ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของนานาสาระ (=w=)

    ลำดับตอนที่ #129 : GABAPENTIN

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.47K
      1
      11 ก.ย. 55

    1) Pharmacologic category    ยาต้านอาการลมชัก (Antiepileptics drug) [1]

    2) Pharmacokinetics

    Absorption 

    - ยาในรูปแบบ tablets หรือ capsules จะมีค่า bioavailability ประมาณ 27%-60% ของ dose ที่ให้   โดยค่า bioavailability

    จะลดลงตาม dose ที่เพิ่มขึ้น  [4]

    - อาหารไม่มีผลต่อการดูดซึม [1]

    Distribution[1]

    - ยาส่วนมาก อยู่ในรูป unbound (protein binding  น้อยกว่า 3%)

    - ยาสามารถผ่าน blood - brain barrier ได้ โดยที่ 20% ของความเข้มข้นยาในเลือด อยู่ใน cerebrospinal fluid

    Metabolism[1]

    - ยาไม่ถูก metabolized

    - ค่า clearance ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มากกว่า ค่า clearance ในเด็กอายุมากกว่า 5 ปี เด็กอายุ 3-4 ปีอาจจะจำเป็นต้องใช้ dose ที่สูง  ค่า clearance ในเด้กอายุต่ำกว่า 1 ปี มีค่าไม่คงที่ 

    Excretion  [1]

    - ยาถูกกำจัดออกจากระบบไหลเวียนโลหิตทางไต โดยที่ยาไม่ถูกเปลี่ยนแปลง 

    - halflife มีค่า 5-7 ชั่วโมง  

    - ยาสามารถถูกกำจัดโดยวิธี hemodialysis

    Onset        รวดเร็ว [7]

    Duration   8 ชั่วโมง [7]

    3) Mechanism of Action[4]

                    Gabapentin มีโครงสร้างเกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาท GABA  อย่างไรก็ตาม Gabapentin และ metabolizes ไม่ได้ออกฤทธิ์ดดยการจับกับ GABA A หรือ GABA B receptor  หรือไม่ได้มีอิทธิพลต่อการย่อยสลายหรือการดูดซึม GABA  การออกฤทธิ์บรรเทาอาการปวด (analgesia) ของ Gabapentinแสดงให้เห็นในสัตว์  ซึ่งจะป้องกัน การเจ็บปวดที่ถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้าที่สภาวะคนปกติจะไม่เจ็บปวด (allodynia)ภาวะรู้สึกเจ็บมากกว่าปกติ (hyperalgesia) [6]  กลไกการออกฤทธิ์ของ Gabapentinนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด  อาจเกิดจาก Gabapentin ป้องกัน thrombospondin  โดยการจับที่ alpha 2 delta-1  โดยเกี่ยวข้องกับการยับยั้ง voltage-gated calcium channels  ซึ่งเป็น receptor ที่เกี่ยวกับการกระตุ้น synapse  กลไกการออกฤทธิ์ป้องกันการชักในโรคลมชัก(seizure)ของ gabapentin ยังไม่ทราบกลไกที่แน่ชัด

    4) Therapeutics Use and Dosages [4]

    Partial seizure : ใช้เป็นยาเสริมในการรักษา สำหรับผู้ป่วยอายุ 12 ปีขึ้นไป

    PO  :สำหรับอายุ 3 ถึง 12 ปี เริ่มต้นด้วยขนาดยา 10 ถึง 15 มก. / กก. / วันโดยแบ่งเป็น 3 dose สามารถเพิ่มได้ถึง  50/มก./กก

    PO :สำหรับอายุ 3 ถึง 4 ปี maintenance dose ปรับขนาดให้สูงกว่า 3 วันต่อ 40 มก. / กก. / วัน ในปริมาณที่แบ่งออก เป็น 3 dose

    PO :สำหรับอายุ 5 ถึง 12 ปี maintenance dose ปรับขนาดให้สูงกว่า 3 วันต่อ 25-35  มก. / กก. / วัน ในปริมาณที่แบ่งออกเป็น 3 dose

    PO   :สำหรับผู้ป่วยอายุ 12 ปีขึ้นไป ให้ยา gabapentin 300 มก. วันละ 3 ครั้งอาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 1800 มก. / วัน (แบ่งเป็น 3 dose )  และสามารถเพิ่มขนาดยาถึง 2400 มก. / วัน  และปริมาณ  3600 มก./ วันถูกนำมาใช้ในผู้ป่วยน้อยรายในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

     

    Postherpetic neuralgia

    PO :       gabapentin 300 มก. 1 ครั้งในวันแรก,  300 มก. วันละ 2 ครั้งในวันที่สองและ 300 มก. วันละ 3 ครั้งในวันที่สามอาจเพิ่มปริมาณสูงถึง 1800 มก. / วัน (แบ่งเป็น 3 dose)

     -ปรับขนาดที่จะนำมารับประทาน วันละหนึ่งครั้งกับอาหารเย็น

    300 มก. ในวันที่ 1 , 600 mg ในวันที่ 2, 900 มก. ในวันที่ 3 ถึง 6, 1200 มก. ในวันที่ 7 วันถึง 10, 1500 มก. ในวันที่ 11 ถึง 14, และ 1800 มก. ต่อวันตั้งแต่วันที่ 15 เป็นต้นไป

    (ตำรับยา Gabapentin ที่ให้วันละครั้ง ไม่สามารถทดแทนได้ด้วยยา gabapentin อื่น ๆ เนื่องจากความแตกต่าง pharmacokinetics profiles)

    Pain (unlabel use)   โดยทั่วไปจะให้ ปริมาณ   300-800 มก./วัน แบ่งให้เป็น 3 dose

            การลดปริมาณ การยกเลิกหรือการแทนยาGabapentin ด้วยยาอื่นควรจะค่อยๆลดปริมาณยา Gabapentin ลงโดยใช้ระยะเวลาขั้นต่ำ 1 สัปดาห์ และในคนสูงอายุมีการศึกษาพบว่าประสิทธิภาพการทำหน้าที่ของไตลดลงอาจต้องมีการลดขนาดยาตามความเหมาะสม

    5) Adverse Drug Reactions [3,4]

    จากรายงานในผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 12 ปี

    Central nervous system :  ไข้ (Fever) , เกิดภาวะเครียด (hostility),  พูดไม่ชัด อารมณ์แปรปรวน (Emotional lability),  ล้า (fatigue),  ปวดหัว(headache),  เดินเซ(ataxia),  คิดไม่ปกติ(abnormal thinking),  ความจำเสื่อม(amnesia),  ซึมเศร้า(depression),  อาการทางประสาท(nervousness),  กระตุก(twitching),  ไว้ต่อการกระตุ้นมากกว่าปกติ(hyperesthesia)

    Miscellaneous :  โรคติดเชื้อ(Viral infection)

    Cardiovascular : บวม(Peripheral edema),  หลอดเลือดคลายตัว(vasodilatation)

    Dermatologic : คัน(Pruritus),  ผื่น(rash)

    Endocrine& Metabolic : หมดสติจากระดับน้ำตาลในเลือดสูง(Hyperglycemia)

    Gastrointestinal : ท้องเสีย(diarrhea),  คลื่นไส้(nausea),  อาเจียน(vomiting),  ปากแห้ง(xerostomia),  ท้องผูก(constipation),  อาหารไม่ย่อย(dyspepsia),  ท้องอืด(flatulence),  คอแห้ง(dry throat)

    Hematologic : ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าปกติ(leakopenia)

    Neuromuscular & skeletal : สั่น (Tremor),  อ่อนแรง(weakness),  อยู่ไม่สุข(hyperkinesias),  การเดินไม่ปกติ(fracture)

    Ocular : การกระตุกของลูกตา(Nystagmus),  เห็นภาพซ้อน(diplopia),  ตามัว(blurred vision),  ตาแดง(conjunctivitis)

    Otic : หูชั้นกลางอักเสบ(Otitis media)

    Respiratory : จมูกอักเสบ(Rhinitis),  หลอดลมอักเสบ(bronchitis),  ติดเชื้อทางเดินหายใจ(respiratory infection),  คออักเสบ(pharyngitis),  ไอ (cough)

     จาก Postmarketing และรายงานทางคลีนิกเพิ่มเติม(จำกัด เฉพาะ ที่สำคัญหรืออันตรายถึงชีวิต)

    ไตวายเฉียบพลัน (acute renal failure ),โลหิตจาง(anemia), อาการปวดเค้น(agina),โรคลมพิษแองจีโออีดีมา(angioedema),ความผิดปกติทางการพูดจากสมองพิการ(aphasia),หัวใจเต้นผิดจังหวะ(arrhythmias:various),ภาวะอักเสบของปอดจากการสำลัก (aspiration pneumonia),โรคปอดอักเสบ(pneumonia),ตาบอด(blindness),หัวใจเต้นช้าผิดปกติ(bradycardia),ภาวะหลอดลมหดเกร็ง(bronchospasm),โรคหลอดเลือดสมอง ( (cerebrovascular accident),มะเร็งในระบบประสาทส่วนกลาง(CNS tumors), ความบกพร่องในการแข็งตัวของเลือด(coagulation defect),ท้องผูก(colitis), (cushingoid appearance),อาการหายใจลำบาก(dyspnea),โรคสมอง(encephalophathy),กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าเป็นอัมพาต( facial paralysis),ภาวะที่ไม่สามารถควบคุมการกลั้นอุจจาระได้(fecal incontinence),ต้อหิน(Glaucoma),ภาวะที่มีน้ำตาลขับออกมาในปัสสาวะมากผิดปกติ(glycosuria), ภาวะอัมพฤกษ์ครึ่งซีก(hemiplegia), hemorrhage,ตับอักเสบ( hepatitis), การโตและแข็งขึ้นของตับ (hepatomegaly), ความดันสูงหรือความดันต่ำ(hyper/hypotension),ภาวะไขมันในเลือดสูง(hyperlipidemia) , ภาวะที่ฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายต่ำ/สูง(hyper/hypothyroidism), hyper/hypoventilation , gastroenteritis,หัวใจล้มเหลว (heart failure),leucocytosis, liver function tests increased , localmyoclonus, lymphadenopathy, lymphocytosis, meningismus, MI, migraine, nephrosis, nervepalsy, non-Hodgkin’s lymphoma,  ovarian failure, pulmonary thrombrosis, pericardial rub, pulmonary embolus, Pericardial effusion , pericarditis , paccreatitis , peptic ulcer , purpura , paresthesia , palpitation , peripheral vascular disorder , pneumonia , psychosis , renal stone , retinopathy , skin necrosis , status epilepticus , subdural hematoma , suicidal behavior/ideation , syncope , tachycardia , thrombocytopenia , thrombophlebitis

    6) Drug Interactions  [3]

    Avoid Concomitant Use  ยังไม่ทราบ interaction ที่แน่ชัด  แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน

    1.Increaseed Effect / Toxicity

    -Gabapentin จะเพิ่มระดับของประสิทธิภาพเมื่อใช้ร่วมกับ Alcohol(Ethyl)  จะกดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง

    -ประสิทธิภาพของ Gabapentin น่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อให้ยาร่วมกับ Methotrimeprazine

    2.Decreased Effect

    -ประสิทธิภาพของ Gabapentin น่าจะลดลง เมื่อให้ร่วมกับ Ketorolac ; Ketorolac ,Systemic ; Mefloquine

    Ethanol/Nutrition/Herb  Interactions

    Ethanol : หลีกเลี่ยงการรับประทานร่วมกับ ethanol  ( เพราะน่าจะเพิ่มการกดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง )

    Food :  ไม่เปลี่ยนแปลงอัตราการดูดซึมและขอบเขตของการดูดซึม

    Herb/Nutraceutical : หลีกเลี่ยงน้ำมัน evening primrose  (เพราะจะลด threshold ของการเกิดลมชัก     (seizure))  หลีกเลี่ยง valerian ,  St john's wort , kava kava , gotu kola (เพราะน่าจะเพิ่มการกดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง)

    -GABAPENTIN – MORPHINE [4]

    Warning:

    การใช้ gabapentin และมอร์ฟีนพร้อมกัน อาจส่งผลในการเพิ่มความเข้มข้นของ gabapentin ในพลาสมา

    Clinical Management:

    การใช้ gabapentin ควบคู่กับมอร์ฟีนอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของ gabapentin สังเกตผู้ป่วยจากการนอนหลับและสัญญาณอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของภาวะซึมเศร้า CNS ปริมาณของ gabapentin หรือมอร์ฟีนควรจะลดลงอย่างเหมาะสม

    Onset: ไม่เฉพาะเจาะจง

    Severity: Moderate ปานกลาง

    Documentation: Excellent

    Probable Mechanism: unknown

    Summary:

    ผู้ป่วยที่ต้องการการรักษาร่วมกับมอร์ฟีนอาจพบระดับความเข้มข้น gabapentin เพิ่มขึ้น ในการศึกษาของอาสาสมัคร 12, รับประทานยาเพียงครั้งเดียวจาก มอร์ฟีน60 mg ที่ควบคุมการปลดปล่อยที่ถูกadminish 2 ชั่วโมงก่อนที่จะรับประทานยาเดียวของ 600 มก. ทันที ปล่อย gabapentinค่าเฉลี่ยมูลค่า gabapentin AUC ในผู้ป่วยเหล่านี้คือ 44% ขึ้นเมื่อเทียบกับการบริหารงานของ gabapentin เพียงอย่างเดียว เภสัชจลนศาสตร์ของมอร์ฟีนไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลง สังเกตผู้ป่วยที่อาการของภาวะซึมเศร้า CNS และปรับขนาดยาตามความเหมาะสม

    -GABAPENTIN – ANTACIDS [4]

    Warning:

    ในการรับประทานยา gabapentin และANTACIDS ร่วมกันควรทานยาหลังจากทานgabapentin 2 ชั่วโมง เนื่องจากมีผลในการลดประสิทธิภาพของยาแก้ชัก

    Onset: เร็ว

    Severity: Moderate

    Documentation: Good

    Probable Mechanism: decreased gabapentin bioavailability

    Summary:

    รายงานผู้ผลิตที่ antacid (Maalox ®) ได้รับควบคู่กันกับgabapentin โดย Bioavailabilityของgabapentin ลดลง 20% เมื่อ gabapentin ได้รับหลัง antacid สองชั่วโมง gabapentinลดลงเพียง 5% ดังนั้น gabapentin ควรจะบริหารเวลาอย่างน้อยสองชั่วโมงหลังจากที่ antacid

    -GABAPENTIN [Systemic] -- HYDROCODONE [Systemic] [4]

    Warning:

    การใช้ GABAPENTIN and HYDROCODONE ร่วมกัน อาจส่งผลในการลดชีวสมมูลของ hydrocodone

    Clinical Management:

    การใช้ gabapentin และ hydrocodone ควบคู่กันนำไปสู่​​การเปิดรับลดลงและความเข้มข้นสูงสุดของ hydrocodone ในลักษณะที่ขึ้นอยู่กับปริมาณยา; gabapentin AUC เพิ่มขึ้นน้อยที่สุด ใช้ด้วยความระมัดระวัง และพิจารณาสังเกตผู้ป่วยสำหรับการขาดการรับรู้ความสามารถของ hydrocodone

    Onset: Not Specified

    Severity: Minor

    Documentation: Excellent

    Probable Mechanism: unknown

     

     

    Summary:

    จากการได้รับgabapentin และ hydrocodone ร่วมกันแสดงโดย ลดความเข้มข้นสูงสุดและค่าพื้นที่ใต้เส้นโค้ง (AUC) ของ hydrocodone ในลักษณะที่ขึ้นอยู่กับปริมาณยา; gabapentin AUC เพิ่มขึ้นน้อยที่สุด ใช้ด้วยความระมัดระวัง และพิจารณาสังเกตผู้ป่วยสำหรับการขาดการรับรู้ความสามารถของ hydrocodone

    7) Precautions [4]

    -การหยุดยาในทันที จะเพิ่มความถี่ของการเป็นลมชัก(epilepticus) หรือ เป็นลมชักในทันที ควรหยุดยาทีละน้อยใน 1 สัปดาห์

    -ปฎิกิริยาระหว่างยากับ eosinophilia และ  systemic symptoms มีรายงานว่า ในหลายๆอวัยวะเกิด hypersensitivity รวมถึงกรณีทารกในครรภ์  การประเมินผลสัญญาณหรืออาการที่แสดงออกมา เมื่อหยุดยา gabapentin จะเป็นตัวช่วยยืนยัน

    -ผลลัพธ์ของยา gabapentin จะไม่เปลี่ยนไป แต่จะแตกต่างกันได้ที่  pharmacokinetic profiles ของยาที่เป็นผลมาจากขนาดของยาที่ให้และความถี่

    -ในผู้ป่วยเด็กอายุ 3-12 ปี  เกิด adverse events ที่ระบบประสาท รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ อาการที่ตรงกันข้ามกับปกติ ตลอดถึงความผิดปกติ และมีอาการอยู่ไม่สุข อยู่ไม่นิ่ง(hyperkinesias)  ถูกรายงานใน Neurontin(R)

    -เมื่อจำเป็นสามารถปรับขนาดการให้ยา Neurontin(R) ในผู้ที่ไตผิดปกติ หรือ ผู้ป่วยที่ฟอกเลือดล้างไต (hemodialysis)

    -ผู้ป่วยที่ไตผิดปกติน้อยถึงปานกลาง สามารถปรับขนาดการให้ยา Gralise(R)  แต่ไม่ใช้ Gralise(R)  ในผู้ป่วยที่ไตผิดปกติรุนแรง (CrCl 15 ถึง 30 mL/min) หรือผู้ที่ป่วยฟอกเลือดล้างไต (hemodialysis)

    -ผู้ป่วยที่อยากฆ่าตัวตาย และซึมเศร้าอย่างหนัก และ/หรือมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ หรือ อารมณ์เปลี่ยนแปลง เช่น วิตกกังวล(anxiety),ภาวะกายใจไม่สงบ(agitation), hostility, mania และ  hypomania ต้องติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด

    -มีรายงานของ adverse reactions ใน US Food and Drug Administration ที่  1-800-FDA-1088 หรือ www.fda.gov/medwatch

    8) Contraindications [4]

    ควรระวังในผู้ที่มีการตอบสนองต่อยา Gabapentin   และต่อส่วนประกอบในตำรับยา มากเกินไป

    9)  Pregnacy and lactation [4]

    A) Teratogenicity  / Effects in Pregnancy
    1)
    FDA ของสหรัฐอเมริกาจัดให้อยู่ใน Pregnancy  Category C (ในช่วง 3 เดือนแรก)

    การศึกษาในสัตว์แสดงให้เห็นถึง ADR ในทารกในครรภ์ (teratogenic หรือ embryocidal หรืออื่นๆ)  ไม่มีการศึกษาควบคุมในผู้หญิง หรือ ในผู้หญิงและสัตว์ ยาตัวนี้บอกได้แค่ ประโยชน์ในการรักษา และ อธิบายถึงผลเสียที่มีต่อทารกในครรภ์

    2) Australian Drug Evaluation Committee's (ADEC) จัดให้อยู่ใน Category: B1

    ยาถูกให้ในจำนวนที่จำกัดของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ โดยที่ไม่มีการเพิ่มความถี่ของการสร้างรูปร่างที่ผิดปกติ หรือการเฝ้าระวังผลให้โทษทั้งทางตรงและทางอ้อมในทารกในครรภ์  การศึกษาในสัตว์ไม่มีหลักฐานที่บ่งบอกถึงการเพิ่มของอันตรายต่อทารกในครรภ์

    3) ยานี้สามารถผ่านทางรกได้

    4) Clinical Management

    ไม่มีการทดลองเพียงพอที่จะยืนยันได้ว่า gabapentin ปลอดภัยต่อสตรีมีครรภ์ นับตั้งแต่ gabapentin ถูกสั่งจ่ายบ่อยครั้งเพื่อใช้รักษาอาการชัก ความสัมพันธ์ระหว่างมารดาที่ใช้ gabapentin และ ADR ที่เกิดในทารกในครรภ์ยังไม่สามารถยืนยันได้ ในการศึกษาและควบคุมผู้ผลิตแนะนำให้ใช้ gabapentin ในสตรีมีครรภ์ เมื่อมีประโยชน์ในการรักษามากกว่าพิษต่อทารกในครรภ์ และติดตามเฝ้าระวังข้อมูลประสิทธิภาพของ gabapentin ที่ออกมาในปัสสาวะ

    5) Literature Reports

    ยังไม่มีการศึกษาควบคุมที่เพียงพอของการใช้ยา gabapentin ในสตรึมีครรภ์ อย่างไรก็ตามมีข้อมูลของสตรีมีครรภ์ 39 คน และทารก 51 คนที่ตอบสนองต่อยา  ระหว่างตั้งครรภ์ในผู้หญิงมี 1 รายที่ hypertension, 1 รายที่ oligohydramnios และ 1 รายที่ eclampsia มีทารก 44 รายที่รอดชีวิตหลังจากคลอด (86.3%)  6 รายที่แท้ง และ 1 รายที่เต็มใจทำแท้ง จำนวน Full-term babies มี 77.2% ของเด็กที่เกิด Preterm ปรากฏขึ้นระหว่างสัปดาห์ที่ 32-36  น้ำหนักเฉลี่ยแรกเกิด (จำนวน 29 คน) คือ 6 ปอนด์ (lb) 10 ออนซ์ (oz) (range, 3 lb 7 oz to 9 lb 8 oz)  เวลาและความยาวของ gabapentin ที่ปรากฏในเคสข้างต้นไม่ได้อธิบายทั้งหมด  การสร้างรูปร่างขึ้นมาผิดปกติถูกรายงาน hypospadia ในทารกที่ได้รับ gabapentin และ valproate มีไตข้างเดียวตั้งแต่แรกเกิดในทารกในครรภ์ที่ได้รับยา gabapentin ใน 3 เดือนแรก  และได้รับยา phenobarbital,ทีหลัง การสร้างรูปร่างที่ผิดปกติเล็กน้อยที่ หูชั้นนอกข้างซ้ายในทารกที่ได้รับยา gabapentin และ lamotrigine ระหว่างที่มารดาตั้งครรภ์ สถิติที่เกิดเหมือนกับรายงานเหมือนกับผู้หญิงที่มีอาการชักในประชากรทั่วไป ผลที่เกิดจาก gabapentin ไม่สามารถจำแนกได้ว่ามีสาเหตุจากการใช้ gabapentin  ระหว่างตั้งครรภ์

    ข้อมูลจากการศึกษาในผู้หญิง 6 คน ที่ได้รับยา gabapentin ระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร ผู้หญิงได้รับยา gabapentin ในช่วงตั้งแต่ 900 - 3200 mg/วัน  มีผู้หญิง 1 รายที่คลอดในสัปดาห์ที่ 33 ซึ่งไม่มีความหมายสำหรับการคลอดก่อนกำหนด และสุขภาพของเด็ก ระหว่างที่คลอดที่สายสะดือมีค่าเฉลี่ยอัตราส่วนความเข้มข้นของ gabapentin ในเลือด 1.47  จากการศึกษานี้สรุปได้ว่า gabapentin สามารถผ่านไปยังรกได้

    ในการศึกษาในหนูให้ gabapentin 1 ถึง 4 ครั้ง ปริมาณสูงสุด 3600 mg/day on a mg/m(2) ในหนูที่ท้อง เกิดพิษแก่หนูในท้อง สาเหตุมาจากการสร้างกระดูกที่ล่าช้าในกะโหลก กระดูกสันหลัง ขาหน้าและขาหลัง แต่จะไม่เกิดถ้าให้ยาประมาณครึ่งหนึ่งของที่ให้ในมนุษย์

    ในการศึกษาการสืบพันธุ์  หนูที่ได้รับยาก่อนและระหว่างช่วงสืบพันธุ์ และรวมถึงตั้งครรภ์ ให้ยา gabapentin ประมาณ 1 ถึง 5 ครั้งในปริมาณสูงสุด 3600 mg/day  เพิ่มการเกิดของ  hydroureter และ/หรือ hydronephrosis ในรุ่นลูกรุ่นหลาน  ในการศึกษา teratology มีการสูญเสียการฝังตัวของตัวอ่อน เพิ่มขึ้น ในกระต่ายท้องที่ได้รับยา gabapentin  60, 300, และ 1500 mg/kg/day  (น้อยกว่า 0.25 ถึง 8 ครั้งในการให้ยาในมนุษย์ปริมาณสูงสุด)

     

    B) Breastfeeding [3]

    จากการให้ยาทางปาก gabapentin หลั่งออกมาในน้ำนม  มารดาให้นมบุตรสามารถใช้ยา gabapentinได้สูงสุด  1 mg/kg/day  ผลที่เกิดในทารกที่ดื่มนมมารดายังไม่ทราบแน่ชัด

    10) Dosage forms & Trade name (ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย) [5]

    -Gabapentin GPO capsule 100 mg

    -Gabantin cap 300 mg

    -Gabapentin Sandoz capule 100 ,300 ,400 mg

    -Gabapentin Teva capsule 300 mg

    -Gabutin® capsule 100 ,300 mg

    -Neurontin® capsule 100 ,300,400,600 mg

    -Neverpentin® film-coated tablet  600 mg

    -Rontin® capsule   300, 600 mg

    -Vultin® capsule 100, 300, 400 mg

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×