hERO No More; เรื่องนี้ไม่มีฮีโร่

     สวัสดีครับ นี่เป็นนิยายเรื่องแรกของผม ผมตั้งใจเขียนขึ้นมาเพราะต้องการลองอะไรใหม่ๆ ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ 

     เชื่อว่าทุกคนคงเคยมีความคิด แนวคิด ทฤษฎี การมองโลกในมุมที่แตกต่างหรือจินตนาการบางอย่างที่อยู่ในหัว แต่ไม่รู้จะถ่ายทอดออกมาให้คนอื่นรอบตัวได้รับรู้ เข้าใจหรือยอมรับมันยังไง จนบางครั้งตะกอนความคิดเหล่านั้นก็ถูกปิดผนึกอยู่อย่างนั้น อยู่กับตัวเราเองตลอดไป

     การเขียนนิยายขึ้นมาสักเรื่องอาจจะเป็นทางออกที่จะไขกุญแจห้องแห่งความลับที่ถูกปิดตายในหัวใจของใครหลายๆ คน รวมทั้งผมด้วยเช่นกัน

     hERO No More เป็นเรื่องราวในปี ค.ศ 2621 ที่เล่าถึงโลกของเรา หลังได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงจนถึงขีดสุด น้ำแข็งขั้วโลกละลายจนหมดแล้ว ผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ความแปรปรวนของสภาพอากาศก่อให้เกิดภัยพิบัติธรรมชาติที่รุนแรงเกินรับมือ โรคระบาดใหม่ที่ไม่มียารักษา อาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้น และสงครามเพื่อแย่งชิงอานานิคมของประเทศมหาอำนาจในสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งกินเวลากว่า 100 ปี จนทำให้จำนวนประชากรโลกในอีก 600 ปีข้างหน้าเหลือไม่ถึง 1,000 ล้านคน (ในปี 2021 มีประชากรประมาณ 7,300 ล้านคนทั่วโลก) 

     ผลกระทบจากสงครามระเบิดนิวเคลียร์ได้ทำลายทั้งที่อยู่อาศัยและแหล่งทรัพยากรที่สำคัญๆ ในแต่ละทวีปทั่วโลกไปจนเกือบหมดสิ้น ส่งผลให้ผู้ชนะสงครามใช้อำนาจทางการทหารในการยึดครองดินแดนที่ยังคงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ สร้างเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงสูงด้วยแรงงานเชลยศึกจากฝั่งผู้พ่ายแพ้ในสงคราม เมืองที่ล้อมรอบด้วยกำแพงมีด้วยกันทั้งหมด 7 เมืองทั่วโลกได้แก่ เมืองเฮฟเว่น เมืองอีเดน เมืองนอร์ททิส เมืองซิงเถ่า เมืองยูร่า เมืองรามัน และเมืองเซาท์เกท ผู้ที่มีสิทธิอยู่ภายในเมืองทั้ง 7 นี้มีเพียงแต่ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกหรือผู้ที่มีกำลังทรัพย์พอที่จ่ายเท่านั้น ผู้คนด้านนอกกำแพงหรือเรียกกันว่า "เอาท์ไซด์" ต่างกระจัดกระจ่ายกันอยู่ตามที่ต่างๆ ทั่วโลกซึ่งเหลืออยู่เพียงน้อยนิด เนื่องจากผลกระทบระยะยาวของกัมมันตรังสี

     มาร์ส เกิดในปี ค.ศ. 2580 ตอนเธออายุได้ 26 ปี มาร์สได้เข้าร่วมหน่วยแพทย์ทหารในสังกัดกองทหารปฏิวัติที่ 3 นอกกำแพงเมืองเฮฟเว่น ความรู้ด้านศัลยแพทย์ของเธอได้รับการถ่ายทอดมาจาก มาเลส พ่อของเธอ อดีตศัลยแพทย์มือหนึ่งของคณะปฏิวัติ ในสงครามที่คณะปฏิวัติได้พ่ายแพ้ให้กับหุ่นยนต์สังหารของกองทหารเมืองเฮฟเว่น มาร์ส ได้ช่วยชีวิตทหารฝ่ายปฏิวัติไว้ทั้งสิ้น 129 นาย นับเป็นเกียรติภูมิที่เธอได้รับการยกย่องมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ด้วยเหตุการครั้งนั้น ทำให้เธอต้องสูญเสีย เบนด์ คนรักของเธอที่รับอาสาเป็นทหารเพื่อสู้รับกับเหล่าหุ่นยนต์เพชรฆาตร เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้แก่เอาท์ไซท์ ทำให้เธอถอนตัวจากการเป็นแพทย์ทหาร และได้ให้กำเนิดลูกสาวแสนน่ารัก เจน,ของขวัญชิ้นสุดท้ายของคนรักของเธอ