ตอนที่ 9 : บทที่ 3.3 ▶ จังหวะแรกพบ
บทที่ 3.3
[จังหวะแรกพบ]
บริษัท ไดมอนด์มูน จำกัด
“ช่วงบ่ายมีประชุมกับทีมประชาสัมพันธ์ของบริษัทนะครับ” เลขาหนุ่มรายงานตารางของบ่ายวันนี้หลังจากประธานหนุ่มเพิ่งออกจากห้องประชุมที่เพิ่งจบไป
“เฮ้อ...” ศศินถอนหายใจกับตารางงานแน่นเอียดของเขา ผลพวงมาจากเมื่อเดือนก่อนเขาพลัดเลื่อนการประชุมแอบไปเฝ้ามองคนบางคนถึงอังกฤษ
“คุณศินจะสั่งมื้อเที่ยงเลยไหมครับ เดี๋ยวผมโทรไปสั่งร้านประจำให้”
“ไม่ดีกว่า ขอเป็นกาแฟกับแซนวิชง่ายๆ ก็พอ” ศศินเท้าคางและคลึงขมับเบาๆ เขาหลับตาลงเพื่อพักสายตา “เรื่องเมื่อคืนขอบใจนายมากนะเอ็ดดี้”
“เรื่องอะไรครับ”
“ก็ที่นายเป็นธุระเรื่องยัยเด็กมัจนั่นไง ตั้งแต่สนามบินจนถึงที่บาร์ ถ้าไม่ได้นายไม่รู้ว่าเด็กนั่นจะไปกับใครก็ไม่รู้”
ความจริงศศินอยากไปรับเธอที่สนามบินด้วยตัวเองมากกว่า ถึงแม้จะแอบมองห่างๆ หากไม่ติดว่าเมื่อวานมีนัดกับลูกค้าต่างชาติที่จะมาร่วมโปรเจคสำคัญ เขาคงไม่ทิ้งโอกาสสำคัญแบบนี้แน่นอน
“อ้อ... ผมก็คิดว่าคุณศินขอบคุณที่ผมไม่ไปขัดจังหวะแรกพบของคุณทั้งสองซะอีก” เอ็ดดี้ยืนพูดหน้าตาย ทำให้ศศินใจสั่นเมื่อพูดถึงเรื่องเมื่อคืน แต่เขาต้องปั้นหน้าเคร่งขรึมเก็บอาการ
“ฉันน่าจะไล่นายออกจริงๆ นายว่าไหม” ศศินหยุดคลึงศีรษะเงยหน้าจ้องเอ็ดดี้เขม็งทำให้คนถูกมองต้องหลุบตาลงทันที
ครืด.. ครืด..
เสียงสั่นเตือนจากเมลเข้า ทำให้ศศินทิ้งความสนใจจากเลขาไปที่ข้อความนั้นแทน เขากดเปิดอ่านทันทีเมื่อเห็นชื่อเมลคนส่ง หลังอ่านจบประธานหนุ่มอมยิ้มอารมณ์ดีจนลืมไล่เอ็ดดี้ออก เขาจับโทรศัพท์ขึ้นมาวางแนบอกอย่างมีความสุข ภาพความฟินแบบนี้เอ็ดดี้มักเห็นบ่อยครั้ง และคนที่ทำให้เจ้านายเขาอาการหนักแบบนี้ได้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
คุณมัจ...
Rrrrrr.....
เสียงโทรศัพท์ในมือดังขึ้นจนศศินที่กำลังยิ้มหวานสะดุ้งตกใจเกือบทำมันหล่น เขารู้สึกแอบโกรธคนที่โทรมาขัดจังหวะจริงๆ แต่พอหยิบขึ้นมาจะกดรับ ดันเป็นเบอร์ไม่รู้จัก ยิ่งทำให้เขาโกรธจัดที่ไม่ใช่สายสำคัญ
“ศศินพูดสายครับ” เสียงห้วนๆ กดรับอย่างจำใจ แต่ยังไม่ลืมใส่ความสุขุมในน้ำเสียงด้วย
[คุณศศินใช่ไหมคะ]
“ครับจากไหนครับ”
[คือมัจเป็นคนที่คุณให้นามบัตรมาเมื่อคืน...]
ศศินเบิกตาโพลง ลุกขึ้นยืนกะทันหันจนหัวเข่าไปกระแทกกับขอบโต๊ะดังปัง!
“จะ...จากไหนนะครับ” เขาถามย้ำในใจเต้นเร็วรัว มืออีกข้างลูบเข่าปอยๆ เลขาคนสนิทเบ้หน้าอย่างเจ็บแทน
[เมื่อคืนไม่ทันได้แนะนำตัวนี่น่า... มัจชื่อมัจฉาค่ะ เป็นคนที่คุณช่วยไว้เมื่อคืน พอดีว่าตอนนี้มัจอยู่ข้างนอก ออกมาซื้อของและเพิ่งซื้อโทรศัพท์ใหม่ เอ่อ..ฉันพูดอะไรเนี้ย...] เสียงหวานปลายสายอึกอักกับคำพูดตัวเองที่สาธยายมามากมาย แต่ไม่ได้ทำให้ศศินรู้สึกรำคาญเลยสักนิด [ขอโทษค่ะมัจประหม่าไปหน่อย]
“ประหม่าเรื่องอะไรครับ” ศศินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับคนปลายสาย
ทำไมเด็กคนนี้น่าเอ็นดูจังเลย...
[คือ...ที่มัจจะเลี้ยงตอบแทนคุณน่ะค่ะ มัจไม่แน่ใจว่าตอนนี้คุณสะดวกไหม...]
“สะดวกครับ” มัจฉายังพูดไม่ทันจบประโยค ศศินตอบแทรกทันที
[คะ คุณสะดวกเหรอคะ] น้ำเสียงดีใจของเธอเรียกรอยยิ้มกว้างขึ้นจากประธานหนุ่ม เขาหมุนเก้าอี้ไปมาแก้อาการเขิน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงหวานแนบหูแบบนี้
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ อยู่ข้างนอกนี่ตรงไหนครับ”
“มัจอยู่แถวสุขุมวิทค่ะ”
“โอเคครับ ผมจะรีบไป”
“คะ? คุณจะมาหามัจที่นี่เหรอคะ?” มัจฉาถามกลับเสียงสูง
“ก็เห็นคุณถามว่าตอนนี้สะดวกไหมนิครับ พอดีตอนนี้ผมสะดวกมากไว้ผมใกล้ถึงแล้วจะโทรหาคุณอีกทีนะครับ”
[เอ่อ ได้ค่ะ งั้นมัจจะรอที่ร้าน xx แล้วกันนะคะ]
“ครับแล้วเจอกันครับ” ศศินกดวางสายด้วยมือไม้สั่น หากเขาลุกกระโดดโล้ดเต้นในห้องทำงานคงดูไม่เหมาะ ยิ่งมีสายตาจ้องจับผิดจากเอ็ดดี้ด้วยแล้ว เขาจึงทำได้แค่ข่มอาการดีใจสุดขีด
“คุณศินจะไปไหนหรือครับ” เอ็ดดี้เอียงคอถามสงสัย หลังจากได้ยินการสนทนาเมื่อสักครู่นี้
“เอ็ดดี้! ถ้านายไม่อยากโดนไล่ออกละก็ ไปยกเลิกประชุมบ่ายนี้ทั้งหมดเพราะฉันมีธุระสำคัญกว่า”
“ยกเลิกทั้งหมดเลยเหรอครับ”
“ใช่...ยกเลิกมันไปให้หมดนั่นแหละ และสั่งห้ามใครรบกวน”
เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปหยิบเสื้อสูทที่แขวนไว้มาสวม แต่เหมือนเลขาหนุ่มไม่เข้าใจยังเดินตามมาอีก
“นายไม่ได้ยินเหรอว่าห้ามใครรบกวน นั่นหมายถึงนายด้วย ตอนนี้ฉันเลิกงานแล้วและฉันอนุญาตให้นายกลับบ้านได้ นายรีบกลับไปซะ”
เอ็ดดี้ทำท่าจะก้าวเท้าตามอีกครั้ง แต่ต้องหยุดเพราะศศินหันกลับมาย้ำคำสั่งอีกที
“ห้ามตามเด็ดขาด! ไม่งั้นฉันไล่นายออกจริงๆ!”
[โปรดติดตามตอนต่อไป...]
>> กดติดตาม <<
TALK:TAlK
คุณเขากำลังไปเจอยัยน้องแล้วค่าา
มาติดตามคุณศินว่าจะหลุดคิด หลุดทำอะไรแปลกๆ ไหม
ฝากติดตามด้วยนะคะ
#รัก
ฝากติดตาม จันทร์เร้นรัก หนึ่งในซีรี่ย์ หลงนาง
v
v
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จะกล้าไล่แน่เหรอ
บางทีก็สงสารเลขา
จิ้มๆเจิมๆ