ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My mafia husband name is JK {BTSxYOU}

    ลำดับตอนที่ #1 : EP 01: เงื่อนไข 100 %

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.73K
      397
      14 มี.ค. 64

     

     

     ปั้ง...!!!

    อ๊ากกกกกกก

    เสียงร้องอย่างโหยหวนที่เกิดขึ้นจากความเจ็บปวดเหตุเพราะลูกกระสุนจากปืน SID Sauer P226 สีดำสนิท ที่ยิงทะลุกล้ามเนื้อบริเวณต้นขา เลือดสีแดงสดที่ไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก ภาพนี้อาจเป็นภาพที่น่าสยดสยองของคนทั่วไป แต่ไม่ใช่กับเขา จอนจองกุก หรือ เจคลูกชายคนเล็กของ จอนจินโม ผู้ชายที่ทรงอิทธิพลที่สุดในคาบสมุทรเกาหลี หมายถึงอำนาจในด้านมืดเป็นส่วนใหญ่

    ถึงแม้จอนจองกุกจะเข้ามารับงานได้ไม่กี่ปี และอายุของเขายังน้อยก็ตาม แต่เพราะเขาเกิดมาโดยมีเสียงปืนเป็นเสียงกล่อมนอน เสียงร้องโอดครวญจากศัตรูของผู้เป็นพ่อ ไพเราะราวกับเสียงเพลงคลาสสิคสำหรับเขา ไม่แปลกเลยที่ลูกชายคนเล็กของตระกูลจะเติบโตขึ้นมา โดยถอดแบบความเด็ดขาด เหี้ยมโหด ตรงไปตรงมา เลือดเย็น แต่กระนั้น เขาเองก็รักพวกพ้องและวงศ์ตระกูลมากกว่าสิ่งใด

    และสองสิ่งที่เขายอมไม่ได้ และไม่มีทางยอมเด็ดขาด คือการถูกหักหลัง และการหยามศักดิ์ศรี เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า ลูกผู้ชาย ฆ่าได้ และหยามไม่ได้ โดยเฉพาะ ผู้ชายที่ชื่อ จอนจองกุก

    ดวงตาคมกริบมองของเหลวสีแดงที่ไหลลงมาไม่ขาดสาย พร้อมรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากข้างซ้าย บ่งบอกว่าเขาพอใจกับฝีมือการยิงของตัวเองไม่ต่างจากครั้งอื่นๆ

    ผมขอโทษครับคุณเจค ขอโทษจริงๆ แต่ที่ดินที่พวกผมเอาไว้ มันก็แค่ห้าไร่ จากทั้งหมดสองร้อยไร่นะครับ

    ปั้ง!!!

    อ๊ากกกกกกกกชายคนที่กำลังร้องขอชีวิต ร้องลั่นกว่าเดิมเมื่อถูกยิงเข้าที่ขาอีกข้าง เขาทั้งกรีดร้องอย่างทุรนทุราย น้ำตานองหน้าจากความเจ็บปวดที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน และไม่เคยรู้ว่า ลูกชายคนเล็กของจอนจินโมจะโหดได้สักแค่ไหน จนมาเจอกับตัวเอง

    ต่อให้แค่ตารางวาเดียว ของของกูยังไงก็คือของของกู หมาตัวไหนก็ไม่มีสิทธิ์เสียงตวาดจากร่างสูงดังก้องไปทั่วทั้งโกดัง ไม่ใช่แค่ชายโชคร้ายตรงหน้าเท่านั้นที่ผวาด้วยความตกใจ บรรดาลูกน้องของจอนจองกุกเองก็อดที่จะเกรงกลัวต่อโทสะของนายน้อยไม่ได้ ผมขอโทษครับ ผมขอโทษ จะให้ผมชดใช้ยังไงก็ได้ แต่อย่าฆ่าผมเลยนะครับ ผมสำนึกแล้วผมผิดไปแล้ว

    ไม่รอสำนึกตอนกระสุนกูเจาะทะลุหัวมึงก่อนเลยล่ะ

    อึก!!!” ชายคนดังกล่าวฝืนกลืนก้อนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

    ผะ ผม ลำบากจริงๆ ผมต้องใช้เงิน ได้โปรดเข้าใจผมด้วยคนที่ตอนนี้ร่างกายท่อนล่างอาบไปด้วยเลือดสีแดงฉานเอื้อมมือทั้งสองข้างกอดขาร้องขอความเห็นใจจากร่างสูงที่ยืนค้ำหัวตัวเองอยู่

    จอนจองกุกแสยะยิ้มออกมา แต่หาใช่รอยยิ้มแห่งความเมตตาแต่อย่างใด มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสมเพชและความพอใจอยู่ในที ก่อนที่เขาจะค่อยๆย่อตัวนั่งลงให้ระดับสายตาของเขาอยู่ระนาบเดียวกับใบหน้าของอดีตคนของพ่อ ที่แอบยักยอกที่ดินของเขาไปแบ่งขายให้กับนายทุนแล้วเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง

    ลำบากมาก?”

    อึก ครับ พวกเราลำบากมาก

    ก็เลยอยากได้ที่ดินของกู?”

    ผมขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ โปรดเมตตาผมสักครั้ง

    ได้สิ คิดว่ากูเป็นคนใจจืดใจดำขนาดนั้นเลยเหรอประโยคนั้นเป็นเหมือนความหวังของชายคนนั้นว่าเขาอาจจะรอดเงื้อมมือมัจจุราชอย่างจอนจองกุกได้ แล้วรอฟังสิ่งที่จอนจองกุกกำลังจะกระซิบบอกกับเขา

    กูจะแบ่งที่ดินให้มึง

    “!!!”

    สักสองเมตรคงพอ

    “???” คนฟังดูจะไม่เข้าใจในสิ่งที่มาเฟียหนุ่มกำลังบอกกับเขาเท่าไหร่นัก

    สองเมตร

    เอาไว้ฝังศพมึงไง

    “!!!”

    ปั้ง!!!

    คราวนี้มาเฟียหนุ่มไม่รอฟังการอ้อนวอนที่แสนน่ารำคาญสำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว เมื่อนิ้วชี้ของเขากดลั่นไกปืนคู่ใจออกไป ปลายทางของกระสุนตะกั่วคือกลางหน้าผากของ คิมซอกอุล คนที่บังอาจทรยศและหยามศักดิ์ศรีของตระกูลจอนเกินไป คิดเหรอว่าสุนัขที่มันทรยศจะได้รับโอกาสจากเขา ไม่มีวัน

    เอามันไปฝัง

    ครับนายน้อยดวงตาคมกริบตวัดมองลูกน้องที่เผลอเรียกเขาแบบนั้น จริงอยู่ที่จอนจองกุกเป็นนายน้อยของตระกูล แต่ตอนนี้เขาโตแล้ว มันเลยค่อนข้างระคายหูที่เขาจะถูกเรียกแบบนั้น

    ขอโทษครับคุณเจคไม่มีการตอบกลับใดๆ จองกุกเก็บปืนไว้ที่ด้านหลังของขอบกางเกงสีดำสนิท ก่อนจะเดินนำลูกน้องราวๆห้าคนออกไปจากโกดังเก็บของ อันที่จริงที่นี่เอาไว้ เก็บคนเสียมากกว่า

    ฉันขับเอง

    แต่คุณโฮซอกสั่งว่า

    ฉันจะบอกฮยองเองไม่มีใครกล้าขัดใจเขา จึงปล่อยให้จอนจองกุกเปิดประตูรถ แล้วนั่งลงยังที่นั่งคนขับก่อนจะขับรถออกไปทันที เขาสายมากแล้วสำหรับคืนนี้ที่เขานัดกับเพื่อนสนิททั้งสองคนเอาไว้

     

    ห้อง VIP ของคลับ Private ที่คนที่จะใช้บริการต้องเป็นเมมเบอร์เพียงเท่านั้นถึงจะเข้ามาใช้บริการที่นี่ได้ ที่โต๊ะสนุกเกอร์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่พื้นผิวของมันทำจากผ้ากำมะหยี่อย่างดี ตอนนี้มีลูกสนุ้กวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะเพียงเจ็ดลูก ร่างสูงที่เอาแต่ยืนมองลูก คิวบอลสีขาว ที่จัดวางเอาไว้ไม่ค่อยตรงตำแหน่งลูกสีแดงที่เขาต้องการยิงมันให้ลงหลุมมุมด้านซ้ายตรงหน้าของเขา

    เฮ้อ...” ปาร์คจีมินถอนหายใจออกมารอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เกมนี้มันควรจะต้องเป็นเกมของเขาแท้ๆ ที่ไหนได้ เขาก็ยังเป็นคนโง่ที่ถูก คิมซอกจิน วางเกมมาเพื่อให้ตายใจจนได้

    ดวงตาคู่สวยของเขาบัดนี้กำลังเพ่งมองไปยังลูกสนุ้กลูกที่พอจะให้เขามีหวังในเกมนี้ เพราะถ้าหากเขาพลาดละก็ มันก็จะเหลือลูก สีดำที่มีแต้มสูงสุดให้ฝ่ายตรงข้ามเก็บไปจนได้ เม็ดเหงื่อใสๆผุดออกมายังขมับทั้งสองข้าง มันบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังเครียดและจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำมากแค่ไหน

    เขามีตัวเลือกอยู่ทางเดียว ก็คือต้องยิงลูกสีแดงให้ลงไปก่อน เพื่อที่จะได้เป็นฝ่ายยิงลูกต่อไป แต่เท่าที่ดูบนโต๊ะตอนนี้ คิมซอกจิน ที่ไม่ต่างอะไรกับการจับ
    ลูกสนุ้กมาวางตามที่ที่เขาต้องการด้วยมือของเขาเอง และแน่นอน ปาร์คจีมินแทบมองไม่เห็นทางที่เขาจะยิงลูกสีแดงได้เลย

    ป๊อก...

    หึเสียงหัวเราะในลำคอของคิมซอกจินบ่งบอกว่าเขากำลังจะเป็นผู้ชนะอีกครั้ง เพราะความอ่อนประสบการณ์ของอีกคน

    อ๋าาาาา ฮยอง...” และเสียงงอแงที่แสนปัญญาอ่อนที่สุดในความรู้สึกของคิมซอกจินก็ดังขึ้น เมื่อปาร์คจีมินไม่สามารถยิงลูกคิวสีขาวให้ไปโดนลูกสีแดงได้ เขาพลาดอีกแล้วสินะ

    ก็มึงใช้สมองน้อยไปจีมินเสียงนิ่งๆของผู้ที่แม้จะไม่ต้องออกแรงแทงลูกที่เหลือเขาก็เป็นผู้ชนะอยู่ดีเอ่ยขึ้น พร้อมการเอาก้อนชอล์คฝนที่ปลายไม้สนุกไปด้วย

    ฮยองจะบอกว่าผมโง่เหรอ

    มึงไม่ได้โง่

    แต่มึงแค่ไม่ใช้หัวคิด ก็เท่านั้น

    ฮยอง!!!”

    ฮยองด่ามันว่าโง่เลยก็ได้ ถ้าจะพูดขนาดนั้นเสียงของคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ดังขึ้น ก่อนที่ปาร์คจีมินจะพูดขึ้นมา

    กูจะเลิกคบมึงไอ้เจคใครจะรู้ว่าปาร์คจีมินพูดประโยคนี้มานับร้อยครั้งแล้ว

    ถ้ามึงทำได้ ป่านนี้มึงคงไม่มายืนงอแงกับกูอยู่แบบนี้หรอกจีมินจอนจองกุก
    นั่งลงที่โซฟาหนังสีน้ำตาลด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายมากขึ้น

    อารมณ์ดีมากเลยนะวันนี้คนแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งใจเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากตอกย้ำความพ่ายแพ้ของตัวเอง

    ก็ดี จัดการเสี้ยนที่มันตำเท้าได้ ก็สบายใจ

    แปลว่ารู้แล้วว่าใครคราวนี้คิมซอกจินถามขึ้นบ้าง จอนจองกุกยกคิ้วขวาขึ้นแทนคำตอบ

    โกดังมึงมีที่พอฝังเหรอวะเพื่อนสนิทที่สุดของจอนจองกุก อย่างปาร์คจีมิน
    ถามขึ้นอย่างประชดประชัน เพราะเขารู้ดีว่าคนอย่างเพื่อนคนนี้ ไม่เคยปล่อยให้คนที่ทรยศมีลมหายใจอยู่บนโลกนี้ได้

    ไม่พอก็โยนทิ้งทะเล ไม่เห็นยาก

    หึ...โฮซอกจะต้องบ่นมึงหูชาแน่เจค

    ใช่ๆ จริงอย่างที่จินฮยองพูด โฮซอกฮยองไม่ชอบให้มึงฆ่าคนพร่ำเพรื่อ คราวนี้มึงโดนตัดแบล็กการ์ดแน่

    ไม่ต้องห่วงกูมีหลายใบ

    แต่ถึงยังไง กูก็จัดการหนอนบ่อนไส้ให้พ่อได้ รับรองวันเกิดพ่อกูอาทิตย์หน้า มึงเตรียมคารวะนายใหญ่คนใหม่ได้เลย

    วันเกิดครบรอบหกสิบปีของจอนจินโมปีนี้ มันเป็นธรรมเนียมของตระกูลจอน ที่พญาอินทรีหรือผู้นำจะต้องส่งมอบอำนาจให้กับทายาทรุ่นต่อไป และจอนจองกุกมั่นใจว่า สิ่งที่มันเป็นของเขามาตั้งแต่ลืมตาดูโลกยังไงมันก็ต้องเป็นของเขาอยู่วันยังค่ำ

    ไม่แน่นะนายใหญ่อาจจะยกตำแหน่งให้พี่สาวมึงก็ได้

    มึงอย่าพูดถึงพี่สาวกูได้มั้ยวะจอนจองกุกสวนขึ้นทันควัน

    หึๆๆ

    จินฮยองอย่าขำ ผมไม่ตลก

    โอเค แต่จะว่าไป กูก็คิดถึงฮวานะ เมื่อไหร่จะกลับมาเยี่ยมกันบ้าง

    เหอะ ไม่ต้องกลับมาได้ยิ่งดี เลี้ยงลูกเลี้ยงผัวอยู่อเมริกาไปเถอะพูดจบจองกุกก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันทีอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก

    อ้าว นั่นมึงจะไปไหนวะจีมินถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่เพิ่งมากำลังจะเดินออกไป

    กลับ เสียอารมณ์

    แต่คืนนี้กาอินจะมาหามึงนะ ไม่อยู่รอหน่อยเหรอ เผื่อว่าเธอจะทำให้มึงหายอารมณ์เสียจากพวกกูได้

    ไม่ว่ะ พักนี้กูเบื่อๆจองกุกตอบอย่างไม่ค่อยสนใจนัก ถึงแม้ผู้หญิงสุดเซ็กซี่
    ขยี้ใจที่จีมินพูดถึงอย่าง มินกาอินจะเป็นคนโปรดที่รองรับอารมณ์ของจอนจองกุกได้เป็นอย่างดี แต่ตอนนี้เขากลับเบื่อเธอซะแล้ว ซึ่งมันก็ไม่แปลกหรอก คนอย่าง
    จอนจองกุกไม่เคยเอาตัวเองไปผูกติดกับผู้หญิงคนไหนอยู่แล้ว

    เออ ตามใจมึงก็แล้วกัน เจอกันวันเกิดนายใหญ่นะจอนจองกุกพยักหน้ารับ แล้วเดินออกจากห้องไป พร้อมกับอารมณ์ที่ดีขึ้นมาบ้าง เพียงแค่นึกถึงวันที่อำนาจทั้งหมดจะมาอยู่ในกำมือของเขาสักที

    ป๊อกๆๆๆ

    เสียงลูกสนุ้กสีขาว ที่ถูกปลายไม้ของคิมซอกจินแทงไปเพียงครั้งเดียว มันกระเด็นไปโดนลูกเป้า ลูกสีน้ำตาล จนมันกระเด็นไปโดนลูกสีน้ำเงินตามด้วยลูกชมพู และสุดท้ายลูกที่มีแต้มสูงที่สุดอย่างลูกสีดำ ก็ต่างพากันลงหลุมมุมโต๊ะไปจนหมด คิมซอกจินค่อยๆยืดตัวขึ้นเต็มความสูงก่อนจะมองผลงานของตัวเองอย่าง
    พึงพอใจ

    ฮยองงงงง ไม่ต้องขยี้ผมขนาดนี้ก็ได้มั้ยล่ะ

     

                                                             

     

     

    50 %

     

    มหาวิทยาลัย K

    ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ที่ใบของมันกำลังค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงอมน้ำตาล ราวกับต้องการตอกย้ำกับใครบางคนว่า โลกนี้ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะสิ่งเดียวที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็คือสิ่งที่ตายไปแล้ว

    เรียวขายาวก้าวเดินไปบนทางเดินที่คุ้นเคยของคณะแพทยศาสตร์ที่เธอเรียนมาเกือบสามปี จุดหมายในวันนี้ของเธอต่างออกไป มันไม่ใช่ห้องเรียนเหมือนในทุกๆวันที่เธอมาที่นี่ วันนี้ที่ที่เธอต้องไปก็คือ ห้องฝ่ายทะเบียนนักศึกษา มือเล็กกำเอกสารสีขาวในมือแน่นโดยที่ตัวเธอเองไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย

    หญิงสาวหลับตาลงแล้วสูดหายใจเข้าให้เต็มปอดราวกับต้องการรวบรวมพลังบางอย่างสำหรับสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำต่อจากนี้ เพราะ การตัดสินใจในวันนี้ มันอาจเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล

    หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีดำสนิท ยื่นเอกสารในมือไปยังเจ้าหน้าที่ ที่กำลังนั่งประจำอยู่ที่โต๊ะทำงาน หญิงวัยกลางคนรับเอกสารไปจากมือของเธอก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ยื่นเอกสารแผ่นนั้นให้อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

    นั่งก่อนสิ นัมยูริน

    ค่ะ ขอบคุณค่ะเจ้าของชื่อค่อยๆนั่งลงตามคำเชิญ และเตรียมพร้อมกับคำถามที่เธอคิดเอาไว้อยู่แล้ว ว่าถ้าเธอตัดสินใจเลือกทางนี้ เธอต้องพบเจอกับคำถามมากมายแค่ไหน

    เธอเป็นนักศึกษาแพทย์ที่มีผลการเรียนดีมาโดยตลอด อนาคตของเธอยังไงก็ไม่พ้นแพทย์มือดีอีกคนหนึ่งของประเทศแน่ๆ ทางเราอยากให้เธอลองตัดสินใจให้ดีๆมือเล็กจิกกำมือตัวเองแน่นขึ้นเมื่อได้ยินอย่างนั้น

    หนูมีปัญหาจริงๆค่ะ

    เราทราบเรื่องปัญหาครอบครัวของเธอมาบ้างแล้ว แต่ถ้าเธอตัดสินใจที่จะเรียนต่อ เรายินดีที่จะหาทุนการศึกษาให้นักศึกษาอนาคตไกลอย่างเธอได้ไม่ยากอยู่แล้ว

    นัมยูรินรู้ดี ว่าตัวเธอเองมีความสามารถอยู่ในระดับไหน เพราะอาชีพ แพทย์คือความใฝ่ฝันของเธอตั้งแต่เด็ก ด้วยเหตุจากที่คุณพ่อของเธอป่วยมาตลอดตั้งแต่เธอจำความได้ และเหตุผลเดียวกันนั้นนั่นเอง คือเหตุผลที่ทำให้เธอเลือกที่จะดรอปเรียนเอาไว้ก่อน นั่นก็เพื่อพ่อของเธอเช่นกัน

    ในเวลานี้ นัมยูรินคนนี้ไม่ใช่นัมยูรินที่ใครๆรู้จักอีกต่อไปแล้ว เธอหมดหนทาง ไม่มีทรัพย์สมบัติ ไม่มีแม้แต่บ้านที่จะซุกหัวนอน เธอไม่ใช่คุณหนูนัมยูริน
    ลูกสาวนักธุรกิจเจ้าของ
    จินชาง กรุ๊ปบริษัทนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์อันดับต้นๆของเกาหลีใต้อีกต่อไปแล้ว

    จริงอยู่ แค่เธอรับทุนการศึกษาที่เธอเองได้มันมาได้ง่ายๆแค่เธอทำเรื่องขอ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือสิ่งที่เรียกว่า เวลานัมยูรินไม่มีเวลาพอที่จะเจียดมาเรียนอีกต่อไปแล้ว เพราะเวลาของเธอในตอนนี้ จำเป็นที่จะต้องทุ่มเทให้กับการทำงานพิเศษทุกอย่างที่เธอพอจะทำได้ เพื่อที่จะนำไปเป็นค่ารักษาอาการของโรค หลอดเลือดสมองอุดตัน ขั้นวิกฤติของผู้เป็นพ่อ

    ขอโทษจริงๆนะคะ และต้องขอบคุณที่เมตตาหนู แต่ตอนนี้หนูคงรับไว้ไม่ได้จริงๆค่ะ

    พูดจบเธอก็ฝืนยิ้มกลับไปให้เจ้าหน้าที่ตรงหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วแสดงความเคารพตามมารยาท แล้วรีบเดินออกไปจากตรงนั้น ก่อนที่ความลังเลจะมาเยือนจิตใจของเธอเสียก่อน

     

    วันนี้เห็นยัยคุณหนูตกยากไปที่ห้องทะเบียนด้วยนะ

    ได้ข่าวว่า พ่อโดนฟ้องล้มละลายเลยนะ ไม่เหลืออะไรเลย แถมยังป่วยหนักอีก

    น่าสงสารนะ คงลำบากแย่เลย

    สมน้ำหน้ามากกว่า เกิดมาคงไม่เคยได้สัมผัสความยากลำบากกับใครเขาหรอก

    จริง ลองลำบากดูบ้างจะได้เลิกหยิ่งเป็นหงส์สักที

    คงลำบากได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวก็ใช้วิธีเดียวกับแม่เพื่อความสบาย

    วิธีอะไร

    ก็แต่งงานกับผู้ชายรวยๆไง สบายไปทั้งชาติ แต่ที่ไหนได้ ตกสวรรค์ ทั้งแม่ทั้งลูก

     

    ปึ้ง!!!

    เสียงประตูห้องน้ำห้องริมสุดถูกผลักออกอย่างแรง จากใครบางคนที่ไม่อาจทนฟังสิ่งที่คนอื่นพูดถึงตัวเองและครอบครัวได้ โดยเฉพาะกับแม่ของเธอ คนที่ปากและจิตใจสกปรกพวกนี้ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดจาก้าวร้าวถึงแม่ของเธอได้

    สามนักศึกษาสาวที่ก่อนหน้านี้เอาแต่พูดจาเรื่องคนอื่นอย่างออกรสออกชาติถึงกับผงะ เมื่อพบว่าบุคคลที่พวกเธอกำลังนินทา คงจะรับรู้ทุกคำพูดที่พวกเธอพูดออกไปหมดแล้ว

    อย่าลามปามแม่ฉัน!!!”

    รู้จักฉันดีแค่ไหนถึงได้กล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมา!!!” นัมยูริน ที่เมื่อออกจากห้องทะเบียน เธอก็เลือกที่จะมานั่งสงบสติอารมณ์ของตัวเองอยู่ในห้องน้ำหญิง แต่ใครจะคิดล่ะว่าที่นี่จะเป็นที่ที่ยิ่งทำให้สติอารมณ์ของเธอเตลิดไปไกลจนแทบกู่ไม่กลับแล้ว

    ก็ที่เขาพูดกันมันไม่ใช่ความจริงรึไงล่ะ

    ชเวอินฮยอน!!!”

    ยูรินไม่เคยเข้าใจเลยว่า ตัวของเธอเองไม่เคยเลยที่จะเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับผู้หญิงร้ายกาจอย่าง ชเวอินฮยอนเลยสักครั้ง แต่ทำไมกันผู้หญิงคนนี้กับเพื่อนๆของหล่อน ถึงได้ชอบหาเรื่องเธอนักหนา เท่าที่รู้แม่ของอินฮยอนเองก็เคยเป็นเพื่อนกับแม่ของเธอมาก่อน

    ไม่จริงก็เถียงสิ ว่าแม่ของเธอไม่ได้แต่งงานเพื่อจับผู้ชายรวยๆ โดยที่ไม่สนใจว่า จะไปแย่งคนรักของใครเขามารึเปล่า

    พลั่ก!!!

    หยุดพูดถึงแม่ฉันเดี๋ยวนี้นะ!!!” ด้วยความบันดาลโทสะ ทำให้นัมยูรินตวาดออกไปพร้อมกับแรงผลัก ผลักร่างของชเวอินฮยอนเซล้มลงไปกับพื้น

    ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นัมยูรินต้องเผชิญกับหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต จนตัวเธอเองตั้งตัวแทบไม่ทัน ทุกอย่างมันถาโถมเข้ามาในคราวเดียวจนเธอแทบจะประคองตัวเองไว้ไม่อยู่แล้ว เธอขอแค่มุมสงบเพื่อพักสมอง พักหัวใจได้บ้าง แต่สุดท้ายก็หนีคนนิสัยแย่ๆอย่างนี้ไม่พ้น คนที่คอยตามซ้ำเติมตอกย้ำเธอไม่หยุดหย่อน มันทำให้ความอดทนของเธอขาดสะบั้นลง จากคนที่อ่อนโยนไม่เคยคิดจะใช้อารมณ์หรือกำลังกับใคร จำต้องระเบิดออกมา จนเจ้าตัวยังตกใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปไม่น้อย

    นี่แกผลักฉันเหรอ!!!”

    ฉัน...ฉันสมองของยูรินยังคงประมวลผลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก การทำร้ายร่างกายคนอื่นแบบนี้มันไม่ใช่นิสัยของเธอเลยสักนิด

    ดี ในเมื่อแกเริ่มก่อน ฉันก็ไม่ออมมือแล้วกัน ดาวอน มิรัน ช่วยฉันจัดการยัยคุณหนูนี่ที จะเอาให้สาสมกับที่มันกล้ามาผลักฉัน!!!”

    แค่นี้มันยังน้อยไป สำหรับคนที่ใจต่ำ ด่าว่าได้แม้กระทั่งพ่อแม่ของคนอื่น

    แต่ยังไม่ทันที่เพื่อนทั้งสองคนของชเวอินฮยอนจะได้ทำตามคำสั่งของเพื่อน ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกพร้อมกับใครบางคนที่เดินเข้ามา

    นายอนอา!!!” ยูรินเรียกชื่อเพื่อนสนิทของตัวเองออกมาด้วยความดีใจ ที่ในที่สุดก็มีคนที่จะพาเธอออกไปให้พ้นจากเรื่องบ้าๆนี้สักที เธอจะทนมันไม่ไหวอยู่แล้ว

    อิมนายอน อย่ามายุ่งเรื่องนี้นะ!!”

    ขอโทษนะ ชเวอินฮยอน แต่ฉันเป็นคนชอบเผือกน่ะ แต่ต่างจากเธอนะ ที่ชอบเผือกเรื่องไม่จริงของคนอื่นเขาไปทั่ว

    นี่!!!”

    อยากมีเรื่องกับฉันก็มา บอกก่อนนะฉันไม่ใช่ยูรินที่จะทำแค่ผลักเบาๆอย่างกับลมเป่าเหมือนเมื่อกี้

    ใครๆก็รู้ว่าครอบครัวของอิมนายอนไม่ใช่ธรรมดา มีข่าวลือมากมายว่าครอบครัวของเธอเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมาเฟียที่มีอิทธิพลมากๆของเกาหลีใต้ ทำให้ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับเธอสักเท่าไหร่นัก

    หึ ปกป้องกันเข้าไปเถอะ อยากจะรู้นักว่าเพื่อนเธอจะลอยหน้าลอยตาในสังคมได้อีกนานสักแค่ไหน อย่าอายจนฆ่าตัวตายไปซะก่อนล่ะหมดคำพูดแย่ๆที่พ่นออกมา ชเวอินฮยอนกับเพื่อนก็เดินออกจากห้องน้ำไปทันที

     

    เหลือเพียงนายอนกับยูรินที่กำลังยืนตัวแข็งทื่อไปหมด นายอนหันไปมองเพื่อนที่เธอรู้ว่าเพื่อนเธอคนนี้ถูกเลี้ยงมาแบบไหน และกำลังเผชิญกับสิ่งที่ชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะได้พบเจอมาก่อน

    หายไปไหนมา เธอรู้มั้ยว่าฉันกับมุนบยอลตามหาเธอจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว ยัยบ้าเอ๊ย!!!”

    ฮึก นายอนอาคำพูดที่เหมือนคำต่อว่าของนายอน ในความหมายที่ยูรินแปลได้ก็คือ เพื่อนคนนี้เป็นห่วงเธอมากมายแค่ไหน ทำให้น้ำตาที่ยูรินพยายาม
    อดกลั้นมันเอาไว้ร่วมเดือน ทะลักออกมาอย่างมากมาย ก่อนที่เธอจะตรงเข้าไปสวมกอดนายอนเอาไว้แน่น

    ฮึก นายอนอา ฉัน อึก ฉันไม่รู้จะทำยังไง

    มือเล็กของอิมนายอนลูบตบลงเบาๆที่แผ่นหลังที่กำลังสั่นไหวรุนแรงเพื่อปลอบใจ ตั้งแต่ที่เธอรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของยูริน นายอนเป็นห่วงเพื่อนจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร แต่เพราะทั้งเรื่องคดีความที่ฟ้องร้องกัน ระหว่างผู้ถือหุ้นที่ยักยอกและหักหลังพ่อของยูริน ที่หน้าด้านยื่นฟ้องต่อศาลว่าพ่อของเธอไม่มีคุณสมบัติพอที่จะบริหารบริษัทที่ก่อตั้งมากับมือได้อีกเพราะอาการป่วย จนพ่อของยูรินถูกฟ้องร้องจนมีคำสั่งศาลให้เป็นผู้ล้มละลาย

    แม่ของยูรินพาทั้งพ่อและยูรินหนีไปอยู่ต่างประเทศชั่วคราวเพื่อรอให้ทุกอย่างคลี่คลายลงไปบ้าง โดยที่เพื่อนของพ่ออีกคนหนึ่ง รับปากว่าจะช่วยเหลือครอบครัวเธออย่างถึงที่สุด แต่เพราะอำนาจของเงินที่มันช่างหอมหวนยั่วกิเลสของคนโลภ มันก็ทำให้พ่อของยูรินถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนอาการป่วยทางกายบัดนี้ลุกลามด้วยอาการป่วยทางใจ ที่รังแต่จะทำให้อาการของเขาแย่ลง
    ทุกที

    สิ่งแรกที่เธอต้องทำ ก็คือ สู้ยูริน สู้มันให้ได้ เริ่มจากสู้คนที่มันทำร้ายเธอก่อน

    ฮึก ฉันต้องทำยังไง ฉัน กลัวว่าฉันคนเดียว จะทำมันทั้งหมดไม่ได้ได้ยินอย่างนั้น นายอนจึงค่อยๆดันเพื่อนรักออกจากอ้อมกอด แล้วจ้องมองไปยังดวงตาคู่สวยที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาของยูริน

    ตอนนี้พ่อแม่ของเธอต้องการเธอที่สุด ถ้าอยากปกป้องครอบครัวและคนที่เธอรัก เธอต้องเข้มแข็งกว่านี้ ฉันเชื่อว่าเธอทำได้นายอนคว้ามือสองข้างของเพื่อนขึ้นมา ในใจนึกสงสารจับใจ มือคู่นี้ที่เคยนุ่มนวลบอบบางน่าสัมผัส กลับกลาย
    เป็นมือที่เริ่มหยาบกร้านจากการตรากตรำทำงานหนัก เพื่อหาเงินมารักษาผู้เป็นพ่อ

    แต่ถ้าเธอไม่ไหว บอกฉันได้เลยนะ เธอก็รู้ว่าแค่ฉันขอ พ่อฉันก็จะ

    ไม่เอานะ ฉันรู้ว่าเธอต้องช่วยฉันได้ แต่ฉันไม่อยากเป็นภาระให้ใครอีกแล้ว ฉันจะพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเองก่อน ฉันจะพยายาม

    ดีมาก แต่ถ้าเธอไม่ไหว ต้องรีบบอกฉันทันทีเลยนะ เข้าใจใช่มั้ยยูรินคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่สองเพื่อนรักจะโผเข้ากอดกันอีกครั้ง

    หลังจากนี้เธอจะต้องลำบากมากๆ รู้ใช่มั้ยยูริน

    อื้ม รู้สิ ลำบากมากจนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนเลยล่ะ

    ฉันว่า เริ่มจาก...”

    ออกไปจากห้องน้ำก่อนดีกว่านะ

    คำพูดติดตลกของนายอน มันยังพอเรียกเสียงหัวเราะที่หายไปในรอบหนึ่งเดือนของเพื่อนเธอได้บ้างล่ะนะ อย่างน้อยเธอก็ยังพอช่วยเหลือเพื่อนผู้น่าสงสารของเธอได้อย่างหนึ่งแล้ว

     

    {อิมนายอน}

     

    80 %

     

     ตึกทกซูรี ตึกสูงสีดำสนิทตั้งตระหง่านอยู่บนทำเลที่มีมูลค่าสูงสุดในโซลก็ว่าได้ ชื่อตึกนี้แปลว่า นกอินทรีซึ่งเป็นที่รู้ดีว่ามันคือ สัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่อย่าง บลูอีเกิ้ลที่ครอบครองโดยตระกูลมหาอำนาจ อย่าง ตระกูลจอนมานาน

    ค่ำคืนนี้ที่แห่งนี้ดูจะครึกครื้นเป็นพิเศษ เพราะวันนี้คือวันสำคัญของตระกูล ที่เรียกกันว่าพิธี 양도 (อ่านว่า yangdo) มันคือวันแห่งการเฉลิมฉลองที่ผู้นำคนปัจจุบันอายุครบห้ารอบ (60 ปี) และที่มันพิเศษยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มันคือวันแห่งการ ส่งมอบภาระหน้าที่ทั้งหมดให้แก่ผู้นำรุ่นต่อไป

    จอนจองกุกรอคอยวันนี้มานาน เพราะมันเป็นตัวการันตีว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาพยายาม ทุกสิ่งที่เขาเรียนรู้ที่จะทำ เรียนรู้ที่จะเป็น มันทำให้เขาเติบโตมาอย่างเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำของตระกูลอย่างเต็มตัวเสียที

     

    ร่างสูงสมส่วน ที่แม้ไม่มีเวลาออกกำลังกายมากนัก เพราะงานของเขาที่ค่อนข้างหนักและสำคัญ แต่มันไม่ใช่ปัญหาที่จะทำลายรูปร่างที่แสนดูดีไปทุกกระเบียดนิ้วของ จองโฮซอกผู้ช่วยคนสนิทของจอนจองกุกคนนี้ได้

    ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆบริเวณห้องโถง ที่ตอนนี้แขกเหรื่อต่างทยอยกันมา และแขกแต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลสำคัญทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น
    ผู้บัญชาการตำรวจ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักการเมืองคนดัง นักธุรกิจรายใหญ่ และที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือบรรดาคู่ค้าและพันธมิตรของตระกูลจอน ที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันสำคัญของพวกเขาในค่ำคืนนี้

    ทุกอย่างเรียบร้อยครับคุณโฮซอกชายร่างสูงในชุดสูทสีดำรายงานความเรียบร้อยต่อเจ้านาย

    ทีมอารักขานายใหญ่ล่ะ ประจำที่ครบทุกจุดรึยัง

    ทีมซิลเวอร์สแตนด์บายพร้อมอยู่แล้วครับจองโฮซอกพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะนึกถึงอีกคนที่ค่ำคืนนี้ก็สำคัญไม่แพ้ผู้นำอย่างจอนจินโม ซึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...

    แล้วคุณเจค?”

    คุณเจคมาถึงตั้งแต่สี่โมงเย็น ตอนนี้กำลังแต่งตัวอยู่ที่ห้องพักครับ

    มาเร็วจริงๆรอยยิ้มบางๆปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาเมื่อนึกถึงนายน้อยของเขา

    คุณเจคคงตื่นเต้น

    หึๆๆ คืนนี้ คงเป็นคืนที่คุณเจคของนายต้องตื่นเต้นกว่าคืนไหนๆ

    ผมก็หวังว่า คุณเจคคงจะดีใจกับข่าวดีในคืนนี้นะครับ

    รอดูแล้วกัน

    รอดูอะไรฮยอง!!!” ร่างสูงตกใจไม่น้อย ที่จู่ๆเขาก็ถูกท่อนแขนของคนที่กำลังถูกพูดถึงโอบไหล่เอาไว้

    นายน้อย!!!” โฮซอกเอ่ยขึ้นเป็นการเตือนกลายๆว่า สิ่งที่จอนจองกุกกำลังทำอยู่ตอนนี้มันเป็นการแสดงความสนิทสนมกับเขามากจนเกินไปสำหรับสถานะของเจ้านายกับลูกน้อง และเมื่อเจ้าตัวเห็นสายตากังวลของที่ปรึกษาคนสนิท เขาจึงค่อยๆเอาแขนแกร่งออกจากจองโฮซอกทันที

    กำลังพูดถึงผมอยู่ใช่มั้ย

    ใช่ครับ กำลังพูดถึงอยู่พอดีโฮซอกตอบออกไป ก่อนจะหันไปบอกให้ลูกน้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ

    นินทาผมเหรอจองกุกถามยิ้มๆ รอยยิ้มแบบนี้ของจองกุก มีไม่กี่คนหรอกที่จะได้เห็น

    ไม่ได้นินทาครับ แค่พูดถึง

    โอเค ผมเชื่อก็ได้ ว่าแต่ฮยองเห็นจินฮยอง กับจีมินมั้ย สองคนนั่นมารึยัง

    ผมก็คิดว่า จะอยู่ด้วยกันซะอีก

    คงไม่ได้คิดจะทำอะไรแผลงๆอยู่นะจองกุกอดคิดไม่ได้ ยังไงวันนี้เขาก็ต้องฉลองใหญ่รับตำแหน่งใหม่ของตัวเอง อดคิดไม่ได้เลยว่าสองเพื่อนซี้ของเขาอาจจะมีเซอร์ไพรส์บ้าบอคอแตกให้กับเขาแน่ๆ

    อย่ากังวลไปเลยครับ เดี๋ยวนายใหญ่ก็มาถึงแล้ว นายน้อยพร้อมแล้วนะครับ?”

    แน่นอน ผมพร้อมสำหรับเรื่องนี้มาตั้งแต่ลืมตาดูโลกแล้วล่ะจองกุกมั่นใจกับเรื่องนี้มาก ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ลูกชายคนเดียวของครอบครัว ไม่มีทางเลยที่ตำแหน่งผู้นำจะไม่ตกมาเป็นของเขา ไม่มีทาง

    ครับ การเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นได้เสมอ นายน้อยต้องตั้งสติให้ดี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามประโยคที่จองโฮซอกพูดออกมามันก่อให้เกิดความสงสัยขึ้นในความคิดของผู้เป็นนายน้อย และความสงสัยนั้นจองกุกแสดงมันออกมาทางสายตาอย่างชัดเจน

    โลกนี้มันเปลี่ยนแปลงทุกวันครับ แต่ผมเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นกับนายน้อยมันต้องเป็นเรื่องที่ดี

    แน่นอน

    ผมว่าตอนนี้นายน้อยเข้าไปรอที่โต๊ะเถอะครับ เดี๋ยวนายใหญ่ก็น่าจะมาถึงแล้ว

     

    {จอนจินโม}

    ผ่านไปราวๆยี่สิบนาที เสียงพูดคุยที่ดังระงมภายในงานอันตรธานหายไปเพียงปลายเท้าของใครคนหนึ่งย่างก้าวเข้ามาภายในงานพร้อมกับคนสนิท และ
    บอดี้การ์ดนับสิบชีวิตที่เดินตามหลัง ร่างสูงโปร่งสง่างาม ที่มาพร้อมกับการก้าวเดินที่หนักแน่น มั่นคง สายตามุ่งมั่นฉายชัดบนใบหน้าที่ไม่ว่ากาลเวลาได้ผ่านไปหกสิบปีเต็ม ก็ไม่อาจทำลายความหล่อคมคายของเขาลงได้

    จอนจินโมมีสายตาที่ดุดันและทรงพลัง ด้วยการสั่งสมบารมีในวงการนี้มากว่าสามสิบห้าปี มันทำให้แค่เพียงการก้าวเดินเข้ามาภายในงาน ด้วยรอยยิ้มมุมปากบางๆปรากฏบนใบหน้า ทำให้ผู้คนที่พบเห็นรู้สึกได้ถึงรังสีแห่งความเป็นผู้นำที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของ จอนจินโม คนนี้

    ฮวาล่ะหลังจากทักทายและรับของขวัญจากแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีไปบ้าง จอนจินโมก็หันไปถามหาใครบางคนจากเลขาของเขา

    คุณฮวาติดธุระสำคัญครับ เธอบอกว่าจะตามมาฉลองกับท่านทีหลังครับ

    เฮ้อ...ไหนใครบอกว่ามีลูกสาวตอนแก่จะไม่เหงา แต่งงานไปแล้ว ก็ต้องไปอยู่กับครอบครัวใหม่อยู่ดีจินโมบ่นกับคู่สนทนาของเขา นายตำรวจใหญ่ที่เพิ่งย้ายมาประจำที่โซลได้ไม่นาน แต่จินโมรู้จักกับพ่อของเขาที่มีตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างดี

    ผมว่าคุณลุงคงต้องมีลูกสาวอีกคนแล้วล่ะครับจอนจองกุกที่ยืนอยู่ข้างๆพ่อตัวเอง ตวัดสายตาไปมองนายตำรวจหน้าอ่อนด้วยความไม่พอใจเท่าไหร่นัก ที่เขาพูดจาเพ้อเจ้อ พ่อเขาอายุปูนนี้แล้ว จะมีลูกสาวอีกคนได้ยังไง ขืนมีตอนนี้ก็อายุห่างจากเขายี่สิบห้าปีเต็ม จองกุกคงไม่อยากมีน้องสาวตัวกะเปี๊ยกอ้อนขอนู่นขอนี่จากเขาในเวลานี้เป็นแน่

    และมันยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะตั้งแต่แม่ของจองกุกจากไป พ่อของเขาไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนมาแทนที่แม่ของเขาได้สักคน ทั้งๆที่จองกุกและพี่สาวของเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยถ้าพ่อของเขาจะมีใครเข้ามาในชีวิต แต่จอนจินโมเลือกแล้วว่าชีวิตนี้ของเขา รักผู้หญิงได้เพียงคนเดียวเท่านั้น

    ฮ่าๆๆ เป็นความคิดที่ดีนะจองกุกมองพ่อตัวเองอย่างอดแปลกใจไม่ได้ ที่พ่อของเขาตอบออกไปแบบนั้น แต่แล้วความสนใจของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อสายตาไปปะทะเข้ากับสายตาเฉี่ยวคมของใครบางคนที่เขาไม่อยากเห็นหน้าที่สุดในตอนนี้ ถึงแม้รู้ว่ายังไงคืนนี้เขาเลี่ยงที่จะเจอไม่ได้ก็เถอะ

    อ้าว ยุนกิ ไม่ได้เจอตั้งนานเลยนะเป็นจอนจินโมที่เอ่ยทักคนที่มาใหม่ก่อน และมินยุนกิเองได้ยินเช่นนั้น เขาก็แสดงความเคารพต่อจอนจินโมทันที ก่อนจะยื่นขวดไวน์ชั้นเลิศในมือที่เขาเตรียมมาเพื่อเป็นของขวัญไปให้กับเจ้าของวันเกิด

    สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณอา คุณพ่อฝากขอโทษจริงๆที่ท่านมาร่วมงานนี้ไม่ได้มินยุนกิตอบด้วยรอยยิ้ม และรอยยิ้มนั้นคือสิ่งที่จอนจองกุกเกลียดนัก รอยยิ้มจอมปลอมของมินยุนกิ

    ขอบใจมาก อ่ะ เจคถือให้พ่อที

    ทำไมผมต้อง!” แต่ไม่ทันที่ลูกชายตัวดีจะได้โวยวายอะไรออกมาหรอก เพราะเพียงแค่คนเป็นพ่อใช้สายตานิ่งๆมองไปที่เขาเท่านั้น จองกุกจำต้องหยุดอารมณ์ขุ่นเคืองของตัวเองเอาไว้ แล้วจำใจรับขวดไวน์เฮงซวยนั่นมาถือเอาไว้

    พี่ยุนแจไม่สบาย ต้องพักผ่อนมากๆ อาเข้าใจ แล้วเราล่ะ ตั้งแต่รับช่วงต่อจากพ่อ ก็แทบไม่เจอหน้าเลยนะ คงจะยุ่งมากๆเลยใช่มั้ย

    ทุกอย่างมันใหม่สำหรับผมน่ะครับ ก็เลยต้องใช้เวลาเรียนรู้ ถ้าไม่เป็นการรบกวน จะเป็นอะไรมั้ยถ้าผมจะมาขอคำปรึกษาจากคุณอาบ้างเจ้าของใบหน้าขาวสะอาดตา แต่ทว่าดวงตาที่นิ่งสนิทคู่เล็กแบบเกาหลีแท้ของมินยุนกินั้น เป็นดวงตาที่คาดเดาอารมณ์และความคิดของเขาได้ยาก คำที่บอกว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ มันใช้กับผู้ชายที่ชื่อ มินยุนกิ ไม่ได้

    นายรับตำแหน่งตั้งแต่อายุยี่สิบสาม ถือได้ว่าอายุน้อยมากกับตำแหน่งผู้นำของตระกูล ที่นายทำถือว่าเก่งมากแล้ว

    มินยุนกิ ถูกกล่าวถึงในหน้าหนังสือพิมพ์และข่าวในโทรทัศน์แทบทุกวันในฐานะผู้นำตระกูลที่สนับสนุนพรรครัฐบาล และเป็นกำลังสำคัญในฐานเสียงของบรรดารัฐมนตรีหลายคน ด้วยความที่เขาขึ้นรับตำแหน่งตั้งแต่อายุยังน้อย ช่วงแรกเขาถูกสบประมาทมาไม่น้อย แต่ด้วยความสามารถของเขา มันทำให้เขากลายเป็นที่ชื่นชมในสายตาของใครหลายๆคน

    ยกเว้นเอาไว้คนหนึ่ง ก็คือ คนที่กำลังยืนขบกรามแน่นเพื่อสะกดกลั้นตัวเองไม่ให้หลุดปากด่าคนตรงหน้าออกไป เพื่อรักษาหน้าของผู้เป็นพ่อเอาไว้ จอนจองกุกไม่อยากจะมองนักหรอก ใบหน้าเย่อหยิ่งราวกับว่าตัวเองเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลกของมินยุนกิ

    ขอบคุณทุกคนมากๆที่เสียสละเวลามาร่วมงานวันเกิดคนแก่ๆของผม

    สิ้นประโยคนั้นเสียงผู้คนดังระงมขึ้นเป็นการแย้งว่า คำว่าแก่ยังห่างไกลนักสำหรับจอนจินโม ถ้าไม่ติดว่าเป็นธรรมเนียมของตระกูลละก็ ความสามารถระดับเขา คงไม่จำเป็นต้องรีบส่งต่อตำแหน่งผู้นำให้ทายาทเร็วขนาดนี้

     

    ตลอดสามสิบกว่าปีมานี้ ผมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง ให้กับ บลูอีเกิ้ลยอมแลกทุกอย่าง ทั้งแรงกาย แรงใจ รวมถึง...” คำพูดของเขาขาดช่วงไปเมื่อนึกถึงสิ่งหนึ่งที่เขาสูญเสียไปเมื่อเขามายืนอยู่ตรงจุดที่สูงที่สุดของชีวิต

    ความรักจอนจองกุกเม้มปากแน่นเพราะรู้ว่าในความคิดของพ่อตอนนี้ คงกำลังนึกย้อนไปยังค่ำคืนนั้น ค่ำคืนที่ทั้งเขาและพ่อของเขา สูญเสียผู้หญิงที่รักที่สุดไป

    แฮซู ภรรยาของผม ผมไม่นึกถึงเธอไม่ได้เลย เธอยืนเคียงข้างผมตั้งแต่วันนี้เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน วันที่ผมก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนี้ต่อจากพ่อ จนวันสุดท้ายในชีวิตของเธอ เธอก็ยังคงเลือกที่จะอยู่เคียงข้างผม

    ถึงแม้ว่าผมได้จัดการคนที่มันพรากเธอไปจากผมได้อย่างสาสมแล้ว แต่...เพราะเธอ ผมถึงยังอยู่ตรงนี้ขณะพูดสายตาคู่คมของจอนจินโม ก็หันไปมองยังใบหน้านิ่งสงบของลูกชายเพียงคนเดียวของเขา ดวงตาคู่นั้นช่างเหมือนแม่ของเขาราวกับถอดแบบกันมา

    และเธอได้มอบสิ่งสำคัญ ซึ่งก็คือลูกๆของผมเอาไว้ให้กับผม

    ถึงวันนี้ ลูกสาวตัวแสบของผมจะไม่อยู่ที่นี่ก็เถอะจอนจินโมพูดออกมาด้วยอารมณ์ขัน

    บอกแล้วว่าผมแก่แล้ว พูดจาเพ้อเจ้อซะยาวเลย

    วันนี้เป็นวันดี เป็นวันที่ทุกคนจะได้ร่วมแสดงความยินดี กับผมในฐานะเจ้าของวันเกิด และถึงเวลาที่ผมจะได้พักจริงๆสักที

    รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมาเฟียหนุ่ม รอยยิ้มแห่งความ
    พึงพอใจ ยิ่งเห็นคิมซอกจินและปาร์คจีมินที่ยืนอยู่ไม่ไกลส่งยิ้มบางๆเพื่อแสดงความยินดีล่วงหน้าให้กับเขา หัวใจของจอนจองกุกเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น เมื่อวันที่เขารอคอยก็มาถึงจนได้ เขาไม่ได้เพียงแค่อยากได้อำนาจ หรืออยากยิ่งใหญ่กว่าใครในฐานะผู้นำตระกูล อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เขาอยากให้พ่อของเขาได้มีเวลาพักและใช้ชีวิตตามที่ต้องการบ้าง เพราะท่านเหนื่อยและโดดเดี่ยวมามากพอแล้ว

     

    แต่ว่า วันนี้มันแตกต่างจากการส่งมอบตำแหน่งในทุกๆครั้งที่ผ่านมาทุกคนนิ่งเงียบ เพื่อรอฟังสิ่งที่ผู้นำจะพูดต่อจากนี้ เพราะประโยคที่เขาพูดขึ้นมามันทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างพากันสงสัยว่า ความแตกต่างที่ว่านั้นคืออะไร

    ผมเข้าใจดีว่าโลกสมัยนี้มันเปลี่ยนแปลงไป อะไรๆก็ไม่จำเป็นจะต้อง
    ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ หรือธรรมเนียมเก่าๆอีกต่อไปแล้ว

    ซึ่งผมมองว่า สิ่งใหม่ๆ กับธรรมเนียมปฏิบัติของเรามันต้องควบคู่กันไปทั้งสองอย่าง

    ฉะนั้น จะยังไม่มีการส่งต่อตำแหน่งของผมให้กับลูกชายของผม ในคืนนี้

     

    เสียงฮือฮาดังไปทั่วบริเวณ เมื่อสิ่งที่จอนจินโมพูดออกมา มันได้สร้างความตกใจและความสงสัยใคร่รู้ไม่น้อยเลย ถึงสาเหตุที่เขายังไม่ยอมยกตำแหน่งผู้นำให้กับบุตรชาย และคนที่ตกใจที่สุดคงหนีไม่พ้น จอนจองกุก ที่ตอนนี้เขาได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อและจ้องมองผู้เป็นพ่ออย่างไม่เข้าใจและต้องการคำอธิบายโดยด่วน

    ทุกคนอาจจะสงสัยว่า ลูกชายของผม มีข้อบกพร่องอะไร ทำไมผมถึงยังไม่ยกตำแหน่งผู้นำให้กับเขา

    ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงที่ลูกชายของผมยังขาดบางสิ่งบางอย่างไป

    พ่อพูดมาเลยดีกว่า ว่าผมยังไม่ดีพอตรงไหนมาเฟียหนุ่มถามคนเป็นพ่อออกไปด้วยความไม่เข้าใจ

    ตามธรรมเนียมแล้ว วันที่ขึ้นรับตำแหน่งผู้นำ ทายาทที่จะมาสืบทอดจะต้องแต่งงานแล้วทุกคนยิ่งได้ยินคำเฉลยจากเจ้าของวันเกิด ยิ่งทำให้คนในงานต่างพากันตะลึงพรึงเพริดไปกันยกใหญ่ ใครๆก็รู้ว่าคนอย่างจอนจองกุกหวงชีวิตส่วนตัวมากแค่ไหน เขาไม่เคยเปิดตัวว่าคบหาผู้หญิงคนไหนเลยด้วยซ้ำ

    นี่ใช่มั้ยคือ สิ่งที่พ่อถามผมตลอดว่าให้ผมกลับไปคิดเอาเองว่าผมยังขาดคุณสมบัติอะไร ที่แท้ก็ไอ้เรื่องไร้สาระ!!”

    ก่อนหน้านี้ จอนจินโมพูดเป็นนัยๆกับจอนจองกุกอยู่บ่อยครั้งว่าเขายังคงขาดบางสิ่งบางอย่างที่พ่อของเขามี แต่ไม่ว่าจะคิดเท่าไหร่เขาก็คิดไม่ออกว่าสิ่งที่เขายังขาดหายไปมันคืออะไร ที่แท้ก็คือการ แต่งงานนั่นเอง และแน่นอน สิ่งนั้นคือสิ่งที่จอนจองกุกมองว่ามันคือเรื่อง ไร้สาระที่สุดในชีวิตของเขา

    แกยังมีคุณสมบัติไม่ครบนะเจค

    แล้วพ่อจะให้ผมทำยังไง หาเมียตอนนี้เนี่ยนะ!!!”

    หึรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจที่สุดในความรู้สึกของจอนจองกุกปรากฏบนใบหน้าของพ่อของเขา

     

    จอนจินโมหันกลับไปยังไมโครโฟนตรงหน้า พร้อมกับส่งยิ้มไปให้แขกที่มาร่วมงาน รอยยิ้มที่บอกได้ว่า เขากำลังมีความสุขกับการเห็นลูกชายตัวเองกำลังจะชักตายตรงหน้าเพราะถูกขัดใจ

    ไม่มีใครเหมาะสมกับตำแหน่งผู้นำของ บลูอีเกิ้ล ได้เท่าลูกชายของผมอีกแล้วล่ะครับ ทุกคนก็คงจะทราบดี

    อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หวังว่าทุกคนจะมาร่วมแสดงความยินดีกับลูกชายของผมอีกครั้ง ในวันแต่งงาน และวันที่เขาขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำของเรา

    หรือถ้าไม่ ทุกคนอาจจะต้องแสดงความยินดีให้กับลูกเขยของผมแทน

    คืนนี้ฉลองกันให้เต็มที่ ขอบคุณที่มาร่วมงาน

    จบคำพูดขอบคุณ ร่างสูงของผู้ที่ยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำของตระกูล ค่อยๆเดินผ่านหน้าลูกชายที่ตอนนี้ไฟที่ร้อนระอุคงกำลังแผดเผาอยู่ในใจของเขา จนแทบจะระเบิดออกมาเป็นแน่ แต่ยังไม่ทันที่จะเดินลงเวทีไป เขาก็ได้ยินบางอย่างที่ลูกชายของเขากัดฟันพูดขึ้นมา

     

    พ่อจะเล่นไม้นี้กับผมใช่มั้ย

    ก็แค่เมีย พ่อคิดว่าผมจะหาไม่ได้รึไงใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มไม่แพ้กัน ต่างกันแค่ที่รอยเหี่ยวย่นด้วยกาลเวลาบนใบหน้าเพียงเท่านั้น ค่อยๆหันกลับไปมองยังใบหน้าที่กำลังโกรธจัด แต่ยังคงพยายามข่มมันเอาไว้ของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

    ถ้ามีปัญญาก็หามา คืนนี้ได้ยิ่งดี

    นี่ใช่มั้ยรอยยิ้มที่ใครต่างบอกว่าถ้าได้เห็นมันจากจอนจองกุก มันคือรอยยิ้มที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเจ้าของรอยยิ้มอยู่เหนือกว่าคู่สนทนามากแค่ไหน เขาได้เห็นแล้ว รอยยิ้มแบบเดียวกันกับรอยยิ้มที่เขาชอบมอบมันให้กับพวกที่แกว่งเท้าหาเสี้ยนมามีเรื่องกับเขา ที่แท้เขาได้รอยยิ้มแบบนี้มาจากพ่อของเขานั่นเอง และแน่นอนตอนนี้จองกุกเหมือนกับผู้แพ้ ที่กำลังถูกพ่อของตัวเองเยาะเย้ยถากถางด้วยสายตา และมันคือสิ่งที่เขาไม่อาจยอมได้

    นอกจากเป็นวันดีที่เป็นวันเกิดของพ่อ คืนนี้คือค่ำคืนแห่งหายนะของชีวิตจอนจองกุก เขาต้องถูกพ่อแท้ๆหักหน้า ไม่ยกตำแหน่งผู้นำให้ไม่พอ ยังถูกบีบให้ทำในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้ของเขาจะทำ ซึ่งก็คือการ แต่งงานภายในหนึ่งเดือน ถ้าเขาไม่ทำ จอนจองกุกคงเหมือนโดนเหยียบหน้าซ้ำๆ เพราะพ่อของเขาจะยกสิ่งที่เขาปรารถนาให้กับพี่เขยฝรั่งของเขาแทน

    และที่ทำให้จอนจองกุกเจ็บใจมากที่สุดยิ่งกว่าสามอย่างที่ว่ามาทั้งหมด ก็คือ พ่อของเขาทำสามอย่างนั้นกับเขาต่อหน้า มินยุนกิคนที่ตอนนี้กำลังมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มที่เหมือนกำลังบอกกับจอนจองกุกว่า เขาไม่มีทางได้มันมาครอบครองหรอก ตำแหน่งผู้นำสูงสุด อย่างที่มินยุนกิครอบครอง ที่ที่มินยุนกิยืนอยู่ จอนจองกุกไม่มีทางตะกายขึ้นไปถึง มีเหรอที่คนอย่างจอนจองกุกจะยอมให้ศัตรูได้มาหยามเขาถึงที่ ไม่มีทาง!!!

     

    เจค!!”

    ไอ้เจค มึงจะไปไหนวะมือใหญ่ของคิมซอกจินคว้าแขนของคนที่กำลังหุนหันสาวเท้าลงจากเวทีไป ตามด้วยปาร์คจีมินที่วิ่งตามมาติดๆ จนถึงบริเวณที่เครื่องดื่มนานาชนิดถูกจัดวางเอาไว้

    ฮยองจะให้ผมอยู่ในงานเหรอ เกลียดขี้หน้ามันชิบหายทั้งสองคนรู้ดีว่าจอนจองกุกกำลังหมายถึงใคร

    คงสะใจมัน ที่ผมถูกบังคับให้แต่งงานแลกกับตำแหน่งแบบนี้

    มึงช่วยลืมเรื่องยุนกิไปก่อน เอาเรื่องของมึงก่อน มึงจะเอายังไงมือหนาถูกยกขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองอย่างหนักใจ คนอย่างเขาทำได้ทุกอย่างเพื่อทำให้ตัวเองเป็นคนที่เพียบพร้อมและคู่ควรกับตำแหน่งผู้นำของตระกูล ยกเว้นเรื่องแต่งงาน เขาคิดว่ามันไม่ได้สลักสำคัญอะไร ไม่คิดด้วยซ้ำว่าพ่อจะใช้เรื่องนี้มาต่อรองกับเขา

    พ่อกูคิดอะไรอยู่วะ!!!”

    พ่อมึงคงอยากให้มึงเย็นลง

    อะไรนะปาร์คจีมินชะงักไปเมื่อรู้ตัวว่ากำลังพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา

    เอ่อ คือ...”

    พูดออกมาจีมิน!!!” และแน่นอน เขาไม่อาจเลี่ยงได้ เมื่อเขาหลุดพูดมันออกไปแล้ว

    กูบังเอิญ ไปได้ยินพ่อมึงคุยโทรศัพท์กับพี่ฮวา พ่อมึงบอกว่ามึงร้อนเหมือนไฟ เลยอยากให้มึงแต่งงาน เผื่อว่ามึงจะได้เย็นลง

    เหอะ แล้วกูตอนนี้ดูเหมือนจะเย็นลงมากรึไงวะ!!!” ไม่เลยสักนิด จอนจองกุกในเวลานี้ กำลังเดือดดาลไม่ต่างไปจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์

    ได้จองกุกหันไปคว้าแก้วบรั่นดีขึ้นมายกดื่มรวดเดียวหมด ก่อนจะวางมันลง แล้วคว้าแก้วใหม่ขึ้นมาอีก เขาทำอย่างนั้นอยู่ซ้ำๆจนตอนนี้บรั่นดีหมดไปห้าแก้วเข้าไปแล้ว

    ในเมื่อพ่อกูอยากได้นัก กูจะคว้าผู้หญิงสักคนมาทำเมีย ผู้หญิงแบบที่พ่อกูต้องช็อคตาตั้งไปเลย

    ไอ้เจค กูว่ามึงใจเย็นๆก่อนนะ เรื่องแบบนี้ต้องค่อยๆคิดจีมินพยายามปรามเพื่อน

    จริงของจีมิน พวกกูจะช่วยมึง...” ยังไม่ทันที่คิมซอกจินจะพูดจบ จอนจองกุก
    ก็
    พรวดพราดออกไปอย่างรวดเร็ว จนทั้งคู่ห้ามอะไรไม่ทัน

    ไอ้เจค มึงจะไปไหนวะ!!!”

    ไปหาเมีย!!!”

     

    มันจะเอาจริงๆเหรอวะฮยองจีมินพูดอย่างร้อนใจ จองกุกในเวลานี้วางใจอะไรไม่ได้เลย

    มันจะหาเรื่องกวนตีนพ่อมัน

    ยังไง???”

    มันคงไปหาผู้หญิงสักคนมาแต่งงานด้วย แต่ผู้หญิงคนนั้น คงจะไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่พ่อของมันจะยอมรับได้ง่ายๆแน่

     

    ฉันมีงานให้เธอทำด้วยนะ

    จริงเหรอนายอน งานอะไรรีบบอกมาได้เลย

    งานวันเกิดเจ้านายพ่อฉันเอง เขาต้องการพนักงานเสิร์ฟน่ะ งานไม่หนักนะ เธอพอทำได้มั้ย

    ได้สิ ขอแค่ได้เงินฉันทำได้หมดแหละ

    งานนี้ ห้าชั่วโมงสองแสนวอนเลยนะ

    จริงเหรอ!!!”

    ขอบคุณมากๆนะนายอน ฉันจะตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถเลย

     

    เธอทำอีท่าไหนถึงได้ไปเหยียบแปลงดอกไม้จนพังได้ขนาดนี้ฮะ!!” เสียง
    พูดเชิงตำหนิถูกเอ่ยขึ้น ส่วนคนฟังเอาแต่ก้มหน้าก้มตายอมรับความผิด เพราะเธอมัวแต่ตื่นตาตื่นใจกับดอกไม้นานาพรรณ จนเผลอสะดุดก้อนหินแล้วดันโชคร้ายไปล้มลงบนแปลงดอกไม้จน
    พังยับเยิน ลามไปจนถึงเนื้อตัวของเธอที่มอมแมมไปหมด

    ขอโทษจริงๆนะคะ เดี๋ยวฉันจะรีบปลูกให้ใหม่นะคะ

    ดีที่ยังมีต้นสำรองอยู่ วันนี้วันสำคัญจะมีอะไรบกพร่องไม่ได้ รีบๆทำเข้าล่ะ ถ้านายใหญ่มาเห็นเข้า พวกฉันโดนเล่นงานกันหมดแน่หัวหน้าฝ่ายจัดงานบอกกับนัมยูรินเพื่อให้เธอรีบแก้ไขสถานการณ์นี้โดยเร็วแล้วเดินจากไป ทิ้งเธอไว้กับดอกไม้เซตใหม่ กับพวกอุปกรณ์การปลูก

    เฮ้อ... ซุ่มซ่ามไม่เลิกเลยนะยูรินเธอบ่นกับตัวเอง ก่อนจะนั่งยองลงกับพื้นเพื่อสะดวกแก่การปลูกดอกไม้ มือเล็กหยิบช้อนปลูกขึ้นมาก่อนจะทำการขุดดินอย่างทุลักทุเล จริงอยู่ที่หลายเดือนมานี้ยูรินได้ทำในหลายอย่างที่ไม่เคยทำ รวมถึงตอนนี้ก็เช่นกัน ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ก็แล้วกัน

    อ๊ะ งื้อ เจ็บๆๆ >.<” เพราะเธออยากให้สิ่งที่ทำอยู่เสร็จโดยเร็วจะได้กลับ
    ไปช่วยคนอื่นๆเสิร์ฟเครื่องดื่มต่อ มือหนึ่งชุดดิน อีกมือหนึ่งดึงดอกไม้ออกจากกระถาง ความไม่ชำนาญทำให้เธอพลาดเอาช้อนปลูกกระแทกไปโดนนิ้วมือของตัวเอง

    นัมยูรินหยิบกระดาษทิชชูที่พกมาขึ้นมาซับเลือดสีแดงที่ไหลซึมออกมาจากแผลอย่างรีบร้อน เพราะกลัวว่าสิ่งสกปรกมันจะเข้าไปในแผล แต่เธอไม่มีเวลามากพอที่จะไปทำแผลในตอนนี้เพราะเธอต้องรีบปลูกต้นไม้ให้เสร็จ มันทำให้เธอต้องกดแผลเอาไว้ก่อน แล้วเร่งมือปลูกต้นไม้ต่อไป

     

    Jungkook Part

    พ่อนะพ่อ อยากให้มีเมียนักใช่มั้ย ได้... เดี๋ยวจัดให้

    เมื่อผมมองเห็นเป้าหมายตั้งแต่ตอนที่ยืนคุยกับสองคนนั่น ผมก็ไม่รอช้า รีบเดินไปให้ถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุด ในเมื่อพ่อเล่นมุกนี้กับผม คิดเหรอว่าพ่อจะได้สุขสมหวังกับลูกสะใภ้แสนดีเพียบพร้อมอย่างที่พ่อต้องการ ถามว่าผมรู้ได้ยังไงว่าพ่อผมอยากให้ผมหาผู้หญิงแบบไหนมาทำเมีย บอกได้เลยว่ารู้ พ่อผมก็ต้องอยากได้ผู้หญิงที่ดีงาม เหมาะสมกับผมในทุกๆด้านอย่างที่แม่ผมเป็นยังไงล่ะ แต่ฝันไปเถอะ ในเมื่อพ่อคิดจะใช้วิธีนี้มาบีบผม ผมก็จะไม่ให้พ่อมีความสุขง่ายๆแน่

    เป้าหมายของผมคืออะไรอย่างนั้นเหรอ ก็คือ ยัยคนสวนที่กำลังปลูกต้นเวรอะไรสักอย่างอยู่ตรงนั้นยังไงล่ะ นี่แหละคงจะสมใจพ่อผมแน่ๆ แค่นึกถึงหน้าพ่อ ตอนผมลากยัยนี่ไปประกาศต่อหน้าคนในงานว่ายัยนี่แหละ ว่าที่เมียผมก็โคตรสนุกแล้วว่ะ

    ผมไม่ได้ตัดสินคนจากภายนอกหรอกนะ เป้าหมายของผมอาจจะเป็นคนดีก็ได้ แต่ด้วยสภาพของยัยนั่นในเวลานี้มันเหมาะสมแล้วกับสิ่งที่ผมกำลังตามหา ทั้งมอมแมม หัวฟูกระเซอะกระเซิง แถมยังเป็นคนสวนอีก รับรองพ่อผมยิ้มหน้าบานแน่ จะว่าผมมันเป็นลูกอกตัญญูก็ช่วยไม่ได้นะ พ่อผมอยากใช้วิธีนี้กับผมก่อนเอง แต่งงานงั้นเหรอ ไร้สาระ!! แต่ไม่ต้องห่วงนะ ผมไม่ได้คิดจริงจังอะไร แค่อยากหาเรื่องเอาคืนพ่อก็แค่นั้น

    เธอ!!!”

    “!!!”

    เธอนั่นแหละ ยัยจืด

    คะ คุณพูดกับฉันเหรอ??” ยัยนี่ทำไมถึงได้ซื่อบื้อนักวะ ก็ยืนอยู่กันสองคน จะให้ผมคุยกับต้นไม้รึไงวะ

    มีผัวรึยัง?!?!”

    “?????”

    ตอบ -*-” อย่าช้านะโว้ย ผมไม่ชอบรอ รีบตอบสิยัยจืด

    ยะ ยังไม่มี

    หมับ!!!

    กรี๊ดดด คุณจะพาฉันไปไหน

    ไปแต่งงานกัน!!”


    End Ep.01



    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    พี่เจคคะ ใจเย็นๆนะคะ


    จบไป 1 ตอนยาวๆจ้า หวังว่าคงถูกใจกันน้า ฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ ด้วยเด้อ ^^ 


    Lilyn260


    ฝาก สตรีมเเท็ก  #พี่เจคใจเย็น ด้วยน้า


    ชื่อทางการติดต่อไรท์

    twt : @Lilyn_T_V

    Facebook group : Lilyn-Fic


     

     

     

     

     

     

     

     

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×