(fic kimetsu No Yaiba x kamen rider saber x fate) ฉันมาอยู่ที่นี้ได้ไงเนี้ย
ผู้เข้าชมรวม
2,182
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คามิยามะ โทวมะ (อายุในโลกไยบะ 16 ปี)
ดาบศักดิ์สิทธิ์:คาเอ็นเค็น เร็กกะ
ในวัยเด็กเขาได้เข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่าง ซอร์ดออฟโลกอส และ เมกิดโด ขณะนั้นเขาพยายามจะช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะถูกดูดเข้าไปในประตูมิติ แต่ก็ไม่ทันการ โทมะได้รับการช่วยเหลือโดย มาสค์ไรเดอร์เซเบอร์คนแรก ก่อนที่เขาจะถูกพามาส่งที่โลก และได้รับ เบรฟดราก้อน วันเดอร์ไรด์บุ๊ค มา หลังจากนั้นเขาก็สูญเสียความทรงจำและเห็นภาพอดีตในความฝันมาตลอด แต่แล้วเมื่อพวกเมกิโดรุกรานโลกอีกครั้ง โทมะก็ได้พบกับดาบศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นจะปกป้องผู้คน เขาจึงเป็นมาสไรเดอร์ เซเบอร์ ผู้ใช้ดาบคาเอ็นเค็น เร็กกะ ฟาดฟันเหล่าร้ายด้วยเปลวเพลิงแห่งคุณธรรม.มีนิสัยใจดี อ่อนโยน และร่าเริง แต่เมื่อเขาต้องสู้เขาจะไม่ลังเลที่จะสู้เพื่อปกป้องผู้คน
"บทสรุปของเรื่องราวน่ะ ฉันจะเป็นคนกำหนดเอง"
ร่างทั้งหมดของมาสไรเดอร์เซเบอร์
เบรฟดราก้อน (ブレイブドラゴン)
ร่างพื้นฐานของเซเบอร์ ที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง ใช้เพลงดาบอัคคีต่อสู้เป็นหลัก ชุดเกราะมีสีดำ สลับขาว และแดง เกราะไหล่ขวามีลักษณะเป็น หัวมังกรเพลิง เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ เร็กกะ บัทโต! เบรฟดราก้อน! เร็กกะอิทซัทสึ! ยูคิ โนะ ริว โตะ คาเอ็นเค็น เร็กกะ กะ มาจิวารุ โทคิ ชินคุ โนะ สึรุกิ กะ อาคุ โวะ สึรานุคุ! (烈火抜刀!ブレイブドラゴン!烈火一冊!勇気の竜と火炎剣烈火が交わる時、真紅の剣が悪を貫く!, ชักดาบอัคคี ! เพลิงลุกโชน บทที่ 1 เมื่อมังกรแห่งความกล้า และ ดาบอัคคี เร็กกะ พานพบบรรจบกัน คมดาบแดงฉานนั้น จักทะลวงผ่านหมู่มารให้สิ้นไป !)
ดราก้อนอีเกิ้ล (ドラゴンイーグル)
ร่างที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค และ สตอร์มอีเกิ้ลวันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง เนื่องด้วยพลังของ สตอร์มอีเกิล สนับสนุนเบรฟดรากอนได้เป็นอย่างดี ร่างนี้เซเบอร์จึงใช้พลังได้เต็มประสิทธิภาพกว่าร่าง วันเดอร์ไรเดอร์ อื่น ๆ ก่อนหน้า ด้วยปีก เวอร์มิลเลียน วิงก์ ที่ด้านหลัง ทำให้เซเบอร์ร่างนี้สามารถเหาะไปบนอากาศได้ และยังใช้สร้างพายุหมุนได้อีกด้วย เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ เร็กกะ บัทโต! ทัตสึมากิ ดราก้อนอีเกิล ! เร็กกะนิซัทสึ! อาราบุรุ โซระ โนะ โยคุริว กะ โกคุเอ็น โวะ มาโทอิ , อารายูรุโมโนะ โวะ ยาคิทสึคุ ! (烈火抜刀!竜巻ドラゴンイーグル!烈火二冊!荒ぶる空の翼龍が獄炎をまとい、あらゆるものを焼き尽くす!, ชักดาบอัคคี ! พายุกระหน่ำ ดราก้อนอีเกิล ! เพลิงลุกโชน บทที่ 2 ! พญาปักษาผู้เดือดดาล เผาผลาญสิ้นทุกสิ่งด้วยไฟโลกันตร์ !)
ไซยูดราก้อน (西遊ドラゴン)
แกร่งเพิ่มพลังของเซเบอร์ ที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค และ ไซยูเจอร์นีย์วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง สามารถใช้กระบองเห้งเจียยืดยาวออกมาจากแขนซ้าย เพื่อโจมตีได้ รวมถึงเรียกเมฆวิเศษออกมาช่วยต่อสู้ได้อีกด้วย
ดราก้อนอะลันจิน่า (ドラゴンアランジーナ)
ร่างที่ใช้ เบรฟดราก้อน วันเดอร์ไรด์บุ๊ค คู่กับ แลมป์ โด อะลันจินา วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่โทมะเก็บไว้เป็นของดูต่างหน้าเค็นโตะ ในร่างนี้เซเบอร์จะต่อสู้ด้วยดาบอัคคี เร็กกะ ควบคู่กับ ดาบอสุนี อิคาซึจิ เป็นการแสดงให้ถึงเจตนารมย์ที่โทมะต้องการสู้เพื่อล้างแค้นให้กับเค็นโตะ และในการโจมตี เซเบอร์จะสามารถใช้กระบวนท่าดาบไฟ ผสมกับ กระบวนท่าดาบสายฟ้าได้เช่นกัน
ดราก้อนอาเธอร์ (ドラゴンアーサー)
ร่างที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค และ คิงออฟอาเธอร์วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง หลังจากที่ได้รับ คิงออฟอาเธอร์ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค มาจากดินแดนลี้ลับ อาวาลอน เพื่อปลดผนึกซอร์ดไดรเวอร์ที่โดนสโตเรียสผนึกไป ชุดเกราะสีฟ้าขลิบเหลืองทอง เกราะไหล่ด้านซ้ายมีลักษณะเป็นหมวกเกราะอัศวิน มีอาวุธประจำร่างคือดาบ คิงเอ็กซ์คาลิเบอร์ โดยหลังจากที่โทมะสามารถปลดล็อคพลังที่แท้จริงของ คิงออฟอาเธอร์ ได้ จะมีดาบคิงเอ็กซ์คาลิเบอร์ขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นหลังแปลงร่างด้วย ทุกครั้งที่เซเบอร์โจมตี ดาบขนาดยักษ์ก็จะโจมตีไปด้วย
คริมสันดราก้อน (クリムゾンドラゴン)
ร่าง วันเดอร์คอมโบ สมบูรณ์ของเซเบอร์ที่ใช้ เบรฟดราก้อนวันเดอร์ไรด์บุ๊ค, สตอร์มอีเกิ้ลวันเดอร์ไรด์บุ๊ค และ ไซยูเจอร์นีย์วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงด้วยพลังของวันเดอร์ไรด์บุ๊คทั้ง 3 เล่มที่ประสานกัน เซเบอร์จึงสามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้อย่างเต็มที่ และสามารถต่อกรกับคาลิเบอร์ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ด้วยพลังมหาศาลจาก วันเดอร์ไรด์บุ๊ค 3 เล่มที่ผสานกันอย่างสมบูรณ์ ทำให้ร่างกายโทมะถึงกับหมดสภาพหลังจากการต่อสู้ เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ เร็กกะ บัทโต! คาตาริทสึกะ เรชิ โนะ ชินจู โนะ โซโนะ นาวะ คริมสันดรากอน ! เร็กกะซันซัทสึ! ชินคุ โนะ ซึรุกิ กะ อาคุ โวะ ทสึรานุคิ , ซุเบเตะ โวะ โมยาสุ ! (烈火抜刀!語り継がれし神獣のその名は! クリムゾンドラゴン! 烈火三冊!真紅の剣が悪を貫き 全てを燃やす!, ชักดาบอัคคี ! นามกรแห่งสัตว์เทวะนั้นคือ ! คริมสันดราก้อน ! เพลิงลุกโชน บทที่ 3 ! คมดาบแดงฉานจักประหารหมู่มารให้มอดม้วย อีกผลาญด้วยเปลวไฟโชติช่วงทั้งโลกา !)
ดราก้อนอีเกิ้ลอาเธอร์ (ドラゴンイーグルアーサー)
ดราโกนิคไนท์ (ドラゴニックナイト)
ร่างพัฒนาของเซเบอร์จากการใช้ ดราโกนิคไนท์ วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ที่ได้ตอบรับกับจิตใจของโทมะที่ต้องการสู้เพื่อพวกพ้อง ชุดเกราะทั้งร่างเปลี่ยนเป็นสีเงินขลิบแดง ซึ่งมีพลังป้องกันที่เพิ่มขึ้นมาก จนดาบของคาลิเบอร์ไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่รอยข่วน มี ดราโกนิคบูสเตอร์ ติดตั้งที่แขนซ้าย โดยสามารถนำวันเดอร์ไรด์บุ๊คไปแสกนเพื่อใช้พลังเสริมได้ และเซเบอร์ในร่างนี้ยังสามารถเรียกเบรฟดราก้อนมาเป็นพาหนะขึ้นขี่ในการต่อสู้ได้อีกด้วย เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ เร็กกะ บัทโต! Don't miss it ! (The knight appears. When you side,) โดเมทัลลิคอาร์เมอร์ ! (You have no fear and the flame is bright.) โดฮาเดนิคบูสเตอร์ ! (Ride on dragon, fight.) โดฮาคิเรียวคุ ไรเดอร์ ! (Dragonic Knight.) ดราโกนิคไนท์ ! สุนาวาชิ โด ทสึโย่ย ! , (烈火抜刀!Don't miss it!(The knight appears. When you side,) ドメタリックアーマー! (You have no fear and the flame is bright.) ドハデニックブースター! (Ride on dragon, fight.)ドハクリョックライダー! (Dragonic Knight.) ドラゴニックナイト! すなわちド強い!, จงคอยดู ! (อัศวินปรากฎกาย ต่อหน้าเจ้า) ชุดเกราะเหล็กไหล ! (ไร้ซึ่งความหวาดหวั่น เปลวไฟนั้นลุกโชติช่วง) โดฮาเดนิค บูสเตอร์ ! (ขี่มังกร ประจัญบาน) โดฮาคุเรียวคุ ไรเดอร์ ! (ดราโกนิคไนท์) ดราโกนิคไนท์ ! แกร่งกล้าเหนือคำบรรยาย !)
พริมิทีฟดราก้อน (プリミティブドラゴン)
เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ เร็กกะ บัทโต! ฮาคิ โบคิ โบน กาคิ โกคิ โบน พริมิทีฟ ดราก้อน! (烈火抜刀!ハキ! ぼき! ボン! ガキ!ゴキ! ボン! プリミティブ.........ドラゴン!!!)
ท่าไม้ตาย
มิซึยะ มิกะ (อายุ 16 ปี)
ปราณ:ปราณโลหิต
กระบวนท่าที่1เปลวเพลิงโลหิต
กระบวนท่าที่2พิษโลหิตเพลิง
กระบวนท่าที่3ระเบิดโลหิตสังหาร
กระบวนท่าที่4โลหิตสังหารเปลวไฟ
กระบวนท่าที่5กังหันโลหิตเปลวเพลิง
กระบวนท่าที่6โลหิตสะท้านโลกัล
กระบวนท่าที่7ยิงโลหิตไฟ
กระบวนท่าที่8โลหิตสุริยัน
กระบวนท่าที่9โลหิตมรณะ
กระบวนที่10ไม้ตายโลหิต
เป็นเด็กลูกครึ่งมนุษย์ครึ่งอสูร โดยพ่อเป็นคน แม่เป็นอสูรที่ไม่กินคน โดยปราณโลหิตดัดเแปลงมาจากมนต์อสูรโลหิต มีนิสัยเย็นชา สุขุมเยือกเย็น แต่ลึกๆเป็นคนที่อ่อนโยนและใจดี
"อสูรอย่างแกนะ ไม่สมควรอยู่บนโลกนี้"
ฟูคามิยะ เคนโตะ(อายุในโลกไยบะก็พอๆกับโทวมะแหละครับ)
ดาบศักดิ์สิทธิ์:ไรเมเค็น อิคาซึจิ
นักดาบผู้ใช้ดาบไรเมเค็น อิคาซึจิ เป็นเพื่อนสมัยเด็กของโทมะที่ห่างหายกันไปนาน อีกทั้งยังเป็นนักดาบแห่ง sword of logos มาสไรเดอร์ เอสปาด้า โดยในอดีตพ่อของเขาคือนักดาบแห่งความมืดผู้ทรยศ มาสไรเดอร์ คาลิเบอร์
มีนิสัยที่สุขุมเยือกเย็น ยิ้มยาก และรักพวกพ้อง
"ฉันจะไม่ลังเลอีกแล้วล่ะ !"
ร่างทั้งหมดของมาสไรเดอร์เอสปาด้า
แลมป์ โด อะลันจินา (ランプドアランジーナ)
ร่างพื้นฐานของเอสปาดา ที่ใช้ แลมป์ โด อะลันจินา วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง ใช้เพลงดาบอัสนีบาตต่อสู้เป็นหลัก ชุดเกราะมีสีเงินสลับขาว และทอง เกราะไหล่ซ้ายมีลักษณะเป็นตะเกียง มีความเร็วในการเคลื่อนที่เป็นเลิศ เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ อิคาซึจิ บัทโต! แลมป์ โด อะลันจินา! อิคาซึจิ อิทซัทสึ! แลมป์ โนะ เซย์ โตะ ไรเมย์เค็น กะ มาจิวารุ โทคิ อินาซุมะ โนะ สึรุกิ กะ ฮิคาริ คางายาคุ ! (黄雷抜刀!ランプドアランジーナ!黄雷一冊!ランプの精と雷鳴剣雷が交わる時稲妻の剣が光り輝く!, ชักดาบอัสนีบาต ! สายฟ้าคำรน บทที่ 1 ! เมื่อตะเกียงแห่งมนตรา และ ดาบอสุนี อิคาซึจิ พานพบบรรจบกัน คมดาบวัชระนั้น จักส่องประกายแสงเจิดจรัส !)
แลมป์ โด เฮดจ์ฮอก (ランプドヘッジホッグ)
ร่างเพิ่มพลังของเอสปาดา ที่ใช้ นีเดิลเฮ็ดจ์ฮอก วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง เสียงประกาศในการแปลงร่างคือ อิคาซึจิ บัทโต! โทเก ! โทเก ! แลมป์ โด เฮ็ดจ์ฮอก ! อิคาซึจิ นิซัทสึ ! คิวคิวโตะ โคซุรุ โตะ อาระวาเรตะ โซโนะ มาจิน เอะ โนะ เนกาอิ โตะ วะ ชิคูชิคู โนะ โยโรอิ ดัตตะ ! (黄雷抜刀!トゲ!トゲ!ランプドヘッジホッグ!黄雷二冊!キュキュっとこすると現れた その魔人への願いとはチクチクの鎧だった!, ชักดาบอัสนีบาต ! หนามแหลม ! หนามแหลม ! แลมป์ โด เฮ็ดจ์ฮอก ! สายฟ้าคำรน บทที่ 2 ! พรแห่งจินนีที่ข้าปรารถนานั่นหรือ คือชุดเกราะซึ่งเต็มไปด้วยหนามแหลมคม !)
แลมป์ โด เคเรเบรัส
โกลเดน อะลันจินา (ゴルデンアランジナ)
ร่างวันเดอร์คอมโบ ที่สมบูรณ์ของเอสปาดา ที่ใช้ ไทรเซอร์เบอร์รัส วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ร่วมกับ นีเดิลเฮ็ดจ์ฮอก และ แลมป์ โด อะลันจินา วันเดอร์ไรด์บุ๊ค ในการแปลงร่าง โดยเอสปาดาจะสามารถแสดงพลังออกมาได้เต็มที่ เสียงประกาศในการแปลงร่าง คือ อิคาซึจิ บัทโต! แลมป์ โนะ มาจิน กะ ! ชิน โนะ จิคาระ โวะ ฮัคคิซุรุ ! โกลเดน อะลันจินา ! อิคาซึจิ ซันซัทสึ ! อินาซึมะ โนะ ซุรุกิ กะ ฮิคาริคางายาคิ ไรเมย์ กะ โทโดโรคุ ! (黄雷抜刀!ランプの魔人が真の力を発揮する! ゴールデンアランジーナ!黄雷三冊!稲妻の剣が光り輝き、雷鳴が轟く!, ชักดาบอัสนีบาต ! สำแดงฤทธิ์เดชที่แท้จริง ของตะเกียงแห่งจินนี ! โกลเดน อะลันจินา ! สายฟ้าคำรน บทที่ 3 ! คมดาบวัชระส่องแสงเรืองรอง ดังกึกก้องด้วยเสียงกัมปนาท !)
ท่าไม้ตาย
อะลันจินา เดียโบล (アランジーナ・ディアブロー)
ท่าไรเดอร์คิกของเอสปาดา โดยรวมพลังงานสายฟ้าไว้ที่เท้าและใช้ลูกถีบพุ่งโจมตีด้วยความเร็วสูง
อะลันจินา วันเดอร์ (アランジーナ・ワンダー)
เมื่อกดที่ แลมป์ โด อะลันจินา วันเดอร์ไรด์บุ๊ค เอสปาด้าจะสามารถใช้เพลงดาบที่เพิ่มพลังสายฟ้าได้
เทรโน เดสโตรเดอร์ (トルエノ・デストローダ)
ท่าไม้ตายสังหาร เอสปาดาจะพุ่งเข้าหาศัตรูด้วยความเร็วสูงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า พร้อมกับใช้ดาบฟาดฟัน ขณะเดียวกันศัตรูจะถูกช็อตด้วยสายฟ้าและระเบิดไปในที่สุด
เทรโน มิล ลันซา (トルエノ・ミル・ランザ)
ท่าไม้ตายของเอสปาดา ร่างแลมป์ โด เฮ็ดจ์ฮอก โดยเอสปาด้าจะอัญเชิญยักษ์จินนี ออกมายิงกระสุนหนามใส่ศัตรู จากนั้นจึงพุ่งผ่านไปด้านหลังศัตรู เพื่อใช้เพลงดาบสายฟ้าฟันปิดฉาก
โอโร บอมบาร์เดโร (オーロ・ボンバルデーロ)
เทรโน เดล โซล (トルエノ・デル・ソル)
ท่าไม้ตายของร่าง โกลเดน อะลันจินา มีความหมายว่า สายฟ้าสุริยัน เอสปาดาจะรวมพลังงานทั้งหมดไปที่ใบดาบ และฟันใส่ศัตรูด้วยท่าดาบสายฟ้าที่มีอานุภาพมากขึ้น
เซเบอร์(อายุในโลกไยบะพอๆกับโทวมะและเคนโตะนั่นแหละครับ)
คลาส:นักดาบ
ข้ารับใช้ประเภทนักดาบของชิโร่ ชื่อเต็มของเธอนั้นคือ อาโทเรีย เพนดรากอน ซึ่งต้นแบบตัวละครของเธอนั้นมีแรงบันดาลใจมาจากตำนานของ กษัตริย์อาเธอร์ อาโทเรียเป็นลูกสาวของกษัตริย์ ยูเธอร์ เพนดราก้อน แห่งอังกฤษ และ พระนางอิเกรน ดัชเชสแห่ง คอร์นวอล ด้วยตามการทำนายชะตาของเธอแล้ว ยูเธอร์ได้ตระหนักว่าเธอไม่เหมาะสมที่จะได้รับสิทธิ์ในการครองบัลลังก์ เขาจึงไม่บอกกับใครเกี่ยวกับเรื่องการเกิดของอาฑทเรีย และเพศของเธอ พร้อมทั้งมอบเธอให้กับ เมอร์ลิน ให้ไปมอบให้กับ เซอร์เอ็กเตอร์ นักรบผู้ที่ให้การเลี้ยงดูเธอในฐานะของบุตรชายบุญธรรม เมื่อกษัตริย์ยูเธอร์สวรรคตบัลลังก์ก็ได้ไร้ผู้สืบทอด อังกฤษในสมัยนั้นจึงได้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของพวก แซกซอน ต่อมาเมื่ออาโทเรียอายุ15 ปีเมอร์ลินก็ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเธอ และได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอได้ฟังว่าหากเธอเป็นผู้ที่ดึงดาบคาลิเบิร์นที่ปักอยู่ที่แท่นหินได้ ชาวอังกฤษทุกคนจะยกย่องเธอให้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม การที่ใครจะดึงดาบเล่มนั้นขึ้นมา ผู้นั้นจักต้องยอมรับในสิ่งต่างๆ ที่หนักหนาสาหัสที่จะถาโถมเข้ามาในฐานะของกษัตริย์ และอาโทเรียจะต้องรับผิดชอบที่จะต้องปกป้องประชาชนเหล่านั้นด้วย เมื่อปราศจากความลังเลและความกังขาในเรื่องเพศของตนแล้ว เธอก็ได้เลือกที่จะดึงดาบเล่มนั้นขึ้นมา และขึ้นเป็นผู้นำแห่งอังกฤษ
อาโทเรียได้ปกครองบริเทน ซึ่งปราสาทของเธอนั้นอยู่ที่กรุงคาเมล็อต และได้รับการยกย่องสรรเสริญจากประชาชนของเธอเป็นอย่างมาก เธอได้รับการสั่งสอนจากเมอร์ลิน และได้รับความช่วยเหลือต่างๆ จาก อัศวินโต๊ะกลม ซึ่งเธอก็ได้ทำให้อังกฤษอยู่ในยุคที่เฟื่องฟูและสงบสุข ต่อมาดาบคาลิเบิร์นของเธอก็ได้ถูกทำลายลง แต่เธอก็ได้รับดาบเล่มใหม่ เอกซ์คาลิเบอร์ และอวาลอน(ฝัก ดาบ) ซึ่งได้รับมาจาก วิเวียน ซึ่งอานุภาพของอวาลอนยามที่มันอยู่ในร่างกายของเธอ อาโทเรียจะไม่มีวันแก่ และเป็นอมตะ มีนิสัยสุขุม กิริยาเย็นชา แต่จงรักภักดีต่อนาย
"ฉันจะ.....เชื่อมั่นในสิ่งที่ฉันปราถนา"
ความสามารถ
ม่านอากาศซ่อนเร้น
ศาสตรานี้นั้นสามารถสรุปได้ว่าเป็นฝักดาบแห่งสายลมที่คลุมเอกซ์คาลิเบอร์เอาไว้เพื่อไม่ให้เหล่ามาสเตอร์หรือเซอร์แวนท์คนอื่น ๆ ล่วงรู้ถึงดาบศักดิ์สิทธิ์ที่มองก็รู้เลยว่าเป็นของกษัตริย์อาเธอร์ผู้โด่งดังและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอ ลักษณะของมันโดยตรงก็คือเขตแดนเวท, และมีความใกล้เคียงกับศาสตร์เวทปัจจุบันมากกว่าศาสตราแห่งตำนาน, หลายคนสันนิษฐานว่าบุคคลที่สร้างมันขึ้นมาก็คือพ่อมดเมอร์ลิน สายลมแรงดันสูงที่อยู่รอบ ๆ ใบดาบก็หักเหแสงโดยรอบ, ทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถที่จะล่วงรู้ถึงลักษณะรูปแบบของดาบของเธอได้เลย, หรือถึงระดับที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออาวุธชนิดไหน แต่ถ้าหากคู่ต่อสู้รู้แล้วว่ามันคืออะไร, ก็จะทำให้เป้าหมายในการปกปิดรูปร่างไร้ผลไปเลย มันยังช่วยเพิ่มความคมของเอกซ์คาลิเบอร์, และเซเบอร์สามารถใช้มันเพื่อก่อสร้างกำแพงลมที่ใหญ่พอที่จะปกปิดอาคารทั้งหลังได้อีกด้วย หลังจากที่เขตแดนเวทถูกปลดปล่อย, วายุแรงดันสูงก็จะหมุนอยู่รอบ ๆ ตัวเธอและสามารถปลดปล่อยมันเป็นการโจมตีที่รุนแรงในครั้งเดียว, การโจมตีนั้นมีนามว่า ‘การโจมตีแห่งสายลม – ค้อนแห่งราชันวายุ (สไตรค์ แอร์)’ เธอยังสามารถที่จะใช้มันเพื่อพุ่งตัวเองไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงถึงสามเท่าของความเร็วปกติของเธอ
เอกซ์คาลิเบอร์
ดาบศักดิ์สิทธ์ที่ทรงพลังที่สุด, และเป็นศาสตราแห่งตำนานที่มีชื่อเสียงและพลังมากที่สุดของกษัตริย์อาเธอร์ มันคือ ศาสตราที่ถูกรังสรรค์โดยเทพเจ้า (ดีไวน์ คอนสตรัคท์), หรือถ้าจะให้เจาะจงมากกว่านั้นก็คือ ‘ศาสตราชิ้นสุดท้าย’ (ลาสต์ แฟนตาซึ่ม), หนึ่งในอาวุธขั้นสุดยอดที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพเจ้า; หรือถ้าตามเคสนี้ก็คือ, สร้างขึ้นจากการตกผลึกของความหวังของหมู่มวลมนุษยชาติเอาไว้[6] ในการต่อสู้นั้น, มันคือดาบที่จะแปรผันพลังเวททั้งหมดของอาธูเรียให้กลายเป็นแสงและปลดปล่อยออกมาจากดาบเป็นคลื่นพลังงานที่มีพลังทำลายล้างมหาศาล มีเพียงแค่คลื่นตรงปลายดาบเท่านั้นที่สร้างความเสียหาย และลำแสงส่วนที่เหลือก็คือการเคลื่อนย้ายของทุกสิ่งทุกอย่างที่มันทำลายลง มีหลายคนที่คิดว่าเอกซ์คาลิเบอร์นั้นต้องการเวลาในการชาร์จการโจมตี
อวาลอน
ฝักดาบที่แท้จริงของเอกซ์คาลิเบอร์, และเป็น ศาสตราที่ถูกรังสรรค์โดยเทพเจ้า (ดีไวน์ คอนสตรัคท์) เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ใช้งานก็ตาม, อวาลอนก็ยังคงสามารถที่จะมอบความเป็นอมตะและการฟื้นฟูร่างกายให้กับผู้ใช้ได้; ผู้ใช้นั้นจะไม่มีวันแก่ลง, และยังสามารถฟื้นฟูตนเองจากการโจมตีที่ทำลายเนื้อตัวเกือบทั้งหมดรวมถึงหัวใจได้อีกด้วย ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถที่จะฟื้นฟูการทำลายลงของสมองได้ก็ตาม แต่จริง ๆ แล้วนั้นความสามารถที่แท้จริงของอวาลอนก็คือ, การป้องกันที่ไร้เทียมทาน เมื่อเรียกใช้แล้วมันจะปกป้องอาธูเรียในอวาลอน, ดินแดนแห่งเหล่าภูตพราย, และเป็นสรวงสวรรค์ (ยูโทเปีย) ที่ไม่มีวันเอื้อมไปถึงได้ที่เธอต้องการที่จะไปในตอนที่เธอยังมีชีวิตอย่างสมบูรณ์ มันคือพลังปกป้องอันเป็นที่สุดของโลกที่เหนือไปกว่าแค่การสกัดกั้นหรือสะท้อนการโจมตีกลับ แต่จะปลีกตัวผู้ใช้ไปยังอีกมิติหนึ่งที่แยกออกจากโลกของเราโดยสัมบูรณ์ เมื่อเรียกใช้แล้วมันจะแตกตัวเองเป็นอณูเวทนับไม่ถ้วนในอากาศและคลุมตัวของผู้ใช้เพื่อเป็น “ปราการที่ขยับได้” ที่ปิดกั้นการแทรกแซงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพ ทางเวทมนตร์ ทางจิตใจ หรือแม้แต่ทางโลกคู่ขนานไปจนถึงมิติที่หกเลยทีเดียว
ผลงานอื่นๆ ของ Saikou 23 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Saikou 23
ความคิดเห็น