๋าวใจร้าย แงงงงงงงงง
เย่วเทียนอ๋าวก็ตกใจเช่นกัน ใบหน้ายิ้มแย้มสดใสของพี่ชายที่ปกติเห็นจนรำคาญตาบัดนี้กลับเหยเกทั้งยังแดงก่ำ น้ำมูกน้ำตาใหลไม่หยุดอย่างน่าเวทนา
องค์ชายน้อยนี่เป็นโอกาสอันดีรีบแย่งดอกโบตั๋นมาสิเพคะ
เสียงร่าเริงอย่างน่ารังเกียจของเติงหลงฮวาดังขึ้นในสมอง เทียนอ๋าวเม้มปากเล็กๆของตนที่เริ่มสั่นระริกนัยน์ตาสับสน
องค์ชายน้อยจะช้าอยู่ไย พวกเราผู้อาศัยในความมืดย่อมพอใจเมื่อแสงสว่างพ่ายแพ้ไป
นางภูติราตรียังกล่าวยุอย่างใจดำไม่หยุด
องค์ชายน้อยเพคะ หัวเราะสิเพคะท่านชนะแล้ว
หนวกหู...
เย่วเทียนอ๋าวคำรามลอดไรฟัน เสียงกระซิบเบาๆทว่าแจ่มชัดในโสตประสาทยิ่งทำให้เทียนหมิงร้องไห้จ้าหนักขึ้นไปอีก
คราวนี้เทียนอ๋าวถึงกับปั้นหน้าไม่ถูกจึงเหลียวมองรอบกายคล้ายจะขอความช่วยเหลือ เมื่อหันไปหาบิดาก็ได้รับเพียงความเงียบตอบกลับมา ทั้งที่ปกติแล้วเย่วหรงเต๋อจะตามโอ๋ตามใจลูกชายคนเล็กเป็นที่สุด เทียนอ๋าวเริ่มรู้สึกตัวว่าทำผิดไปแล้ว ใบหน้าพยศดื้อรั้นอยู่เป็นนิจเริ่มบิดเบี้ยวฉายแววไม่มั่นใจ ก้อนสะอื้นที่พยายามกลั้นไว้ทะลักทลายออกมา
โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ แง้
เสียงอ่อนเยาว์ทว่าแหลมเสียดหูจากเย่วเทียนอ๋าวดังขึ้นประสาน น้ำตาหยดเล็กๆไหลป้อยๆไม่หยุด กิเลนน้อยแห่งความมืดแหกปากร้องอย่างสิ้นลาย ลูกกิเลนน้อยสองตัวยืนร้องไห้ช่วยกันบรรเลงเพลงน้ำตาอย่างตั้งอกตั้งใจ
เย่วเทียนหมิงได้ยินเสียงร้องของน้องชายจึงลืมตาขึ้นมาดู ในสายตาฝ้าฟางไปด้วยหยาดน้ำนั้นใบหน้าน่ารักน่าสงสารของเทียนอ๋าวลอยเด่น น้องชายแสนรักที่ปกติมักจะเย่อหยิ่งอยู่ในทีกลับร้องไห้หมดท่า เส้นผมสีดำสลวยปรกใบหน้าเปียกชื้น
เทียนหมิงรีบกลั้นสะอื้นสูดลมหายใจลึกๆ อ้าแขนเล็กๆโอบกอดเทียนอ๋าวแน่น ไออุ่นจากร่างกายนุ่มนิ่มส่งผ่านถึงกัน กิเลนแห่งแสงสว่างลูบหัวลูบหลังน้องชายปลอบโยน
ไม่ร้องนะไม่ร้อง อย่าร้องนะเทียนอ๋าว เกอเกอขอโทษ เกอเกอยกโบตั๋นให้ ไม่ร้องนะ
เย่วเทียนหมิงคลายดอกโบตั๋นที่กำอยู่ในมือออกเบาๆ บรรจงทัดดอกไม้สีแดงสดดอกน้อยบนเรือนผมสีดำของเย่วเทียนอ๋าว มืออีกข้างช่วยเช็ดน้ำตาไม่หยุด
กิเลนแห่งความมืดเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายก็เห็นรอยยิ้มสว่างไสว นัยน์ตาสีเงินเปี่ยมไปด้วยความรักจริงใจ รู้สึกปลอดภัยในอ้อมกอดอบอุ่น
เทียนอ๋าวหยุดร้องไห้นัยน์ตาสีดำเป็นประกายใบหน้าแดงระเรื่อ มือน้อยๆคลำดอกโบตั๋นบนเรือนผม กลีบดอกอ่อนนุ่มดีดสะท้อนรับกับปลายนิ้ว
ฮื่อ....ขอโทษ.....เกอเกอ......
เทียนอ๋าวพยักหน้าตอบอ้อมแอ้ม
เทียนหมิงที่ได้ยินน้องชายเรียกตนเองว่าเกอเกอเป็นครั้งแรกถึงกับยิ้มร่า ดีใจจนออกนอกหน้า เขย่งเท้าจุมพิตหน้าผากน้องชายไปทีหนึ่งทั้งยังกอดรัดแน่นไม่ปล่อย
เสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกหลายเสียงดังขึ้น ราชันย์กิเลนถึงกับลุ้นจนเกือบลืมหายใจ จริงๆแล้วเย่วหรงเต๋อแทบจะวิ่งเข้าไปปลอบตั้งแต่กิเลนน้อยเริ่มร้องไห้ ทว่า
ราชสีห์ยังยอมผลักลูกตกหน้าผา กิเลนก็ต้องยอมให้ลูกร้องไห้จ้าบ้าง
ยังดีที่แผนการบิดามารดาผู้ไร้น้ำใจนั้นได้ผล ราชินีกิเลนทั้งสองจึงยิ้มพอใจ ทว่าด้วยลางสังหรณ์ของสตรีทั้งคู่จึงหันไปมองเติงหลงฮวาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย นัยน์ตาของราชินีกิเลนสองคู่จับจ้องนางภูติราตรีไม่หยุดราวกับจะเค้นความจริงสักเรื่องหนึ่ง
ทว่าเติงหลงฮวากลับไม่ยอมแพ้
ฝ่าบาทกำลังโดนหลอกเพคะ แสงสว่างไม่มีทางจริงใจ
เย่วเทียนอ๋าวได้ยินก็ถึงกับขมวดคิ้วหันหน้าไปทางนางภูติใจร้าย
หนวกหู หุบปากซะ!
เสียงตะคอกร้ายกาจส่งตรงสู่สมองของเติงหลงฮวา กิเลนจันทร์แห่งความมืดสื่อสารกับภูติราตรีด้วยความโกรธเกรี้ยว นางจึงได้แต่เพียงยืนตัวแข็งทื่อด้วยไม่คาดคิดว่าเด็กน้อยจะตอบโต้กับนางทางจิตได้
เติงหลงฮวาเงยหน้ามองเย่วเทียนอ๋าวในอ้อมแขนพี่ชายชัดๆ นัยน์ตาแข็งกร้าวคุกรุ่นราวกับเปลวไฟสีดำเหลือบมองมาทางนางอย่างเย็นชา ส่งผลให้ทั่วร่างหนาวยะเยือกสั่นสะท้านไม่หยุด นางภูติราตรีถึงกับลืมตัวถอยหลังไปหลายก้าว
น่าสะพรึงกลัวอะไรเช่นนี้
ราตรีกาลสีหม่นมาเยือน ท้องฟ้าไร้จันทร์แม้มืดมิดแต่กลับพร่างพราวด้วยแสงดาริกา งานฉลองนางพญาบุปผาจบลงด้วยความชื่นมื่น ภูติโบตั๋นยินดีมอบตำแหน่งให้เติงหลงฮวาอย่างจริงใจ แม้จะเกิดเหตุการณ์กิเลนจันทร์ทะเลาะเบาะแว้งแต่หลังจากราชันย์กิเลนผู้เป็นบิดากอดโอ๋ลูกน้อยทั้งคู่ไม่ยอมปล่อยจนเลิกงาน ก็ไม่เกิดเรื่องน่าตกใจอันใดอีก
ทว่า...นั่นเป็นเพียงเปลือกนอก แท้จริงแล้วฟันเฟืองแห่งความโหดร้ายได้เริ่มหมุนนับแต่วินาทีที่กิเลนจันทร์แห่งความมืดคาดโทษของเติงหลงฮวา...
บนที่นอนอบอุ่นอ่อนนุ่มปูลาดด้วยผ้าไหมขาวสะอาด เย่วเทียนหมิงกำลังโอบกอดน้องชายตัวน้อยหลับไหล เย่วเทียนอ๋าวก็ดูท่าจะนิทราด้วยความเหน็ดเหนื่อยเช่นกัน
แต่เมื่อเวลากลางคืนที่ลึกล้ำที่สุดของราตรีมาถึง ทุกสรรพสิ่งพลันเงียบงัน แม้แต่ดวงดารายังหยุดเสียงกระซิบ ราวกับว่ากำลังหวาดเกรงต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างยิ่งยวด เป็นความเงียบอันเจือปนไปด้วยความอึดอัดอันน่าหวาดผวา
เย่วเทียนอ๋าวพลันลืมตาสีดำหม่นแสงในความมืด กิเลนน้อยชันกายขึ้นผละจากอ้อมกอดของพี่ชายแผ่วเบา เหลียวมองใบหน้าพี่ชายทีหนึ่งก่อนเดินเงียบหายไปในราตรีกาล
เงาสีดำหลายสายไหววูบวาบไปตามสายลมดูคล้ายวิญญาณทมิฬลอยละล่อง สีดำของพวกมันนั้นมืดมิดเป็นที่สุด เข้มหม่นยิ่งกว่าราตรีกาล เป็นสีดำที่ไม่อาจเทียบได้กับสีสรรใดๆบนโลก ใจกลางเงาดำที่เต้นระริกอย่างยินดีปรีดาคือกิเลนน้อยเย่วเทียนอ๋าว แสงสีดำหม่นคุกคามเปล่งประกายรอบตัวกิเลนจันทร์แห่งความมืด
เพียงอึดใจกิเลนน้อยก็เดินมาหยุดอยู่หน้าพลับพลา ณ. ท้องพระโรงหลวง เย่วเทียนอ๋าวยืนอยู่บนบันไดหินขั้นสูงสุด ทอดสายตามองลงล่างริมฝีปากเปื้อนยิ้ม
จันทร์ข้างแรมมืดมิดไร้แสง งดงามนักใช่หรือไม่
เย่วเทียนอ๋าวกล่างเสียงเย็นเจือด้วยความสุขเต็มเปี่ยม
ฝ่าบาท โปรดเมตตา...
เบื้องล่างของกิเลนแห่งความมืดคือปีศาจอัปลักษณ์ตัวจ้อยเท่าฝ่ามือผู้ใหญ่นับร้อยนับพันตัว พวกมันยืนชุมนุมกันล้อมวงนางภูติดอกโคมไฟ บางตัวป่ายปีนอยู่บนเสื้อผ้าอันงดงามฝากรอยนิ้วเปื้อนโคลนเปรอะเปื้อนเติงหลงฮวาไปทั่ว นางภูติโดนปีศาจน้อยดึงรั้งให้คุกเข่า ดอกโคมไฟที่เคยถือบัดนี้เสียบอยู่บนมวยผมสีม่วงเข้มตัดกับแสงประทีปสีชมพูเรืองรองเปี่ยมสเน่ห์กระจ่างตา
เย่วเทียนอ๋าวแบมือออกไปด้านหน้า ปีศาจตัวหนึ่งจึงกระชากดอกโคมไฟออกจากเรือนผมของเติงหลงฮวาอย่างรุนแรงจนเส้นผมสีม่วงพริ้วกระจาย นางภูติราตรีเขม้นมองปีศาจสีแดงรูปร่างแคระแกร็นแขนขาลีบเล็กแห้งกรังทว่ากลับมีพุงโรอวบอ้วน มันแสยะยิ้มจนเห็นเขี้ยวแหลมคมสีเหลืองสกปรกทว่าวาววับให้นางทีนึง มันเดินกระย่องกระแย่งไปหากิเลนแห่งความมืดยื่นดอกโคมไฟถวาย
เย่วเทียนอ๋าวรับดอกไม้บอบบางพลางมองลึกลงไปในนัยน์ตาสีดำที่หมุนวนราวห้วงน้ำสกปรกของปีศาจน้อยอย่างพอใจ
เรื่องวันนี้เราจะลงโทษเจ้าอย่างไรดีนะ เติงหลงฮวา
ฝ่าบาทเมตตาด้วย หม่อนฉันเพียงแต่พูดความจริง อย่างไรแสงสว่างและความมืดจักไม่มีทางมาบรรจบกันได้ เติงหลงฮวาร้องเรียน
เย่วเทียนอ๋าวไม่ตอบแต่กลับฉีกกลีบดอกบางใสของดอกไม้ในมือทีหนึ่ง
กรี้ดดดดดดดดดดด!
เติงหลงฮวากรีดร้องเสียขวัญ แขนข้างหนึ่งของนางกำลังถูกฉีกกระชากอย่างโหดเหี้ยมโดยเหล่าปีศาจน้อย
ฝ่าบาทหม่อมฉันทำผิดเรื่องใด ความมืดเป็นปฏิปักษ์กับแสงสว่าง กิเลนแห่งแสงพ่ายแพ้วันนี้ เหตุใดฝ่าบาทจึงไม่พึงใจเพคะ?
นางร้องถาม ร่างกายเจ็บปวดแสนสาหัสเพราะเย่วเทียนอ๋าวยังคงบรรจงใช้มือน้อยๆฉีกกลีบดอกโคมไฟอย่างสนุกสนาน
กรี้ดดดดดดด ไม่!
ปีศาจน้อยรุมล้อมเข้ามาทุกขณะ พวกมันยื้อแย่งแขนซ้ายขวาของเติงหลงฮวาอย่างบ้าคลั่ง ฟันสีเหลืองกระทบกันกึกกักราวกับกำลังหัวเราะเยาะ
เติงหลงฮวาความชั่วร้ายของเจ้าน่าชื่นชมนัก เราพอใจ
เย่วเทียนอ๋าวกล่าวใบหน้าไร้เดียงสาฉาบไปด้วยความชั่วร้าย
แต่เจ้าทำให้เกอเกอร้องไห้ เพราะฉะนั้นเจ้าต้องชดใช้
กิเลนแห่งความมืดแสยะยิ้ม โยนความผิดของเรื่องวันนี้ให้เติงหลงฮวาแต่เพียงผู้เดียวอย่างง่ายดายไร้ความยุติธรรมยิ่ง แต่ท่านเอย เมื่อเย่วเทียนอ๋าวได้ชื่อว่าเป็นจิตวิญญาณแห่งความมืดอันศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าภูติผีปีศาจจึงมีหรือที่จะละอายใจ โลกแห่งความมืดหมุนรอบตัวของกิเลนจันทร์แห่งหยิน ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามประสงค์
ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ
เสียงอ่อนเยาว์หัวเราะสดใส กิเลนน้อยใช้สองมือกระชากดอกโคมไฟขาดออกจากกัน ฝ่ามือขยี้ดอกไม้งดงามอย่างเลือดเย็น
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!
เติงหลงฮวาเปล่งเสียงสุดท้ายโหยหวนน่าเวทนา ร่างของนางถูกฝังกลบอยู่ในคลื่นเนื้อหนังของเหล่าปีศาจน้อย เจ้าปีศาจแสยะยิ้มน้ำลายสอ จะมีกี่ครั้งกันที่พวกมันจะได้ลองลิ้มรสชาติของภูติบุปผาแห่งราตรี
กลีบดอกโคมไฟสีม่วงบางใสแหลกสลายปลิวไปตามสายลมอย่างอ้างว้าง เย่วเทียนอ๋าวหันหลังจากไปพร้อมเสียงหัวเราะกึกก้อง หลังจากคืนนี้แม้ไม่มีผู้ใดในอาณาจักรเย่วจินหรงล่วงรู้ถึงความลับอันโหดร้ายที่เกิดแก่เติงหลงฮวา ทว่าเสียงโจษจันเล่าขานถึงความโหดร้ายของเย่วเทียนอ๋าวกลับถูกกระซิบกระซาบส่งผ่านทุกซอกทุกมุมของราตรีกาลไปทั่ว เหล่าภูติชั่วช้าและปีศาจชั่วร้ายพากันระย่อหวาดเกรงระคนยินดีอย่างที่สุด
กิเลนจันทร์แห่งความชั่วร้ายกำเนิดอย่างสมบูรณ์เป็นที่แน่นอนแล้ว!
เย่วเทียนหมิงกำลังนิทราอย่างมีความสุข ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ริมฝีปากสีแดงสดอมยิ้มน้อยๆ แขนเล็กๆกอดหมอนนุ่มรัดแน่นคล้ายจะไพล่นึกไปว่าหมอนนั้นคือน้องชาย เย่วเทียนอ๋าวมองภาพนั้นตาขวางเบ้ปากขัดใจทีหนึ่งก่อนกระชากหมอนออกจากวงแขนพี่ชาย เทียนหมิงผู้หลับไม่รู้เรื่องตัวสั่นน้อยๆด้วยความหนาว กิเลนน้อยเทียนอ๋าวเพียงโยนหมอนใบนั้นทิ้งอย่างไม่แยแส ซุกตัวเข้าในอ้อมแขนของพี่ชายแทนที่
ที่ตรงนี้เป็นที่ของข้า......
เทียนอ๋าวกล่าวอย่างเย่อหยิ่งกับหมอนผู้อาภัพ ซุกไซ้ใบหน้าหาความอบอุ่นจากอ้อมกอดของพี่ชาย รู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก
แสงสว่างและความมืดคือพลังงานขั้วตรงข้าม ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ ไม่อาจแยกจากกันได้ สายสัมพันธ์เหนียวแน่นแห่งสายเลือดที่ผูกพันกิเลนน้อยทั้งสองไว้ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจแยกให้ขาดได้
ทว่าชะตากรรมช่างเล่นตลกอย่างเลือดเย็น ตัวแทนแห่งความมืดและแสงสว่างคือคู่พี่น้องผู้น่าเวทนา
คนหนึ่งเรียนรู้ที่จะให้อภัย ส่วนอีกคนหนึ่งเรียนรู้ได้เพียงการแก้แค้นเท่านั้น
------------------------------------------------------------------
A/N ฟ้องค่ะฟ้อง ZZ บ่นว่ากิเลนน้อยเทียนหมิงบทไม่เด่นเลย............เหอๆ ผลัดกันสิ ฟาราไม่ลำเอียงหรอก (ไม่เหมือนแม่มันเอาเวลาไปอัพอาเฮียจักรวรรดิสเน่หาหมด หึหึ) ตอนนี้ได้เห็นความเทพ(ชั่วร้าย)ของเทียนอ๋าวไปแล้ว ตอนหน้าสัญญาแฟนคลับของเทียนหมิงค่ะ ว่าได้เห็นความเทพของกิเลนแห่งแสง ชัวร์ๆ~มีแฟนคลับป่าวหว่า - - เอ้ะ ก้อ ZZ คนนึงไง เหอๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ชอบ เทียนอ๋าวมากกกกกก
เลือดกำเดาพุ่ง = . , =
.
"ที่ตรงนี้เป็นที่ของข้า"
โอ๊ยยไม่ไหวแล้วค่าาาา
ภาษาสวยงามอย่างแรงข้าน้อยขอคารวะ(เขียนงี้ป่าว?)
เห็นด้วยอีกคน
จิ้นจริงๆ
=.,=///
555+
มีการพูดว่า นี่มันที่ของข้า ด้วยอ๊า>[]<~
เทียนอ๋าวได้ใจมาก หวงพี่ชายซะด้วย
มัน...จิ้น!!!
(กำเดาพุ่งจนสลบไป-.,-)
ทำไมพี่น้องคู่นี้ทันน่ารักขนาดนี้เนี่ย
ตอนเทียนอ๋าวแย่งหมอนออกก็คิดว่าจะเอาหมอนคืน
ที่ไหนได้....
กรี๊ดดดดดด หวงได้น่าร๊ากมากเลยเทียนอ๋าว
บอกได้คำเดียวว่าน่ารักอ่ะค่ะ
น่ารักที่สุดเลยยยยยยย
เทียวอ๋าว เอาใจไปเลย >.มากดแอดเอาตอนนี้เนี่ยแหละ ( ฮา )
ขอชมจริงๆ ภาษาสวยอย่างแรงค่ะ
เทียวอ๋าว เอาใจไปเลย >.มากดแอดเอาตอนนี้เนี่ยแหละ ( ฮา )
ขอชมจริงๆ ภาษาสวยอย่างแรงค่ะ
อ่านมาหลายตอนล่ะ ขอโทษทีนะคะที่เพิ่งมาเม้น
มันแบบว่า แบบว่า มันน่าร๊ากกกกกกกเกินห้ามใจ
ขอสมัครเป็นแฟนคลับนู๋น้อยกิเลยทั้งสองค่ะ คุณป๊ะป๋าด้วยอีกคน
เทีนยหมิงแบบว่าน่าร๊ากกกกกก "ที่ตรงนี้เป็นที่ของข้า"
อร๊ายยยยยย ขอกรี๊ดก่อนเหอะ อิจฉาได้กระทั่งหมอนนะลูก / (-_- ) นู๋กิเลยเค้าไปเป็นลูกแกตั้งกะเมื่อไหร่
ครอบครัวกิเลนนี่มันน่ารักจิงๆเลยเว้ยยย ทั้งคุณป๊ะป๋า และคุณม่าม้าเลยล่ะค่า
สำนวนการใช้ภาษาสวยมากๆเลยค่า เนื่อเรื้องสนุกมากๆ มีสอดแทรกมุขตลกด้วย น่ารักอ่ะ ชอบๆๆๆๆๆ
เดี๋ยวไปอ่านต่อละค่ะ ....
ว่าแต่ว่า ไหนบอกว่าเป็นจีนสมมติ แต่ไหนมีแฟนคลับโผล่มาด้วยล่ะเนี่ย = =;
สนุกมากค่า แล้วจะเป็นกำลังใจให้เรื่อยๆ นะคะ
โอ้วเทียนอ๋าวโหดได้ใจ
สนุกมากเลยครับ
ชอบคู่พี่น้องเทียนอ่าว เทียนเหมิง มากๆ
สู้นะครับไรเตอร์ ไปอ่านต่อละครับ