ตอนที่ 7 : บทที่ 3.1 ▶ จังหวะแรกพบ
บทที่ 3.1
[จังหวะแรกพบ]
มัจฉาละความสนใจจากคู่สนทนาข้างกาย สายตาจับจ้องไปที่ใครบางคน ผู้ชายคนนั้นกำลังจะออกไปทางนอกร้าน ถ้าเธอไม่ได้ตาฝาด เขาคือคนที่เธอจดจำมาตลอดเกือบสิบปี เธอไม่รอช้าทิ้งโอกาสตามออกไป แต่กลับโดนหนุ่มตี๋ฉุดรั้งไว้ก่อน
“คุณมัจจะไปไหน” เขาสงสัยหลังจากเห็นว่าท่าทีแปลกๆ ของเธอตั้งแต่เมื่อสักครู่นี้แล้ว แล้วเธอยังจะลุกหนีเขาไปอีก
“ปล่อยค่ะ มัจต้องไปก่อน” เธออยากตามผู้ชายคนนั้นไปให้ทัน และพยายามแกะมือหนาเขาออกอย่างร้อนใจ คนอะไรวุ่นวายชะมัด
มัจฉาวิ่งตามออกไปทางนอกร้าน ผู้ชายคนนั้นกำลังเงยหน้าขึ้นมาหลังจากก้มลงขยี้ก้นบุหรี่ เป็นจังหวะที่เธอและเขาสบตากัน ทว่าเขามองผ่านไปทางอื่นโดยไม่ได้สนใจเธอ ยิ่งทำให้ความโกรธเกลียดในใจเธอเดือดดาลสุดขีด เธออยากเข้าไปหาเขาโดยไม่มีเหตุผลใดใด แต่กลับถูกหนุ่มตี๋ตามมารังควาน
“คุณกำลังจะหนีผมเหรอ?”
“ปล่อยมัจค่ะ และช่วยเลิกยุ่งกับมัจสักทีเถอะ” หญิงสาวบอกปัดความรำคาญ โดยที่สายตายังโฟกัสที่ผู้ชายคนนั้นอยู่ ทว่าคงได้แค่มองเพราะเขาขึ้นรถส่วนตัวสีดำสนิท โดยคนขับรถมาเทียบจอดรับตรงหน้าร้าน พาเขาจากไป
“เรายังคุยกันถูกคออยู่เลย จนผมคิดว่าเราจะไปต่อซะอีก” หนุ่มตี๋เฉลยความต้องการออกมา มัจฉาหันมามองเขาอย่างระอา
“งั้นคุณคงคิดไปเองแล้วล่ะค่ะ มัจคุยด้วยเพราะคุณคุยสนุก มัจไม่เคยคิดจะไปต่อกับใครถึงแม้ว่าคนนั้นจะหล่อมากก็ตาม”
คำตอบของเธอทำเอาเขาโกรธจัด เผลอใช้แรงบีบข้อมือเธอจนร้องเจ็บ
“ช่วยปล่อยเธอด้วยครับ” ศศินที่เดินตามมาเพราะความเป็นห่วง เขาอดไม่ได้จะเข้ามาช่วยเธอ
“แกอย่ายุ่งดีกว่า มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยไป” ศศินเลือดขึ้นหน้ามากอยากจะซัดสักหมัดกับไอ้เด็กปากเสีย หากทำอย่างนั้นข่าวของเขาคงแชร์ว่อนทั่วอินเทอร์เน็ต
“ฉันเป็นแฟนของเธอ เธอรอฉันมารับ เพราะงั้นปล่อยมือแฟนฉันซะ” สายตาของศศินเย็นชา แววตานิ่งราวจะจับเขากิน แต่คนถูกมองหาได้เกรงกลัวไม่
“คิดว่าฉันจะเชื่อมุกหลอกเด็กของแกเหรอวะ”
แรงบีบเพิ่มขึ้นจนมัจฉาชักสีหน้า ศศินใกล้หมดความอดทนเข้าไปทุกที
หมอนี่มันกล้าดียังไงมาทำให้เด็กนั่นเจ็บ… ชักเดือด
“จะเชื่อหรือไม่ก็เรื่องของแก แต่เรื่องที่พวกแกพนันกันไว้คงต้องถึงตำรวจ” เขายกเรื่องพนันขึ้นมาขู่ ตอนนี้ความโมโหทำลายความสุภาพไปหมดแล้ว
“พนันบ้าอะไร พูดเรื่องอะไร เรื่องแค่นี้ต้องเอาตำรวจมาอ้าง อยากได้ยัยนี่นักก็เชิญเลย ก็ไม่ได้สวยสักเท่าไหร่ ยังจะมาเล่นตัวอีก” หนุ่มตี๋แสร้งทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน ก่อนจะรีบเดินหายไปในร้าน
‘ไม่สวย...แต่ยังวุ่นวายกับฉันไม่เลิกเนี้ยนะ?’
‘กล้ามากนะ มาว่ายัยเด็กมัจไม่สวย...’
คำพูดทิ้งทวนทำเอาสองคนลมออกหู แต่เพราะอยากจบสักที จึงยอมปล่อยไป
“ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาช่วยไว้ ไม่งั้นหมอนั่นคงราวีไม่เลิก” เธอยกข้อมือขึ้นเพราะความปวดที่โดนหมอนั่นบีบรั้งไว้
“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” ศศินเผลอขยับเข้าไปจับข้อมือเธออย่างลืมตัว สีหน้าแววตาเป็นกังวล
“ปวดๆ นิดหน่อยค่ะ เดี๋ยวคงหาย” เธอเงยมองเจ้าของมือหนาที่ตอนนี้ได้กอบกุมข้อมือเธอไว้
หล่อจัง… แต่หน้าคุ้นๆ แฮะ… คุ้นมาก...
“เอ่อ... เจออะไรไหมคะ” หญิงสาวยิ้มถามหลังจากที่ปล่อยให้เขาพลิกข้อมืออยู่นาน
“ขะ ขอโทษครับ” ศศินเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอจับมือมัจฉาอยู่ เขารีบปล่อยมือออก ท่าทางเงอะงะอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ตึกตัก ตึกตัก
เป็นครั้งแรกที่ศศินได้อยู่ใกล้มัจฉาถึงเพียงนี้ เสียงหัวใจเต้นดังจนกลัวว่าคนตัวเล็กจะได้ยิน หากตรงนี้แสงไฟสว่างมากพอ หญิงสาวคงได้เห็นว่าเขาหน้าแดงลามไปถึงใบหูแล้ว ศศินไม่ได้วางแผนเอาไว้ว่าจะได้มาประชันหน้ากันแบบนี้ ความพยายามกดอาการลุกลี้ลุกลนทำเอาเขาเหงื่อแตก
ดวงตาหยีโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ริมฝีปากแดงระเรื่อทำเอาศศินหัวใจแทบวาย เขาอยากเดินหนีหญิงสาวเดี๋ยวนี้เลย ขณะที่มัจฉาเริ่มยิ้มกว้างขึ้นเมื่อแน่ใจแล้วว่าเขาคือคนๆ นั้น...
“คุณ… ใช่คุณศศินหรือเปล่าคะ?”
[LOADING 35 %]
TALK:TAlK
เค้าเจอกันแล้วค่ะคุณขา แต่ยัยเด็กมัจของอิชั้นทำไมถึงรู้จักคุณศินได้น้าา
ฝากติดตามและให้กำลังใจพวกเขาด้วยค่ะ ให้ไรท์ด้วย --"
#รัก
ฝากติดตาม จันทร์เร้นรัก หนึ่งในซีรี่ย์ หลงนาง
v
v
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอค่าาาา