ตอนที่ 4 : บทที่ 1.2 ▶ ถึงคุณกระต่าย
บทที่ 1.2
สี่ปีต่อมา
งานรับปริญญา
“มัจๆ มาถ่ายรูปกัน” เสียงเรียกจากกลุ่มเพื่อนตะโกนเรียกมัจฉาเข้ามาถ่ายรูปรวมกัน
งานรับปริญญาจบปีการศึกษาของมัจฉา เป็นวันที่เธอประสบความสำเร็จอีกก้าวในชีวิต หลังเรียนจบมอปลายเธออ่านหนังสืออย่างหนัก เพื่อสอบชิงทุนการศึกษาเข้าเรียนสาขาออกแบบมหาวิทยาลัยนี้ และความพยายามของเธอก็สัมฤทธิ์ผลให้เธอประสบความสำเร็จ แถมยังได้ทุนเรียนต่อป.โทที่ประเทศอังกฤษอีกต่างหาก
หลังจากถ่ายรูปกับเพื่อนๆ แล้ว เธอหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปตัวเอง นอกจากอยากเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกแล้ว เธออยากอวดความสำเร็จด้วยรูปสักหนึ่งใบให้กับ ‘คุณกระต่าย’ ผู้ที่คอยเป็นกำลังใจดีๆ เสมอมา แม้จะไม่เคยได้พบเจอกันเลยสักครั้ง ตลอดเจ็ดปีมัจฉาและคุณกระต่ายได้ส่งจดหมายหากันเสมอ จนวันเวลาเปลี่ยนไปเขาและเธอเปลี่ยนจากการเขียนจดหมายเป็นการส่งอีเมลถึงกันแทน
ขณะที่มัจฉายืนยิ้มหวานให้กับหน้ากล้องมือถือของตัวเองอยู่ จู่ๆ ก็มีช่อดอกไม้ยื่นเข้ามาบังหน้ากล้องกะทันหัน เธอเผลอเอามือปัดเจ้าช่อดอกไม้จนโทรศัพท์เกือบหลุดมือ
“โธ่เอ๊ย! ก็คิดว่าใคร... พี่อาโปทำมัจตกอกตกใจนะเนี้ย” หญิงสาวหันไปค้อนวงใหญ่ให้กับเจ้าของช่อดอกไม้
“โทษทีๆ ที่ทำให้ตกใจ พี่ขอแสดงความยินดีด้วยนะมัจ” ชายหนุ่มรูปหล่อออกไปทางลุคเถื่อนๆ ยกช่อดอกไม้ยื่นมาให้เธอใหม่อีกครั้ง การปรากฎตัวของเขาเรียกสายตาจากสาวๆ รอบข้างได้ดี
“ขอบคุณค่ะ ไหนว่าวันนี้ยุ่งไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวขมวดคิ้วเอียงคอถาม พร้อมกับรับช่อดอกไม้เอาไว้
“วันสำคัญของน้องสาวทั้งที พี่จะไม่มาได้ยังไง ไหน… มาถ่ายรูปกันหน่อยซิ”
อาโป คือเพื่อนรุ่นพี่ที่เคยทำงานพิเศษด้วยกันเมื่อหลายปีก่อน เขาและเธอสนิทกันตั้งแต่คราวนั้น แม้ปากจะบอกว่ามัจฉาคือน้องสาว แต่ความรู้สึกของเขามองมัจฉาเป็นผู้หญิงพิเศษคนหนึ่งที่คิดมากกว่าพี่น้อง
“พี่อาโปรู้ไหมคะว่าดอกไม้นี้เป็นช่อแรกและช่อเดียวของมัจเลยนะ แต่ที่ดีใจที่สุดก็ตรงที่พี่มานี่แหละค่ะ” มัจฉายิ้มหวานให้เจ้าของช่อดอกไม้อย่างมีความสุข เธอไม่มีญาติสนิทที่ไหนมีแค่ยายนวลเป็นญาติใกล้ชิดเพียงคนเดียว ซึ่งตอนนี้ยายแก่ชรามากแล้ว เธอจึงไม่เรียกร้องให้ยายมาร่วมแสดงความยินดี แต่เธอจะเป็นฝ่ายหอบความสำเร็จไปหายายแทน
“ไม่ได้หรอก พี่จะปล่อยให้มัจยืนเหงาคนเดียวได้ไง พี่ยืนแอบมองมัจตั้งนาน หันซ้ายหันขวาเหมือนคนทำท่าจะร้องไห้” เขาขำพลางลูบผมมัจฉาด้วยความเอ็นดู
ตุบ!
“แซวน้องอีกแล้วนะ มัจไม่ร้องไห้หรอก พี่ก็พูดเกินไป” หญิงสาวทุบไปที่ไหล่ของชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ เขาชอบพูดแกล้งเล่นกับเธอแบบนี้ประจำ
“ทุบพี่แบบนี้ขอคืนได้มะ? ดอกไม้อ่ะ”
“ถึงจะขอซื้อต่อก็ไม่ขายหรอกค่ะ แบร่!” มัจฉาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขาอย่างสนุกสนาน อาโปก็ยกแขนขึ้นมาเขกเบาๆ ให้กับความทะเล้นของเธอ
จากมุมเล็กๆ ไม่ห่างจากมัจฉาและอาโปยืนหยอกล้อกันอยู่ มีชายหนุ่มยื่นขยำตุ๊กตากระต่ายสุดแรงเขาพ้นลมหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
“เอ่อ… คุณศินจะเข้าไปให้กับเธอเอง หรือจะให้ผมเอาไปให้ดีครับ” เลขาหนุ่มเอ่ยถามขัดจังหวะอารมณ์หงุดหงิดของเจ้านาย เป็นการเรียกสติ
“ไม่หงไม่ให้มันแล้ว!” ศศินตวาดกลับอย่างหัวเสีย เขารู้สึกไม่พอใจกับภาพที่เห็นตรงหน้าอย่างมาก ทั้งที่ปกติแล้วเขาเป็นคนควบคุมอารมณ์ได้ดีเสมอ แต่ภาพที่เห็นมันทำให้เขาหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เอ็ดดี้หลุดขำในความงอแงของนายตัวเอง
ศศินค้อนวงใหญ่ใส่เลขาตัวดี ก่อนหมุนตัวหันกลับออกไปจากภาพตรงหน้า ทำให้เอ็ดดี้หุบยิ้มแทบไม่ทัน เขารีบเดินตามนายของเขา แต่ใจก็อดนึกขำในท่าทีของศศินไม่ได้
หลังจากกินเลี้ยงกับเพื่อน เพื่อฉลองจบวันรับปริญญา มัจฉากลับมาถึงบ้านและเขียนข้อความหาคุณกระต่ายผ่านทางอีเมลพร้อมกับแนบรูปถ่ายวันสำเร็จในวันนี้ของเธอ
ถึงคุณกระต่าย
วันนี้หนูมีรูปมาอวดด้วยค่ะ หนูเรียนจบแล้วนะคะ หนูขอบคุณนะคะที่คุณอยู่เคียงข้างมาตลอด นอกจากยายนวลแล้ว ก็มีคุณกระต่ายเป็นญาติผู้ใหญ่ของหนูอีกคนที่หนูนับถือและอยากอวดที่สุดค่ะ
หนูมีเรื่องกังวลใจอยากจะปรึกษาคุณค่ะ หนูมีโอกาสได้รับทุนไปเรียนต่อ ป.โท ที่ประเทศอังกฤษ เป็นเวลาสองปี มันคือความใฝ่ฝัน มันคือบันไดอีกขั้นให้หนูประสบความสำเร็จ แต่ปัญหาคือยายนวลตอนนี้แก่ชรามากแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีน้าๆ แวะเวียนมาหาแกบ้าง แต่หนูก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี หนูเครียดเรื่องนี้ตั้งแต่รู้ว่าได้ทุนไปเรียนต่อ หนูยังไม่ได้ให้คำตอบอาจารย์ไป หนูควรจะทำยังไงดีคะ หนูไม่รู้เลยว่าตัวเองควรจะตัดสินใจยังไงดี
มัจฉา.
ครืด...
เสียงเตือนข้อความดังจากมือถือของศศิน เขากำลังนั่งเคลียร์เอกสารบนโต๊ะอยู่ มือหนาหยิบขึ้นมาเปิดอ่านข้อความ มันคืออีเมลจากมัจฉา เขาเปิดรูปที่หญิงสาวแนบไว้ ริมฝีปากหนาขยับยิ้มกับภาพถ่ายเธออย่างลืมตัว
เธอโตเป็นสาวแล้วสินะ...
ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนอ่านข้อความทีละประโยค
ประโยคหนึ่งทำให้เขาจากยิ้มปากบาน เป็นปากคว่ำได้ ก็ตรงที่เธอบอกว่าเขาเป็นญาติผู้ใหญ่เหมือนยายนวลของเธอ
“ให้ตายเหอะ! วันนี้ยัยมัจทำเอาฉันหัวเสียสองครั้งติดเลยนะ” เขาเป่าปากระบายความร้อนออกอย่างหงุดหงิดและอ่านเมลของเธอต่อไป
เมื่อศศินอ่านจบจึงรีบตอบกลับทันที ความไม่กล้าตัดสินใจของเธอคราวนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอส่งเมลมาปรึกษา เพราะแบบนี้ละมัง เธอจึงมองว่าเขาเป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่
ถึงมัจฉา
อย่าได้รีรอกับคำตอบที่มีในใจเลย มันเป็นโอกาสสำคัญที่น้อยคนนักจะได้รับ ส่วนยายนวลไม่ต้องเป็นห่วง คนอยู่ทางนี้จะช่วยดูแลเอง
คุณกระต่าย
เมื่อได้รับการสนับสนุนสุดแรงจากคุณกระต่าย มัจฉาจึงตัดสินใจตกลงเรียนต่อป.โท เป็นเวลาสองปี...
[โปรดติดตามตอนต่อไป...]
TALK:TAlK
อัพบทที่ 1 ให้ครบแล้วนะคะ
หากอ่านแล้วขอกำลังใจ และคอมเม้นท์ให้ด้วยนะคะ
ขอบคุณสำหรับคนที่ติดตาม และเข้ามาใหม่ค่ะ
อยากจะบอกว่า 'รัก' ทุกคนเลย
v
v
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
