วิลล่าหลังนี้..ของใครครับ Haunted house
บางทีอาจจะต้องโทษความอยากรู้อยากลองของตัวเองที่ทำให้เจ้าของร่างบางต้องมายืนอยู่หน้าประตูวิลล่าหลังนี้ ยิ่งพอนึกถึงเรื่องเล่าที่พูดกันปากต่อปากของผู้คนที่ผ่านหูมายิ่งทำเอาเจ้าตัวยืนตัวหนาวสั่น
ผู้เข้าชมรวม
258
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คํ่าคืนที่เงียบสงบในคืนจันทร์ดับแสงช่างเป็นอะไรที่น่าลองของชายหนุ่มที่ชอบลองของอย่างเขายิ่ง ทาโร่ เด็กหนุ่มวัย21ที่ชอบลองของกับกลุ่มเพื่อนของเขาที่ถึงจะเรียกว่ากลุ่มแต่ก็มีกันเพียง3คนที่สนิทกันที่สุด นอกนั้นก็เพื่อนในคลาสเดียวกันที่ชอบเหมือนๆกัน เมื่อรวมกันได้ที่ท้ายป่าทึบรกร้างที่ผู้คนเรียกป่านกฮูกหรือที่คนอื่นๆเรียกกันว่าป่าช้า รวมกันแล้วพวกเขาทั้ง7คนหญิง2ชาย5 ก็แบ่งเส้นทางกันตามหาวิลล่าร้างในตำนาน ที่ว่ากันว่าตั้งอยู่ในป่าลึกและอยู่ไม่เป็นที่บางคืนย้ายไปฝั่งเหนือ บางคืนย้ายไปฝั่งตะวันตกจนยากต่อการตามหา...
" ทาโร่มึงไปทางตะวันตก ส่วนมันนี่ไปทางตะวันออก ผู้หญิงสองคนไปด้วยกันทางเหนือ กู กับไอ้ครามจะไปจุดกลางป่า ใครที่พบวิลล่าให้รีบจุดพลุสัญญาณทันที โอเค๊" เสียงไอ้ข้าวแจกแจงเส้นทางให้แต่ละคนพร้อมกำชับให้เช็คพลุส่วสัญญาณให้ดีเพราะในป่าไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตหรือโทรศัพท์สักขีด ก็แน่ละ รกขนาดนีี้จนมองไม่เห็นท้องฟ้าน่ากลัวสะไม่มี
" ถ้าไม่เจออะไรภายใน10นาทีกลับมารวมที่นี้ทุกคนเข้าใจไหม เที่ยงคืนห้ามเกินเวลาที่กำหนด" ข้าวกำชับอีกครั้งก่อนที่เราจะเริ่มแยกตามทางของตน
อือ รกใช้ได้เลยผมคิดพร้อมสาดส่องไฟฉายไปตามทาง ยิ่งลึกก็ยิ่งวังเวงโดยเฉพาะเจ้านกฮูกที่เกาะตามต้นไม้ยิ่งหลอนไปกันใหญ่ อย่างกับพวกมันกำลังจับตามองผมอยู่ก็ไม่ปาน
แกร๊ก แกร๊ก วี๊ดดดด~
'' เย้ยยย อะไรวะ" ผมชงักเอามือปิดหูในตอนที่เสียงลมพัดผ่าน หลอนชะมัด แต่นั้นก็ไม่เท่ากับเศษใบไม้ที่ถูกพัดออกจนเห็นถนนเก่าๆที่ไม่น่าจะมีในป่าเส้นยาวที่ทอดออกไปไกล หื้มมม ผมยกมือขึ้นมาลูบปลายคางอย่างใช้ความคิด ผมควรเดินไปตามถนนนี้ไหมนะหรือควรเรียกทุกคนมารวมกันก่อน เอ่อ.. ลองตามไปก่อนแล้วกันถ้าเจออะไรค่อยจุดพลุผมคิดในใจก่อนจะเดินตามถนนไปในป่าลึก แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาเพียงนิดเป็นเพื่อนอย่างเดียวในความมืดที่ผมเดินอยู่
" ทำไมยิ่งเดินยิ่งยาววะ จะพาไปสุดไหนละเนี้ย" ผมสบถออกมาเบาๆก่อนจะเห็นแสงไฟลิบลี่เหมือนแสงจากอาคารสูงที่สว่างอยู่ไกลๆ " ในป่าแบบนี้มีบ้านคนด้วยเหรอวะ" ผมมองดูอย่างสงสัยก่อนจะก้าวขาตามแสงไฟนั้นไปอย่างระมัดระวัง ความอยากรู้อยากเห็นกำลังทำงานเต็มที่ความกลัวเริ่มที่จะหายไปเมื่อเท้าก้าวเข้าใกล้ตัวอาคารสีเทานั้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกถึงความผิดปกติโดยรอบเลยสักนิด ทาโร่ยกมือจับกระบอกพลุที่พกไว้ในกระเป๋าขึ้นมาก่อนจะพบว่ามันไม่มี " ไม่มี หะ หายไปไหนวะ เวลาแบบนี้..." ร่างเล็กกลืนนํ้าลายลงคออย่างฝืดๆเมื่อทำของสำคัญหายไป สายลมที่จากพัดเบาๆก็เริ่มรุนแรงขึ้นจนกายบางขนลุกอย่างห้ามไม่อยู่ บรรยากาศเริ่มเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆเมื่อลมไม่มีทีท่าจะหยุดพัดแต่กลับยิ่งเพิ่มแรงกระหนํ่าจนเริ่มยืนอยู่เฉยไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องมีที่หลบดวงตากลมรีเสมองไปที่บานประตูใบใหญ่
บางทีอาจจะต้องโทษความอยากรู้อยากลองของตัวเองที่ทำให้เจ้าของร่างบางต้องมายืนอยู่หน้าประตูวิลล่าหลังนี้ ยิ่งพอนึกถึงเรื่องเล่าที่พูดกันปากต่อปากของผู้คนที่ผ่านหูมายิ่งทำเอาเจ้าตัวยืนตัวหนาวสั้น จะหันหลังกลับก็ไม่ได้เพราะข้างหลังเป็นป่าทึบแถมบรรยากาศยังเงียบสงัดจนน่าขนลุก ในตอนที่เดินเข้ามาท้องฟ้าไม่ได้มืดขนาดนี้ด้วยซํ้า แถมเสียงลมที่หวีดร้องเสียดสีกับอากาศยังส่งเสียงแสบแก้วหูช่างเศร้าสลด "ให้ตายสิ!! ไม่ว่าข้างนอกหรือข้างในก็ไม่ต่างกันเลย สยดสยองชมัด"คนตัวบางสบถเบาๆก่อนจะยกมือที่สั้นเทาจากความหนาวขึ้นและเคาะลงไปบนบานประตู3ครั้ง ต่อจากนี้คงต้องวัดดวงแล้วละ เขาคิดอย่างนั้นก่อนที่บานประตูจะเปิดออก
แอ๊ดดดด~
" สุดยอด กลิ่นอับอย่างกับไม่เคยเปิดรับแสงแนะ แต่ก็แน่ละ นี้มันบ้านร้างจะมีใครมาเปิดประตูรับแสงวะ" ผมพูดขึ้นกับตัวเองก่อนจะชงักกับคำที่ว่าไม่มีคนอยู่ " ละ ละแล้ว ค ใครเปิดประตูวะ"
ผมยืนสั่นอย่างหวาดกลัว บานประตูก็ยังคงเปิดอยู่อย่างนั้นเหมือนอยากให้ผมเข้าไปข้างในเต็มที บรรยากาศข้างนอกก็ยิ่งกดดันให้ผมหันหลังกลับไม่ได้ สองขาที่สั่นเทาจึงค่อยๆก้าวเข้าไปข้างใน
ปังงงง!!
" เหี้ยยยย อะ อะไรวะ" ผมแหกปากร้องอย่างตกใจเมื่อประตูปิดลงใจดวงน้อยๆเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง นี้มันบ้าไปแล้ว คงไม่ใช่ว่าบานประตูนี้จะขังเขาไว้หรอกนะ เมื่อคิดได้อย่างนั้นสองมือจึงดันประตูให้เปิดออกอีกครั้งแต่มันกลับไม่เปิดอย่างใจคิด " ทะ ทำไงดี ฮื่อออ ช่วยด้วย ช่วยกูด้วยไอ้ข้าว มันนี่ ไอ้คราม โว้ยยย เบบี้ มายด์ ได้ยินไหม มีใครอยู่ไหม" ผมร้องเรียกให้คนช่วยจนเสียงแหบแห้ง ก่อนจะชงักเพราะได้ยินเสียงเดินจากชั้นบน เสียงเดินหรือ? นี้มันบ้านร้างจะมีเสียงคนเดินได้ไง ผมกรี๊ดร้องอย่างหวาดกลัวในใจก่อนจะทำใจกล้าเดินไปตรงห้องโถงของวิลล่า
" สะ สะ สวัส ดีครับ อะ เอ่อ มี คะใครอยู่ไหมครับ คะ คือว่าข้างนอกลมแรง ขะ ขอหลบลมสักครู่นะครับ ขอบคุณ ครับ" ผมยกมือไหว้เก้ๆกังๆด้วยความกลัวความอยากรู้อยากลองเริ่มหมดไปเมื่อเจอของจริงเข้า แต่เสียงเดินที่ยังคงไม่หยุดยังเพิ่มมาด้วยเสียงลากเก้าอี้หรือสิ่งของหนักๆที่ดังเอี๊ยดๆอยู่ข้างบน โอ้ยยย ยิ่งได้ยินยิ่งปวดหัวอย่างกับมันมีพลังทำลายล้างอย่างนั้นแหละ ยิ่งพอคิดถึงคำบอกเล่าก่อนเข้ามาแล้วยิ่ง......
' ว่ากันว่าใครก็ตามที่เห็นวิลล่าเมื่อเดินเข้าไป จะได้ยินเสียงแปลกๆจากชั้นบน แล้วถ้าคนนั้นไม่เดินขึ้นไปตามเสียงเสียงมันก็จะลงมาให้ได้ยินใกล้ๆตามขั้นบันได ทีละขั้น ทีละขั้น'
" เชี้ยยย ยะ อย่าลงมานะเว้ย ไม่น่าไปฟังไอ้ข้าวเล่าเลย ฮื่ออ" ผมยืนตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้เมื่อเสียงมันเริ่มลงมาตามขั้นบันไดจริงๆ
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก~
เสียงสิ่งของที่ถูกลากลงมาเบาๆตามบันไดเล่นเอาผมมองตามอย่างห้ามไม่ได้ ในหัวก็ระลึกถึงคำของเพื่อนที่เคยเตือนไว้ก่อนจะมา
' พวกมึงต้องจำไว้เมื่อเจอชายปริศนาในบ้านตามตำนานห้ามทักทายเด็ดขาด และถ้าชายคนนั้นบอกจะยกบ้านให้พวกมึงจำไว้เลยว่าอย่าตอบรับไว้ไม่งั้นมึงได้เฝ้าบ้านหลังนั้นตลอดชีวิตแน่ บรื๋ยยย น่ากลัว'
ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ ปากกูไวเผลอทักทายไปแล้วแถมยังขออยู่บ้านเขาชั่วคราวอีกด้วย เอาไงดีวะกู ฮื่ออออออ
ตึก ตึก ตึก ตึก.....
????
ผลงานอื่นๆ ของ TINNA_TW ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ TINNA_TW
ความคิดเห็น