ลำดับตอนที่ #84
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #84 : 84. เรามิได้มีเยื่อใยใดๆกับนางมาตั้งนานแล้ว!
"หม่อมฉันคิดไปคิดมาอยู่นาน..ถึงอย่างไรก็เคยอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันมาก่อน... เหตุใดจึงไม่ทรงอนุญาตให้พี่หญิงมาประทับอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนหม่อมฉันก่อนเล่าเพคะ? เราสองคนจะได้พูดคุยกันประสาสตรีและช่วยดูแลกันและกันได้"
ข้อความเหล่านี้จ้าวฝูหมิงมิได้เอ่ยตอบไปเลยแม้สักคำ! แต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าในใจของเขายามนี้กำลังเดือดพล่านเสียยิ่งกว่าความร้อนแรงในเตาหลอมศาสตราวุธใดๆเสียอีก! หม่าชิงอี๋ผู้นี้บังอาจนัก! กระทั่งเขาออกปากปลดเย่หลิงไปแล้ว..แม้แต่พยายามแสดงท่าทางเอาอกเอาใจสตรีน่าชังผู้นี้ถึงเช่นนี้แล้วนางก็ยังไม่พอใจ! ยังคิดจะหาทางรังควานเย่หลิงของเขาอีกอย่างนั้นหรือ!?
"ท่านอ๋องเพคะ...?" หม่าชิงอี๋เงยหน้าขึ้นพลางส่งเสียงเป็นเชิงถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงนิ่งเฉย จะมีก็เพียงร่างสูงใหญ่ที่เกร็งตัวขึ้นนิดหนึ่งเมื่อครู่เท่านั้นที่บอกให้รู้ว่าเขาได้ยินที่นางเอ่ยแล้วแน่ๆ "หรือว่าพระองค์ยังทำพระทัยไม่ได้หากจะต้องทรงอยู่ใกล้ชิดกับ...?"
"ใกล้ชิดกับใครกัน!? เจ้าหมายถึงกับหวางเย่หลิงผู้นั้นน่ะหรือ!? เรามิได้มีเยื่อใยใดๆกับนางมาตั้งนานแล้ว!" จ้าวฝูหมิงจำต้องเอ่ยวาจาเชือดเฉือนหัวใจตนเองออกมาอีกครั้งขณะปั้นหน้าคล้ายกำลังไม่พอใจที่ต้องกล่าวถึงเจ้าของชื่อนี้ "เมื่อวานที่ท้องพระโรงนั่นเจ้าก็ได้ยินแล้วนี่ว่าเราถึงกับมีปากเสียงกับฉานเหยาของเสด็จพี่เพื่อให้ได้ปลดสตรีบ้านนอกผู้นั้นออกจากตำแหน่ง แล้วเราทำไปเพื่อใครกัน..หรือว่าเจ้ายังมิรู้อีก?"
"เพคะ หม่อมฉันทราบดีว่าท่านอ๋องทรงทำเพื่อหม่อมฉัน..เพื่ออี๋เอ๋อร์และเพื่อบุตรของพวกเรา" หม่าชิงอี๋ซบหน้าลงกับอกของพระสวามีด้วยความขวยเขินโดยมิได้ตระหนักถึงฝ่ามือที่กำแน่นขึ้นเพราะโทสะที่อัดแน่นจวนเจียนจะปะทุออกมาของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย "แต่ถ้าหากพี่หญิงได้มาอยู่กับหม่อมฉันที่นี่..."
"เราไม่เห็นด้วย!"
จ้าวฝูหมิงปฏิเสธทันควัน ก็ใครจะยอมเปิดโอกาสให้สตรีผู้นี้กับพรรคพวกของนางทำร้ายเย่หลิงได้อีกเล่า!? เพียงแค่หวนนึกถึงความทุกข์ทรมานที่เย่หลิงได้รับยามถูกพิษเจ็ดราตรีวิปโยคในคราวนั้นเขาก็แทบจะทนไม่ได้แล้ว!
"ไหนๆจะตัดแล้วก็ตัดให้ขาดไปเลยดีกว่า ขืนเราอนุญาตให้นางกลับมาอยู่ที่นี่ได้..แล้วนางคิดไปเองว่าเรายังมีเยื่อใยอยู่อีกจะไม่ยิ่งแย่ลงหรือไร!? ต่อไปห้ามเจ้าเอ่ยขอเช่นนี้ให้นางอีกเด็ดขาด!"
"เพคะ"
ได้ยินพระสวามีตรัสวาจาตัดรอนหวางเย่หลิงให้ฟังเต็มหูอีกครั้งเยี่ยงนั้นแล้วหม่าชิงอี๋ก็ถึงกับยิ้มปลาบปลื้มไปในทันที ขณะเดียวกัน.. สองมือของนางที่กำลังกอดแขนของจ้าวฝูหมิงไว้ก็ยิ่งกระชับแน่นขึ้นอีกโดยมิได้สังเกตเลยว่าดวงตาสีเข้มของอีกฝ่ายยิ่งนานก็ยิ่งมืดดำมากขึ้นทุกทีแล้ว
"ถ้าเช่นนั้นอี๋เอ๋อร์อยากจะขอไปเยี่ยมพี่หญิงที่วังตะวันออกบ้าง..ได้หรือไม่เพคะ?"
"จะไปทำไมกัน!?" จ้าวฝูหมิงส่งเสียงข้นขึ้นโดยไม่รู้ตัวก่อนจะรีบกล่าวแก้เมื่อเห็นอีกฝ่ายชะงัก "เราได้ข่าวว่าคราวก่อนที่เจ้าไปที่นั่น..พอกลับมาก็ไม่สบายจนต้องเรียกหมอหลวงมาตรวจให้เลยมิใช่หรือ?"
"เพคะ" หม่าชิงอี๋รับคำด้วยรอยยิ้มหวานเมื่อได้ยินวาจาแสดงความห่วงใยกลับมาอีกครา "แต่หม่อมฉันก็ยังอดเป็นห่วงพี่หญิงไม่ได้อยู่ดี... ทรงคิดดูสิเพคะ.. ร่างกายของพี่หญิงอ่อนแอถึงเพียงนั้น..มิหนำซ้ำเมื่อวานยังได้รับความกระทบกระเทือนใจเพราะถูกปลดอย่างกะทันหันอีก ป่านนี้มิรู้จะเป็นเช่นไรบ้าง?"
'จะเป็นไร? เย่หลิงของเราก็ต้องทนทุกข์ใจเพื่อให้เรากับเสด็จพี่ได้มีเวลากำจัดคนชั่วช้าอย่างพ่อของเจ้าน่ะสิ!'
แต่ประโยคที่เขาเอ่ยออกมามิได้เป็นเช่นนั้น
"เจ้าจะต้องไปที่นั่นให้ได้อย่างนั้นหรือ?"
จ้าวฝูหมิงถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม พอจะรู้ว่าหากมิได้ดั่งใจ..หม่าชิงอี๋ก็คงรบเร้าอยู่อย่างนี้ไม่จบสิ้น ขณะที่เขาในตอนนี้นั้นกำลังอยากจะเผาทั้งเสื้อผ้าทั้งเนื้อตัวตรงที่นางแตะต้องสัมผัสให้มอดไหม้เป็นจุณไปเสียเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ!
"เพคะ?"
"ถ้าเจ้ายังยืนกรานอย่างนั้นก็ตามใจ..แต่เราจะต้องไปด้วย! มิฉะนั้นเราคงไม่วางใจเป็นแน่ อย่างน้อยหากฉานเหยาคิดรังแกเจ้า..แต่เห็นเราอยู่ด้วยก็จะได้เกรงใจขึ้นมาบ้าง"
จ้าวฝูหมิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นที่มีแต่ตัวเขาเท่านั้นที่รู้ดี คนที่เขาอยากปกป้องมิให้ใครรังแกได้ก็คือเย่หลิงเพียงคนเดียวเท่านั้น..หาใช่สตรีไร้ยางอายที่กำลังกอดรัดเสียแนบแน่นจนเขาแทบจะคลั่งตายด้วยโทสะผู้นี้ไม่!
-------------------------------------------------
"มาเยี่ยมเย่หลิง? สองคนนั่นน่ะรึ!?"
หลิวฉานเหยาที่กำลังคร่ำเครงกับการตรวจสอบบัญชีใช้จ่ายของวังตะวันออกที่พ่อบ้านนำมามอบให้เอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจระคนด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หญิงใจร้ายกับชายโง่เขลาคู่นั้นบังอาจมาหาเรื่องน้องสาวคนงามของตนถึงถิ่นเลยเชียวหรือนี่!? ได้สิ! เช่นนั้นก็มาดูกันว่าใครจะต้องหน้าหงายกลับไปบ้าง!?
"ไท่จื่อกับเย่หลิงเล่า?"
"องค์ไท่จื่อเดิมประทับอยู่ที่ห้องทรงงาน... แต่เมื่อครู่นี้ดูเหมือนจะเสด็จออกไปหาท่านอ๋องเจ็ดแล้วเพคะ ส่วนพระชายาหวาง.. หม่อมฉันให้นางกำนัลไปแจ้งแล้ว ประเดี๋ยวคงจะเสด็จมาเช่นกันเพคะ" หลัวจิ้งหยี่ที่กลับมารับใช้ไท่จื่อเฟยของตนตามเดิมแล้วเอ่ยถวายรายงาน
"ดี! ให้คนรีบไปส่งเทียบเชิญที่เราเตรียมไว้ จำเอาไว้ด้วยว่าเราต้องการคำตอบรับเท่านั้น..กลับมาแล้วก็ให้รีบเข้าไปแจ้งกับเราในทันที!"
"ที่..ที่ห้องรับรองเลยหรือเพคะ?" นางกำนัลคนสนิทเอ่ยถามให้แน่ใจ ทั้งที่พอจะคาดเดาได้บ้างแล้วว่าเจ้านายของตนต้องการทำอะไร
"ก็ใช่น่ะสิ! ต้องทำให้เจ้าทึ่มนั่นรู้เสียบ้างว่าเย่หลิงของเรามิได้สิ้นไร้ไม้ตอก! และบุรุษที่ดีๆในใต้หล้านี้ที่พร้อมจะดูแลรักใคร่นางก็ยังมีอยู่มากมายนัก!"
หลิวฉานเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหมายมาดขณะนึกสะใจอยู่ลึกๆ คราวนี้ล่ะเจ้าทึ่มฝูหมิง.. เจ้าจะต้องเสียใจจนกระอักแน่ที่บังอาจทอดทิ้งเย่หลิงคนงามของเรา!
-------------------------------------------------
"คุณหนูเจ้าขา..ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ไม่ต้องออกไปหรอกเจ้าค่ะ ไท่จื่อกับไท่จื่อเฟยจะต้องเข้าพระทัยแน่ๆ"
จูชุนลี่บอกอย่างกังวล แม้คุณหนูของตนจะใช้ยาแก้แพ้ของท่านหมอเหลียงเฟิงผู้นั้นเป็นประจำกระทั่งอาการคลื่นเหียนลดน้อยลงจนไม่น่าจะมีใครล่วงรู้ว่ากำลังตั้งครรภ์แล้วก็ตาม แต่ร่างกายที่เพิ่งจะเริ่มดีขึ้นเพราะการบำรุงที่ผ่านมาก็เหมือนจะกลับแย่ลงไปอีก จะเพราะอะไร..ถ้าไม่เพราะความเสียใจที่คุณหนูพยายามเก็บกลั้นไว้และความดื้อรั้นไม่ยอมกินยาบำรุงอย่างที่เคยได้รับ! แถมวันนี้ท่านเขยกับอี๋เหนียง.. เอ๊ย! ท่านอ๋องกับพระชายาพระทัยดำผู้นั้นยังมาหาเรื่องถึงที่นี่เสียด้วย แล้วจะทำอย่างไรดี!?
"เรามาอาศัยอยู่ที่นี่แล้วยังจะทำให้ทั้งสองพระองค์ลำบากพระทัยอีกได้อย่างไรกัน เจ้าอย่ามัวพูดมากอยู่เลย..รีบมาช่วยเราแต่งตัวดีกว่า..."
หวางเย่หลิงบอกเสียงเบาขณะขยับกายลุกขึ้นจากเตียงด้วยใบหน้าที่แลดูซีดเซียวไม่สร่าง เขามาเยี่ยมนางที่นี่อย่างนั้นหรือ..ทั้งยังมาพร้อมกับพระชายาหม่าของเขาผู้นั้น... เพราะอะไรกันแน่?
------------------------------------------------
"เย่หลิง..เจ้ามาแล้วหรือ? รีบมานั่งข้างพี่สาวเร็วเข้า"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น