ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บูรพาเทพ ตำนานเทพเจ้าจีน

    ลำดับตอนที่ #2 : เทพผานกู

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.3K
      21
      4 ต.ค. 53


       

     



    เทพผานกู่
    เทพบิดรแห่งชนชาติชาวจีน

          โลกใบนี้ที่ว่ามีลักษณะเหมือนผลส้มที่เราอาศัยอยู่นั้น ถึงปัจจุับันทางวิทยาศาสตร์จะมีข้อพิสูจน์ว่า โลกและจักรวาลเกิดมาจากซูเปอร์โนวา หรือ บางทฤษฎีว่าเกิดมาจากการรวมตัวของอะตอม แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าโลกของเราใบนี้เกิดขึ้นมาอย่างไีร เพราะมันเป็นเำพียงแค่การสมมุติของนักวิทยาศาสตร์เท่านั้นเอง มนุษย์บรรพชนของเราก็สงสัยเรื่องนี้เช่นกันนะ เรื่องของตำนานการกำเนิดโลกจึงมีอยู่ทุกชนชาติต่าง คราวนี้เรามาดูในตำนานเทพเจ้าของชาวจีนซึ่งมีอารยธรรมมาอย่างยาวนานก็มีความเชื่อเรื่องนี้เช่นกัน ชาวจีนจินตนาการและเชื่อว่า โลกและจักรวาลเกิดขึ้นจาก เทพยักษ์ตนหนึ่ง นามว่า "ผานกู" 


      

        ตอนเริ่มแรกยังไม่มีสรรพสิ่งเกิดขึ้น ชาวจีนจินตนาการว่าจักรวาลนั้นเสมือนไข่ฟองหนึ่ง ภายในเปือกไข่ันั้นก็มีแต่ความมืดมัวมืดมน และแล้วภายในไข่นั้นก็มีสิ่งๆหนึ่งอาศัยอยู่นั้นคือ ผานกูนั้นเอง ผานกูอยู่้ในไข่เป็นเวลามานานกว่า 18000 ปี จึงตื่นขึ้นจากการนิทรามาอย่างยาวนานตั้ง18000ปี เมื่อผานกูตื่นขึ้นมาก็พบกับความมืดและความอึดอัด ผานกูไม่ชอบในสภาพอย่างนี้เขาเลยทำการทลายไข่ฟองนี้โดยใช้ขวานที่เป็นอาวุธคือกายฟันฝ่้าจนไข่นั้นแตกออกจากกันเป็นสองซีก ละอองควันภายในไข่ที่ถูกกักขังมานานก็ลอยขึ้นไปเป็นท้องฟ้า และเปลือกไข่ก็จมสลายจนกว่าเป็นดิน ฟ้า - ดินก็ได้บังเกิดขึ้น เมื่อฟ้ากับดินแยกออกจากกันแล้ว แต่ผานกูก็ยังกลัวว่าฟ้ากับดินจะกลับมาร่วมตัวกันอีกและตนเองก็ต้องอึดอัดเป็นอีกแน่  ผานกูจึงค่ำฟ้าโดยให้มือดันฟ้าขึ้น ส่วนดินใช้เท้าเหยียบไว้เขาทำเช่นนี้เป็นเวลานานกว่าหมื่นปีจนฟ้าและดินแยกออกจากกันอย่างถาวรแน่นอน ผานกูได้หมดพลังลงหลังจากการใช้ร่างของตนแยกฟ้ากับดินมานานกว่าหมื่นปี ร่างกายของผานกูก็กลายเป็นโลกใบนี้ ซึ่งมีผู้บรรยายว่า ร่างกายของผานกูกลายเป็นโลก ซึ่งส่วนต่างๆแม้อวัยวะบางอย่างก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกได้แก่
    - ดวงตาทั้งสองข้างกลายเป็นดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์
    - เส้นผมกลายเป็นดวงดาว
    - กระดูกกลายเป็นภูเขา
    - ผิวกลายเป็นดิน

    - ฟันกลายเป็นแร่ทองคำ
    - ไขข้อกลายเป็นมุกและหยก
    - เลือดกลายเป็นน้ำไหลไปเป็นแม่น้ำลำคลองและมหาสมุทร
    - เหงื่อกลายเป็นบ่อน้ำและฝน
    - ลมหายใจกลายเป็นสายลม
          ซึ่งว่าได้ว่าโลกของเราก็คือผานกูนั้นเอง ท่านยังคงทำหน้าที่ของท่านเพื่อสรรพสิ่งทั้งหลาย เมื่อร่างของผานกู่กลายเป็นโลกแล้ว ร่างทิพย์ของผานกู่ก็ลอยไปในห้วงอากาศเดินทางไปในที่ต่างๆกลายเป็นเทพ และแล้วผานกู่ก็พบเข้ากับเทพธิดานามว่า     "ไท่หยวน" ซึ่งนางกำลังบำเพ็ญเพียรอยู่บนยอดเขาสูง เทพผานกู่ยินดีเ้ป็นอย่างยิ่งที่พบเทพธิดาไท่หยวนและพระองค์ก็เนรมิตร่างกลายเป็นลำแสงสีขาวพุ่งเข้าปากของเทพธิดา จากนั้นเทพธิดาก็ทรงท้องนานถึง 12 ปี (เทพเขาอุ้มท้องกันนานจริงๆ) แล้วให้กำเนิดเป็นบุตรชาย นามว่า "ง่วนสีเทียนกุ๋น" ต่อมาก็กลายเป็นเทพสูงสุดแห่งลัทธิเต๋า (ตีได้ว่า ง่วนสีเทียนกุ๋นนั้นก็คือเทพผานกู่ หรือไม่ก็เป็นโอรสของเทพผานกู่ก็ได้)



      

          อีกตำนานหนึ่งของเทพผานกู่โดยตำนานนี้เกิดขึ้นมาหลังจากที่จีนรับพระพุทธศาสนาเข้ามาในสมัยราชวงศ์ถัง ตำนานนี้มีอยู่ว่า เทพผานกู่ทรงเป็นศิษย์แห่งพระพุทธองค์ (พระสมณโคดมพุทธเจ้า ก็คือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน หรือรู้จักกันในนาม พระศากยมุนีพุทธเจ้านั้นเอง) พระพุทธองค์ทรงเลเห็นว่าแผ่นดินทางทิศใต้นั้นยังคงมืดอยู่ พระองค์จึงจะให้ศิษย์คนใดคนหนึ่งเดินทางไปเบิกฟ้าเปิดดิน มีเพียงผานกู่เท่านั้นที่รับอาสาจากพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ทรงถามผานกู่ว่า
    "เธอจะทำหน้าที่นี้สำเร็จได้หรือไม่?"
    "ข้าแต่ท่านอาจารย์ศิษย์ทำได้สำเร็จแน่ แต่ศิษย์เกรงแต่ว่าศิษย์จะหลงไหลในดินแดนใหม่นี้"
    "เมื่อเธอมั่นใจแล้วจะกลัวอันใด เธอจะได้กลับมายังที่นี้อีกครั้งเมื่อเสร็จภารกิจ"
         ผานกู่น้อมรับพุทธโองการแล้วเหาะไปยังดินแดนทิศใต้ที่มืดสนิืท ผานกู่เนรมิตร่างของตนให้กลายเป็นมนุษย์ที่มีร่างกายใหญ่โต นามว่า "พนโกสีย์" โดยมีขวานเป็นอาวุธ และใช้ขวานนั้นเจาะลงบนความมืดผ่าออกเป็นสองส่วน มีแสงสว่างลอยออกมาจากความมืดกลายเป็นท้องฟ้า และความมืดนั้นก็ค่อยๆสลายกลายเป็นดิน แล้วสลักเป็นอักษรทิ้งไว้ว่า "ข้า พนโกสีย์ได้ทำการเบิกฟ้าเปิดดินเป็นอันสำเร็จแล้ว" หลังจากนั้นพอเสร็จหน้าที่ผานกู่ก็ไม่ยอมกลับไปยังแดนสุขาวดี ยังคงหลงระเริงอยู่ในดินแดนทิศใต้นี้ พระพุทธองค์ทรงโปรดให้พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (เจ้าแม่กวนอิม)  ไปเตือนผานกู่และพากลับแดนสุขาวดี พระโพธิสัตว์เสด็จมายังดินแดนทิศใต้และเข้าโปรดผานกู่ให้เขารำลึกได้ว่าตนเองคือ ผานกู่ โดยพระองค์ชโลมน้ำทิพย์จากแจกันหยดลงบนศีรษะของผานกู่ ผานกู่จำความได้ ผานกู่ตอนนี้ไม่บริสุทธิ์ดั่งแต่เดิมเพราะหลงในโลกียะในดินแดนทิศใต้ ผานกู่จึงขอพระโพธิสัตว์รดน้ำทิพย์จากแจกันนั้นเพื่อชำระมลทิน และผานกู่ก็กลายเป็นผลท้อ พระโพธิสัตว์ทรงนั้นผลท้อนั้นไปถวายพระพุทธองค์ ด้วยความเ้มตตาของพระองค์จึงทรงช่วยผานกู่ให้กลับคือร่างเดิม หลังจากนั้นผานกู่ได้รับภารกิจของพระพุทธองค์ต่างๆ เช่น สร้างพระอาทิตย์ สร้างพระจันทร์ สร้างดวงดาวเป็นต้น

          แต่ด้วยชาวจีนเป็นคนกตัญญูรู้คุณ รู้ในพระคุณของผานกูซึ่งชาวจีนเชื่อว่าเป็นผู้สร้างโลก ด้วยพระคุณที่พระองค์ทำให้มีโลกให้เราได้อยู่อาศัย ชาวจีนจึงเคารพนับถือในตัวเทพผานกู ถูกยกย่องเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ผานกูเทพผู้แยกฟ้าแยกดิน ผานกูเทพบิดร ผานกูปฐมเทพ....

       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×