'ซานซาน' ยอดฮูหยิน
ซานไช่ยอดนักบู๊หญิงปีสองพันเข้าฉากหนังจีนย้อนยุคฟอร์มยักษ์ อยู่ดีๆ ไฉนทะลุมิติมายังจีนโบราณกว่าห้าพันปี...!!! พวงท้ายสองเด็กน้อยภาระหนักอึ้ง
ผู้เข้าชมรวม
2,326
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
นำเรียนเบื้องต้น
นิยายเรื่องนี้ ทุกตอนจะยังไม่ตรวจคำผิด
ด้วยความเคารพ
........
เกริ่นนำ
นางสาวซานไช่ แซ่เตียว สาววัย 25 ปี ผมเยียดตรงดำเป็นเงามันวาวยาวกึ่งกลางแผ่นหลัง สูงร้อย 163 เซนติเมตร รอบเอวคอดกิ่ว 25 นิ้ว สะโพกและหน้าอกเกือบๆจะเท่ากัน คือ 36-37 นิ้ว ผิวเรียบไร้ตำหนิผิวพรรณดีและขาวนวลเนียนประหนึ่งลูกท่านหลานเธอ ความสวยไร้สาวคนใดเปรียบเทียบ สวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ฉลาดหลักแหลม สู้ชีวิตทั้งอึดและทึก
ตั้งแต่หัวจรดเท้าทุกคนมองเห็นและต้องคิดว่าเป็นลูกสาวผู้ดีมีฐานะ แต่ทว่า...เธอ เป็นเพียงเด็กที่เติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่รู้ว่าใครคือพ่อแม่ญาติพี่น้อง ชื่อและนามสกุลพร้อมวันเดือนปีเกิดได้จากเจ้าหน้าที่ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจัดการให้
เพราะเป็นเด็กกำพร้าไร้ที่มาที่ไป จึงต้องขยันร่ำเรียนหวังกอบโกยความรู้เพื่อเอาตัวรอด และขยันทำงานในวันหยุดหรือช่วงปิดเทอม ด้วยเมื่อพ้นอายุสิบแปดต้องออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพื่อผจญชีวิตด้วยลำแขงตัวเอง
อายุครบสิบแปดปี ออกจากสถานเลี้ยงกำพร้า ไม่มีที่ไปทางรอดทำให้ไม่อดยากคือต้องทำงานทุกอย่างไม่เลือกหากมีคนจ้าง และอาศัยพักค้างแรมวัดวาอารามกลายเป็นเด็กวัดกินข้าวก้นบาตรประทั่งชีวิตโดยปริยาย
ความบังเอิญทำให้ได้งานเด็กส่งของในค่ายมวยชาวไทยที่มาเปิดสอนในเมืองปักกิ่ง
เมื่อมีความสนิทสนมกับภรรยาชาวจีนและบุตรชายที่อายุมากกว่าเธอสองปีของเจ้าของค่ายมวยไทย เธอจึงได้เรียนศิลปะป้องกันตัวทุกแขนง แววความเก่งกาจเพราะการมุมานะในการเรียนและขยันฝึกซ้อมวิชาการต่อสู้ในเวลาว่าง จึงถูกคัดเลือกลงสนามแข่งเป็นนักมวยหญิง เพราะความสามารถ หากยึดอาชีพนักมวยคงไม่ยั่งยืนจึงคิดมุ่งเรียนทางทหารเป็นอาชีพหลักมีเจ้าของค่ายมวยสนับสนุน
เพราะความสวยจึงเข้าตาแมวมอง จึงถูกดึงตัวเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยเช่นกัน จึงหยุดชกมวยสากลและมวยไทย...หันมาสนใจดูแลผิวพรรณ ศึกษาครีมบำรุงผิวพรรณตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เพราะการเข้าสู่วงการบรรเทิง
พร้อมหันมาตั้งใจเรียนด้านการทหารเป็นทหารหญิง ยามว่างรับงานแสดงด้วย ได้ค่าจ้างดีกว่าการชกมวยและไม่ต้องเจ็บตัว อีกอย่างงานเดินแบบที่ส่วนใหญ่รับงานเป็นช่วงกลางคืนและหากเป็นเวลากลางวันเลือกเฉพาะวันหยุดเรียน ดีที่ครูฝึกในค่ายทหารช่วยส่งเสริมเพื่อมีรายได้จึงไม่เคร่งครัดเมื่อวันออกจากค่ายไปรับงานเพราะรายได้บางส่วนเธอมอบเข้ากองทุนทหารผ่านศึก คือดีทั้งสองฝ่าย
เธอเลือกเรียนด้านการทหารเพราะไม่ต้องท่องหนังสือ ด้วยนิสัยไม่ชอบอ่าน ไม่ชอบท่องจำ ด้วยเน้นความสามารถการต่อสู้มากกว่า ใจกล้า กล้าเสี่ยง อีกทั้งอึดทั้งทึก
จากงานเดินแบบ รับงานแสดงบทบู๊เพิ่มเพราะผู้กำกับจอเงินและจอแก้วรู้ประวัติมาว่าเธอเคยเป็นนักมวยหญิงและเรียนด้านการทหาร หรือทหารหญิงนั้นเอง
เธอมองการไกล... หน้าตารู้ว่าเป็นนางเอกได้สบายๆ แต่เพราะไม่ชอบท่องบท ไม่ขอบเข้าบทพระนางวาบวาม เลยเลือกบทตัวแสดงแทนพระนาง ในบทเสี่ยงๆหรือคิวบู๊ บทบาทนี้น่าจะคงอยู่ได้นานมากกว่าบทนางเอก นางรอง เชื่อได้เลยว่าหาตัวนักแสดงหญิงที่เล่นบทเสี่ยงๆหรือคิวบู๊ที่เก่งๆ ได้ยากมาก
ด้วยชอบในบทบู๊ จึงหาเวลาว่างเข้าเรียนเสริมการควบขี่ม้า ฟันดาบ ยิงธนู เพราะหนังหรือละครที่รับแสดงจะเป็นแนวจีนโบราณกว่าแปดสิบเปอร์เซ็น
เธอคงเป็นนักแสดงเพียงคนเดียวในเมืองปักกิ่งที่ไม่มีสังกัดและไม่มีผู้จัดการส่วนตัว
และคงเป็นอีกนั่นละที่ไม่มีเพื่อนคบหาหรือคบหาใครนอกจากบุตรชายเจ้าของค่ายมวย เพราะแต่ละวันมีหน้าที่เธอคือเรียนๆ เลิกเรียนคือรับงานการแสดง งานเดินแบบควบคู่กันไป ว่างอีกคือเรียนอย่างอื่นแทน ที่จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในบทบาทการแสดง อย่างเช่น การฝึกคัดตัวอักษรจีนโบราณ เรียนการแสดง การขี่ม้า ฟันดาบ ยิงธนู การทำอาหาร ขนมหวาน เย็บปักทักร้อย วาดรูป แม้แต่ช่างปั้นดินเผาก็ยังลงเรียน เป็นต้น จะว่าเธอเรียนแหลกลานก็ไม่แปลกเพราะต้องการให้สมบทบาทที่รับงานแสดง และผู้กำกับ ผู้ผลิตรายการ ก็ต้องชอบและจ้างงานคนเก่งหลายรูปอยู่แล้ว
เธอได้สมญานาม 'ราชินีบู๊ล้างผลาญ' ตั้งแต่เริ่มการแสดงได้เพียงหนึ่งปี
เธอเป็นนักแสดงที่ไม่มีเรื่องอื้อฉาว จึงมีแฟนคลับหลักล้านคน แฟนคลับแต่ละคนต่างยุยงให้รับบทนางเอก ถึงเธอไม่เคยมีกิจกรรมร่วมกับแฟนคลับเหมือนดารานักแสดงหลายคน เธอยังคงมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ของขวัญที่ได้รับจากแฟนคลับส่วนมากเธอประกาศบอกแฟนคลับทางสื่อว่าขออนุญาตินำส่งต่อยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สถานสงเคราะทหารผ่านศึก ผู้ชราไร้ญาติ วัดวาอาราม โรงเรียน โรงพยาบาลฯ จะมีประโยชน์มากกว่า เรื่องที่เธอกระทำเช่นนี้เอง เธอจึงยิ่งมีแฟนคลับและของขวัญเพิ่มขึ้นมากมาย และส่งต่อมากมายเช่นกัน ถือเป็นการสร้างบุญกุศลร่วมกับแฟนคลับไปในตัว
เพราะด้วยงานหลักคือทหารแนวหน้าและงานอดิเรกคือรับงานแสดงบทบู๊ ที่มีความเสี่ยงถึงชีวิต เธอจึงทำพินัยกรรมไว้ สมบัติทั้งหมดที่มีแบ่งเป็นสามส่วนเท่าๆกัน หนึ่งยกให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและสถานส่งเคราะห์ทหารผ่านศึก สองให้ค่ายมวยที่สอนวิชาการต่อสู้ทุกแขนงให้เธอจนประสบความสำเสร็จได้ยึดอาชีพทหารหญิงและสายงานบันเทิงจนสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ สามมอบให้ผู้สูงวัยไร้ญาติทุกสถานที่ในเมืองปักกิ่ง ที่เธอรีบตัดสินใจทำพินัยกรรมขึ้นด้วยมองเห็นตัวอย่างกรณีนักแสดงบางคนที่มีเงินในบัญชีจากรายได้การแสดงเป็นร้อยล้านเมื่อเสียชีวิตขึ้นมากระทันหัน บรรดาพ่อแม่พี่น้องรวมทั้งญาติต่างฟ้องร้องให้แบ่งทรัพย์สินเห็นแล้วทำเอาปวดหัวแทน
ถึงเธอไม่มีญาติ แต่หากว่าจะถือว่าสถานเลี้ยงกำพร้า และคนในค่ายมวยไทยในเมืองปักกิ่ง เป็นญาติก็ไม่แปลก จึงตัดสินใจแบ่งทรัพย์สินให้เสียเลย
อาจเพราะความสามารถมากมายและเป็นดาราดังในคิวบู๊ บวกหน้าตาดีขั้นเป็นนางเอกได้สบายๆ เธอจึงถูกผู้บังคับบัญชามอบงานให้อารักขาคนบุคคลสำคัญของประเทศและแขกสำคัญมาเยือนประเทศ มีเธอเหมือนซูหน้าตาให้กอวทัพว่างั้นเถอะ มีอภิสิทธิ์ได้วันพักผ่อนหลายวันถือเป็นการดีที่จะรับงานแสดงและเดินแบบมีเงินเข้ากระเป๋าเพิ่ม กองทุนทหารผ่านศึกก็มีทุนเพิ่ม ดีทั้งสองฝ่าย
แฟนคลับที่ได้เห็นได้รู้ข่าวสารเธอทางช่องทางสื่อสารทีวี ว่าเธอเป็นทหารหญิงมากความสามารถถึงขั้นมีหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญระดับชาติ เธอยิ่งมีชื่อเสียงและโด่วดังจนใครๆหรืออะไรๆก็ฉุดไม่อยู่
ผลงานอื่นๆ ของ 2508251125161507 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ 2508251125161507
ความคิดเห็น