คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Episode - บทนำ [100%]
บทนำ
@Chiang-mai
โรงแรมดวงดาราเวียงลานนาบูติค
Earng Aoei Say;
“ยัยเอยวิ่งเร็ว ๆ สิ สายแล้วนะเว้ยเดี๋ยวไปไม่ทันงาน”
“โว้ะ แกดูชุดฉันก่อนไหม แต่งชุดรำเต็มยศขนาดนี้เดินเร็วได้ก็บุญแล้วปะ”
ทันใดนั้นฉันหยุดการกึ่งเดินกึ่งวิ่งแล้วรวบชายกระโปรงชุดรำให้ทะมัดทะแมงเพราะกลัวจะเหยียบชายสไบล้มหน้าคะมำไปกับพื้นคงได้ขายหน้าไปทั้งงานแน่ ๆ
“ทิชาแกรีบเอากระเป๋าไปให้แม่ฉันก่อนเลย เดี๋ยวฉันรีบตามเข้าไป”
“เออรีบตามมาเร็ว ๆ นะเว้ย”
ความจริงวันนี้เป็นวันที่สดใสเหมือนทุกวัน ฉันตื่นไปใส่บาตรทำบุญแต่เช้า ส่วนตอนสาย ๆ ก็มาช่วยดูแลธุรกิจโรงเรียนนาฏศิลป์แทนคุณแม่
วันนี้มีงานโชว์ที่โรงแรมเปิดใหม่ใจกลางเมือง แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อคุณแม่โทรมาบอกว่าพี่ปุยเมฆนางรำตัวหลักของวันนี้อาหารเป็นพิษถ่ายท้องไม่หยุด ทำให้ฉันต้องมารำแทนเลยต้องรีบขึ้นไปในงานให้ทันเวลา
“เฮ้ย!” แล้วจังหวะนรกก็เกิดจนได้เมื่อรีบจนเท้าไขว้กันผิดจังหวะ ทำให้ถลาไปชนกับคนที่เพิ่งออกมาจากงาน
“...!”
“ขอบคุณนะคะ”
พอคนตรงหน้าประคองให้ฉันกลับมายืนท่าปกติได้ ฉันรีบขอบคุณชายหนุ่มร่างสูงที่สวมแจ็กเก็ตหนังและใส่แว่นตาสีดำเหมือนพวกขับบิ๊กไบก์
ออร่าความหล่อของเขาพุ่งทะลุแว่นตาออกมาอย่างกับพวกพระเอกเกาหลี เขาประคองฉันไว้ไม่ให้ล้มหน้าคว่ำ อปป้าซารังเฮ
“เป็นไรไหม”
“มะไม่ค่ะ” ฉันรีบส่ายหน้าบอกคนมาดนิ่ง
“ยัยเอยไปเร็ว แม่แกจะกินหัวฉันแล้วเนี่ย”
จริงด้วย รีบอยู่นี่หว่า
“ก็รีบอยู่นี่ไง ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันบอกลาเขาลวก ๆ แล้วรีบเดินไปทางที่ทิชารออยู่
การรำวันนี้เป็นการรำเปิดตัวโรงแรมใหญ่แห่งใหม่ การโชว์เป็นแบบรำศิลปนิพนธ์ที่คุณแม่ของฉันเป็นผู้สอนให้ ซึ่งเป็นโชว์ทันสมัยใช้จังหวะดนตรีผสมผสานแบบทางภาคเหนือและเครื่องดนตรีสากล มีทำนองสวยงามและดนตรีที่ฟังแล้วมีกลิ่นอายความเป็นภาคเหนือสูงมาก
สุดท้ายภายในงานก็ผ่านไปอย่างเรียบร้อย การรำวันนี้ได้คำชมจากเจ้าของงานไม่ขาดปาก กลับมาถึงบ้านคุณแม่ก็ถึงกับปาดเหงื่อ
“น้ำเย็น ๆ เจ้า คุณนายกับคุณหนูกิ๋นข้าวแล้วก๋า”
“ทานมาแล้วจ้ะ”
“วันนี้แม่ตื่นเต้นมากเลย คิดว่าลูกจะมาไม่ทันซะแล้ว”
“ดีนะคะที่ทิชาอยู่ด้วย เอยเลยให้มันขับรถมาให้แล้วเตรียมตัวมาระหว่างทางฉิวเฉียดพอดี”
“เอยไปพักเถอะลูก เหนื่อยทั้งวันแล้ว ขอบใจนะลูกที่มาช่วยแม่”
“คุณแม่ไม่เห็นต้องขอบคุณเลยค่ะเอยยินดี คุณแม่ก็รีบพักผ่อนเหมือนกันนะคะ”
“แม่จะรอคุณพ่อกลับมาก่อนน่ะ”
ฉันขอตัวขึ้นมาที่ห้อง จัดการอาบน้ำเปลี่ยนชุดเตรียมตัวนอนแต่พอโดดขึ้นเตียงว่าจะลงรูปในโซเชียลฯ แป๊บเดียว รู้ตัวอีกทีก็ไถเฟซบุ๊กจนเกือบเที่ยงคืนจนได้
นอนดีกว่า... แต่ขณะที่เอื้อมมือไปปิดโคมไฟที่หัวเตียงเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น โชว์เบอร์ของพี่ชายตัวแสบที่ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรมา
Rrrrr [P’ IN]
“จำเบอร์น้องได้ด้วยเหรอ หายหัวไปเป็นเดือนไม่ยอมกลับบ้านยังไม่ตายอีกเหรอ?”
[เอิงเอยยยยยยน้องรักกกกกก น้องรักของพี่อินนนนนน] เสียงยานคางและเสียงเพลงที่ดังแทรกเข้ามาทำให้ฉันรำคาญ นี่ก็ว่าอยู่ว่าไปโดนตัวไหนมาพี่ชายฉันถึงโทรหากันเวลานี้
“เมาก็กลับห้องไปนอน อย่ามาโทรระรานคนอื่นแค่นี้นะ”
[เอยมารับพี่หน่อยยยย]
“ฮะ?”
[มารับพี่หน่อยยยยย พี่ไม่เหลือใครแล้วววววว ฮึกกกฮืออออ]
ร้องไห้?
“อะไรของพี่อินเนี่ย อยู่ไหนพูดให้รู้เรื่องหน่อย”
[น้องเอยพี่ทอยเองนะ มารับมันหน่อยเดี๋ยวพี่ส่งโลเคชันให้นะ]
พากันไปเมาแล้วทำไมไม่พากลับไปคอนโดพี่อินล่ะเนี่ย
ลำบากให้ฉันไปรับกลับบ้านต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ ๆ
@ร้านทางช้างเผือกบาร์
“น้องเป่าเป้อย่าทิ้งพี่ไป น้องเป่าเป้”
“ทำไมเมาเละเทะขนาดนี้ล่ะคะ”
ฉันตกใจที่เห็นเพื่อนสนิทของพี่อินสองคนหิ้วปีกพี่ชายตัวดีที่เมาแบบทิ้งตัวออกมาจากร้าน
“มันโดนทิ้งคร่ำครวญไม่เลิก เห็นว่าไม่อยากกลับไปเจอเป่าเป้ที่ห้องเพราะน้องเขาขอเวลาเก็บของในห้องก่อนย้ายออก มันเลยให้พี่โทรหาเรา”
“ไอ้ตัวภาระเอ๊ย!”
เพื่อนสนิทของพี่ชายแบกตัวปัญหามาทิ้งในรถได้สำเร็จ
“พี่อินห้ามอ้วกใส่รถเอยเข้าใจไหม”
ถ้าถามว่าห่วงพี่ชายหรือห่วงรถใหม่ป้ายแดงมากกว่ากันคงตอบแบบไม่ต้องคิดว่า รถใหม่ป้ายแดงที่คุณแม่เพิ่งออกให้เพื่อให้ฉันขับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ น่ะสิ
“ขับรถดี ๆ นะน้องเอย”
“ค่ะ”
ฉันขับรถพาบุคคลที่หายสาบสูญไปจากบ้านตลอดช่วงปิดเทอมกลับไปให้คุณแม่ เชือดที่บ้าน แค่คิดถึงเช้าพรุ่งนี้ก็สนุกแล้ว
ไอ้ข้ออ้างที่ว่ายุ่งโปรเจกต์จบนักหนามาตลอดความจริงคือติดเมียถึงได้หาทางกลับบ้านไม่เจอ เสร็จแน่
“เป่าเป้อย่าเลิกกับพี่เลยนะ พี่รักเป้นะ”
“พี่อิน!” ฉันตะคอกเมื่อพี่ชายตัวดีที่หลับสนิทเมื่อกี้เอนตัวมาเกาะแขนฉันขณะที่ขับรถ แถมยังเอาหัวมาพิงอีก “เมาก็นอนไปเลย อย่าทำให้โมโหไปมากกว่านี้ได้ปะ”
ถ้าไม่ขับรถอยู่นี่สาบานว่าจะทุบสักสองทีแบบไม่ออมแรง
“ไม่อ้าวววว ถ้าเป้ไม่ยอมคืนดีพี่ก็จะกอดเป้ไว้แบบนี้แหละ”
“แหกตาดูดี ๆ นี่เอิงเอย”
“เอยไหนไม่ต้องมาหลอกพี่เลยเป้ชัด ๆ คืนดีกันนะ นะคะคนดีอย่าทิ้งพี่ไปเลยนะ ไอ้ห่านั่นมันมีอะไรดีกว่าพี่ เป้ถึงเลือกมัน”
“นี่เอิงเอยน้องสาวพี่อินไง เมาจนลืมน้องไปแล้วเหรอวะ” ฉันไม่มีสมาธิกับการขับเลยเพราะไอ้พี่บ้ามันเอาหน้ามาเกยไหล่อ้อนประหนึ่งว่าฉันเป็นเมียมัน ด้วยความรำคาญเลยใช้มือผลักหัวมันออกไปจากไหล่ให้พ้น ๆ
“พี่รักเป้นะคะ ขอพี่จูบเป้หน่อยนะให้รู้ว่าพี่รักเป้มากแค่ไหน.”
“ไอ้พี่อิน”
เผลอหันไปมองไอ้พี่ตัวดีที่กำลังยื่นหน้ามาใกล้ ความไวของสมองที่สั่งการเลยใช้มือข้างหนึ่งผลักหน้ามันออกไปสุดแรงเกิด คิดอย่างเดียวว่าทำยังไงก็ได้เพื่อหยุดปากที่เคลื่อนย้ายเข้ามาใกล้ใบหน้าตัวเองให้ได้
และมันได้ผลเพราะคนที่รำพึงรำพันถูกผลักหัวกระแทกติดกระจก เงียบไปทันที สงสัยตายไปแล้วมั้งนิ่งขนาดนี้ จังหวะเดียวกันหางตาของฉันก็เห็นแสงไฟแว่บ ๆ เข้ามาพอดีทำให้รีบหันกลับไปที่ถนนอย่างที่ควรจะโฟกัสอยู่ตั้งนานแล้ว
“เชี่ย!”
ขวับ เอี๊ยดดดดด
ฉันหักพวงมาลัยกลับอย่างตกใจเมื่อเห็นว่ารถกำลังกินเลนถนนอีกฝั่งไปเกือบครึ่งเลน แต่แสงไฟกับเสียงแตรจากรถบิ๊กไบก์บอกฉันว่ามันไม่ทันแล้ว ขนาดขับมาไม่เร็วและเผลอไปมองไอ้พี่อินแว็บเดียวเท่านั้น...เป็นเรื่อง
ตุบ ตุบ ตุบ
ปึก
รถบิ๊กไบก์คันหน้าพยายามเบี่ยงเลนถนนเพื่อจะหลบรถฉันเหมือนกัน จนรถเขาไถลไปกับพื้น ส่วนคนขับกระเด็นขึ้นมาบนกระจกหน้ารถของฉัน ก่อนจะกลิ้งอยู่หลายตลบแล้วตกลงไปที่พื้น
ตั้งสติยัยเอย! ฉันเข้าเกียร์ว่างรีบวิ่งลงไปดูคนเจ็บ คือทางเส้นนี้มันมืดมากเพราะเป็นเส้นที่ไฟเสียตลอดหลายปีไม่มีใครมาซ่อม แล้วช่วงเวลานี้มันก็ตีหนึ่งกว่าแล้ว ตลอดทางเลยเงียบสงบ
ฉันยกมือปิดปากเมื่อเห็นคนเจ็บนอนนิ่งไม่ไหวติง อย่าเป็นอะไรนะขอร้อง
“คุณเป็นยังไงบ้างคะ” ฉันสะกิดเขาเบา ๆ แต่เนื่องจากเขาใส่หมวกกันน็อกขนาดใหญ่ทำให้ฉันไม่แน่ใจเลยว่าเขามีสติหรือหมดสติ “คุณได้ยินฉันไหมคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ คุณคะ”
เขานอนนิ่งเริ่มทำฉันใจไม่ดี จึงอยากเปิดกระจกที่หมวกกันน็อกเพื่อเช็กลมหายใจกับอาการอย่างอื่น แต่แล้วมือหนาของผู้ชายคนนี้ดันจับมือฉันเอาไว้เสียก่อน จากนั้นคนที่นอนอยู่ก็ยันตัวจากพื้นโดยที่ฉันประคองเขาลุกขึ้นมาช้า ๆ
“ค่อย ๆ นะคะ ฉันขอโทษนะคะ ขอโทษจริง ๆ” ฉันยกมือขึ้นไหว้เขาอยู่หลายรอบ “คุณเป็นยังไงบ้างคะ”
“ไม่มีตาหรือไง” น้ำเสียงหงุดหงิดถูกเปล่งผ่านหมวกกันน็อกออกมา ดีที่เขาใส่เสื้อหนังแขนยาวและกางเกงยีนขายาว มองภายนอกไม่มีส่วนไหนขาดหรือเลือดไหลออกมาเลย ทำให้ฉันเบาใจขึ้นมา
“คุณเจ็บตรงไหนบ้างไหมคะ ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ”
“นี่ขนาดไม่ตั้งใจนะ ขับรถดูถนนไหม หรือดูแต่ผู้ชาย คนอื่นจะตายกันหมด”
“ขอโทษค่ะ พอดีพี่ชายฉันเมา…”
“ไม่อยากฟังคำแก้ตัว”
“มือคุณ”
จากที่สำรวจไปตอนแรกว่าไม่มีรอยขาดตามเสื้อผ้าเขา ตอนนี้ฉันกลับเห็นเลือดที่ไหลตกจากแขนเสื้อลงที่มือข้างซ้าย เลยถือวิสาสะประคองมาดูใกล้ ๆ ซึ่งเขาเองก็ก้มลงมองตามที่ฉันบอก “คุณลองถอดหมวกกันน็อกกับเสื้อแจ็กเก็ตก่อนไหมคะ มีแผลตรงไหนอีกหรือเปล่า”
“ไม่ต้องยุ่ง” เขากระชากมือออกไปอย่างหงุดหงิด
“เดี๋ยวฉันโทรตามรถโรงพยาบาลก่อนดีกว่าคุณจะตามประกันมาก็ได้นะคะ เพราะรถคุณ...” ฉันชี้ไปยังบิ๊กไบก์บีเอ็มคันสวยที่หมุนไปอยู่อีกฝั่งของถนน คงจะถลอกหนักแน่ ๆ เพราะมันเสียดสีกับพื้นไปไกลพอสมควร
“ก็บอกว่าไม่ต้องยุ่งไง” เขาคว้าโทรศัพท์มือถือไปตัดสายขณะที่ฉันกำลังโทรหาสายด่วน “แล้วเธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ”
“ถ้างั้นก็ช่างเถอะ” เขาพูดจบก็เดินกะเผลก ๆ ไปที่บิ๊กไบก์โดยมีฉันคอยตามมาด้วยกลัวเขาจะล้ม
“แต่ว่าคุณ...”
“พูดภาษาคนไม่เข้าใจหรือไง”
“ถ้างั้นฉันขอเบอร์คุณหน่อยได้ไหมคะ”
“เพื่อ?”
“ฉันเป็นฝ่ายผิด จะได้ติดต่อหาคุณเรื่องค่ารักษาพยาบาลกับค่าซ่อมรถ”
“ไม่ต้อง” เขาก้มลงไปยกรถบิ๊กไบก์ขึ้นมาเหมือนจะบอกทางอ้อมว่าเขาปกติดี
“ถ้างั้นรอเดี๋ยวนะคะ” ฉันกลับมาหยิบโบรชัวร์รีสอร์ตที่ติดอยู่ในรถส่งให้เขา “ที่นี่เป็นรีสอร์ตของบ้านฉันเองค่ะ อยู่ใกล้ ๆ นี่เอง ถ้าเกิดว่าคุณต้องการติดต่อเรื่องค่าเสียหาย โทรมาที่เบอร์นี้ได้เลยนะคะ ฉันยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง ขอโทษอีกครั้งนะคะที่ทำให้คุณเจ็บตัวและเสียเวลา”
“ทีหลังขับรถไม่แข็งก็ไม่ต้องขับ คนอื่นจะได้ไม่ต้องเจ็บตัว”
เขาคว้ากระดาษขยำใส่เสื้อแจ็กเก็ตแบบไม่สนใจ จากนั้นก็ขึ้นคร่อมรถสตาร์ตบิ๊กไบก์เตรียมตัวจะขับออกไป ทว่ายังไม่วายหันมาทางฉันอีกรอบ
“เธอชื่ออะไร”
“เอิงเอยค่ะ...แล้วคุณ?”
“ไม่ต้องรู้หรอก” เขาว่ามาแบบนั้นแล้วขับรถจากไปทันที
อาจจะดูเย็นชาไปนิดแต่ก็ใจดีมากเลย ถ้าเป็นคนอื่นเผลอ ๆ ด่าฉันมากกว่านี้ หรืออาจจะถูกบีบคอหมกป่าข้าง ๆ ไปแล้ว โทษฐานที่ทำรถราคาแพงของเขายับเยินขนาดนั้น
แต่อันที่จริงถูกฆ่าหมกป่าตอนนี้อาจจะดีกว่าก็ได้นะเพราะพรุ่งนี้ฉันคงถูกคุณแม่เชือดในห้องเย็นพร้อมพี่อินแหง ๆ ถ้ารู้ว่าขับรถมาชนคน
ขณะเดินกลับไปที่รถพร้อมกับจินตนาการถึงวันพรุ่งนี้ด้วยความหดหู่ สายตาก็หันไปเห็นแสงไฟที่พุ่มหญ้า
โทรศัพท์มือถือของเขานี่! แต่หน้าจอแตกละเอียดยิบ เก็บไปก่อนแล้วกันเผื่อเขาติดต่อกลับมาจะได้คืนให้
หวังว่าจะไม่เป็นอะไรมากนะ...คุณบิ๊กไบก์
บทนำมาแล้วจ้าาาาาา
เรื่องนี้แต่งไปอมยิ้มไป มีแต่คำว่าน่ารักไปหมด55555
อยากเป็นเอิงเอยทุกตอน สดใส แต่ไม่ยอมคน
ฝากทุกคนติดตาม กดให้กลจ คอมเมนต์ได้น๊าาาา <3
ความคิดเห็น