ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฎีการักจากพระชายาบ้านนอก

    ลำดับตอนที่ #83 : 83. "ท่านอ๋องเพคะ... อย่าโกรธอี๋เอ๋อร์เลยนะเพคะ..."

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.22K
      478
      26 พ.ย. 63

    "เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร!? บังอาจนัก! ที่นี่เป็นห้องของคุณหนู..ของ..ของพระชายานะ... ทะ..ทหาร!"

    "ไม่ต้องตะโกนไปหรอก" จ้าวฝูหมิงบอกจูชุนลี่ด้วยน้ำเสียงที่มิได้เข้มดังที่เคย "เมื่อกี้ข้าเห็นเงาคนวูบวาบอยู่ที่หน้าต่างห้องนี้... คิดว่าน่าจะเป็นคนร้ายจึงรีบเข้ามาดู... ส่วนหลี่อี้ไล่ตามอีกคนไปด้านหนึ่งแล้ว"

    "มี..มีคนร้ายจริงๆน่ะหรือ!?" จูชุนลี่เริ่มออกอาการหวั่นกลัวมากขึ้น "แล้ว..แล้วจะทำยังไงกันดี?"

    "พระชายา..คนร้ายน่าจะหนีไปไกลแล้ว อีกประเดี๋ยวหลี่อี้ก็คงกลับมา..ส่วนกระหม่อมก็จะคอยเฝ้าอยู่ที่ด้านนอก พระองค์มิต้องกลัวหรอกนะพ่ะย่ะค่ะ"

    น้ำเสียงแหบแห้งไม่วายปลอบประโลม ดวงตาหม่นเผลอมองใบหน้าซีดเซียวที่ยังดูตื่นตระหนกนั้นครู่หนึ่งก่อนจะหันหนีเมื่อเห็นสายตาจับจ้องของบ่าวร่างเล็ก ก่อนที่ร่างสูงจะขยับหายออกไปทางหน้าต่างอีกครั้ง

    "คุณ..คุณหนู... ท่านว่าองครักษ์ผู้นี้ดูแปลกๆไปไหมเจ้าคะ? จู่ๆก็เข้ามา..จ้องๆ.. พูดๆว่ามีคนร้ายแล้วจู่ๆก็ออกไปเช่นนั้น"

    จูชุนลี่ถามพลางนิ่วหน้าไปพลางด้วยความรู้สึกขลาดกลัวในใจลึกๆทั้งที่บุรุษผู้นั้นก็มิได้ทำอะไรให้ หากก็บอกตัวเองไม่ถูกว่าเพราะเหตุใดกันแน่?

    "เขาเพิ่งมาใหม่..อาจจะยังไม่ใคร่รู้ธรรมเนียมของที่นี่กระมัง...? ก็เหมือนเจ้ากับข้าช่วงก่อนหน้านี้ไงเล่า"

    หวางเย่หลิงตอบขณะเบือนหน้าหลบสาวใช้คนสนิทไปอีกทาง มิได้เอ่ยออกไปว่าตนรู้สึกคุ้นเคยกับดวงตาสีเข้มคู่นั้นไม่น้อย... แต่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน...? อย่าว่าแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่ต่างกันลิบลับนั่น... แต่ท่านอ๋องน่ะหรือจะทรงแยแสตน..ในเมื่อพระองค์ทรงห่วงใยพระชายาหม่าจนรับสั่งตัดรอนตนต่อหน้าธารกำนัลถึงเพียงนั้นแล้ว... แล้วยังจะเสด็จมาหาตนถึงที่นี่อีกได้อย่างไร? หวางเย่หลิงคิดในใจขณะก้มหน้าลงหลบซ่อนแววตาที่แสนจะหม่นหมองของตัวเองอีกครั้ง...
    ----------------------------------------------


    "ท่านอ๋อง! ทรงหายไปไหนมาเพคะ? อี๋เอ๋อร์ตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบพระองค์จนกลุ้มใจจะแย่อยู่แล้ว!" หม่าชิงอี๋วิ่งถลาเข้ามาหาร่างสูงใหญ่ด้วยความดีใจหากก็ชะงักงันและขยับถอยกายออกห่างทันทีที่เห็นใบหน้าบึ้งตึงนั่น "ท่าน..ท่านอ๋อง..."

    "อี๋เอ๋อร์... มิต้องตกใจไปหรอก" จ้าวฝูหมิงรีบหลุบตาลงเก็บงำความเดียดฉันท์ที่เผลอแสดงออกมาเอาไว้ในใจก่อนจะพยายามเอ่ยเสียงนุ่มขณะคลี่ยิ้มให้สตรีตรงหน้า "เราแค่โมโหข่าวที่ได้จากชายแดนน่ะ..ไม่เกี่ยวกับเจ้าหรอก"

    "อย่างนั้นเองหรือเพคะ" หม่าชิงอี๋ถอนหายใจยาวพลางลูบอกอย่างโล่งใจ "หม่อมฉันคิดว่าพระองค์กริ้วที่เมื่อคืนหม่อมฉันมิได้..มิได้ปรนนิบัติพระองค์เสียอีก..ทั้งที่เพิ่งเสด็จกลับมาแท้ๆ"

    ใบหน้าแฉล้มแดงขึ้นด้วยความอายขณะก้มลงมองมือเล็กอันขาวผ่องไร้ริ้วรอยใดๆของตนด้วยความเสียดาย ร่องรอยเก่าๆพวกนั้นหายไปตั้งนานแล้ว ไม่ต้องพูดถึงรอยช้ำจ้ำแดงซึ่งตนกับรุ่ยเสียบ่าวคนสนิทช่วยกันทำขึ้นเพื่อตบตาหวางเย่หลิงคราวก่อนที่แค่เช็ดด้วยผ้าเปียกนิดเดียวก็เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายที่เมื่อคืนท่านอ๋องประทับอยู่กับตนที่ตำหนักนี่แล้วแท้ๆ..แต่กลับไม่ทรงแตะต้องตนเลยสักนิดจนตนเผลอหลับไปเมื่อไรไม่รู้ แถมตื่นขึ้นมาก็ยังไม่เห็นพระองค์อีก..ตนจึงได้ร้อนใจถึงอย่างนี้

    "เรื่องนั้นหรือ..เราจะโทษเจ้าได้อย่างไรกัน? ในเมื่อเจ้ากำลังอุ้มท้องลูกของเราอยู่แท้ๆ!"

    จ้าวฝูหมิงเอ่ยเสียงดุคล้ายไม่พอใจที่ถูกกล่าวหาว่าตนโกรธเพราะนางมิได้ปรนนิบัติ แต่แท้จริงเขากำลังรู้สึกขยะแขยงเนื้อตัวลื่นราวกับงูที่พยายามแนบชิดตนอยู่ในตอนนี้ต่างหาก ไหนจะกลิ่นฉุนๆของเครื่องประทินผิวที่สตรีผู้นี้ประโคมโปะลงบนตัวนางอีก ไม่ได้! ประเดี๋ยวนอกจากเขาจะต้องแช่น้ำชะล้างร่างกายให้หมดกลิ่นอายน่ารังเกียจของนางแล้ว.. ชุดที่เขาใส่อยู่พวกนี้ก็ยังต้องให้คนเอาไปเผาทิ้งเสียให้หมดอีกด้วย!

    "ท่านอ๋องเพคะ... อย่าโกรธอี๋เอ๋อร์เลยนะเพคะ..."

    หม่าชิงอี๋ที่เห็นคิ้วเข้มขมวดแน่น..แถมร่างสูงใหญ่ที่ตนแสนจะคิดถึงก็ผละออกห่างไปด้วยท่าทีฉุนเฉียวอย่างนั้นก็คิดทันทีว่าพระสวามีคงจะทรงงอนตนเข้าให้แล้ว ร่างเล็กในชุดตัวในที่ค่อนข้างโปร่งบางคล้ายที่ตนจงใจสวมใส่เมื่อคืนวานจึงได้ตามเข้าไปกระแซะอยู่แทบพระเพลาในทันใด "อีกอย่าง..อี๋เอ๋อร์ได้ถามจากหมอหลวงอันมาแล้วนะเพคะ... เขาบอกว่า..."

    แสร้งเอ่ยทิ้งท้ายเอาไว้เช่นนั้นแล้ว..แต่พระสวามีรูปงามก็ยังประทับนิ่งเฉย..มิได้ซักถามอะไรมาอย่างที่คาดไว้ หม่าชิงอี๋จึงหน้าเจื่อนไปนิดหนึ่งก่อนจะเริ่มขยายความต่อเองด้วยใบหน้าแดงก่ำ

    "หมอหลวงอันบอกมาว่าในช่วงตั้งครรภ์สามเดือนแรกนี้..ถ้าหากว่าระวังเสียหน่อย..อี๋เอ๋อร์ก็ยังสามารถปรนนิบัติท่านอ๋องให้สบายพระวรกายได้นะเพคะ..."

    "ว่าไงนะ!?"

    จ้าวฝูหมิงพลันตวาดลั่นพลางขยับตัวลุกขึ้นด้วยความเดือดดาลในทันที ดวงตาสีเข้มลุกวาบขึ้นด้วยเพลิงโทสะร้อนแรงจนแทบจะห้ามไม่อยู่กับวาจาไร้ยางอายของสตรีตรงหน้า

    "ท่านอ๋อง..." หม่าชิงอี๋ก็เสียงสั่นไปเช่นกันเพราะไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป "อี๋เอ๋อร์ถามมาแล้วจริงๆนะเพคะ... ที่อี๋เอ๋อร์ทำเช่นนั้นก็เพราะเห็นว่าทรงตรากตรำกับการศึกมามากแล้วจึงอยากให้ทรงสบายพระทัยบ้าง... ท่านพ่อเองก็เคยบอกว่าภรรยาควรรู้จักดูแลสามีของตนมิให้ขาดตกบกพร่อง... แต่ถ้าหากว่าพระองค์ไม่ต้องการอี๋เอ๋อร์แล้วล่ะก็..."

    "ไม่หรอก..." จ้าวฝูหมิงกัดฟันพูดด้วยเสียงที่พยายามสะกดกลั้นอย่างที่สุด "อย่าได้เอ่ยอะไรเหลวไหล! เจ้าเป็นชายารักของเรา..เราจะไม่ต้องการเจ้าได้อย่างไรกัน!? เราเพียงแต่เป็นห่วงเด็กในครรภ์นั่นเท่านั้น!"
    เสียงต่ำที่ต้องบีบเค้นไปกำหมัดแน่นไปจึงจะเอ่ยออกมาได้กลับทำให้หม่าชิงอี๋ถึงกับยิ้มร่า..ใบหน้าแดงจัดด้วยความขวยอาย ร่างเล็กในชุดเบาบางรีบโผเข้ากอดแขนแข็งแรงเอาไว้พลางซุกใบหน้าลงกับอกแกร่งด้วยความเสน่หา ขณะที่จ้าวฝูหมิงได้แต่ยืนตัวแข็งเกร็งอย่างคาดไม่ถึง ถ้าไม่เพราะได้ยินหม่าชิงอี๋เอ่ยถึงบิดาของนางเมื่อครู่ก่อน..เขาคงจะลุแก่โทสะจนสังหารสตรีน่าชังผู้นี้ไปเสียแล้ว! แล้วนี่..เขาจะต้องทนไปถึงเมื่อไรกัน!?

    และระหว่างที่จ้าวฝูหมิงกำลังคิดว่าจะสลัดสตรีหน้าทนผู้นี้ออกไปได้อย่างไรนั้น... ดูเหมือนว่าตัวของหม่าชิงอี๋เองก็มิได้พอใจเพียงเท่านี้ เพราะไม่นานต่อมา...

    "ท่านอ๋องเพคะ... เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน..จะมิทรงเมตตาให้โอกาสกับพี่หญิงหน่อยหรือเพคะ?"

    "เจ้าหมายความว่าอย่างไร!?" จ้าวฝูหมิงเอ่ยถามพลางถือโอกาสดันร่างของหม่าชิงอี๋ออกจากกายตนในฉับพลัน

    "หม่อมฉันคิดไปคิดมาอยู่นาน..ถึงอย่างไรก็เคยอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันมาก่อน... เหตุใดจึงไม่ทรงอนุญาตให้พี่หญิงมาประทับอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนหม่อมฉันก่อนเล่าเพคะ? เราสองคนจะได้พูดคุยกันประสาสตรีและช่วยดูแลกันและกันได้"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×