หายนะ - นิยาย หายนะ : Dek-D.com - Writer
×

    หายนะ

    หายนะที่พวกเจ้าได้ก่อไว้ บัดนี้มันได้ย้อนกลับคืนมาหาพวกเจ้าแล้ว

    ผู้เข้าชมรวม

    186

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    10

    ผู้เข้าชมรวม


    186

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 เม.ย. 64 / 18:22 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

             

    ณ โถงบัลลังก์แห่งพระราชวังโลดิอัส

              ร่างของชายหนุ่มร่างหนึ่งถูกหามโดยบรรดาทหารในเครื่องแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของทหารประจำราชวงค์ ร่างนั้นอยู่ในสภาพที่อิดโรยไร้เรี่ยวแรงแต่หากจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีมรกตของเขานั้นกลับแฝงไปด้วยพลังแค้นแรงกล้า ซึ่งทำให้ทหารที่หิ้วปีกเขานั้นพยายามเลี่ยงที่จะสบตากับเขา

              "มาแล้วรึ ผู้สังหารชายาของเรา" สุรเสียงกึกก้องเต็มไปด้วยพลังอำนาจของคนบนบัลลังก์เอ่ยขึ้น ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันด้วยความเคียดแค้นราวกับจะกัดกินให้ตายกันไปข้าง แต่ชายผู้อยู่ต่ำกว่ากลับมีพลังอำนาจที่แผ่ออกมาเสียจนกดดันให้คนเบื้องบนเบือนหน้าหลบสายตาเล็กน้อย

              เดิมทีชายหนุ่มเป็นถึงคนรักคนสำคัญของน้องสาวของผู้มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรเทพ เขาเป็นแม่ทัพผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถและทรงพลังที่สุดเลยก็ว่าได้ ช่วงชีวิตก่อนหน้านั้นที่โชติช่วง ทุกตำนาน ทุกสงครามกับบรรดาเหล่ามาร จะต้องมีชื่อของเขาปรากฏ 'เซบาสเตียน กาเซเรียส' ชื่อนี้แม้แต่เหล่าหมู่มารยังต้องถอย แต่แล้วแม่ทัพเทพผู้เก่งกาจคนนี้กลับทำสิ่งที่ผิดอย่างมหันต์

              ร่างอรชรของหญฺิงสาวผู้เป็นดั่งนางในดวงใจขององค์รัชทายาทแห่งเอเลเนียเปียกชุ่มไปด้วยโลหิต นางถูกดาบยาวประจำกายของแม่ทัพหนุ่มเสียบทะลุร่างจนแน่นิ่งคาดาบในทันที ตามปกติหากเทพโดนปลิดชีพ ร่างนั้นจะค่อยๆสลายหายไปราวกับฝุ่นละออง แต่เพียงแค่วิบตานั้นร่างของหญิงสาวกลับแตกสลายกลายเป็นฝุ่นสีเทาแล้วปลิวไปตามสายลมจนไม่มีเวลาแม้แต่จะให้รัชทายาทได้เข้าไปสัมผัสนางเป็นครั้งสุดท้าย

              ทันทีที่ร่างของนางหายไป แม่ทัพหนุ่มได้สติแล้วได้ทำการใช้เวทพาตนเองหนีออกไปจากพระราชวังให้ไกลที่สุด โดยมีสหายผู้ร่วมอุดมการณ์คนสนิทติดตามไปด้วย

              การตามหาอดีตแม่ทัพทรยศใช้เวลาเป็นหลายร้อยปี จนกระทั่งเขาถูกหักหลังโดยหนึ่งในสหายคนสนิทไปบอกที่อยู่ลับ และหลังจากนั้นเหตุการณ์ก็กลายเป็นเฉกเช่นปัจจุบันตอนนี้ กว่าจะได้ตัวของอดีตแม่ทัพ ต้องเสียแรงทหารไปเป็นจำนวนมากมาย จนสุดท้ายเขาอ่อนแรงไปมากแล้ว ประกอบกับจิตใจที่แหลกสลายจากการที่โดนคนที่ไว้ใจมากที่สุดหักหลัง ดังนั้นพลังทั้งหมดที่ไหลเวียนในกายของเขานั้นจึงเต็มไปด้วยแรงแค้นที่คอยขับเคลื่อนให้พลังแผ่ออกมาจนคนรอบข้างรู้สึกกดดัน

              "เจ้าไม่คิดจะสำนึกในสิ่งที่เจ้าทำลงไปบ้างรึ" รัชทายาทในวันนั้นได้กลายมาเป็นราชาในวันนี้ เขาไม่สามารถจะแต่งตั้งราชินีคู่กายได้เนื่องจากเขายังคงรักชายานางนั้น ผู้ที่ถูกปลิดชีพโดยแม่ทัพสารเลวที่อยู่ตรงหน้า กลับกัน น้องสาวของเขากลับพยายามที่จะปกป้องและขอให้เขาลดโทษตายแก่แม่ทัพ ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าแม่ทัพก็หาได้มีใจให้นาง แต่ถึงอย่างนั้นน้องสาวหัวรั้นก็ยังอ้อนวอนคุกเข่าขอลดโทษให้ทุกวันจนราชารู้สึกเวทนาในตัวนาง

              "ข้าไม่คิดว่าสิ่งที่ข้าทำนั้นผิด ข้าเคยบอกท่านแล้วว่า ชายาของท่าน นางหาใช่เทพเหมือนพวกเราไม่" อดีตแม่ทัพพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ใบหน้าเรียบเฉยราวกับไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก

              "ถ้านางไม่ใช่เทพ เทพองค์อื่นก็ต้องรู้สึกบ้างแล้ว ทำไมมีเพียงแค่เจ้าเล่า" ราชาพยายามควบคุมโทสะเอาไว้ เขาจำได้ดีว่าก่อนจะเกิดโศกนาฏกรรม แม่ทัพคนนี้ได้พยายามจะบอกเขาถึงตัวตนของชายารัก แต่เขากลับรักนางสุดหัวใจ เขาเชื่อใจนาง ใครมันจะกล้าเชื่้อว่านางอันเป็นที่รักจะกลายเป็นมารต่ำช้าได้ลงเล่า

              "ข้าไม่อยากจะเถียงเรื่องนี้กับท่านแล้ว ราชา ทั้งที่หลักฐานตอนนางตายก็ปรากฏอยู่ ท่านก็เห็น แต่ท่านแค่ยอมรับไม่ได้เท่านั้นเอง"

              "เจ้า..บังอาจ! ชายาของเรา นางบริสุทธิ์!! นางเป็นดั่งทุกสิ่งทุกอย่างของข้า แต่เจ้า.." คำพูดที่ตอกย้ำความเจ็บปวดของเซบาสเตียนทำให้แผลเก่ากลับมาเจ็บแสบอีกครั้ง ราชาระงับโทสะเอาไว้ไม่ได้แล้ว ความกราดเกรี้ยวทำให้ทั้งโถงสั่นคลอนราวกับกำลังจะถล่ม ทหารทุกคนต่างหวาดกลัว เพราะตั้งแต่วันที่พระชายาสิ้นพระชนม์ พระราชวังหลังนั้นก็ได้พังถล่มลงมาด้วยแรงโทสะของรัชทายาท ซึ่งนี่เป็นครั้งที่สองที่เหตุการณ์นี้กำลังจะเกิดอีกครั้ง

              "ท่านจะประหารข้าใช่หรือไม่" เซบาสเตียนหาได้เกรงกลัวไม่ หากจะฆ่าก็รีบฆ่าเขาเสียที เขาเองก็เจ็บปวดและแหลกสลายมามากพอแล้ว พอหันไปมองข้างๆตรงเสาค้ำโถง กลับพบกับสหายรัก... ผู้ทรยศ ความแค้นที่หายไปชั่วครู่ก็กลับมาอีกครั้ง

              สองขั้วพลังต่างแผ่พลังงานมหาศาลต้านกัน หากทหารไม่ได้ใส่เกราะต้านพลังเอาไว้ อาจจะต้องบาดเจ็บหนักกันบ้าง

              "ข้าจะไม่ทำให้เจ้าตายด้วยน้ำมือข้าหรอก เซบ แต่ข้าจะให้บุคคลที่เจ้าไว้วางใจที่สุดในชีวิตเป็นคนทำ" ราชาฉีกยิ้มด้วยความสะใจพร้อมกับกวักมือให้เทพองค์นั้นเดินเข้ามาที่บัลลังก์ ชายหนุ่มยื่นดาบทองคำซึ่งดาบคู่กายของกษัตริย์ให้อีกฝ่ายถือไว้ "จงใช้ดาบนี้สังหารให้มันตายไปอย่างช้าๆ ให้มันทรมานที่สุดเท่าที่จะทำได้" ราชาถ่ายทอดคำสั่งให้กับเทพหนุ่มที่กำลังถือดาบสำคัญ

              "เจ้าไม่ต้องห่วงโรซาเลียหรอก นางจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งในยามที่เจ้าได้แหลกสลายไปแล้ว และนางจะลืมเรื่องของเจ้า เจ้าจะไม่มีตัวตนที่ดีในที่แห่งนี้อีกต่อไป และหลังจากนี้...ในนามของกษัตริย์แห่งเอเลเนีย ขอสาปให้ เซบาสเตียน กาเซเรียส อดีตแม่ทัพเอกแห่งเลดิน่า กลายเป็นเทพทรยศผู้หักหลังชาวเทพ ประพฤติตนเยี่ยงมารต่ำทราม จากนี้ไป ลักษณะติดตัวของเจ้าไม่ว่าจะเป็นวิญญาณ ดวงจิตหรืออะไรก็ตามที่เจ้าคิดจะหลบหนี จงมีเส้นผมและดวงตาสีดำอันเป็นกาลกิณีติดตัวเจ้าไปตลอดกาล"ว่าจบ เทพหนุ่มก็เดินเข้าไปหาเซบาสเตียน ทั้งสองมองหน้ากันชั่วครู่ ก่อนที่อีกฝ่ายจะค่อยๆเงื้อดาบขึ้นมาช้าๆ แล้วแทงเข้าไปตรงหัวใจของอดีตแม่ทัพ ดมดาบทองคำนั้นออกฤทธิ์ทันที ความเจ็บปวดเพราะทุกอณูร่างกายพยายามที่จะแตกสลายออกไปอย่างรุนแรงทำให้ชายหนุ่มกระอักเลือดออกมา ดวงตาสีมรกตเบิกค้างแต่ก็ยังเต็มไปด้วยความแค้น ภาพสุดท้ายของเขาคือเพื่อนสนิทที่สุดชักดาบออกมาอย่างช้าๆ พร้อมกับจ้องมองเขาด้วยดวงตาเยือกเย็น

              หลังจากนั้นภาพในอดีตต่างๆนานาก็ผุดเข้ามาเป็นฉากๆ แม้ว่าเขาจะทำคุณงามความดีไว้มากมาย เขาเคยปกป้องราชาเมื่อครั้นยันเป็นรัชทายาทที่ถูกลอบปลงพระชนม์จนเจ็บหนัก เขาเคยสละพลังบางส่วนเพื่อช่วยสหายคนสนิทคนนี้ เขานำทัพต่อสู้กับเหล่ามารจนมารไม่กล้าจะเหยียบเมืองเทพอีก แล้วสุดท้าย ความดีทั้งหมดสลายหายไป พวกเทพไม่เคยแม้แต่จะเชื่อในตัวของเขาเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัชทายาทผู้หลงรักมาร ทุกคนรู้ว่านางผู้หญิงชั่วคนนั้นเป็นมาร แต่ไม่มีใครกล้าค้าน เพราะจะขัดกับรัชทายาท ขณะที่เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะเปิดโปงนาง แม้ว่าผลสุดท้ายเขาจำต้องฆ่านางเพื่อให้ทุกคนได้มองเห็นร่างแท้จริงของนาง แต่แล้วไม่มีผู้ใดเลยที่กล้าจะออกมาเห็นด้วยกับเขา รัชทายาทเกลียดเขาทันที พวกเทพองค์อื่นที่เคยเข้ามาเป็นมิตรสหายก็พลอยเกลียดเขาไปด้วย เหลือเพียงเขากับสหายที่ต้องกระเสือกกระสนหนีตายกันออกมาและหาที่ลับเพื่อจะหลบและหายไปตลอดกาล สุดท้ายแล้วอย่างไร สหายคนนั้นกลับเข้ากับเทพ ขายความลับ ขายจุดอ่อนของเขา 

              น้ำตาที่ไม่เคยไหลออกมานับแต่จำความได้กลับเอ่อนองดวงตา เขายอมรับว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันก็ผิด ผิดอย่างไม่น่าอภัย แต่เขามีเหตุผล เขาไม่เคยกระทำอะไรไร้เหตุผลเลย เขาคาดหวังว่าคนเหล่านั้นจะเข้าใจ แต่ก็เปล่าประโยชน์

              ขณะนั้นก็มีภาพความทรงจำอีกเรื่องหนึ่งลอยเข้ามา มันยิ่งทำให้ความเคียดแค้นเพิ่มขึ้นในดวงจิตเป็นทวีคูณ ร่างกายสั่นเทิ้ม ทั้งเจ็บปวดและกำลังคลั่ง พิษของดาบไหลทั่วร่าง ทำให้ส่วนล่างสลายไปเรื่อยๆจนลามไปถึงช่วงอก ความคิดสุดท้ายที่ถูกกลั่นกรองมาจากดวงจิตที่กำลังจะแตกสลายจนกลายเป็นเสียงดังก้องที่ทรงอำนาจที่สุด ดังกังวานไปทั่วโถงแห่งนี้ทำเอาทุกคนได้ยินแล้วพากันหน้าเสีย รวมถึงกษัตริย์ด้วย 

              'ต่อจากนี้ ข้า เซบาสเตียน กาเซเรียส ข้าจะเป็นคนชักนำหายนะทั้งหมดไปสู่ตัวพวกเจ้า และข้าจะเป็นผู้เฝ้ามองดูพวกเจ้าวายวอดด้วยดวงตาคู่นี้เอง' และร่างทั้งหมดของอดีตแม่ทัพหนุ่มก็พลันสลายหายไป


    ********************************************************************************************************************************

    มาทำความรู้จักเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องนี้กันค่ะ

    ในโลกใบนี้ มี 3 อาณาจักรหลักๆ ได้แก่ เทพ มนุษย์ และมาร 

    1) อาณาจักรเทพ หรือ อาณาจักรเอเลเนีย 

    -ปกครองระบอบกษัตริย์ ราชวงค์ปัจจุบัน : แวนเดอร์คัส กษัตริย์องค์ปัจจุบัน : ราเซลเลี่ยน ชาครีเลียส แวนเดอร์คัส ไร้ซึ่งราชินี

    -พระราชวังที่สำคัญคือ โลดิอัส เป็นสถานที่ประชุมสภาเทพ

    -เมืองหลวง : โลดิเซีย

    -เทพถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์หนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับมนุษย์ แต่ต่างกันแค่พวกเทพจะมีพลังงานหล่อเลี้ยงร่างกาย พลังงานจะไหลเวียนไปทั่ว ร่างกายนั้นเป็นเพียงแค่ภาชนะรองรับพลังงานมหาศาลกับดวงจิตเอาไว้เพียงเท่านั้น 

    2) อาณาจักรมนุษย์ หรือ อาณาจักรเซนโทเปียร์

    -ปกครองระบอบกษัตริย์ ราชวงค์ปัจจุบัน : ซาโลว่า กษัตริย์องค์ปัจจุบััน : เคนตัสที่ห้า ผู้รุ่งโรจน์ หรือ เคนตัส เรเนเซียส ซาโลว่า ราชินี : แคทรีน่า แห่งตระกูลไทรเบ็น

    -เมืองหลวง : ซาโลเวียร์ 

    -ประกอบด้วยเมืองอื่นๆอีก 11 เมือง ซึ่งทุกเมืองจะถูกตั้งชื่อเหมือนกับเทพตามความเชื่อว่าเป็นบรรพบุรุษต้นตระกูลของบรรดาลอร์ดต่างๆ 

    3) อาณาจักรมาร หรือ อาณาจักรเฮลลัส

    -การปกครองไม่ทราบแน่ชัด แต่มีผู้นำเพียงหนึ่งเดียวจากตำนานหลายๆตำนาน เขาผู้นั้นถูกเรียกว่า 'จอมมาร' โดยมิได้มีตำราไหนเลยที่กล่าวถึงนามที่แท้จริงของจอมมารได้

    -บางตำรากล่าวว่า มารนั้นมีรูปกายคล้ายเทพ แต่จะแผ่รังสีความน่ากลัว น่าขนลุก ดำมืดอยู่ตลอดเวลา เปรียบดั่ง เทพคือแสงสว่าง ส่วนมารคือความมืดมิด

    -ข้อมูลอื่นๆไม่สามารถสืบค้นได้ เนื่องจากไม่เคยมีผู้ใดไปเฮลลัสแล้วกลับมาเล่าเรื่องในสภาพที่ครบสมบูรณ์ 

    *************************************************************************************************************************

    ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ -/\-


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น